มั่วหลีกัดริมฝีปากแน่น มองเฟิงจิ่งเหยาที่ปิดประตูต่อหน้าต่อตาเธอ
ไม่ต้องคิด เธอก็รู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน
เธอไม่เต็มใจ ทว่าก็จนปัญญา ได้แต่หันกลับออกไป
ในห้อง เฟิงจิ่งเหยายกซุปแก้เมาค้างมา มองกู้ฉางฉิงที่สะลึมสะลือ ในแววตาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดู
เพื่อป้องกันไม่ให้กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นด้วยอาการปวดหัว เขาดูแลกู้ฉางฉิงให้ดื่มซุปแก้เมาค้างด้วยตนเอง
เมื่อเขาเพียงแค่เห็นริมฝีปากสีแดงๆของกู้ฉางฉิงที่เปื้อนน้ำเท่านั้น เดิมทีสิ่งที่เก็บกดไว้แล้วก็กลับขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นอีกคืนที่เต็มไปด้วยความเหลวไหล
ไม่กี่วันต่อมา ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เฟิงจิ่งเหยาพูดจริงๆ ทุกๆสิ่งสงบไม่ทีเหตุใดๆ
กู้ฉางฉิงที่พักผ่อนก่อนหน้านี้ก็กลับมาทำงานอีกครั้ง สองวันอยู่บริษัท สองวันอยู่ในบ้าน
เมื่อพวกเขาทุกคนผ่อนคลายความระมัดระวังตัว ที่ท่าเรือเมืองหลวง ชายผู้เต็มไปด้วยความเย็นชาคนหนึ่งลงมาจากบนเรือสำราญ
ใบหน้าแข็งกร้าว หลังตรง รวมถึงกลิ่นอายของความอันตรายบ่งบอกได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา
“ฉันมาถึงแล้ว หลังจากจัดหาที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็จะไปเหยียบตระกูลเฟิงหน่อย
ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรรายงานใครบางคน แล้ววางสายไป
จากนั้น เขาก็ทำตามที่พูดไว้ หลังจากหาที่พักแล้ว เขาก็ไปที่ตระกูลเฟิง
เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงไม่ทราบว่ามีคนมาจับตาดูพวกเขาอีกครั้ง
ทั้งสองทำงานและพักผ่อนตามปกติ
หลังจากกู้ฉางฉิงส่งเฟิงจิ่งเหยาไปแล้ว ก็กลับไปที่ห้องเริ่มทำงาน
ชายคนนั้นอยู่ตรงลานบ้านเลือกตำแหน่งที่ดี เพื่อจะติดตามสถานการณ์ของบ้านใหม่ได้อย่างชัดเจน
เป็นธรรมดาที่เขาจะพบเห็นกู้ฉางฉิง
เขาหรี่ตาพินิจพิเคราะห์กู้ฉางฉิง แล้วพลิกดูข้อมูลคนของตระกูลเฟิงที่เพิ่งได้รับ
“กู้ฉางซิน นิสัยเฉพาะตัวของเฟิงจิ่งเหยา ว่ากันว่าเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของเขา เฉินหวั่นหมิง แม่ของเฟิงจิ่งเหยา……”
เขาพูดพึมพำศึกษาทุกคนในตระกูลเฟิง ดูเหมือนว่าพัลวันว่าควรจะจับใคร
แต่ทั้งหมดนี้ กู้ฉางฉิงไม่รู้
เธอสงบสุขอยู่ที่บ้านได้ไม่กี่วัน ในที่สุดวันที่เจ็ดหลังจากกลับมาความสงบสุขนี้ก็ถูกทำลาย
“ฉางซิน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
หลี่ม่านถามในโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น ทำให้กู้ฉางฉิงไม่เข้าใจ
“ผู้จัดการใหญ่ ฉันอยู่บ้าน เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”
เธอถามอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย
หลี่ม่านอมยิ้มพูดว่า : “ใช่ เกิดเรื่องแล้ว เพียงแต่เป็นเรื่องดีนะ คุณรีบมาที่บริษัทเถอะ”
เธอพูดจบ ก็ไม่รอให้กู้ฉางฉิงถามอีก ก็วางสายไปเลย
กู้ฉางฉิงสงสัย ในเวลาเดียวกันก็เก็บข้าวของแล้วไปบริษัท
ใครจะรู้ เพิ่งจะเข้าบริษัทไป ก็ได้รับการแสดงความยินดีจากเพื่อนร่วมงาน
“นักออกแบบกู้ ขอแสดงความยินดีด้วย!”
“ใช่ ยินดีด้วยนักออกแบบกู้ นี่โด่งดังจริงๆเลย”
กู้ฉางฉิงฟังคำแสดงความยินดีของพวกเขา เดินเข้าไปในแผนกออกแบบอย่างงงๆ
เช่นกัน หลายคนในแผนกออกแบบก็แสดงความยินดีกับกู้ฉางฉิง อย่างเอาอกเอาใจ
“นักออกแบบกู้ ต่อไปมีชื่อเสียงแล้ว อย่าลืมสนับสนุนเพื่อร่วมงานอย่างพวกเราด้วยนะ!”
“ใช่ นักออกแบบกู้ ต่อไปมีอะไรจำเป็นให้ช่วยก็ขอให้บอก”
ชวี่ชิงหยุนมองนักออกแบบที่รายล้อมอย่ข้างๆเธอแล้วพูดแสดงความยินดีกับกู้ฉางฉิงในตอนนี้ ในแววตาก็เต็มไปด้วยความไม่ยินดี
“หึ ไม่ได้อยู่บนนิตยสารแฟชั่น พวกคุณก็อย่าแสดงความยินดีเร็วเกินไปหน่อยเลย ปัจจุบันในยุคสมัยนี้ เก่าใหม่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สักวันอาจจะมีใครมาแทนที่เธอก็ได้”
เธอกล่าวอย่างกลับตาลปัตร ทุกคนได้ยินก็ตำหนิไม่หยุด
เพียงแต่กู้ฉางฉิงคาดเดาจากในคำพูดเธอ ว่าท้ายที่สุดเกิดอะไรขึ้น
เธอไม่ได้สนใจชวี่ชิงหยุน กล่าวอำลาด้วยรอยยิ้มจางๆแล้วเดินไปที่ห้องทำงานผู้จัดการใหญ่
ในขณะนี้เธอแค่ต้องการยืนยันว่าการคาดเดาของตนเองถูกต้องหรือไม่
ไม่นาน เธอก็มาถึงห้องทำงานของหลี่ม่าน
หลี่ม่านเห็นเธอ ก็หยิบนิตยสารแฟชั่นฉบับล่าสุดที่บริษัทได้รับวันนี้ออกมาทันที
“ฉางซิน คุณดังแล้ว คุณดูนิตยสารนี่”
เธอพูดจบ ก็ส่งนิตยสารให้ แล้วเปิดเว็บไซต์ของบริษัทให้กู้ฉางฉิงดู
แม้ว่ากู้ฉางฉิงจะมีจุดจบในใจ เพียงแต่เห็นนิตยสารแล้วก็เว็บไซต์ที่ได้รับการชมเชย ในใจเธอก็ยากที่จะซ่อนความตื่นเต้นไว้
“ชุดนี้สวยมาก ประทับใจสาวน้อยของฉันจริงๆ ทำไมฉันไม่เคยสนใจนักออกแบบคนนี้มาก่อน”
“ฉันก็ด้วย ฉันยังตั้งใจไปกดูข้อมูลอย่างเป็นทางการของเธอ เสื้อผ้าด้านบนทำให้ฉันชอบมาก”
“ฮือฮือ ฉันตั้งใจแล้ว ต่อไปฉันจะซื้อเสื้อผ้าของนักออกแบบคนนี้”
……
นอกจากชาวเน็ตเหล่านี้ นักออกแบบรุ่นเก่าหลายคนในวงการนี้ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบของกู้ฉางฉิง
“ลายเส้นราบรื่น การจับคู่สียังเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ดูมีศักยภาพ
“จริงๆ ด้านการออกแบบก็ทันสมัย นักออกแบบที่มีความคิดอิสระ เป็นธรรมดาที่อนาคตจะดีมาก”
พูดได้ว่า เพราะคำชมของรุ่นพี่เหล่านี้ กู้ฉางฉิงก็ร้อนแรงขึ้นมาในวงการ ชื่อเสียงในสังคมก็พุ่งขึ้น
เชื่อมโยงถึงแบรนด์ของบริษัทสาขาขึ้นมา
นี่ก็คือสาเหตุที่หลี่ม่านมีความสุขมาก
“ใช่แล้ว ยังมีข่าวดีที่จะบอกคุณ”
ดูเหมือนหลี่ม่านจะนึกถึงอะไร ยิ้มอย่างอ่อนโยนมองกู้ฉางฉิง “หลังจากที่คุณได้รับความนิยมในนิตยสารของNK นิตยสารหลายฉบับในเมืองนี้ก็ต้องการสัมภาษณ์คุณเช่นกัน พวกเขาติดต่อคุณไม่ได้ ก็เลยโทรมาหาฉันทางด้านนี้ คุณลองดูว่าคุณจะสนใจไหม”
กู้ฉางฉิงได้ยิน ในใจก็มีความสุขมาก เพียงแต่เธอไม่ได้รับปากทันที แต่บอกให้หลี่ม่านว่าเธอขอไตร่ตรองสักหน่อย
หลี่ม่านไม่ได้บังคับ ถึงอย่างไรเธอก็รู้สถานะของกู้ฉางฉิง
จากนั้นเธอก็คุยกับกู้ฉางฉิงเรื่องงานเล็กน้อย ก็ปล่อยให้กู้ฉางฉิงออกมา
จี้อี้รู้เรื่องการได้รับความนิยมของกู้ฉางฉิง ความโกรธเดือดดาลก็สุมอยู่ในใจ
เธอรู้สึกว่ากู้ฉางฉิงกำลังตบหน้าเธออยู่
เพราะกู้ฉางฉิงยิ่งแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมา ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าผู้จัดการอย่างเธอนี้ไร้ความสามารถ
น่าเสียดาย ถึงเธอจะโกรธจนเจ็บหัวใจตับม้ามกระเพราะ ในเวลานี้เธอก็ไม่มีวิธีที่ดีในการจัดการกับกู้ฉางฉิงได้ ทำได้แค่มองตาปริบๆดูเธอออกจากบริษัทไป
กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เธอถูกคนไม่น้อยเกลียดชัง
หลังจากเธอออกมาจากบริษัท ก็ยากที่จะปกปิดความสุขในใจ
ในสิ่งแรก ใบหน้าอันหล่อเหลาของเฟิงจิ่งเหยาฉายในความคิดของเธอ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเฟิงจิ่งเหยาโดยไม่ต้องคิด
“มีอะไรหรอ?”
ไม่นาน เสียงอันอ่อนโยนของเฟิงจิ่งเหยาก็ดังขึ้นในโทรศัพท์
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็บอกเรื่องการได้รับความนิยมของตน
“เช่นนี้ งั้นก็ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยนะ”
เฟิงจิ่งเหยาอมยิ้มตอบกลับ ไม่ได้บอกกู้ฉางฉิงว่าเรื่องนี้เขารู้มานานแล้ว
กู้ฉางฉิงได้ยินคำแสดงความยินดีของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งสดใสยิ่งขึ้น
“เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองข่าวดีในวันนี้ ฉันคิดว่าจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเย็น ไม่ทราบว่าคุณเฟิงจะมีเวลาไหม?”
แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่ปฏิเสธ
“ได้สิ คุณกลับไปก่อน รอฉันเลิกงานแล้วจะไปรับคุณอีกที”
กู้ฉางฉิงพยักหน้า แล้วกลับไปที่ตระกูลเฟิงทันที
ในเวลาเดียวกัน ชายพวกนั้นที่เฝ้าดูกู้ฉางฉิงอยู่ ในที่สุดก็มีเป้าหมาย
เขายังคงตัดสินใจที่จะลงมือกับกู้ฉางฉิง
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นผู้หญิงที่ชายคนนั้นให้ความสำคัญมากที่สุด
ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ก็เกือบจะทำสำเร็จแล้ว