สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 374 ยังคงห่วงใยเธอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ในวันนั้น มั่วหลีก็โทรหาคุณผู้ชายของตนเอง

มีธุระอะไร?”

โทรศัพท์ถูกรับ น้ำเสียงเย็นชาของเฟิงจิ่งเหยาก็ดังจากในสาย

มั่วหลีได้ยินน้ำเสียงที่ห่างเหินนี้ ฉับพลันก็รู้สึกน้อยใจ

“คุณผู้ชาย……”

เธอพูดเสียงเบาๆ คำที่อยากจะพูดก็พูดไม่ออก

เฟิงจิ่งเหยาเมื่อได้ยินเสียงปลายสายก็ขมวดคิ้ว

“มีอะไร?”

เจาถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย

มั่วหลีได้แต่เก็บอารมณ์ ถามว่า : “ฉันอยากจะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจับคนคนนั้นได้ไหม?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้พบความผิดแปลกในน้ำเสียงของเธอ ตอบกลับเรื่องงาน : “ยังไม่มี เรื่องเหล่านี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก พักผ่อนให้เพียงพอเถอะ”

มั่วหลีได้ฟังคำพูดเป็นห่วงนี้ ความขมขื่นในใจค่อยๆลดลง ยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณ ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาตัดบทว่า

“ฉันยังมีงาน คุณมีเรื่องอะไรก็ติดต่อชวี่ยี่ เขาจัดการให้คุณได้”

มั่วหลีได้ฟังคำพูดที่เย็นชานี้ แล้วมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไป ในใจก็ไม่สบายใจอย่างมาก

ทำไมคุณผู้ชายถึงทำกิริยากับเธอเช่นนี้?

นี่มันไม่ถูกต้อง!

แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นจะสร้างความบาดหมางในความสัมพันธ์ของเธอกับคุณผู้ชายในช่วงที่เธอได้รับความบาดเจ็บอยู่

มิเช่นนั้นก่อนหน้าที่เธอจะได้รับบาดเจ็บ คุณผู้ชายยังถามไถ่ทุกข์สุข เดิมทีไม่ใช่ท่าทางเย็นชาเช่นนี้

เธอไม่ยินยอม เธอต้องแย่งความสนใจของคุณผู้ชายกลับคืนมาให้ได้

คิดเสร็จ เขาก็กดเรียกพยาบาล

“ฉันต้องการออกจากโรงพยาบาล!”

รอพยาบาลมา เธอก็พูดข้อเรียกร้องออกไป

“แต่แผลของคุณยังไม่หายดี จำเป็นต้องอยู่สังเกตอาการที่โรงพยาบาลนะ!”

พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่รู้ว่าคนๆนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับประธานของพวกเธอ ไม่กล้าผิดใจ พูดโน้มน้าวดีๆ

แต่ไม่สามารถต้านทานจิตใจที่มั่นคงของมั่วหลีได้

พยาบาลจนปัญญา ได้แต่ติดต่อชวี่ยี่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้

“คุณรอก่อน ฉันจะไปถามท่านประธาน แล้วจะให้คำตอบคุณอีกที”

ชวี่ยี่ไม่กล้าจัดการตามอำเภอใจ กำชับหมอเสร็จ ก็ไม่ขอคำสั่งจากเฟิงจิ่งเหยา

“ท่านประธาน ทางด้านคุณมั่วต้องการจะออกจากโรงพยาบาล แต่หมอบอกว่าแผลคุณมั่วยังไม่หายดี คุณว่าจะให้จัดการอย่างไร?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำนี้ ก็คิ้วขมวด

“เธอคิดยังไง?”

ชวี่ยี่ผายมือ บอกใบ้ว่าเขาก็ไม่รู้

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนั้น ก็นวดหัวคิ้วอย่างปวดหัว : “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันจะถาม”

ในโรงพยาบาล มั่วหลีรู้ว่าหมอวิ่งไปติดต่อเฟิงจิงเหยา ฉับพลันในใจก็กระวนกระวาย เฝ้ารอเล็กน้อย

ในเวลานี้เธอได้รับโทรศัพท์จากเฟิงจิ่งเหยา ปกปิดอาการใจสั่นไว้ไม่ไหว

ดูๆแล้ว คุณผู้ชายยังคงห่วงใยเธออยู่

เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ความคิดของเธอ หลังจากรู้ว่าส่งโทรศัพท์ให้มั่วหลีแล้ว ก็ถามตรงๆว่า : “ทำไมต้องการออกจากโรงพยาบาล”

มั่วหลีอมยิ้มตอบกลับว่า : “มั่วจุยยังไม่ส่งคนมาที่นี่ ในบ้านไม่มีคนเฝ้าดูความปลอดภัย ฉันไม่ไว้วางใจ”

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว

มั่วหลีมองเห็น เพียงแต่ในความเงียบของเขายังฟังออกว่าไม่พอใจเล็กน้อย

“แน่นอน อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะฉันไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาล คุณผู้ชาย คุณให้ฉันออกไปเถอะนะ”

พูดถึงประโยคสุดท้าย เธอก็ออดอ้อนเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ

เพียงแต่เฟิงจิ่งเหยาฟังไม่ออก

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยังคงเห็นด้วย

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดให้คนไปรับคุณกลับมา”

มั่วหลีได้ฟังคำนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็สดใสยิ่งขึ้น

“ขอบคุณคุณผู้ชาย”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้พูดอะไร วางสายแล้วก็ไปจัดการ

บ่ายวันนั้น มั่วหลีก็ออกจากโรงพยาบาลกลับมาที่ตระกูลเฟิง

เมื่อกู้ฉางฉิงเห็นมั่วหลีปรากฏตัวที่ตระกูลเฟิง ก็ประหลาดใจเล็กน้อย

“คุณกลับมาได้อย่างไร?”

มั่วหลีฟังถึงคำพูดนี้ รู้สึกไม่พอใจ ตอบกลับด้วยเสียงที่ฉุนว่า “ทำไม? ฉันกลับมาไม่ได้หรอ?”

กู้ฉางฉิงฟังน้ำเสียงของเธอที่แฝงไปด้วยความดุเดือดนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันหมายถึง ร่างกายของคุณบาดเจ็บ หมออนุญาตให้คุณออกจากโรงพยาบาลได้ยังไง?”

มั่วหลีได้ยิน ก็คล้ายกับนึกถึงอะไรได้ เชิดคางอย่างลำพองใจ พูดโป้ปดว่า: “เดิมทีหมอก็ไม่เห็นด้วยหรอก แต่ฉันบอกกับคุณผู้ชายว่าฉันไม่ชอบโรงพยาบาล คุณผู้ชายก็เลยให้ฉันกลับมา”

กู้ฉางฉิงจะฟังไม่ออกถึงความโป้ปดในคำพูดของเธอได้อย่างไร ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจ

เพราะเธอรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่มีความคิดอื่นต่อเธอโดยสิ้นเชิง

“อ้อ งั้นคุณก็พักฟื้นให้เต็มที่แล้วกัน”

เธอตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วหันเดินกลับห้องไป

มั่วหลีเห็นเธอจากไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ก็โมโหจนกัดฟันแน่น

เธอพูดไปแบบนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่โกรธ ดูแล้วเธอคงไม่ค่อยสนใจคุณผู้ชาย เป็นอย่างที่คิดไว้ว่าที่แต่งงานเข้ามาก็เพื่อทรัพย์สินเงินทองของคุณผู้ชายจริงๆ

เธอคิดพลาง ก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะคิดจัดการให้ผู้หญิงคนนี้ออกไป

กู้ฉางฉิงไม่ได้รับรู้

เธอกลับมายังห้องหมกมุ่นกับงานอีกครั้ง

รอถึงตอนเย็น เฟิงจิ่งเกยากลับมา คนทั้งสองก็รับประทานอาหารด้วยกัน

ใครจะคิดว่าพอนั่งลง มั่วหลีที่เดิมที่ควรจะพักฟื้นอยู่ที่ห้องก็ปรากฎตัวออกมาที่ห้องอาหาร

“คุณผู้ชาย”

มั่วหลีอดทนต่อบาดแผลบนร่างกาย อยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“คุณออกมาได้ยังไง? ไม่ใช่ให้คุณพักฟื้นให้เต็มที่หรอ?”

เฟิงจิ่งเหยามองเธอ ก็ขมวดคิ้วแน่น

มั่วหลีถูกถามสีหน้าก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ

“ฉันอยู่ในห้องเฉยๆก็เบื่อ พอได้ยินว่าคุณกลับมาแล้ว ก็อยากจะมารับประทานอาหารด้วยกันกับคุณ”

เธอพูดอย่างระมัดระวัง กลัวว่าเฟิงจิ่งเหยาจะแสดงความไม่พอใจออกมา

โชคดีที่เฟิงจิ่งเหยาเพียงแค่พยักหน้าอย่างเย็นชา

ก็เพราะแบบนี้ ทำให้ความระมัดระวังบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นดีใจ

“ใช่แล้ว ฉันยังให้ทางห้องครัวตุ๋นซุปโสมไว้ด้วย คุณผู้ชายเหน็ดเหนื่อยทุกวันขนาดนี้ ควรจะต้องบำรุงให้มากๆ”

เธอพูดจบ ก็กวักมือเรียกพ่อบ้านด้วยท่าทางที่ราวกับคุณผู้หญิง

“พ่อบ้าน ยกซุปโสมออกมาให้คุณผู้ชาย”

กู้ฉางฉิงฟังแล้ว ก็ขมวดคิ้ว

เธอมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาด้วยจิตสำนึก

เฟิงจิ่งเหยาคล้ายกับไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไร เห็นสายตาของเธอ ในสายตาก็งุนงง

“เป็นอะไรไป?”

กู้ฉางฉิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

ชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติในคำพูดเมื่อกี้

เวลานี้ พ่อบ้านก็ยกซุปโสมเดินออกมา

“คุณผู้ชาย คุณลองชิม นี่ตอนบ่ายฉันให้ห้องครัวตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆเลยนะ”

“มีกะจิตกะใจ”

เฟิงจิ่งเหยาตอบกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่ไม่ได้สนใจที่จะดื่ม กลับสั่งพ่อบ้านว่า: “ตักมาให้คุณนายรองถ้วยหนึ่ง”

พ่อบ้านรับคำสั่ง รีบกลับไปยกออกมาอีกถ้วยหนึ่ง

“คุณดื่มเยอะๆหน่อย ก่อนหน้านี้เสียเลือดไปมาก กลัวว่าร่างกายจะอ่อนแออย่างรุนแรง”

กู้ฉางฉิงมองซุปโสมตรงหน้า ในใจก็ซาบซึ้งขึ้นมาฉับพลัน

เธออมยิ้มยกถ้วยขึ้น ดื่มซุปโสมอึกเดียวเกลี้ยง

พอเธอวางถ้วยซุปลงก็มองไปยังมั่วหลีด้วยจิตสำนึก

มั่วหลีแสดงใบหน้าที่บิดเบี้ยว

ผู้หญิงคนนี้กล้าดีดื่มซุปโสมที่เธอตั้งใจเตรียมไว้ให้คุณผู้ชายได้ยังไง!

ก็ไม่รู้ว่าอยู่กับเฟิงจิ่งเหยามานานหรือไม่ กู้ฉางฉิงเห็นสีหน้าที่ไม่หน้าดูของมั่วหลี ทันใดในใจก็อยากจะกระตุ้นทำให้คนอื่นอับอาย

“รสชาติไม่เลวเลย ดูท่าห้องครัวจะใส่ฝีมือลงไป”

เธอชมเชยพ่อบ้าน มั่วหลีโมโหจนแทบจะรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ไม่อยู่

แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้เห็น เห็นกู้ฉางฉิงชอบดื่ม ก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “รสชาติดี พรุ่งนี้ก็ให้ห้องครัวตุ๋นต่อ จะได้บำรุงร่างกายของคุณ”

กู้ฉางฉิงหยุดชะงักไปทันที

ถึงแม้เธอจะไม่ปฏิเสธซุปบำรุง แต่ถ้าดื่มทุกวัน ก็ทำให้เธอนึกถึงก่อนหน้านี้ที่บ้านใหญ่ส่งซุปบำรุงมาให้ ก็หนังศีรษะชาขึ้นมาทันทีทันใด

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท