สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 308 รักมากก็เกลียดมาก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

บางทีก็รู้ว่าครั้งนี้เฟิงจิ่งเหยาจะไม่ปล่อยตระกูลลู่ไปง่ายๆ

หลังจากที่ลู่หงกั๋วส่งลู่ซือหยี่ไปแล้ว ก็เริ่มจัดการเรื่องที่ตามมาก่อน

เขาไม่สามารถหลบหนีได้ มิเช่นนั้นตระกูลลู่จะถูกดำเนินการทางกฏหมายอย่างแน่นอน

เมื่อเขากับแม่ลู่ชำระสะสางโยกย้ายทรัพย์สินภายในบ้านแล้ว ตำรวจกับตุลาการก็เข้ามาที่บ้าน

“ลู่หงกั๋ว มีคนรายงานว่าคุณใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทุจริตรับสินบน เชิญมากับพวกเราด้วย”

“คุณผู้หญิงเย่ซิ่วหลาน มีคนกล่าวหาว่าคุณลักพาตัวโดยผิดกฎหมาย มีหลักฐานแน่ชัด กรุณาตามเราไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบสวนด้วย!”

แม้ทั้งสองคนจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อพวกเขาเห็นคนเหล่านี้เข้าจริงๆ ยังอดไม่ได้ที่จะใจสั่น

“คุณ……”

เย่ซิ่วหลาน ผู้เป็นแม่ลู่ ก็มองไปที่ลู่หงกั๋วอย่างไม่สบายใจ

ลู่หงกั๋วตบไหล่ของเธอเพื่อปลอบใจ

“ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก!”

เขาพูดจบ ก็เดินตามคนจากกระทรวงยุติธรรมไปด้านนอก

เย่ซิ่วหลานเห็นเช่นนี้ ก็ตามตำรวจออกไปเช่นกัน

แต่ไม่คิดว่า เพิ่งออกจากประตูคฤหาสน์ไป ก็ถูกปิดล้อมด้วยนักข่าว

เดิมทีมีคนส่งข่างถึงพวกเขาโดยไม่ประสงค์ออกนาม บอกว่าตระกูลลู่มีข่าวใหญ่ข่าวใหม่

ตอนนั้เห็นตำรวจปละตุลาการพาสองสามีภรรยาไป นักข่าวเหล่านี้จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร

“สวัสดีค่ะคุณตำรวจ ฉันเป็นนักข่าวจากสำนักข่าวซินหัว อยากทราบว่า หัวหน้าลู่กระทำความผิดเรื่องอะไร?”

“คุณผู้หญิงเย่ซิ่วหลาน ลู่ซื่อกรุ๊ปเติบโตขึ้นมากในช่วงหลายปีนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรมโดยเจตนาของคุณหรือไม่ หรือว่าสามีของคุณช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง”

“คุณตำรวจ สามารถเปิเผยเรื่องของทั้งสองคนอย่างละเอียดได้หรือไม่?”

นักข่างเผชิญหน้าถามคำถามไม่หยุด ลู่หงกั๋วกับเย่ซิ่วหลานก็ต่างเงียบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พาพวกเขาออกไป

“ขอโทษด้วย ทุกอย่างไม่สามาถพูดได้ในขณะนี้ ทุกท่านกรุณาหลีกทางด้วย”

“ถ้านักข่าวทุกท่านอยากรู้ กรุณาติดตามการเคลื่อนไหวของศาลยุติธรรมได้”

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นนักข่าวไปพลาง คุมตัวลู่หงกั๋วขึ้นรถไปด้วย

และเมื่อข่าวของสามีภรรยาตระกูลลู่ถูกกระจายออกไป ปัญหาที่ลู่ซื่อกรุ๊ปทำให้สงบลงได้อย่างยากเย็นก็วุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง

คนภายในบริษัทตื่นตกใจ คณะกรรมการบริหารก็เรียกประชุมอย่างเร่งด่วน

และหุ้นส่วนที่ให้ความร่วมมือกับพวกเขาก็กลัวจะมีผลกระทบต่อตนเอง จึงยุติความร่วมมือลง

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังการรายงานของชวี่ยี่ ตาประกายแสงลึกลับ

“ลู่ซือหยี่ไม่ได้ถูกจับใช่ไหม?”

ชวี่ยี่พยักหน้า : “คนของเราเสนอข้อมูลลู่ซือหยี่กับตำรวจแล้ว เพียงแต่ชายคนนั้นที่พาลู่ซือหยี่ไปเหมือนจะไม่ง่าย อย่าพูดถึงตำรวจเลย คนของเราก็ตามไม่ได้”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน สีหน้าก็เคร่งขรึม

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นทางด้านนี้ก็ปล่อยไปก่อน แต่ให้คนจับตาดูไว้ ป้องกันไม่ให้พวกเขากลับมาฆ่าได้”

ชวี่ยี่พยักหน้า บ่งบอกว่าเข้าใจ

เฟิงจิ่งเหยาพูดต่อว่า : “ส่วนลู่ซื่อกรุ๊ป เริ่มยึดครองพวกเขาทีละนิดๆได้เลย”

……

ตอนเย็น กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าตระกูลลู่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไปแล้ว

ในเวลานี้แม้ว่าเธอยังเป็นทุกข์อยู่นิดหน่อย แต่ก็สงบลงอย่างมาก

เธอเห็นเฟิงจิ่งเหยาที่กลับมาพร้อมกับอาหารมื้อเย็น ความรู้สึกไม่สบายใจและความเขินอายฉายผ่านใบหน้า

ไม่มีเหตุผลอื่นใด เธอนึกถึงในตอนกลางวันที่ตนเองจับเฟิงจิ่งเหยาไว้ไม่ปล่อย ในเวลาเดียวก็ทำให้เธอตกใจกับตนเองที่แยกจากผู้ชายคนนี้ไม่ออก ดูเหมือนว่าจะเกินความคาดหมายของเธอไปแล้ว

เธอไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไร อยากจะเก็บอาการ แต่พบว่าตนเองทำไม่ได้

ท้ายที่สุด เธอได้แต่บังคับให้ตนเองไม่ไปคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ให้ผ่านไปวันต่อวัน

เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ความคิดภายในใจของกู้ฉางฉิง หลังจากเขาดูแลกู้ฉางฉิงให้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็จัดการงานต่อ

กู้ฉางฉิงนั่งพิงหัวเตียง มองผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบๆ ด้วยสายตาที่อ่อนโยน

แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยาสังเกตได้ถึงสายตาของเธอ แต่เขาไม่ได้สนใจ จิตใจจดจ่ออยู่กับการจัดการงานของบริษัท

ในคืนเดียว สามารถพูดได้ว่าเกิดเรื่องราวขึ้นไม่น้อย

ตามที่เฟิงจิ่งเหยาออกคำสั่ง หุ้นของลู่ซื่อกรุ๊ปก็เริ่มดิ่งลงอย่างรุนแรง โครงการจำนวนมากที่เดิมทีเจรจาไว้สำเร็จแล้ว ก็ถูกยกเลิกสัญญาทั้งหมดภายในคืนเดียว และมาเซ็นต์สัญญาร่วมมือกับเฟิงซื่อกรุ๊ป

ลู่ซือหยี่ที่หลบหนีออกไปกับจ่านสิงเทียน ได้อ่านข่าวตระกูลลู่ คนก็โมโหจะแทบระเบิดออกมา

“เฟิงจิ่งเหยา!”

ถ้าบอกว่าเมื่อก่อนเธอรักมาก งั้นปัจจุบันนี้เธอก็เกลียดมาก!

ลู่ซื้อกรุ๊ปกำลังถูกเฟิงจิ่งเหยาบีบบังคับทีละก้าวๆ อันตรายอย่างมาก

บนอินเตอร์เน็ตทุกๆที่รายการเกี่ยวกับวิกฤตของลู่ซื่อกรุ๊ป รวมทั้งความแค้นเคืองของเฟิงซื่อกรุ๊ป เห็นคนทั้งหมดอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

“นี่เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลเฟิง? ทำไมจู่ๆโหดเหี้ยมแบบนี้ ต้องการปิดกั้นลู่ซื่อกรุ๊ปเลยหรอ?”

“ไม่รู้ชัดเจน ไม่ใช่บอกหรอว่าสองตระกูลคบกันมาหลายชั่วอายุคน?”

“แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เรื่องการขโมยความคิดก่อนหน้านี้พวกคุณลืมไปแล้วหรอ”

ชาวเน็ตเห็นถึงบทวิพากย์วิจารณ์นี้ ก็นึกถึงเรื่องอื้อฉาวเรื่องการขโมยความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนได้

“ดังนั้นพูดได้ว่า นักธุรกิจเหล่านี้ไม่มีมิตรภาพอะไรกันเลย เพื่อผลประโยชน์ วินาทีก่อนหน้าก็นับถือคุณเป็นพี่น้อง วินาที่ต่อมาเอามีดแทงคุณจากด้านหลัง”

“ใช่ มีคำโบราณที่พูดไว้แบบนี้ไม่ใช่หรอ คนมายาไร้ความปราณี นักธุรกิจก็โหดเหี้ยมไร้น้ำใจ”

“ฉันรู้สึกว่าตระกูลเฟิงนี้ก็ไร้น้ำใจไม่ธรรมดา ฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของลู่ซื่อกรุ๊ปชื่นชอบประธานของเฟิงซื่อกรุ๊ปไม่น้อย กระทั่งปล่อยลูกสาวไปเพื่อประธานคนนั้น ไปทำงานให้คนอื่น”

“ถ้าเป็นแบบที่พูดจริงๆ ประธานของเฟิงซื่อกรุ๊ปนี้ก็โหดร้ายเกินไปแล้ว”

“เขาไม่ได้โหดร้าย ที่ลู่ซื่อกรุ๊ปมีจุดจบแบบนี้ ล้วนเป็นพวกเขาที่หาเรื่องใส่ตัวเอง!”

กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาตอนเช้า ไม่เห็นเฟิงจิ่งเหยาในห้องผู้ป่วย เห็นเพียงมั่วหลีที่เฝ้าอยู่ข้างๆคนเดียว ก็เดาได้ว่าเขาคงไปที่บริษัท

เธอเบื่อหน่ายอย่างมาก หยิบมือถือขึ้นมาดูข่างวบนอินเตอร์เน็ต ฉันไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นความคิดเห็นมากมายที่โจมตีเฟิงจิ่งเหยา เข้าไปปกป้องเขาด้วยจิตสำนึก

แต่บทวิจารณ์ของเธอก็ถูกคนอื่นทับถมไปอย่างรวดเร็ว

เธอเห็นการวิพากย์วิจารณ์อย่างดุเดือดของชาวเน็ต ในใจก็สับสนอย่างมาก

สะเทือนใจ แล้วก็กังวลใจ

เธอคิดอยู่ว่าเฟิงจิ่งเหยาคงไม่ปล่อยตระกูลลู่ไปง่ายๆ แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะจัดการปัญหาที่ต้นตอโดยตรง

และเฟิงจิ่งเหยาที่ถูกเธอเป็นกังวล เวลานี้ไม่ได้อยู่ที่บริษัท

เขาถูกผู้อาวุโสตระกูลเฟิงที่ได้รับข่าวเรียกกลับไป

“จิ่งเหยา แต่ไหนแต่ไรคุณก็ปฏิบัติอย่างใจเย็น ทำไมครั้งนี้ถึงเสียสติไป? คุณดูสิว่าตอนนี้บนอินเตอร์เน็ตวิพากย์วิจารณ์ตระกูลเฟิงของพวกเราว่ายังไง!”

เฟิงซู่กล่าวตำหนิเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่พอใจ

เฟิงจิ่งเหยาใบหน้าเย็นชา กล่าวอธิบายว่า: “พ่อ เดิมทีเรื่องครั้งนี้ก็คือตระกูลลู่ที่หาเรื่องใส่ตัวเอง จะว่าไป เดิมทีตระกูลลู่ก็จ้องที่จะทำร้ายพวกเรา ถ้าไม่ฉวยโอกาสครั้งนี้สกัดไว้ ในอนาคตพวกเขาก็ต้องวางแผนทำร้ายตระกูลเฟิงอย่างแน่นอน”

เขาอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับการลักพาตัวของกู้ฉางฉิงโดยตระกูลลู่ และพูดคุยเกี่ยวกับการกระทำส่วนตัวบางอย่างของพ่อลู่ นี่จึงทำให้เฟิงซูไม่โกรธเคือง

แต่พอเขาไม่โกรธแล้ว คุณนายเฟิงก็โกรธขึ้นมา

ถึงแม้ในใจจะโกรธเคืองเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าตระกูลลู่จะทำออกมา แต่ในสายตาของเธอ ตัวการหายนะที่สร้างเรื่องเหล่านี้ให้เกิดขึ้นไม่ใช่ตระกูลลู่ แต่เป็นกู้ฉางฉิง

“ฉันบอกแล้วว่ากู้ฉางซินผัหญิงคนนี้เป็นตัวหายนะ พวกคุณไม่เชื่อ เพราะเธอ พวกเรากับตระกูลลู่ถึงโกรธกันผิดใจกัน ไม่รู้ว่าต่อไปจะสร้างหายนะอะไรให้พวกเราอีก!”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท