สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 364 ปกป้องผู้หญิงคนนั้นไปทุกๆที่

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

มั่วหลีได้ฟังเฟิงจิ่งเหยาก็โล่งใจ ท้ายที่สุดใจที่เป็นกังวลก็ถอยกลับมา

“รับทราบ”

เธออดทนต่อความเจ็บปวดทั้งกายและใจกัดฟันตอบรับคำ

เฟิงจิ่งเหยามองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของเธอ ในที่สุดก็เห็นแก่ความจงรักภักดีมาหลายปี ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอีกต่อไป

“ออกไปใส่ยาเถอะ อย่าลืมเรียกพ่อบ้านเข้ามาทำความสะอาดที่นี่ด้วย”

เขาสั่งเสร็จ ก็ก้มหน้าก้มตาจัดการเอกสารต่อ

มั่วหลีเดินออกจากห้องไปอย่างยากลำบาก ชั่วขณะเธออดไม่ได้ที่จะหยุดที่หน้าประตู ชำเลืองมองชายผู้นั้นที่ทำงานอยู่ที่โต๊ะ ในแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน

ทำไมนะ?

ทำไมคุณผู้ชายไม่เห็นความดีของเธอเลย?

ทำไมต้องปกป้องผู้หญิงคนนั้นไปทุกๆที่!

เธอจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป!

เธอปฏิญาณเงียบๆในใจ แล้วกุมแผลเดินออกไปทันที

แต่ทั้งหมดนี้ กู้ฉางฉิงไม่รู้

เธอนอนหลับสนิทอยู่ที่นี่ รอจนเที่ยงเฟิงจิ่งเหยาจึงมาเรียกเธอ เธอก็ไม่อยากลุกขึ้น

“หมูน้อยจอมขี้เกียจ”

เฟิงจิ่งเหยามองกู้ฉางฉิงที่ทำตัวขี้เกียจอยู่บนเตียง ในแววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู

เขาเขี่ยปลายจมูกกู้ฉางฉิง ยิ้มพูดว่า : “ไม่อยากลุกขึ้นก็ได้ แต่ต้องทานข้าว คุณรออย่างเชื่อฟังนะ ฉันจะไปยกข้าวขึ้นมาให้คุณ”

กู้ฉางฉิงยังคงมึนๆเล็กน้อย พยักหน้าเห็นด้วย

ไม่นาน เฟิงจิ่งเหยาก็ยกอาหารกลางวันขึ้นมา

เวลานี้กู้ฉางฉิงได้สติแล้ว

เธอมองผู้ชายที่ทำเพื่อเธอ ในใจก็ซาบซึ้งจนพูดไม่ออก

“มาฉันเอง”

เธอเห็นชายคนนั้นต้องการจะป้อนข้าวเธอ นึกถึงตอนเจ็บแผลอยู่ที่โรงพยาบาล เธอลุกขึ้นไม่ไหว เฟิงจิ่งเหยาก็ป้อนข้าว ฉับพลันเธอก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

“ทำไม? เขินหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่พลาดความไม่สบายใจบนใบหน้าของเธอ พูดแล้วหัวเราะเบาๆ

“เปล่า”

กู้ฉางฉิงไม่อยากยอมรับ แต่แก้มที่แดงทั้งสองข้างกลับทรยศเธอ

เฟิงจิ่งเหยาเห็นสีชมพูนั่น ทั้งสองก็ใกล้ชิดกัน ที่ปลายจมูกก็เป็นกลิ่นของกู้ฉางฉิง ทำให้ลูกกระเดือกของเขาอดไม่ได้ที่จะกลิ้งขึ้นมา

เขาค่อยๆเข้าใกล้กู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงสังเกตเห็นการเข้าใกล้ของเขา เห็นความมืดครึ้มในดวงตาของเขา ใจก็รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร ใบหน้าก็ร้อนผ่าวไม่หยุด หลับตาลงอย่างเฝ้ารอ

เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะจูบกัน พ่อบ้านจึงเคาะประตูด้านอกก่อนเวลาอันควร

“คุณชาย คุณมู่มา บอกว่ามาหาคุณเพื่อหารือเรื่องโคงการอันใหม่”

เพราะว่าคำนี้เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิง จึงสติกลับมา

กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิ่งเหยาที่หยุดการกระทำลง ในแววตาก็ผิดหวัง

เป็นธรรมดาที่เฟิงจิ่งเหยาตะมองเห็น ลูบหน้าผากเธอแล้วยิ้ม : “จำไว้ก่อนนะ แล้วตอนกลางคืนค่อยมาต่อกัน”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ก็เข้าใจความหมายของคำพูดนี้ทันที เดิมแก้มที่แดงๆอยู่ก็เพิ่มขึ้นอีก ราวกับผลแอปเปิ้ลสุกงอม

เฟิงจิ่งเหยาเห็น แววตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา

เพียงแต่เขาไม่ได้ทำอะไรต่อ แล้วบอกให้กู้ฉางฉิงทานข้าว ตนเองก็ออกไปด้านนอกเพื่อไปหามู่เฉาเกอ

“เฉาเกอ ขอโทษด้วยที่ให้คุณรอนาน”

เขาลงไปทักทาย มู่เฉาเกอมองเห็นเธอ ฝืนยิ้มเล็กน้อย

เพิ่งจะมาถึง เธอก็รู้จากพ่อบ้านว่าเฟิงจิ่งเหยากำลังดูแลกู้ฉางซินให้ทานข้าวอยู่ อีกอย่างฉากที่เห็นในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ ทำให้เธอรู้สึกริษยาขึ้นมาในใจ

เธอรู้จักเฟิงจิ่งเหยามาหลายปีขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยได้รับความอ่อนโยนของเขาเลย

แม้ว่าจะเป็นเพียงความอ่อนโยนระหว่างเพื่อน ก็ไม่มี

เธอกำหมัดแน่นด้วยความอิจฉาริษยา กล่าวตอบกลับว่า: “ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉางซินไม่สะดวก คุณก็ดูแลให้มากหน่อยก็พอ”

เฟิงจิ่งเหยาปิดปากเงียบไม่พูดจา ไม่นานก็เชิญเธอไปห้องหนังสือ

มั่วหลีพยักหน้าตามเธอขึ้นชั้นบนไป

คนทั้งสองพูดคุยเรื่องงานกันในห้องหนังสือ

ก็ไม่รู้ว่ามั่วหลีจงใจหรือไม่ คนทั้งสองอยู่ที่โต๊ะทำงานใกล้ชิดกันอย่างมาก

แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่พบการกระทำของเธอโดยสิ้นเชิง พูดคุยกำหนดแผนในการทำธุรกิจ

มู่เฉาเกอมองแก้มของผู้ชายที่อยู่ข้างๆอย่างตั้งใจ ความชื่นชอบในสายตาอดไม่ได้ที่จะปรากฎออกมา

เธอเพลิดเพลินกับเฟิงจิ่งเหยาไปในเวลาเดียวกัน

ถึงอย่างไรโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเขาแบบนี้ก็มีน้อยมาก

“คาดว่าปัญหาเหล่านี้ ถึงเวลาที่ต้องแก้ไข ต้องรอหลังจากดำเนินการแล้วค่อยปรับปรุง”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้เห็นสายตาที่จ้องเขม็งของมู่เฉาเกอ เขาเอาจริงเอาจังกับการทำงานมาโดยตลอด

มู่เฉาเกอฟังถึงคำพูดนี้ ก็รู้ว่าหมดเวลาฉกฉวยโอกาสของเธอแล้ว

เธอรีบเก็บความรักในสายตา กล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า: “ได้ งั้นฉันจัดการแบบนี้ต่อไปก่อน”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า หลังจากนั้นคนทั้งสองก็พูดเรื่องงานกันอีกเล็กน้อย สุดท้ายมู่เฉาเกอก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไปอีกแล้ว จึงจากไปอย่าไม่ได้เต็มใจ

ใครจะคิดพอเธอออกจากตระกูลเฟิง ก็ได้รับโทรศัพท์จากเย่าซือ

เธอเห็นเบอร์นั้น ไม่อยากจะรับสาย

และในความเป็นจริงก็เป็นแบบนี้ เธอไม่ได้รับสายโทรศัพท์

แต่ข้อความที่ตามมา ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรับสายเย่าซืออีกครั้ง

“คุณคิดจะทำอะไรอีก?”

มู่เฉาเกอกล่าวถามอย่างหงุดหงิด

เย่าซือก็ไม่สนใจความไม่พอใจในน้ำเสียงของเธอ ยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า: “ฉันได้ยินมาว่าบริษัทของพวกคุณและเฟิงจิ่งเหยามีการทำความร่วมมือกันอีก ไม่ทราบว่าคุณมู่ยังจำข้อตกลงกับฉันได้อยู่หรือเปล่า”

มู่เฉาเกอฟังถึงคำพูดนี้ ก็เดาได้ถึงความหมายของผู้ชายคนนี้

“คุณต้องการให้ฉันช่วยรับภาระของคุณ มีสิทธิ์อะไร?”

เธอมองไปยังตระกูลเฟิงที่อยู่ไม่ไกลอย่างเยือกเย็น กล่าวอย่างหยิ่งยโส

“สิทธิ์อะไร ฉันคิดว่าคุณมู่รู้ดีอยู่แก่ใจ และฉันก็ไม่ได้ให้คุณมู่รับภาระเปล่าๆ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะช่วยคุณมู่จัดการเรื่องราวได้ไม่สำเร็จ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่”

มู่เฉาเกอใจสั่นเล็กน้อย เธอรู้ว่าอีกฝ่ายใช้แผนการทำร้ายคนอื่นก่อนหน้านี้มาคุกคามเธอ แต่เธอก็ให้ความสนใจกับคำพูดสุดท้ายของอีกฝ่าย

นี่คือการวางแผนที่จะช่วยเธอจัดการกู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้นต่อไป!

เธอคิดพลาง ในสายตาก็เคร่งขรึม ในที่สุดก็ตอบรับ

“จำคำพูดของคุณไว้ คุณต้องการให้ฉันทำอะไร?”

เย่าซือเห็นเธอรับปาก ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย พูดถึงจุดประสงค์ของเขา: “ฉันอยากให้คุณช่วยนำของบางอย่างจากเฟิงจิ่งเหยามาให้ฉัน”

เขาพูดจบ ก็นำรูปร่างลักษณะของแฟลชไดร์ฟบอกให้มู่เฉาเกอฟังอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ขณะเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้มู่เฉาเกอเคลื่อนไหวแฟลชไดร์ฟ เขาก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคุกคามว่า: “ของมีความสำคัญกับฉันมาก ดังนั้นทางที่ดีคุณมู่อย่าใช้แผนการกลอุบายอะไร ไม่เช่นนั้นฉันจะให้คุณมู่ชดใช้ค่าเสียหายอย่างย่อยยับ”

มู่เฉาเกอมองค้อนทีหนึ่ง ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า: “วางใจได้ ฉันไม่ได้สนใจอะไรกับของเหล่านี้ของพวกคุณ”

พูดจบ ทุกอย่างชัดเจนแล้วเธอก็วางสายไปโดยตรง

เธอวางมือถือ มองไปยังคฤหาสน์ตระกูลเฟิงที่อยู่ไม่ไกลด้านหน้าอีกครั้ง ในใจก็ค่อยๆมีแผนการกระทำอย่างหนึ่ง

……

วันต่อมา มู่เฉาเกอจงใจที่จะโทรศัพท์ไปหาเฟิงจิ่งเหยาแต่เช้า

“จิ่งเหยา วันนี้คุณมีเวลาไหม! ฉันเพิ่งได้รับข่าวว่า ทางด้านนั้นหวังว่าพวกเราจะสามารถเข้าไปเอาการตรวจสอบวันนี้ได้ คาดว่าตอนเย็นจะต้องตามไปงานเลี้ยงของพวกเขา”

เฟิงจิ่งเหยารู้ถึงความสำคัญของโครงการนี้ เลยไม่ได้ปฏิเสธ

“ได้ ฉันจะให้ชวี่ยี่เคลียร์คิวการเดินทางในวันนี้ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปหาคุณที่บริษัท”

มู่เฉาเกออมยิ้มตอบรับ ไม่นานก็วางสายไป

เฟิงจิ่งเหยาหยืบมือถือขึ้นมาแล้วก็กล่าวกำชับกู้ฉางฉิงไปพลาง: “วันนี้มีงานเลี้ยงส่วนตัว ฉันอาจจะกลับมาดึกมาก กลางคืนไม่ต้องรอฉันนะ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท