สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 358 เขาก่อความวุ่นวายให้เธออีกแล้ว

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงรู้ว่าคนนี้คงไม่ใจดีมาเยี่ยมเขา

ที่แท้ก็เพื่อแผนการของพวกเขา

เวลานี้เธอรู้สึกขยะแขยงกับคำพูดของกู้หงเซินอย่างมาก

อย่างไรก็ตามกู้หงเซินราวกับไม่เห็นท่าทางแบบนี้ พูดจบก็ยืนยันกับกู้ฉางฉิงอีกรอบ

“จำคำพูดของฉันได้ไหม? อย่าให้ถึงตอนนั้นแล้วบอกว่าพลั้งปากพูดล่ะ”

กู้ฉางฉิงอดทนรอชัยชนะ พูดอย่างเย็นชา “พูดจบแล้วยัง? พูดจบก็ไสหัวออกไป!”

แน่นอนว่ากู้หงเซินโกรธกับคำพูดที่ไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมานี้

ในขณะที่เขาเตรียมตัวจะตำหนิออกไป ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก เฟิงจิ่งเหยาเดินเข้ามา

“พูดอะไรกันอยู่หรอ?”

เขาเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี หรี่ตาถามออกไป

กู้ฉางฉิงเม้มปาก “ไม่มีอะไรหรอก ฉันค่อนข้างเหนื่อยน่ะ อยากพักผ่อน”

เฟิงจิ่งเหยาหลุบตาลง พูดอย่างคล้อยตามไปว่า “โอเค งั้นนอนเถอะ ฉันอยู่ตรงนี้”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า แล้วปิดตาสนิท

กู้หงเซินเห็นแบบนั้น สายตาเต็มไปด้วยโทสะ แต่เมื่อหน้าอยู่ต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา เขาก็รีบเก็บสีหน้านั้นทันที

“ฉางซิน เธอพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวครั้งหน้าพ่อจะมาเยี่ยมอีกนะ”

เขาแสดงบทพ่อที่แสนดีอย่างเก้อเขินเล็กน้อยกับกู้ฉางฉิง แล้วหันไปพูดกับเฟิงจิ่งเหยาอย่างซาบซึ้งใจ “จิ่งเหยา รบกวนดูแลฉางซินด้วยนะ ฉันขอตัวไปก่อน”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองส่งเขาที่ออกไป ปิดประตูห้องพักก่อน

เขาหมุนตัว พลันสายตาไปมองกู้ฉางฉิง

เขามักจะรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างสองพ่อลูกคู่นี้มันแปลกๆ แต่มันแปลกตรงไหนเขาก็พูดไม่ถูก

สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป คอยดูแลกู้ฉางฉิงไปจัดการเรื่องบริษัทไป

สองสามวันผ่านไปก็เป็นแบบนี้

ไม่รู้มู่เฉาเกอรู้เรื่องกู้ฉางฉิงได้รับบาดเจ็บจากไหน แต่เธอไม่ได้ไปหาเฟิงจิ่งเหยาแต่กลับไปตระกูลเฟิง

“เฉาเกอมาได้ยังไงเนี่ย?”

หลังจากหมดหวังกับลู่ซือยวี่ คุณนายเฟิงเต็มไปด้วยความหวังว่าจะให้มู่เฉาเกอกลายมาเป็นบูกสะใภ้ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงเอาใจใส่กับเธออย่างมาก

“ฉันมาเยี่ยมฉางซินค่ะ แต่ได้ยินว่าคุณน้าอยู่บ้านเลยมาหาคุณป้าก่อน”

มู่เฉาเกอตอบกลับอย่างน่าเอ็นดู คุณนายเฟิงได้ยินแบบนั้นขมวดคิ้ว

“เธอมาหาฉางซิน? เกิดอะไรขึ้น? เขาก่อเรื่องให้เธออีกแล้วหรอ?”

เนื่องจากบทเรียนก่อนหน้า คุณนายเฟิงก็คิดว่ากู้ฉางฉิงจะก่อเรื่องวุ่นวายให้มู่เฉาเกออีก

มู่เฉาเกอฟังออกว่าน้ำเสียงของเธอไม่พอใจกู้ฉางฉิง มุมปากยกขึ้น

“ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ก็ทำงานอยู่ที่อื่นตลอด พอดีกลับมาเลยจะมาเยี่ยมน่ะค่ะ ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นเพื่อนของเฟิงจิ่งเหยา”

“เกิดเรื่องได้รับบาดเจ็บ?”

สายตาคุณนายเฟิงเต็มไปด้วยความตกใจ มองไปที่มู่เฉาเกออย่างประหลาดใจ

เหตุผลก็ง่ายๆเลยคือเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้บอกคนที่บ้านว่ากู้ฉางฉิงเกิดเรื่อง

มู่เฉาเกอเหลือบมองคุณนายเฟิงที่เป็นอย่างที่เธอคิดว่ายังไม่รู้เรื่อง

เธอแสร้งทำเป็นตกใจแล้วถามว่า “คุณน้ายังไม่รู้หรอคะ?”

พูดจบ เธอแสดงออกขัดเคืองเล็กน้อย “ดูท่าว่าเฟิงจิ่งเหยาจะไม่อยากให้พวกคุณเป็นห่วงจึงไม่ได้บอกพวกคุณ ไม่รู้ว่าฉันเผลอพลั้งปากพูดไปแบบนี้ เขาจะโกรธฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้”

คุณนายเฟิงกระพริบตา ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธและไม่พอใจ

เธอคิดไปว่าสองสามวันนี้จิ่งเหยายุ่งจนไม่ได้กลับบ้าน เป็นเรื่องที่บริษัทแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น แต่ต้องไปดูแลยัยผู้หญิงต่ำทรามอย่างกู้ฉางซินนั่นที่โรงพยาบาล

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามู่เฉาเกอ เธอก็ต้องกักเก็บความรู้สึกนั้นไว้

“จิ่งเหยาจะโกรธหนูได้ยังไงกันล่ะ หนูน่ะตั้งใจมาเยี่ยมกู้ฉางซินนี่เนอะ”

คุณนายเฟิงพูดปลอบ ถึงแม้ว่าจะพยายามปกปิดอารมณ์ของตัวเองตอนนั้นแล้วแต่ก็ถูกมู่เฉาเกอเห็นสายตาไม่พอใจของเขาได้

“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นค่ะ”

เธอตอบอย่างมีนัยยะลึกซึ้ง หลังจากนั้นก็พูดคุยกับคุณนายเฟิงต่อเล็กน้อยแล้วแสร้งว่าจะไปเยี่ยมกู้ฉางซิน

“หนูเฉาเกอไม่ต้องไปหรอก พวกเขาน่าจะยังอยู่โรงพยาบาลไม่กลับมาหรอก”

คุณนายเฟิงขัดมู่เฉาเกอเอาไว้ ลากมือเธอแล้วพูดต่อว่า “ไม่งั้นก็ไปโรงพยาบาลกับน้า”

แน่นอนว่ามู่เฉาเกอปฏิเสธไม่ได้

หลังจากนั้นสิบนาที ทั้งสองก็ถึงโรงพยาบาล

คุณนายเฟิงเมื่อรู้หมายเลขห้องของกู้ฉางฉิงจากพยาบาลที่เคาน์เตอร์ก็พามู่เฉาเกอตรงไปทันที

ในห้อง เฟิงจิ่งเหยาและกู้ฉางฉิงนั้นไม่รู้ว่าพวกเขามา กำลังพูดคุยหัวเราะสนุกสนานกันอยู่

กู้ฉางฉิงที่ต้องกินโจ๊กอยู่หลายวัน นึกอยากกินของเผ็ดขึ้นมาจึงไปตื้อเฟิงจิ่งเหยา

แต่เนื่องจากหมอสั่งเอาไว้ว่า ถ้าแผลยังไม่หายดีจะต้องกินของรสไม่จัดเกินไป ดังนั้นเฟิงจิ่งเหยาจึงไม่ยินยอม

คนนึงตื้อ คนนึงกำลังขำ สายตาเต็มไปด้วยรักใคร่ ทำให้คุณนายเฟิงและมู่เฉาเกอที่เพิ่งปรากฏตัวในห้องพักต้องเบือนหน้าหนี

“จิ่งเหยา ฉันอยากกิน….คุณแม่ คุณมู่”

กู้ฉางฉิงได้ขยับตัวเล็กน้อยเธอออดอ้อนเฟิงจิ่งเหยา แต่ใครจะคิดเมื่อเธอกวาดหางตาของเธอไปที่ประตูและเธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยสองร่าง

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินแบบนั้น ก็หัวไปตาม สายตาฉายแววตกใจ

“แม่ เฉาเกอ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

คุณนายเฟิงชำเลืองมองกู้ฉางฉิงเล็กน้อย ตอบกลับด้วยสีหน้าไม่ดีนักว่า “เพิ่งมาน่ะ”

พูดจบ เธอก็ขมวดคิ้วแล้วถามออกไปว่า “จิ่งเหยา ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้น? อยู่ดีๆทำไมถึงได้รับบาดเจ็บได้? ไม่ใช่ว่าเธอก่อเรื่องวุ่นวายข้างนอกหรอกนะ?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่สามารถพูดเรื่องจริงออกไปได้จึงอธิบายอย่างเลี่ยงๆไป

“จริงๆแล้วมันเป็นเพราะผมเอง ทำให้ไปกระทบฉางซิน แม่ไม่ต้องกังวลนะครับตอนนี้แก้ไขปัญหาใกล้จะเสร็จแล้ว”

คุณนายเฟิงได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

เพราะว่าเธอได้ยินคำพูดของเฟิงจิ่งเหยาเต็มไปด้วยการปกป้องกู้ฉางฉิง

และเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงอย่างเฟิงจิ่งเหยาพูด

ในเมื่อตอนที่กู้ฉางซินยังไม่อยู่ที่นี่ บ้านเธอไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้ หลังจากตบแต่งผู้หญิงคนนี้เข้ามา ใบน้านก็มีแต่เรื่องวุ่นวายไม่หยุด

เธอคาดโทษกู้ฉางซิน แม้ว่าในใจรู้สึกเบื่อผู้หญิงคนนี้อย่างมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา

เธอรู้ว่าถ้าตัวเธอสั่งสอนกู้ฉางซินตอนนี้ ลูกชายเธอจะต้องปกป้องยัยผู้หญิงร้ายกาจคนนี้

สุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเขา

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอยู่ที่นั่นสักพักแล้วพามู่เฉาเกอออกมา

ระหว่างทางกลับ มู่เฉาเกอถอนหายใจในรถอย่างช่วยไม่ได้ “รู้สึกช่วงนี้กู้ฉางซินมีปัญหาเยอะจังเลยนะคะ ลำบากจิ่งเหยาแย่”

คุณนายเฟิงเม้มปากแน่น แต่สายตานั้นราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว

หลังจากส่งมู่เฉาเกอแล้ว เธอกลับมาถึงบ้านแล้วก็เรียกเฟิงซู่กลับมา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนเรียกฉันกลับมา”

เฟิงซู่กลับถึงบ้าน ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย

คุณนายเฟิงเหลือบมองเขาแล้วรีบบอกเรื่องกู้ฉางฉิงที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลออกมา

“คุณคิดสิว่าปีนี้เธอเข้าโรงพยาบาลกี่ครั้งแล้ว? ผู้หญิงคนนี้น่ะเป็นตัวปัญหาจริงๆ ถ้าไม่รบกวนคนอื่นก็ไม่เท่าไหร่หรอกแต่นี่มันลำบากให้จิ่งเหยาต้องไปดูแลเธออีก”

เมื่อเธอพูดประโยคสุดท้าย ความโกรธพรั่งพรูออกมา “คุณคงยังไม่เห็นสินะว่าจิ่งเหยาผอมซูบลงไปมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จิ่งเหยาจะต้องเหนื่อยตายเพราะผู้หญิงคนนั้น”

เฟิงซู่ฟังคำคุณนายเฟิงจบ ใบหน้าตกใจ

“กู้ฉางซินได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว?”

คุณนายเฟิงมองบนแล้วตอบกลับว่า “ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้ยินมาว่าจิ่งเหยาดูแลเขาที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว กิจการของบริษัทได้รับความเสียหายมากมาย จิ่งเหยาไม่มีเวลามาจัดการเลย ไม่ได้การแล้ว จะเก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องเป็นภาระให้กับจิ่งเหยาแน่ๆจนกระทั่งมากระทบกับพวกเราตระกูลเฟิงทั้งหมด!”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท