สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 373 ตอนนี้อันตรายมากเลยใช่ไหม

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ทั้งสองคนมาถึงโรงพยาบาล ไปที่ห้องผู้ป่วยภายใต้การแนะนำของพยาบาล

“คุณผู้ชาย”

มั่วหลีกำลังได้รับการตรวจจากหมออยู่พอดี สายตาชำเลืองไปเห็นบุคคลที่คุ้นเคยตรงหน้าประตู ก็เรียกออกมาด้วยความดีใจทันที

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าอย่างเย็นชา เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย : “อาการเป็นยังไงบ้าง?”

มั่วหลีได้ฟังความเป็นห่วงของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าก็กว้างขึ้น

แต่ก่อนที่เธอจะตอบกลับ รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อทันที

เพราะเธอเห็นกู้ฉางฉิงเดินออกมาจากข้างหลังเฟิงจิ่งเหยา

“คุณมาทำอะไร?”

แทบจะขับไล่โดยจิตใต้สำนึก ทำให้เธอมองเฟิงจิ่งเหยิย่างไม่พอใจมาก

“ได้ยินว่าคุณได้รับบาดเจ็บ ก็เลยมาดูคุณหน่อย”

กู้ฉางฉิงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับความไม่พอใจในน้ำเสียงของเธอ

แต่เฟิงจิ่งเหยาข้างๆเธ กลับขมวดคิ้วขึ้นมา

มั่วหลีเห็นเช่นนั้น ใจก็รู้ได้ถึงปฏิกิริยาตอบกลับเมื่อกี้นี้ จึงรีบปกปิด

“ใช่สิ คุณผู้ชาย ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”

เธอพูดจบ ก็มองกู้ฉางฉิง เหมือนไม่กล้าพูดต่อหน้ากู้ฉางฉิง

เฟิงจิ่งเหยาชำเลืองมองเธอ พูดน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “ไม่เป็นไร คนกันเอง”

มั่วหลีเห็นเช่นนี้ ในใจอึดอัดเล็กน้อย แต่ยังคงพูดออกมา

“เมื่อคืนที่เราไปจับคน เพราะการโจมตีอย่างรวดร็ว ทำให้คนเหล่านั้นรับมือไม่ทัน คนส่วนใหญ่ถูกจับแล้ว เพียงแต่มีคนหนึ่งที่หลบหนีไปได้”

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตา : “มีคนตามไปไหม?”

มั่วหลีพยักหน้า : “มี เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ไดรับข่าวเลย ฉันกังวลว่าเขาจะซ่อนตัว แล้วจะหวนกลับมาอีก”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าแล้วครุ่นคิด : “ฉันจะให้คนระวังไว้ คุณดูแลแผลก่อนเถอะ”

……

และมนเวลานี้ ทางด้านเจียวหนูนี้ก็ได้รับข่าวจากลูกน้อง

“คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ แป๊ปเดียวก็กำจัดไปหนึ่งองกรณ์แล้ว”

เธอนั่งมือเท้าหัวอยู่บนเก้าอี้ยาว พูดในความคิดออกมา

แต่ลูกน้องสองสามคนข้างๆเธอได้ฟังคำนี้ ในแววตาเต็มไปด้วยความกังวล

“เจ้านาย ความคิดของเฟิงจิ่งเหยานี้แปลกประหลาด มีกลอุบายที่โหดเหี้ยม คุณอยู่ข้างๆเขาเกรงว่าจะอันตรายอย่างมาก”

“ใช่ เจ้านาย เราเข้าหาวิธีอื่นไม่ดีกว่าหรอ”

ลูกน้องสองสามคนพูดโน้มน้าว เจียวหนูจ้องมองพวกเขาโดยไม่พูดอะไร

ลูกน้องอีกคนหนึ่งพูดการคาดเดาของตนเองออกมา

“แต่เฟิงจิ่งเหยาผู้นี้ปฏิเสธการเข้าหาของผู้หญิงมาโดยตลอด กลับกันก็ไม่ได้ทำห่างเหินกับเจ้านาย ฉันกลัวว่าเขาจะพบอะไรบางอย่าง”

เจียวหนูได้ฟังคำนี้ ก็หัวเราะออกมาอย่างเย่อหยิ่ง

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “การลอบสังหารในหลายปีมานี้ ฉันเคยล้มเหลวด้วยหรอ? ครั้งนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น สัตว์ที่คิดแต่เรื่องส่วนล่าง”

ลูกน้องสองสามคนมองหน้ากัน ชั่วขณะก็พูดโต้แย้งไม่ออก

เจียวหนูพูดอีกว่า : “อีกอย่าง ฉันยังพบว่าชายคนนี้มีปัญหาเรื่องกลัวความมืด……ขอแค่ได้จับจุดอ่อนนี้ไว้ ยังต้องกลัวว่าแผนการของพวกเราจะไม่สำเร็จอีกหรอ? ลูกน้องได้ฟังคำพูดนี้ ความกังวลในดวงตาจึงค่อยๆจางหายไป เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

“ชายคนนี้เป็นโรคแปลกๆ”

เจียวหนูยิ้มมุมปากเล็กน้อย : “อย่างไรเมื่อถึงเวลาแล้วพวกคุณร่วมมือจัดการกับฉันก็พอ”

แต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงไม่รู้

หลังจากที่พวกเขาไปเยี่ยมมั่วหลีแล้วก็จะออกไป

“คุณผู้ชาย……”

มั่วหลีเห็นเช่นนั้นก็รีบเรียกไว้

เธอไม่อยากให้ไป

“ทำไมหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ ยังคิดว่าเธอมีเรื่องอื่นอีก

กู้ฉางฉิงก็มองเข้าไป

มั่วหลีเห็นก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง จ้องมองกู้ฉางฉิงด้วยความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ในใจ

เธอคิดว่าต้องเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้แน่ๆที่ทำให้คุณผู้ชายตนเองไม่ยอมที่จะอยู่ต่อ

กู้ฉางฉิงเห็นสายตาที่เคียดแค้นของเธอ ก็อยากจะมองค้อนกลับไปอย่างเงียบๆ

ถ้าจะบอกว่าตอนเริ่มแรกเธอก็ยังไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดผู้หญิงคนนี้ถึงมีเจตนาร้ายกับเธอขนาดนี้ ตอนนี้เธอก็ไม่รู้อะไรที่ชัดเจนไปกว่า

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็จะไม่เอ่ยปากให้เฟิงจิ่งเหยาอยู่โดยเด็ดขาด

ถึงอย่างไรเธอก็ตัดสินใจดีแล้วว่าจะมีวันชื่นคืนสุขกับเฟิงจิ่งเหยาไปจนวันสุดท้าย จะไม่ยินยอมอะไรโดยเด็ดขาด

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สังเกตเห็นถึงการต่อสู้ลับๆของผู้หญิงทั้งสองคน เห็นมั่วหลีเอ่ยปากแล้วไม่พูด ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ถ้าไม่มีอะไร พวกเราไปก่อน คุณมีปัญหาก็ให้ลูกน้องไปจัดการ พักฟื้นมห้เต็มที่”

มั่วหลีได้ยิน จนปัญญาที่จะขัดขวางโดยสิ้นเชิง ทำได้เพียงมองพวกเขาจากไปตาปริบๆ

“น่ารังกียจ!”

มั่วหลีรอคนหายไปจากห้องผู้ป่วยแล้ว ตีผ้าห่มอย่างโกรธแค้น ขณะเดียวกันบาดแผลก็ฉีกออก เจ็บจนน้ำตาแทบไหลออกมา

หลังจากเฟิงจิ่งเหยาและกู้ฉางฉิงออกไป คนทั้งสองก็นั่งรถกลับไป

ขณะเดินทาง กู้ฉางฉิงนึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของมั่วหลี ใบหน้าก็ขึงตึงขึ้นมา

“จิ่งเหยา ตอนนี้อันตรายมากเลยใช่ไหม?”

เฟิงจิ่งเหยารู้ว่าที่เธอพูดคืออะไร ยื่นมือไปตบเบาๆที่เธอ กล่าวปลอบโยนว่า: “วางใจได้ ไม่เกิดเรื่องหรอก ฉันจัดการคนไว้ดีแล้ว”

กู้ฉางฉิงเม้มปาก คล้ายกับไม่ค่อยเชื่อ

เฟิงจิ่งเหยาอดยิ้มไม่ได้ “โอเค คุณไม่วางใจฉันจะให้มั่วจุยส่งคนเข้ามาที่นี่อีก”

กู้ฉางฉิงยังมีภาพความประทับใจต่อมั่วจุย นึกถึงชายที่กระดูกแข็งเหมือนเหล็กคนนั้น ความกังวลภายในใจจึงปล่อยวางลงได้เล็กน้อย

เธอไม่พูดอะไรอีก เฟิงกำชับเฟิงจิ่งเหยาว่าออกจากบ้านให้ระมัดระวัง

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าตอบรับ

หลังจากนั้นคนทั้งสองก็มาถึงตระกูลเฟิง

เฟิงจิ่งเหยาพาคนส่งกลับถึงบ้านใหม่แล้ว ทางด้านตนเองก็ไปห้องหนังสือจัดการเรื่องราวเบื้องหลัง

นึกถึงที่มั่วหลีบอก คนหนึ่งที่หนีไปได้ มีโอกาสสูงที่จะกลับมาอีกครั้ง เขาจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อย กระทั่งไม่ให้ส่งผลกระทบถึงคนในครอบครัว

“มั่วจุย เรื่องทางด้านมั่วหลีคุณรับรู้แล้วใช่ไหม?”

เขาติดต่อมั่วจุย แล้วกล่าวถาม

มั่วจุยเล่าสถานการณ์คร่าวๆที่เขารับรู้ทั้งหมด

“พี่ ต้องการให้ฉันกลับไปคุณกันคุณสักช่วงเวลาหนึ่งก่อนไหม?”

สุดท้าย เขาก็แสดงความคิดเห็นของตนเอง

เฟิงจิ่งเหยาปฏิเสธโดยไม่คิด

“ไม่ต้อง ทำเรื่องก่อนหน้านี้ของคุณต่อไป ทางด้านนี้ส่งคนอื่นเข้ามาให้ฉัน”

มั่วจุยอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาพูดตัดบทอย่างรวดเร็ว: “คุณส่งคนเข้ามา ไม่ต้องรายงานทางด้านของฉัน ให้พวกเขาไปที่ตระกูลเฟิงโดยตรง แล้วก็คุณนายรองนั้น คุ้มกันอย่างไม่เปิดเผยตัวตน”

มั่วจุยทำได้เพียงรับปาก

หลังจากนั้นคนทั้งสองก็พูดแผนการอื่นๆอีกเล็กน้อย จึงจบสิ้นการสนทนา

สองวันต่อมา เงียบสงบอย่างมาก

คล้ายกับความเงียบสงบก่อนพายุฝน

เพราะความสงบติดต่อกันสองวันกู้ฉางฉิงเห็นแล้วจึงปล่อยวางความกังวลใจ

ยิ่งความคิดในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นด้วยแล้ว เธอก็ค่อยๆลืมเรื่องเหล่านี้

เพียงแต่ทางด้านพวกเขาที่สงบ แต่ทางด้านมั่วหลีไม่สงบเลยสักนิด

เดิมทีเธอคิดว่าตนเองได้รับบาดเจ็บแล้ว คุณผู้ชายก็คงจะมาเยี่ยมตนเองทุกวัน

นอกจากวันแรกแล้ว คุณผู้ชายของเธอก็ไม่ปรากฎตัวอีกเลย

แน่นอนว่าเธอรู้ว่าคุณผู้ชายงานยุ่งมาก แต่ในใจก็ยังไม่สมดุล

ถึงอย่างไรเธอก็เคยเห็นด้วยตาตนเองแล้วว่าคุณผู้ชายอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ล้วนจัดการให้เสร็จสรรพ

ทำไมพอถึงตาเธอ คุณผู้ชายถึงไม่ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมล่ะ?

ในใจเธอกำลังคิดอิจฉาริษยา ก็โทษทุกสิ่งทุกอย่างไปที่กู้ฉางฉิงทั้งหมด

ต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นแน่ๆที่พัวพันคุณผู้ชาย จึงทำให้คุณผู้ชายไม่ว่างที่จะมาสนใจตนเอง

เธอยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยิ่งเพิ่มความคิดถึงคุณผู้ชายของตนเอง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท