เฟิงจิ่งเหยารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง มือที่กำลังจะหยิบusbขึ้นมาหยุดชงักทันที
เทียนหลางเห็นแบบนี้ สายตาคู่นั้นหรี่ลงอย่างอันตราย
“อะไรล่ะ? คุณชายเฟิงจะเปลี่ยนใจหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยายกยิ้มเย็น กวาดมองเขาหนึ่งที พูดเสียงเย็น “คนที่เปลี่ยนใจไม่ใช่นายหรือไง?”
พูดจบ ในขณะที่เทียนหลางยังไม่ตอบอะไรกลับไป เขาโจมตีไปที่คอของเทียนหู
เทียนหูที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเมื่อรู้สึกถึงอันตราย รีบหลบหลีกการโจมตีของเฟิงจิ่งเหยาทันที ในขณะเดียวกันใบหน้าดุดันตอบโต้เฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยาเตรียมตัวรับมือเอาไว้อยู่แล้ว หมุนตัวหลบการโจมตีของเทียนหูแล้วหันกลับมาเตะเข้าที่ท้องของเทียนหู
เทียนหูคิดไม่ถึงเลยว่าประธานที่วันๆนั่งทำงานในออฟฟิศจะมีความสามารถทางด้านนี้ด้วย เดิมทีไม่ได้คิดเยอะอะไรกลับกลายเป็นว่ามันย้อนกลับมาทำร้ายเธอ
เนื่องจากเฟิงจิ่งเหยาเตะอย่างแรงเทียนหูจึงล้มลงที่พื้น รู้สึกเหมือนตับไตไส้พุงเขยื้อนไปหมด เจ็บจนน้ำตาแทบไหล
เทียนหลางตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีปฏิกิริยาทันทีรีบไปช่วงพยุงเทียนหู
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เขาถามไปมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างระมัดระวัง
“ไม่เป็นไร แต่คนคนนี้เขาเป็นนักวูซู!”
ถึงแม้เทียนหูจะเจ็บมากแต่ก็ยังอดทนได้อยู่
เทียนหลางถุยน้ำลาย ยิ้มเย็น “นักวูซูแล้วไง สองหมัดสู้สี่มือของพวกเราไม่ได้หรอก”
เขาพูดจบ พุ่งไปโจมตีเฟิงจิ่งเหยาทันที
เฟิงจิ่งเหยาเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว หลบการโจมตีทันที
เทียนหูเห็นเทียนหลางเข้าไปก็กัดฟันพุ่งเข้าไปเช่นกัน
พวกเขาคิดว่าพวกเขาทั้งสองคนมีประสาการณ์การต่อสู้ขั้นสูงอยู่ มีเพียงแค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น
แต่ความจริงมันเกินความคาดหมาย
พวกไม่เพียงไม่สามารถล้มเฟิงจิ่งเหยาได้ ยังถูกเฟิงจิ่งเหยาทำร้ายอีก รับมือได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเฟิงจิ่งเหยาโจมตีที่ขาของทั้งสองคน เปิดเครื่องติดต่อที่พกมา
“ชวี่ยี่!”
ชวี่ยี่นั้นรอการติดต่อของเฟิงจิ่งเหยามาตลอด เมื่อได้ยินเสียงของรีบตอบกลับทันที “ครับท่านประธาน”
“นายรีบพาคนมาด่วน มันเป็นกับดัก คุณนายรองไม่อยู่ที่นี่”
เทียนหลางกับเทียนหูเห็นว่าเขาติดต่อคนไป ใบหน้าเต็มไปด้วยไฟโทสะ
แบบนี้มันหยามพวกเขาเกินไปแล้ว
ทั้งสองคนเริ่มโจมตีอีกครั้ง เฟิงจิ่งเหยารับมือไปสั่งชวี่ยี่ไป
“นายให้มั่วหลีพาคนไปที่ทางออกของสถานีต่างๆเพื่อตรวจสอบทันที ”
ชวี่ยี่ได้ยินความเคลื่อนไหวของเฟิงจิ่งเหยาไม่กล้าพูดไร้สาระ รีบวางสาย
หลังจากเฟิงจิ่งเหยาวางสายไป กลับมาโฟกัสกับเทียนหลางและเทียนหู
……
ในเวลาเดียวกัน ด้านกู้ฉางฉิง หลังจากวางสายไปก็รอคนของกู้หงเซินมารับอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อถึงดึกก็มีคนมา เธอก็รีบไปกับเขาทันที
ยังไม่ทันได้ขึ้นรถเธอก็มองไปที่กู้หงเซินข้างหลัง ใบหน้าอึมครึมร้อนรน เป็นท่าทางที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
คิดไปคิดมากู้ฉางซินเป็นลูกสาวที่เขารักที่สุด มาเกิดเรื่องแบบนี้ เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร
เธอเก็บความน้อยใจเอาไว้แล้วขึ้นรถไป
หลังจากรถเคลื่อนตัวออกไป กู้ฉางฉิงมองไปถนนข้างทาง อดถามออกไปไม่ได้ว่า “ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน?”
จริงๆแล้วตั้งใจจะถามเกี่บวกับข่าวคราวเฟิงจิ่งเหยา แต่ก็กลัวกู้หงเซินจะดูออกจึงทำได้เพียงแค่อดทน
กู้หงเซินมองเธอแวบหนึ่ง พูดเสียงเย็น “ถึงแล้วเดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
พูดจบเขาก็ไม่สนใจกู้ฉางฉิงอีก ปิดตาพิงเบาะ
กู้ฉางฉิงเห็นแบบนั้น กระสับกระส่าย แต่รู้ว่าไม่ควรถามทำได้เพียงแค่เม้มปากมองไปนอกหน้าต่าง
หลังจากนั้นสิบนาที พวกเขาก็มาถึงสถานีรถไฟ
“ลงรถ!”
กู้หงเซินเปิดตา สั่งเสียงเข้มแล้วเปิดประตูลงรถไป
กู้ฉางฉิงเหลือบมองรีบตามลงไป
หลังจากนั้นกู้หงเซินพาเธอมุ่งไปยังในสถานีรถไฟ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว ยังมีคนใช้บริการสถานีรถไฟอยู่ไม่น้อย
เมื่อพวกเขาปรากฏตัว ก็ดึงดูดสายตาผู้คนและในนั้นก็มีเทียนซาและกู้ฉางซินอีกด้วย
เมื่อกู้ฉางซินเห็นพ่อก็ดีใจ แต่เทียนซาที่อยู่ข้างๆนั้นมีใบหน้าสงสัย
เพราะว่าเห็นกู้ฉางฉิงที่หน้าเหมือนกู้ฉางซินยังกับแกะ
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่ลืมข่มขู่กู้ฉางซิน
“ห้ามพูด ไม่อย่างนั้นระวังปืนฉันลั่น!”
เมื่อเห็นปืนสีดำแววจ่ออยู่ที่เอวของกู้ฉางซิน
และก็เพราะปืนกระบอกนี้ กู้ฉางซินเกร็งตัวตรงสงบนิ่ง
แต่ว่าเรื่องนี้กู้หงเซินไม่รู้
ทั้งสองเข้ามาในขบวนรถ กู้ฉางฉิงคิดว่าพวกเขาร่วมมือกับเฟิงจิ่งเหยา แต่เมื่อเห็นแบบนี้ อย่าพูดแต่เฟิงจิ่งเหยาเลย คนของเฟิงจิ่งเหยาเธอก็ไม่เห็นใครเลย
ตอนนี้เธอสงสัยอย่างมาก
“ไม่ใช่ว่าร่วมมือกับเฟิงจิ่งเหยาหรือไง? ทำไมถึงไม่เห็นคนของเขาเลยล่ะ?”
กู้หงเซินมองเธอแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าพูดเพื่อปลอบเธอหรือเปล่าถึงได้พูดเสียงเข้มไปว่า “ฉันกับเขาแยกกันไป สักพักเดี๋ยวเขาก็มาแล้ว”
พูดจบ เขาก็ไม่สนใจกู้ฉางฉิง และมุ่งไปยังสถานที่ที่นัดกับคนชุดดำไว้
เมื่อถึงที่นั่น คนชุดดำก็รออยู่แล้ว
“คนล่ะ?”
เขาเดินไปถาม
กู้ฉางฉิงตามหลังเขาไป พิจารณาชายชุดดำอย่างประหลาดใจ ความรู้สึกมันบอกว่าคนพวกนี้อันตราย
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร ยืนอยู่หลังกู้หงเซินเงียบๆ
“อยู่นั่น ห้อง7”
ชายชุดดำกวาดสายตาไปมองกู้ฉางฉิง ตอบกลับไป
กู้หงเซินทอดสายตามองไป ก็เห็นที่อยู่ของเทียนซา แต่เนื่องจากเทียนซารูปร่างสูงใหญ่ ร่างของกู้ฉางซินจึงถูกบังมิด
“จัดการเถอะ”
เขาบอกอย่างหมดความอดทน อยากจะช่วยกู้ฉางซินให้เร็วที่สุด
คนชุดดำไม่ได้ตอบโต้ ด้านเจ้านายของเขาก็ต้องการช่วยคนให้เร็วที่สุด
ในขณะที่พวกเขาเข้าไปล้อมรอบเทียนซาเอาไว้เงียบๆ เทียนซารับรู้ได้ทันทีว่ารอบๆเต็มไปผู้คน
จากประสบการณ์การทำงานด้านนี้ของเขา เขาตัดสินใจจะออกจากที่นี่ทันที
“ไปกับฉัน!”
เขาพูดจบ จับกู้ฉางซินมุ่งไปสถานีรถ
กู้ฉางซินร้อนใจ กำลังคิดว่าจะช่วยตัวเองยังไง ให้พ่อเจอเธอ เดิมทีคนที่จะเข้าไปช่วยเธอรีบลงมือทันที
พวกเขาเข้าไปขัดขวางทางของเทียนซา
เทียนซาเหลือบมองพวกเขา สีหน้าเปลี่ยนอย่างชัดเจน จับกู้ฉางซินเปลี่ยนทิศทาง แต่อีกทางก็มีคนล้อมรอบเอาไว้แล้ว
เขามองภาพนี้ สายตาลุกโชน
“ลงมือ!”
เขากัดฟันพูด และจู่ๆชายกำยำก็ออกมาจากข้างหลังชายชุดดำพวกนั้น
สีหน้าดุร้ายของพวกเขาพุ่งโจมตีชายชุดดำ
“อ๊ะ ต่อยกันแล้ว–”
“ช่วยด้วย–”
ทั้งสองฝ่ายเริ่มลงมือ สร้างความตกใจให้คนทั่วไปไม่น้อย
พวกเขาใช้มือกุมหัวแล้ววิ่งหลบหนีไปทุกทิศทาง
เทียนซาคิดจะใช้โอกาสชุลนุมนี้หนีไป กลับคิดไม่ถึงว่าคนที่มาช่วยจะมีจำนวนเยอะกว่าที่เขาคิด
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของชายชุดดำอีกครั้ง
กู้ฉางซินเห็นการแต่งตัวของพวกเขารู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคือใคร ใบหน้าเต็มไปหน้าความพอใจ
เป็นลูกน้องของคนคนนั้น เขายังแคร์เธออยู่