สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 331 หนีภัย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เย่าซือได้ยิน ชำเลืองมองคนทั้งสอง หัวเราะเบาๆพูดว่า : “ให้ฉันรับปากพวกคุณไม่ใช่ว่าไม่ได้ เพียงแต่อย่างน้อยก็ทำให้ฉันรู้ว่าแฟลชไดร์ฟอยู่ในมือของพวกคุณในสภาพครบถ้วนสมบูรณ์หรือเปล่า มิฉะนั้นใครจะรู้พวกคุณอาจจะหลอกฉันก็ได้”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็แข็งทื่อ

ต้องบอกก่อนว่า เดิมทีในมือเขาไม่มีแฟลชไดร์ฟที่อีกฝ่ายต้องการ ขอเพียงแต่เอามันออกมา ก็จะถูกเปิดเผยได้เลย

กู้ฉางฉิงก็กระวนกระวายใจ

เพราะเธอรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่มีแฟลชไดร์ฟอยู่ในมือ

เธอกวาดสายตาไปมองเย่าซือ แล้วบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง

“จิ่งเหยา อย่า”

เธอห้ามเฟิงจิ่งเหยา ในเวลาเดียวกันก็พูดกับเย่าซือว่า : “แฟลชไดร์ฟสีทองนั่น มันสำคัญขนาดนั้น คุณคิดว่าใครจะนำติดตัวมาด้วยล่ะ?”

เย่าซือเห็นกู้ฉางฉิงระบุสีของแฟลชไดร์ฟได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ดวงตาก็สว่างไสว บอกได้ชัดเจนว่าของยังอยู่ในมือของพวกเขา

เขาชายตามองกู้ฉางฉิง แล้วสายตาก็หันไปตกที่เฟิงยิ่งเหยา

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ตอบรับข้อเรียกร้องของพวกคุณได้ ปล่อยคุณกู้ไปก่อน”

เขาพูดจบ ส่งสัญญาณให้ลูกน้องข้างๆ ให้ปล่อยกู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงเป็นอิสระ ก็วิ่งไปทางเฟิงจิ่งเหยาทันที

“ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นกู้ฉางฉิงเดินเข้ามา ก็เป็นห่วงเป็นใยเป็นอย่างแรก

กู้ฉางฉิงได้ฟัง ก็ซาบซึ้งใจ ส่ายหัวพูดว่า : “วางใจเถอะ พวกเขาไม่ได้ลงไม้ลงมือกับฉัน”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเธอบอกว่าไม่เป็นไรจากปากของเธอเอง ความกังวลในใจก็ถูกวางลงมา

เย่าซือเฝ้าดูทั้งสองอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้รบกวน

เขารอสักพัก จึงพูดอีกครั้งว่า : “เอาล่ะ คุณเฟิง ในเมื่อฉันปล่อยแล้ว คุณควรจะพาฉันไปเอาของได้แล้วใช่ไหม?”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็มองไปทางเฟิงจิ่งเหยาโดยจิตใต้สำนึก

เฟิงจิ่งเหยาสีหน้าไม่เปลี่ยน พยักหน้าพูดว่า : “เป็นธรรมดา”

เย่าซือเห็นเช่นนี้ ก็หรี่ตามอง ก็โบกมือให้คนเตรียมรถ

“ทั้งสองท่าน เชิญ”

รถมาแล้ว เย่าซือก็เชิญสองคนขึ้นรถ

กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิ่งเหยา เหมือนบอกใบ้ถามเขาว่าจะทำอย่างไรดี

เฟิงจิ่งเหยามองเธอด้วยสายตาสงบ แล้วพาเธอขึ้นรถ

“ที่อยู่!”

หลังจากขึ้นรถ เย่าซือก็ให้เฟิงจิ่งเหยาบอกที่อยู่

เฟิงจิ่งเหยาบอกว่าเป็นโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่เชิงเขา เย่าซือไม่ลังเลให้คนขับตรงไปให้เขาเลย

ไม่ถึงสิบนาที ก็มาถึงโรงเตี๊ยม

เพราะเป็นจุดชมวิวของโรงเตี๊ยม บ้านจะแยกออกจากกัน

เย่าซือไม่ได้ให้เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงลงจากรถทันที แต่ให้ลูกน้องไปตรวจโดยรอบ

“พี่ใหญ่ ไม่มีการซุ่มโจมตี”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที คนสนิทของเขาก็เดินมารายงานที่หน้าต่างรถด้วยความเคารพ

เย่าซือจึงส่งสัญญาณให้เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงลงจากรถ

“ไปเถอะ เอาแฟลชไดร์ฟมาส่งให้ฉัน แล้วพวกคุณก็จะเป็นอิสระ”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็มองไปทางเฟิงจิ่งเหยาอย่างตึงเครียด ไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไรให้เย่าซือ

ท้ายที่สุดแล้วเฟิงจิ่งเหยา ไม่สังเกตเห็นความตึงเครียดของเธอเลยแม้แต่นัอย จูงกู้ฉางฉิงเดินไปที่ห้องของโรงเตี้ยม

เย่าซือเดินตามหลังอย่างระวังตัว

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้อง เฟิงจิ่งเหยาเปิดไฟ แสงในห้องสว่างขึ้นมาเล็กน้อย

เย่าซือยืนอยู่ที่ประตูและมองไปที่ห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อย สายตาเน็นชามองไปที่เฟิงจิ่งเหยา

“ของล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาตอบกลับด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง : “รอเดี๋ยว”

พูดจบ เขาก็จูงกู้ฉางฉิงเดินไปที่โต๊ะน้ำชาในห้อง ทำท่าทางเหมือนต้องการจะเอาของในนั้น

ใครจะรู้ เขาไม่ได้หยิบแฟลชไดร์ฟอะไรหรอก แต่เขาหยิบกาน้ำชาแล้วทุบใส่เย่าซือทันที

เย่าซือเห็นของที่ถูกโยนเข้ามา ก็เอียงหน้าโดยจิตใต้สำนึก

เช่นนี้ เฟิงจิ่งเหยาดึงกู้ฉางฉิงกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่างห้องอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่โรงเตี๊ยมนี้เป็นชั้นสอง ไม่สูงมาก

คนทั้งสองกระโดดลงจากหน้าต่าง จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เฟิงจิ่งเหยายังไม่วางใจกล่าวถามว่า: “บาดเจ็บตรงไหนไหม?”

กู้ฉางฉิงส่ายหน้า กำลังจะพูด สายตาก็เหลือบไปเห็นเย่าซือไล่ตามมาถึงหน้าต่าง

“ฉันไม่เป็นไร รีบหนีเถอะ*

แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยาก็เห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเย่าซือ ดึงกู้ฉางฉิงแล้ววิ่ง

เย่าซือเห็นเงาคนทั้งสองวิ่งไป ไม่รู้ว่าตนเองถูกหลอกได้ยังไง ในใจก็โกรธอย่างรุนแรง

“ไล่ตามไป!”

เขาสั่งด้วยเสียงเฉียบขาด ลูกน้องทั้งหมดรับคำสั่งทันที

เฟิงจิ่งเหยาเห็นพวกเขาไล่ตามมา ดึงกู้ฉางฉิงวิ่งมุ่งไปยังป่า อาศัยความมืดในยามราตรีหลบซ่อนพวกเข้าได้เล็กน้อย

“หยุด!”

“จะบ้าตาย หยุดให้กูเถอะ!”

ชายรูปร่างสูงใหญ่ชาวต่างชาติเหล่านั้นไม่รู้จักภูมิประเทศของภูเขาจินหยางนี้อย่างถ่องแท้ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่กับอุปสรรคทางธรรมชาติในป่าแห่งนี้ ก็ลำบากยุ่งยากอย่างมาก พูดไปด่าเฟิงจิ่งเหยาและกู้ฉางฉิงไปด้วย

เฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจพวกเขาโดยสิ้นเชิง มองหาทิศทางหนึ่งแล้วดึงกู้ฉางฉิงวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต

กู้ฉางฉิงไม่เคยมีประสบการณ์การหนีแบบนี้ เธอเวลานี้ ทั้งหวาดกลัวทั้งตึงเครียด ยิ่งเห็นคนด้านหลังที่ยิ่งเข้ามาใกล้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งอกสั่นขวัญแขวน

“จิ่งเหยา เขา….พวกเขาไล่ตามมาแล้ว”

เธอกล่าวด้วยเสียงที่สั่นอย่างตื่นตระหนก

เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นถึงความหวาดกลัวของเธอ อดไม่ได้ที่ตะจับมือของเธอเอาไว้แน่น

“เชื่อฉัน จะไม่เกิดเรื่องขึ้น!”

เขาปลอบโยนด้วยเสียงที่จริงจัง แววตาที่เด็ดเดี่ยวทำให้กู้ฉางฉิงตกใจเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันใจที่สับสนอลหม่านก็ค่อยๆสงบลงมา

“อื้ม!”

เธอพยักหน้าอย่างแน่วแน่ แสดงเจตนาว่าเชื่อมั่นเขา

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็ดึงเธอให้วิ่งต่อไป ในเวลาเดียวกันก็กดเครื่องสื่อสารไร้สายที่อยู่บนตัว

“ชวี่ยี่ ตอนนี้ฉันกำลังกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณรีบนำคนเข้ามาทันทีเลย”

“ครับ!”

ชวี่ยี่รับคำสั่ง ทันทีก็นำคนเข้าไปสนับสนุนก่อน

กู้ฉางฉิงได้ยินว่าชวี่ยี่จะเข้ามาสนับสนุน ใจที่กังวลก็ปล่อยวางลงโดยสิ้นเชิง

เธอผ่อนคลายร่างกายที่แข็งเกร็ง โดยไม่รู้สึกถึงวิกฤตเมื่อกี้ ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าทางร่างกายในทันที และเท้าก็ดูเหมือนจะหนักอึ้ง

“อ๊า——”

เวลานี้ เธอสะดุดเถาไม้แห้ง คนเซล้มลงไปข้างหน้า

เฟิงจิ่งเหยาถูกเธอลากเซตามไปสองก้าว แต่ไม่ได้ล้มลง

“ฉางซิน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เฟิงจิ่งเหยารีบตรวจสอบกู้ฉางฉิง เวลาเดียวกันก็พยุงเธอขึ้นมา

“ไม่เป็นไร!”

กู้ฉางฉิงส่ายหน้า ใช้กำลังเฟิงจิ่งเหยาในการลุกขึ้น ในเวลาเดียวกันคนที่ไล่ตามพวกเขามาก็ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“จิ่งเหยา พวกเราวิ่งเร็วเข้า”

เธอคว้าเฟิงจิ่งเหยา หันตัวต้องการจะวิ่ง

เวลานี้ เฟิงจิ่งเหยาก็ได้ยินเสียงที่อึดอัดใจ ในอากาศที่ตึงแน่นคล้ายกับมีเสียงอะไรที่แตกขาด

สีหน้าของเขาหวาดหวั่นอย่างรุนแรง โผเข้าไปหากู้ฉางฉิง

“อื้อ!”

เขากอดกู้ฉางฉิงแน่น ตัวสั่นเล็กน้อย ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนบ่าทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะร้องอื้อออกมา

ในความมืด มีกระสุนนัดหนึ่งยิงเข้าไปที่ไหล่ขวาของเขา

กู้ฉางฉิงไม่ได้ยินเสียงกระสุนปืน ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บ

“เป็นอะไรไป?”

เธอรู้สึกถึงการกระทำที่ผิดปกติของเฟิงจิ่งเหยาด้วยจิตสำนึก จึงเอียงหน้าไปกล่าวถาม

เฟิงจิ่งเหยาอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนบ่า ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า: “ไม่เป็นไร รีบวิ่งไป!”

เขาพูดจบ ก็ไม่รอให้กู้ฉางฉิงถามอีก ดึงเธอแล้ววิ่งไปอีกครั้ง

เพียงแต่จากถนนเส้นทางเล็กๆจากจุดเริ่มต้นเปลี่ยนเป็นเส้นทางภูเขา

แน่นอนว่าการวิ่งแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการลั่นไกอีกครั้งจากคนด้านหลัง

เขาไม่คาดคิดว่าคนเหล่านี้ ตะใจกล้าเช่นนี้ นำปืนส่วนตัวเข้ามาในอาณาเขตก็มากแล้ว ยังจะกล้าลั่นไกอีก!

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท