กู้ฉางฉิงรู้ว่าคนนี้คงไม่ใจดีมาเยี่ยมเขา
ที่แท้ก็เพื่อแผนการของพวกเขา
เวลานี้เธอรู้สึกขยะแขยงกับคำพูดของกู้หงเซินอย่างมาก
อย่างไรก็ตามกู้หงเซินราวกับไม่เห็นท่าทางแบบนี้ พูดจบก็ยืนยันกับกู้ฉางฉิงอีกรอบ
“จำคำพูดของฉันได้ไหม? อย่าให้ถึงตอนนั้นแล้วบอกว่าพลั้งปากพูดล่ะ”
กู้ฉางฉิงอดทนรอชัยชนะ พูดอย่างเย็นชา “พูดจบแล้วยัง? พูดจบก็ไสหัวออกไป!”
แน่นอนว่ากู้หงเซินโกรธกับคำพูดที่ไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมานี้
ในขณะที่เขาเตรียมตัวจะตำหนิออกไป ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก เฟิงจิ่งเหยาเดินเข้ามา
“พูดอะไรกันอยู่หรอ?”
เขาเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี หรี่ตาถามออกไป
กู้ฉางฉิงเม้มปาก “ไม่มีอะไรหรอก ฉันค่อนข้างเหนื่อยน่ะ อยากพักผ่อน”
เฟิงจิ่งเหยาหลุบตาลง พูดอย่างคล้อยตามไปว่า “โอเค งั้นนอนเถอะ ฉันอยู่ตรงนี้”
กู้ฉางฉิงพยักหน้า แล้วปิดตาสนิท
กู้หงเซินเห็นแบบนั้น สายตาเต็มไปด้วยโทสะ แต่เมื่อหน้าอยู่ต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา เขาก็รีบเก็บสีหน้านั้นทันที
“ฉางซิน เธอพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวครั้งหน้าพ่อจะมาเยี่ยมอีกนะ”
เขาแสดงบทพ่อที่แสนดีอย่างเก้อเขินเล็กน้อยกับกู้ฉางฉิง แล้วหันไปพูดกับเฟิงจิ่งเหยาอย่างซาบซึ้งใจ “จิ่งเหยา รบกวนดูแลฉางซินด้วยนะ ฉันขอตัวไปก่อน”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองส่งเขาที่ออกไป ปิดประตูห้องพักก่อน
เขาหมุนตัว พลันสายตาไปมองกู้ฉางฉิง
เขามักจะรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างสองพ่อลูกคู่นี้มันแปลกๆ แต่มันแปลกตรงไหนเขาก็พูดไม่ถูก
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป คอยดูแลกู้ฉางฉิงไปจัดการเรื่องบริษัทไป
สองสามวันผ่านไปก็เป็นแบบนี้
ไม่รู้มู่เฉาเกอรู้เรื่องกู้ฉางฉิงได้รับบาดเจ็บจากไหน แต่เธอไม่ได้ไปหาเฟิงจิ่งเหยาแต่กลับไปตระกูลเฟิง
“เฉาเกอมาได้ยังไงเนี่ย?”
หลังจากหมดหวังกับลู่ซือยวี่ คุณนายเฟิงเต็มไปด้วยความหวังว่าจะให้มู่เฉาเกอกลายมาเป็นบูกสะใภ้ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงเอาใจใส่กับเธออย่างมาก
“ฉันมาเยี่ยมฉางซินค่ะ แต่ได้ยินว่าคุณน้าอยู่บ้านเลยมาหาคุณป้าก่อน”
มู่เฉาเกอตอบกลับอย่างน่าเอ็นดู คุณนายเฟิงได้ยินแบบนั้นขมวดคิ้ว
“เธอมาหาฉางซิน? เกิดอะไรขึ้น? เขาก่อเรื่องให้เธออีกแล้วหรอ?”
เนื่องจากบทเรียนก่อนหน้า คุณนายเฟิงก็คิดว่ากู้ฉางฉิงจะก่อเรื่องวุ่นวายให้มู่เฉาเกออีก
มู่เฉาเกอฟังออกว่าน้ำเสียงของเธอไม่พอใจกู้ฉางฉิง มุมปากยกขึ้น
“ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ก็ทำงานอยู่ที่อื่นตลอด พอดีกลับมาเลยจะมาเยี่ยมน่ะค่ะ ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นเพื่อนของเฟิงจิ่งเหยา”
“เกิดเรื่องได้รับบาดเจ็บ?”
สายตาคุณนายเฟิงเต็มไปด้วยความตกใจ มองไปที่มู่เฉาเกออย่างประหลาดใจ
เหตุผลก็ง่ายๆเลยคือเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้บอกคนที่บ้านว่ากู้ฉางฉิงเกิดเรื่อง
มู่เฉาเกอเหลือบมองคุณนายเฟิงที่เป็นอย่างที่เธอคิดว่ายังไม่รู้เรื่อง
เธอแสร้งทำเป็นตกใจแล้วถามว่า “คุณน้ายังไม่รู้หรอคะ?”
พูดจบ เธอแสดงออกขัดเคืองเล็กน้อย “ดูท่าว่าเฟิงจิ่งเหยาจะไม่อยากให้พวกคุณเป็นห่วงจึงไม่ได้บอกพวกคุณ ไม่รู้ว่าฉันเผลอพลั้งปากพูดไปแบบนี้ เขาจะโกรธฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้”
คุณนายเฟิงกระพริบตา ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธและไม่พอใจ
เธอคิดไปว่าสองสามวันนี้จิ่งเหยายุ่งจนไม่ได้กลับบ้าน เป็นเรื่องที่บริษัทแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น แต่ต้องไปดูแลยัยผู้หญิงต่ำทรามอย่างกู้ฉางซินนั่นที่โรงพยาบาล
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามู่เฉาเกอ เธอก็ต้องกักเก็บความรู้สึกนั้นไว้
“จิ่งเหยาจะโกรธหนูได้ยังไงกันล่ะ หนูน่ะตั้งใจมาเยี่ยมกู้ฉางซินนี่เนอะ”
คุณนายเฟิงพูดปลอบ ถึงแม้ว่าจะพยายามปกปิดอารมณ์ของตัวเองตอนนั้นแล้วแต่ก็ถูกมู่เฉาเกอเห็นสายตาไม่พอใจของเขาได้
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นค่ะ”
เธอตอบอย่างมีนัยยะลึกซึ้ง หลังจากนั้นก็พูดคุยกับคุณนายเฟิงต่อเล็กน้อยแล้วแสร้งว่าจะไปเยี่ยมกู้ฉางซิน
“หนูเฉาเกอไม่ต้องไปหรอก พวกเขาน่าจะยังอยู่โรงพยาบาลไม่กลับมาหรอก”
คุณนายเฟิงขัดมู่เฉาเกอเอาไว้ ลากมือเธอแล้วพูดต่อว่า “ไม่งั้นก็ไปโรงพยาบาลกับน้า”
แน่นอนว่ามู่เฉาเกอปฏิเสธไม่ได้
หลังจากนั้นสิบนาที ทั้งสองก็ถึงโรงพยาบาล
คุณนายเฟิงเมื่อรู้หมายเลขห้องของกู้ฉางฉิงจากพยาบาลที่เคาน์เตอร์ก็พามู่เฉาเกอตรงไปทันที
ในห้อง เฟิงจิ่งเหยาและกู้ฉางฉิงนั้นไม่รู้ว่าพวกเขามา กำลังพูดคุยหัวเราะสนุกสนานกันอยู่
กู้ฉางฉิงที่ต้องกินโจ๊กอยู่หลายวัน นึกอยากกินของเผ็ดขึ้นมาจึงไปตื้อเฟิงจิ่งเหยา
แต่เนื่องจากหมอสั่งเอาไว้ว่า ถ้าแผลยังไม่หายดีจะต้องกินของรสไม่จัดเกินไป ดังนั้นเฟิงจิ่งเหยาจึงไม่ยินยอม
คนนึงตื้อ คนนึงกำลังขำ สายตาเต็มไปด้วยรักใคร่ ทำให้คุณนายเฟิงและมู่เฉาเกอที่เพิ่งปรากฏตัวในห้องพักต้องเบือนหน้าหนี
“จิ่งเหยา ฉันอยากกิน….คุณแม่ คุณมู่”
กู้ฉางฉิงได้ขยับตัวเล็กน้อยเธอออดอ้อนเฟิงจิ่งเหยา แต่ใครจะคิดเมื่อเธอกวาดหางตาของเธอไปที่ประตูและเธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยสองร่าง
เฟิงจิ่งเหยาได้ยินแบบนั้น ก็หัวไปตาม สายตาฉายแววตกใจ
“แม่ เฉาเกอ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
คุณนายเฟิงชำเลืองมองกู้ฉางฉิงเล็กน้อย ตอบกลับด้วยสีหน้าไม่ดีนักว่า “เพิ่งมาน่ะ”
พูดจบ เธอก็ขมวดคิ้วแล้วถามออกไปว่า “จิ่งเหยา ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้น? อยู่ดีๆทำไมถึงได้รับบาดเจ็บได้? ไม่ใช่ว่าเธอก่อเรื่องวุ่นวายข้างนอกหรอกนะ?”
เฟิงจิ่งเหยาไม่สามารถพูดเรื่องจริงออกไปได้จึงอธิบายอย่างเลี่ยงๆไป
“จริงๆแล้วมันเป็นเพราะผมเอง ทำให้ไปกระทบฉางซิน แม่ไม่ต้องกังวลนะครับตอนนี้แก้ไขปัญหาใกล้จะเสร็จแล้ว”
คุณนายเฟิงได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
เพราะว่าเธอได้ยินคำพูดของเฟิงจิ่งเหยาเต็มไปด้วยการปกป้องกู้ฉางฉิง
และเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงอย่างเฟิงจิ่งเหยาพูด
ในเมื่อตอนที่กู้ฉางซินยังไม่อยู่ที่นี่ บ้านเธอไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้ หลังจากตบแต่งผู้หญิงคนนี้เข้ามา ใบน้านก็มีแต่เรื่องวุ่นวายไม่หยุด
เธอคาดโทษกู้ฉางซิน แม้ว่าในใจรู้สึกเบื่อผู้หญิงคนนี้อย่างมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา
เธอรู้ว่าถ้าตัวเธอสั่งสอนกู้ฉางซินตอนนี้ ลูกชายเธอจะต้องปกป้องยัยผู้หญิงร้ายกาจคนนี้
สุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอยู่ที่นั่นสักพักแล้วพามู่เฉาเกอออกมา
ระหว่างทางกลับ มู่เฉาเกอถอนหายใจในรถอย่างช่วยไม่ได้ “รู้สึกช่วงนี้กู้ฉางซินมีปัญหาเยอะจังเลยนะคะ ลำบากจิ่งเหยาแย่”
คุณนายเฟิงเม้มปากแน่น แต่สายตานั้นราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว
หลังจากส่งมู่เฉาเกอแล้ว เธอกลับมาถึงบ้านแล้วก็เรียกเฟิงซู่กลับมา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนเรียกฉันกลับมา”
เฟิงซู่กลับถึงบ้าน ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
คุณนายเฟิงเหลือบมองเขาแล้วรีบบอกเรื่องกู้ฉางฉิงที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลออกมา
“คุณคิดสิว่าปีนี้เธอเข้าโรงพยาบาลกี่ครั้งแล้ว? ผู้หญิงคนนี้น่ะเป็นตัวปัญหาจริงๆ ถ้าไม่รบกวนคนอื่นก็ไม่เท่าไหร่หรอกแต่นี่มันลำบากให้จิ่งเหยาต้องไปดูแลเธออีก”
เมื่อเธอพูดประโยคสุดท้าย ความโกรธพรั่งพรูออกมา “คุณคงยังไม่เห็นสินะว่าจิ่งเหยาผอมซูบลงไปมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จิ่งเหยาจะต้องเหนื่อยตายเพราะผู้หญิงคนนั้น”
เฟิงซู่ฟังคำคุณนายเฟิงจบ ใบหน้าตกใจ
“กู้ฉางซินได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว?”
คุณนายเฟิงมองบนแล้วตอบกลับว่า “ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้ยินมาว่าจิ่งเหยาดูแลเขาที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว กิจการของบริษัทได้รับความเสียหายมากมาย จิ่งเหยาไม่มีเวลามาจัดการเลย ไม่ได้การแล้ว จะเก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องเป็นภาระให้กับจิ่งเหยาแน่ๆจนกระทั่งมากระทบกับพวกเราตระกูลเฟิงทั้งหมด!”