กู้ฉางฉิงกับเฟิงจิ่งเหยากลับมาที่ห้องอาหาร
ทั้งสองคนทานอาหารแล้ว เฟิงจิ่งเหยาก็ไปที่บริษัท
สิบนาทีต่อมา เขาก็มาถึงบริษัท
เพิ่งจะนั่งลง ชวี่ยี่ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
“ท่านประธาน ให้คนไปส่งที่จุนหวงแล้ว ต้องจัดการอย่างไรอีก?”
เฟิงจิ่งเหยาได่ยิน หรี่ตาแล้วสั่งว่า : “จัดหางานอะไรก็ได้ให้เธอ แล้วให้คนจับตาดูไว้”
เขาพูดจบ ดูเหมือนจะคิดอะไรได้ พูดอย่างเย็นชาว่า : “จับตาดูไว้ให้ดี แล้วมารายงานกับฉัน”
ฉับพลันที่ชวี่ยี่ได้ฟังคำสั่งนี้ ก็งุนงง
แต่เมื่อมองใบหน้าที่คาดเดาได้ยากของประธานของตน เขาก็ไม่ได้ถามมาก รับคำสั่งแล้วออกไป
อีกด้านหนึ่ง เจียวหนูที่ถูกจัดให้มาอยู่ที่ห้องรับแขกของจุนหวง
ตอนแรกเธอคิดว่าตนเองถูกเฟิงจิ่งเหยาให้เลี้ยงดูอยู่ที่นี่
แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ครุ่นคิดลึกซึ้งต่อไป ประตูห้องก็ถูกเคาะดังขึ้น
“มีธุระอะไรหรอ?”
เธอมองพนักงานของจุนหวงที่อยู่ด้านนอกแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“คุณเจียวหนู ท่านประธานทราบว่าคุณไม่มีที่ไป เลยจัดหางานให้คุณ นี่คือชุดทำงานของคุณ ต่อไปเครื่องดื่มของเขตยู่หลันจะนำส่งให้คุณไปขาย”
พร้อมกับคำพูดของผู้จัดการจบลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียวหนูก็กลายเป็นเจื่อนๆ จนยากที่จะเชื่อ
“คุณว่าอะไรนะ?”
ผู้จัดการมองความประหลาดใจของเจียวหนูออก เดาว่าเธอน่าจะคัดค้าน เลยพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า : “คุณเจียวหนู นี่คือการตัดสินใจของท่านประธาน หากคุณมีความคิดเห็นอะไรสามารถไปเสนอกับท่านประธานได้ด้วยตนเอง”
เจียวหนูเห็นสิ่งที่เฟิงจิ่งเหยาทำกับตน สีหน้าก็ย่ำแย่จนถึงขีดสุด
แต่เธอไม่กล้าไปหาเฟิงจิ่งเหยาจริงๆ มิเช่นนั้นตามนิสัยของคนคนนั้น ถ้าเธอไม่พอใจ ต้องถูกเขาขับไล่อย่างแน่นอน
แม้แต่ผู้จัดการคนนี้ เธอไม่สามารถพาลใส่ได้
เข่นนี้ เธอหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ยังฝืนยิ้มส่งให้
“ฉันทราบแล้ว เริ่มทำงานเมื่อไหร่ บอกเวลาฉันด้วยนะ”
ผู้จัดการได้ฟังคำตอบรับของเธอก็แปลกใจเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเจียวหนูจะปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้จัดการยังคงสังเกตเห็นความไม่พอใจในตอนแรกของเธอ
เธอมองเจียวหนูด้วยความสงสัย ก็ไม่ได้ถามอะไร บอกเวลาในการทำงานแล้วก็หันกลับเดินออกไป
หลังจากเธอไปแล้ว สีหน้าเจียวหนูก็ดุร้ายจนหน้ากลัว
สองสามวันต่อมา เจียวหนูก็ดื่มเหล้าเป็นเพื่อแล้วก็ขายเหล้า
ในจำนวนนั้นก็มีไม่น้อยที่ชอบความงามของเธอแล้วต้องการลวนลาม
แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วเธอก็ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น แต่เธอก็โกรธจนจะฆ่าคนได้แล้ว
คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นจะจัดงานดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเช่นนี้ให้เธอ
ต้องเข้าใจว่า ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นของเธอ มากพอที่จะได้เป็นผู้หญิงของเขา คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เธอโกรธมากจริงๆ
โดยเฉพาะเธอนึกถึงสถานะในตอนนี้ อยากจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง เกรงว่าจะยากแล้ว
เมื่อเธอกำลังอารมณ์เสีย ก็คาดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาอย่างเงียบ ๆ
วันนี้ เฟิงจิ่งเหยามาที่คลับเฮ้าส์เพื่อคุยธุรกิจ เจียวหนูกำลังดื่มเหล้าเป็นเพื่ออยู่ก็ได้รับข่าว ก็ทิ้งลูกค้าข้างๆแล้ววิ่งไปทันที
“คุณผู้ชาย ในที่สุดคุณก็มา”
เจียวหนูมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างตื่นเต้น ในแววตาเต็มไปด้วยความดีใจ
เธอพูดแล้วก็ต้องการจะเข้าใกล้เฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยามองเธอด้วยสายตาเย็นชา ทำให้เจียวหนูที่กำลังจะมาเข้าใกล้หยุดฝีเท้าลง
“คุณผู้ชาย……”
เธอร้องเรียกอย่างน้อยใจ
เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจเธอ หันกลับเข้าห้องวีไอพีไป
เจียวหนูเห็นเช่นนั้น ก็รีบตามไป
ชวี่ยี่ที่อยู่ด้านหลังเห็นแล้วก็ประหลาดใจ
และเรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดคือ ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นตามท่านประธานเข้าไปในที่นั่งวีไอพี นอกจากคำเตือนท่านประธานของเขาที่ไม่ให้เข้าใกล้เขาแล้ว ก็ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งลงข้างๆเขา
“คุณผู้ชาย ต้องการดื่มเหล้าไหม?”
เจียวหนูถูกกล่าวเตือนไม่ให้เข้าใกล้ ก็คิดที่จะอยู่ที่สถานที่ให้เธอได้อยู่
เฟิงจิ่งเหยาเห็นเธอรินเหล้า หรี่ตามอง กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ออกไปไกลๆฉันหน่อย”
ถูกไล่อีกครั้ง สีหน้าของเจียวหนูก็อดกลั้นไว้ไม่ได้ในชั่วพริบตา
ผู้ชายคนนี้ ตกลงเขาเป็นจริงๆหรือเขาแกล้งทำกันแน่ เรื่องมากขนาดนี้ แต่งงานกับภรรยาได้ยังไง?
เธอกำลังทยทวนอยู่ภายในใจ แต่บนใบหน้าไม่แสดงออก เชื่อฟังและหนีห่างจากเฟิงจิ่งเหยาไปไกล
ชวี่ยี่มองจากไกลๆ ก็ยิ่งเพิ่มความงุนงง
เขาไม่เข้าใจว่าท่านประธานของตนเองกำลังคิดอะไร เหมือนกับรังเกียจผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ไม่ได้ไล่คนออกไปโดยสิ้นเชิง แต่กลับให้คนเข้าใจผิดเข้ามาใกล้
ดังนั้นท่านประธานของเขายังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความสวยงามที่ยั่วยวนนี่ อยากจะเด็ดดอกไม้ป่านี้งั้นหรอ?
เดี๋ยวก่อน นี่ก็ไม่ใช่
ถ้าเป็นแบบนี้ ท่านประธานก็ไม่น่าจะเลือกสถานที่นี้
ก็ต้องรู้ว่าคุณนายรองอยู่แถวๆนี้
ใช่ กู้ฉางฉิงอยู่ในระแวกนี้
วันรี้หลังจากที่อาการบาดเจ็บของเธอดีขึ้นก็กลับมาทำงานที่บริษัทเป็นวันแรก
หลี่ม่านแสดงการต้อนรับ โดยร่วมรับประธานอาหารมื้อพิเศษกับองค์กร
แน่นอนกู้ฉางฉิงรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยามีงานเลี้ยงส่วนตัวที่นี่
เพราะตอนเลิกงาน เธอได้รับข้อความจากเฟิงจิ่งเหยา
เธอตามเพื่อนร่วมงานเดินไปยังโต๊ะวีไอพีที่จองไว้ล่วงหน้า
ไม่คาดคิดระหว่างทางที่นั่งพิเศษที่เฟิงจิ่งเหยาอยู่ หลี่ม่านก็เห็นชวี่ยี่ยืนอยู่นอกประตู ก็แปลกใจเล็กน้อย
“ผู้ช่วยพิเศษชวี่ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”
เธอพูดพลาง สายตาก็มองผ่านชวี่ยี่ไปยังที่นั่งพิเศษด้านหลัง หลังจากเห็นเฟิงจิ่งเหยา ทันใดในตาก็เปิดออก
แต่เมื่อเธอเห็นสาวสวยที่อยู่ข้างๆเฟิงจิ่งเหยา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็แข็งทื่อไปในทันที มองไปยังกู้ฉางฉิงอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเล็กน้อย
เคยบอกแล้วว่า ในบริษัทย่อยนอกจากเธอที่เป็นผู้จัดการใหญ่รวมถึงจี้อี้ที่เป็นเพื่อนของเฟิงจิ่งเหยาที่รับรู้สถานะของกู้ฉางฉิงแล้ว คนอื่นๆล้วนไม่รู้
เวลานี้เห็นท่านประธานมีผู้หญิงดื่มเหล้าเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ เธอกังวลว่ากู้ฉางฉิงจะระเบิดอารมณ์เดินเข้าไป
จี้อี้ก็เห็นภาพนี้เหมือนกัน
ถึงแม้เธอจะอิจฉาผู้หญิงคนนั้นที่นั่งอยู่ข้างๆเฟิงจิ่งเหยา แต่ก็ยินดีในความทุกข์ของผู้อื่นมากกว่า
เธอก็มองไปยังกู้ฉางฉิง อยากจะเห็นว่าเธอจะทำยังไง
แน่นอนว่ากู้ฉางฉิงก็สังเกตเห็นสายตาของพวกเธอ มองไปยังที่นั่งพิเศษด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงออก
“นี่ท่านประธานมีงานเลี้ยงหรอ?”
เธอกล่าวถามด้วยเสียงเบาๆ
ชวี่ยี่ฟังคำพูดของเธอ ก็นิ่งอึ้งไป
เธอก็เหมือนกันกับหลี่ม่าน กังวลมากว่ากู้ฉางฉิงจะเข้าไปหาเรื่องโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์
ตอนนี้เห็นกู้ฉางฉิงสงบเงียบ ในใจก็เขาก็โล่งอกทันที ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
แต่ผิดปกติอย่างไรก็คิดไม่ออก สุดท้ายก็ปล่อยวางอย่างตรงไปตรงมา กล่าวอธิบายกู้ฉางฉิง จะได้ไม่ทำให้คุณนายรองของตัวเองเข้าใจผิด
“ใช่ครับ ท่านประธานมีงานเลี้ยง วันนี้ฉันมีนัดกับประธานกรรมการบริหารของเฟิงเหอกรุ๊ปเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในช่วงครึ่งปีหลัง”
ความหมายโดยนัยคือ ท่านประธานของเขาไม่ได้จงใจมาพบผู้หญิงคนนี้
กู้ฉางฉิงก็ฟังออกถึงความหมายในคำพูดของเขา ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่ชวี่ชิงหยุนและมู่หว่านฉิงที่อยู่ด้านหลังเธอได้ฟังคำพูดนี้แล้ว ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ท่านประธานตนเองมีงานเลี้ยง ก็ไม่ต้องอธิบายให้พนักงานอย่างพวกเข้าให้เข้าใจชัดเจนขนาดนี้นี่
ขณะที่พวกเขากำลังงุนงงไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าที่นั่งพิเศษเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจียวหนูที่ไร้เดียงสาทันใดก็ยกแก้วเหล้าชูขึ้นให้เฟิงจิ่งเหยาด้วยความเคารพ
และไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรของเฟิงจิ่งเหยา ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะชนแก้วกับเจียวหนูในครั้งนี้
กู้ฉางฉิงเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ชวี่ยี่เห็น ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ยิ่งเห็นสีหน้าที่ขึงตึง กู้ฉางฉิงสีหน้าไม่แสดงออก ก็ยิ่งปวดหัวอย่างมาก