เฟิงจิ่งเหยาโทรบอกชวี่ยี่ว่าอีกครึ่งชั่วโมงให้มารับแล้วก็วางสายไป
“ฉางซิน อีกสักครู่ฉันมีงานเลี้ยงสมาคม น่าจะกลับมาดึกหน่อย ถ้าคุณล้าก็นอนก่อนเลยนะ”
เขาเก็บโทรศัพท์ เปลี่ยนเสื้อผ้าไปพลางบอกกับกู้ฉางฉิงไปด้วย
กู้ฉางฉิงพยักหน้า : “ฉันรู้แล้ว คุณดื่มน้อยๆหน่อยนะ ระวังความปลอดภัยด้วย”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ก็จูบหน้าผากกู้ฉางฉิงแล้วออกไป
ชวี่ยี่มารอที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฟิงแล้ว
ไม่ถึงสิบนาทีทั้งสองก็มาถึงานเลี้ยงแล้ว
บริกรมานำทาง ทั้งสองคนไปที่ห้องวีไอพี
ก็เห็นคนจำนวนมากนั่งอยู่ในห้องวีไอพีแล้ว
ทุกๆคนสวมสูทหนัง หากแต่ว่าที่ไม่เหมือนกันคือพวกเขาเป็นคนต่างชาติ
พวกเขาเห็นเฟิงจิ่งเหยาก็ยืนขึ้นและต้อนรับอย่างอบอุ่น
“เฟิง ดีใจมากที่ได้เจอคุณ”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าอย่างสำรวม พวกเขาไปนั่งแล้วก็เริ่มหารือกันเรื่องงาน
ชวี่ยี่บันทึกข้อมูลสำคัญๆอยู่ข้างๆ
ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ทั้งสองฝ่ายก็สามารถตกลงกันได้แล้ว
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเนรียมจะจากไป ชายผู้เป็นหัวหน้าก็เรียกเขาอย่างลับๆ
“เฟิง คุณรอก่อน ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกของเรา ฉันมีของขวัญล้ำค่าอยากจะมอบให้คุณ”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว คิดจะปฏิเสธโดยจิตใต้สำนึก
แต่ยังไม่ทันได้พูด ชายคนนั้นก็ปฏิบติแล้ว
เขาตบๆมือ ประตูด้านในห้องวีไอพีก็เปิดออก ผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊คนหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านใน
พร้อมกับผู้หญิงคนนั้นออกมา ชายไม่น้อยที่อยู่ในที่นั้นก็หายใจกันแทบไม่ทัน
แม้แต่ชวี่ยี่ที่อยู่ข้างกายเฟิงจิ่งเหยามาหลายปีก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงตาค้าง
ผู้หญิงคนนั้นปิดหน้าครึ่งหนึ่ง แต่คุณยังสามารถมองเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ในการปกปิดใบหน้าภายใต้แสงไฟ แต่การปิดบังนั้นยิ่งเพิ่มความงามให้ดูลึกลับและซับซ้อนยิ่งขึ้น
เธอสวมกระโปรงสั้นรัดรูป ลูกกลมๆทั้งสองเคลื่อนไหวราวกับจะโดดออกมาได้ทุกเมื่อ
ขาสวยๆคู่นั้นโยกเข้าไปหาชายวัยกลางคน
“เจ้านาย”
เสียงที่นุ่มนวลแหบและมีเสน่ห์ ทำให้ผู้ชายเหล่านั้นมี่มองอย่างตกตะลึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
เมื่อเทียบกับการแสดงออกของผู้ชายคนอื่นๆ ใบหน้าเฟิงจิ่งเหยาเย็นชาตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าไร้อารมณ์
เพียงแต่เขายืนแอบอยู่ที่มุมของประตูทางเข้า คนอื่นๆเลยไม่ได้สังเกตเห็น
ด้วยเหตุนี้ชายที่เป็นหัวหน้าเห็นความหลงใหลในหมู่ผู้ชายคนอื่นๆ คิดว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่สามารถหลีกหนีความงามเช่นนี้ได้ แววตาก็ประกายความพึงพอใจ
เขากระแอมเบาๆ ชี้ไปที่เฟิงจิ่งเหยา แล้วพูดชี้แจงว่า : “เจียวหนู นี่คือแขกของฉัน ดูแลให้ดีๆ”
เจียวหนู ก็คือหญิงงามคนนั้น
“แขกของเจ้านาย ก็เหมือนแขกของเจียวหนู”
น้ำเสียงออดอ้อนนี้ก็ทำให้ชายไม่น้อยในที่นั้นร่างแทบแหลก
เจียวหนูเดินไปหาเฟิงจิ่งเหยาด้วยรอยยิ้ม
“คุณผู้ชายหล่อจริงๆเลย”
เจียวหนูพินิจพิเคราะห์เฟิงจิ่งเหยา แววตาเป็นประกาย
เธอพูดจบ ก็ต้องการจะอิงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเฟิงจิ่งเหยา
พร้อมกับที่เธอเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นกายของเธอก็กระจายออกมา
ขณะที่คนอื่นๆดูดซับอย่างไม่รู้จักพอ ทว่าเฟิงจิ่งเหยาก็มีสีหน้าเคร่งขรึม ขมวดคิ้วแน่น ความหงุดหงิดฉายไปทั่วดวงตา
ชวี่ยี่ได้สติ
เขามองการกระทำของหญิงสาวด้วยความตกตะลึง
เขายอมรับ ผู้หญิงคนนี้ดูดี อีกทั้งเป็นคนที่ใจกล้าที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครเคยส่งผู้หญิงให้ท่านประธานของเขามาก่อน แต่ผู้หญิงเหล่านั้นประพฤติตัวดี ไม่เหมือนคนนี้ ก็อยากคุยกับท่านประธานของตนทันทีที่เข้ามา
เขาคิดว่าท่านประธานของตนจะผลักไสคนสวยออกไปอย่างไร้ความปรานี ทว่าเฟิงจิ่งเหยาก็ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นพูดคุยอยู่
เขาก็ตกตะลึงไม่หยุด รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของชายวัยกลางคน
“เฟิง ขอให้มีความสุขในค่ำคืนนี้”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าอย่างอดกลั้นความรังเกียจ แล้วหันเดินจากไป
ชวี่ยี่ดึงสติกลับมา แล้วรีบตามไป
เขาตามเฟิงจิ่งเหยาออกจากห้องวีไอพี กำลังคิดจะกล่าวถาม ก็เห็นท่านประธานของเขาผลักผู้หญิงที่ห้อยอยู่บนตัวออกอย่างไม่ใยดีเลยแม้แต่น้อย
“คุณผู้ชาย?”
เจียวหนูถูกผลักออกอย่างไม่ได้ตั้งตัว โซเซไปสองสามก้าวจึงยืนได้อย่างมั่นคง มองเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่เข้าใจ
เฟิงจิ่งเหยามองเธออย่างเย็นชา สั่งว่า: “ชวี่ยี่ จัดการเธอ”
พูดจบ เขาก็เหมือนกับรักความสะอาดอย่างมาก หยิบผ้าเช็ดหน้าออกและเช็ดบริเวณที่เจียวหนูสัมผัส
เจียวหนูตกตะลึงอย่างมากกับท่าทางที่แสดงออกว่ารังเกียจ
แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ใส่ใจ
เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะเช็ดเสื้อผ้าให้สะอาดยังไง
กลิ่นที่น่าขยะแขยงก็ยังคงติดตัวเขา
สุดท้าย เขาทนไม่ได้จึงไปที่โรงแรม หลังจากอาบน้ำแล้ว ก็สวมเสื้อผ้าสะอาดที่ชวี่ยี่ส่งมาให้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกลิ่นที่ทำให้เขารังเกียจแล้วจึงจากไปด้วยความพึงพอใจ
แน่นอนว่าที่เขาทำแบบนี้หนึ่งคือเพราะว่าเขาไม่ชอบ อีกอย่างหนึ่งคือไม่อยากให้กู้ฉางฉิงเข้าใจผิด
แต่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอะไรที่เขาทำตอนนี้ล้วนเป็นการคำนึงถึงความรู้สึกของกู้ฉางฉิง
ขณะเดินทาง ชวี่ยี่ขับรถไปแล้วก็แอบมองด้านหลังไปเป็นครั้งคราว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขารู้สึกว่าวันนี้ท่านประธานแปลกๆ
“มีปัญหาหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นสายตาของเขา เลิกคิ้วแล้วกล่าวถาม
ชวี่ยี่รีบส่ายหน้า
เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตาแล้วยิ้มเบาๆ “คุณแปลกใจว่าทำไมฉันถึงไม่ปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรกใช่ไหม?”
ชวี่ยี่ยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ
เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตา ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “เป็นวิธีการทางธุรกิจก็เท่านั้น เขาหวังจะใช้คนคนนั้นเพื่อร่วมมือได้อย่างมั่นคง ถ้าฉันปฏิเสธ เกรงว่าไม่มีทางที่เขาจะสบายใจ”
ผ่านไปสิบกว่านาที คนทั้งสองก็มาถึงตระกูลเฟิง
เฟิงจิ่งเหยาลงจากรถ เดินมุ่งไปยังบ้านใหม่
เดิมทีเขาคิดว่าช่วงเวลานี้ กู้ฉางฉิงคงจะนอนเร็ว
ไม่คาดคิดพอเข้าประตูไปก็เห็นกู้ฉางฉิงนางพิงหัวเตียงทำต้นฉบับการออกแบบอยู่
กู้ฉางฉิงได้ยินเสียงเปิดประตู ก็เงยหน้ามองด้วยจิตสำนึก
“จิ่งเหยากลับมาแล้ว”
เธอมองเฟิงจิ่งเหยาแล้วพูดด้วยเสียงที่มีความสุข
เฟิงจิ่งเหยาเห็นว่าดึกขนาดนี้แล้วเธอยังคงรอตนเอง ทันใดในใจก็อบอุ่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะดุ
“ให้คุณนอนเร็วหน่อยไม่ใช่หรอ?”
เขาพูดพลางกำลังจะถอดเสื้อผ้า
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็วางภาพวาดในมือแล้วลุกขึ้นไปช่วยเขา
“กลัวว่าคุณจะเมาอีก แล้วไม่มีคนดูแล”
เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ลดน้อยลง เขามองลงไปที่ผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าเขาที่ถอดเสื้อผ้าให้เขา มือทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะโอบเอวของเธอ
กู้ฉางฉิงรู้สึกถึงมือที่อยู่บนตัว หยุดการกระทำไปชั่วขณะ ใบหน้าเขินอายเล็กน้อย
เธอระงับให้ตนเองใจเย็น จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำ แต่พบว่าเสื้อผ้าของเฟิงจิ่งเหยาไม่ใช่ชุดที่สวมใส่ออกไป
“เอ๊ะ…..ดู้เหมือนว่าคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะพูดถึงมันโดยไม่ได้เจตนา
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นความใส่ใจในสายตาของเธอ อารมณ์ที่ขุ่นมัวก็ดีขึ้นไม่น้อย
“อืม ตอนดื่มเหล้าไม่ได้ระวังเลยทำหกใส่ เลยต้องเปลี่ยนชุด”
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ไม่ได้คิดมาก
หลังจากนั้นเฟิงจิ่งเหยาก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ก็ไม่รู้ว่าเพราะกู้ฉางฉิงเตือนสติเขาเมื่อกี้หรือไม่ ทำให้เขารู้สึกว่ากลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนของผู้หญิงคนนั้นยังหลงเหลืออยู่ที่ตัว
เขาทำความสะอาดสองครั้ง ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ออกมาจากห้องน้ำด้วยหน้าตาเหม็นๆ
กู้ฉางฉิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่ไม่ดีของเขา ก็งุนงงเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรอ?”