สองสามวันต่อมา มั่วหลีก็อยู่รักษาแผลที่ตระกูลเฟิง
จนกระทั่งหลังอาหารค่ำในคืนนั้น มั่วหลีก็นึกเทคนิคใหม่ๆออก โดยการเอาอกเอาใจเฟิงจิ่งเหยาทุกวันเพื่อให้รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่
จนเหมือนเป็นนายหญิงในตระกูลเฟิง ออกคำสั่งคนใช้ในบ้านจนหัวหมุน
แน่นอนสิ่งเหล่านี้เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจ
เขายุ่งกับเรื่องของบริษัททุกวัน กลับมาก็ดึกมากแล้ว
กู้ฉางฉิงมองเห็น ในแววตาเต็มไปด้วยการยิ้มเยาะ
แต่เธอไม่ได้สนใจ
เพราะการกระทำนี้ของมั่วหลีเธอมองออกว่าหาเหาใส่หัวโดยไม่ต้องสงสัย
เช่นนี้ทั้งสองคนก็ต่างคนต่างอยู่ในตระกูลเฟิง
กู้ฉางฉิงเดิมทีคิดว่าจะสงบลงเช่นนี้ ทว่าแขกที่คาดไม่ถึงก็มาเยือนที่บ้าน
“ฉางซิน ฉันมาดูคุณ”
มู่เฉาเกอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายใต้การนำของพ่อบ้าน
“คุณมู่”
เทียบกับความกระตือรือร้นของเธอ กู้ฉางฉิงก็เย็นชาอย่างมาก
แม้ว่าทั้งสองดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก่อน แต่เป็นเพราะจำกัดอยู่ในการทำงาน
ในส่วนตัว การพบปะทั้งสองคนก็ไม่มาก
เช่นนี้ เธอจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับการกระตือรือร้นของมู่เฉาเกอ
“คุณมู่มาหาจิ่งเหยาหรอ?”
เธอเดินไปที่โซฟาห้องรับแขก นั่งลงแล้วถาม
“ไม่ใช่ ฉันมาหาคุณ”
มู่เฉาเกอส่ายหัวปฏิเสธ
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ แววตาก็ประหลาดใจเล็กน้อย
“มีงานใหม่หรอ?”
ในความคิดของเธอ ปกติมู่เฉาเกอจะมาหาเธอเพราะเรื่องงาน
ใครจะคิดครั้งนี้มู่เฉาเกอก็ส่ายหัว ยังดูเหมือนเป็นเพื่อนที่ดี พูดอย่างโกรธๆว่า : “ฉางซิน คุณคิดว่าฉันจะมาหาคุณได้เพียงเพราะเรื่องงานหรอ?”
กู้ฉางฉิงเม้มปาก ถึงแม้จะไม่ได้ตอบกลับ แต่การแสดงออกบนใบหน้ายังแสดงออกให้เห็น
มู่เฉาเกอเห็น ตาก็เป็นประกาย แกล้งทำเป็นน้อยใจ : “ฉันคิดว่ามาคบค้าสมาคมหลายครั้งขนาดนี้ เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้”
กู้ฉางฉิงหัวเราะ : “ดังนั้นครั้งนี้ที่คุณมู่มา……”
“ฉันอยากนัดคุณออกไปเดินเล่น ไม่รู้ว่าคุณจะมีปัญหาไหม”
มู่เฉาเกออมยิ้มตอบกลับ ในแววตาคำนวณความแน่นอน
แต่กู้ฉางฉิงไม่พบเห็น เพียงแต่เธอไม่คิดจะออกไปข้างนอกกับมู่เฉาเกอ
เพราะเธอรูสึกว่าผู้หญิงคนนี้กระตือรือร้นเกินไป เกรงว่าจะมีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์
“นี่อาจจะผิดต่อความหวังดีของคุณ บริษัทในสองวันนี้งานฉันยุ่งมาก ฉันไม่สามารถเจียดเวลาออกไปข้างนอกได้”
เธอหาข้ออ้างปฏิเสธ ทำให้มู่เฉาเกอหาข้อโต้แย้งได้
ท้ายที่สุดก็จนปัญญา เธอได้แต่ออกไปคนเดียว
แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่ กู้ฉางฉิงก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ
เธอกลับห้องทำงานไปทำงานต่อ
รอถึงตอนดึก เฟิงจิ่งเหยากลับมา
พอดีกับทั้งสองคนจะทานอาหาร เฟิงจิ่งเหยาก็ได้รับโทรศัพท์จากชวี่ยี่
“คุณบอกกรรมการเฉินนะ ฉันจะไปถึงอีกครึ่งชั่วโมง”
เฟิงจิ่งเหยาพูดจบ ก็วางสายไปอย่างรีบร้อน
“ทำไมหรอ?”
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็ถามอย่างเป็นห่วง
เฟิงจิ่งเหยาอธิบายง่ายๆว่า : “มีงานเลี้ยงเฉพาะกิจ ฉันจำเป็นต้องไปด้วยตนเอง ฉันจัดการที่นี่เล็กน้อยแล้วก็จะไป”
ทว่าไม่คิด เขาเพิ่งจะพูดจบ กู้ฉางฉิงก็สีหน้าเปลี่ยนไป
เพียงแค่งานเลี้ยงสองคำทำให้เธอรู้สึกไม่ดี
ดูเหมือนว่างานเลี้ยงทุกๆครั้งพวกเขาจะพบกับเรื่องที่ไม่ดีเลย
จนเป็นเหตุให้เฟิงจิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บตั้งหลายครั้ง
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน สุดท้ายก็พูดเสนอว่า: “ฉันจะไปด้วยกันกับคุณนะ”
เธอไม่อยากให้เฟิงจิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าเธอจะทำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็สามารถบังกระสุนให้เฟิงจิ่งเหยาได้ ดูแลเขาได้
เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ความคิดของกู้ฉางฉิง
เขาคิดว่าครั้งนี้เป็นการทานข้าวธรรมดาๆกับลูกค้า ไม่มีอะไรอันตราย ก็เลยยินยอม
คนทั้งสองจัดการเรียบง่ายเล็กน้อย ก็ขึ้นรถแล้วเดินทางไปยังคลับเฮาส์
ขณะเดินทาง เฟิงจิ่งเหยสก็กำชับสั่งรายละเอียดเล็กน้อย พูดถึงสุดท้าย เขาก็นึกถึงเจียวหนู ตาทั้งคู่ก็สั่นเล็กน้อย กล่าวต่อไปว่า: “ครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้น่าจะปรากฎตัว ไม่ว่าเธอจะทำอะไรพูดอะไร คุณก็มองข้ามไปก็พอ”
กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ ในใจก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร แสดงออกว่าเข้าใจ
และในความเป็นจริงก็เหมือนกับที่เฟิงจิ่งเหยาคิด
เจียวหนูปรากฎตัวในห้องวีไอพีของงานเลี้ยงพวกเขาจริงๆ
ที่สำคัญหลายวันมานี้ผู้หญิงคนนี้ได้สร้างสีสันให้กับจุนหวงมาแล้ว เล่นสนุกสนาน คนจำนวนไม่น้อยที่ระบุชื่อให้เธอมาเพิ่มความสนุก
พูดได้ว่าชื่อของเธอในตอนนี้เทียบได้กับนางโลมที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยก่อน
และคืนนี้ ที่เธอปรากฎตัว เพราะลูกค้าเหมาที่นั่ง ต้องการใช้เธอเพื่อเอาใจเฟิงจิ่งเหยา
“ประธานเฟิง”
ลูกค้าเห็นเฟิงจิ่งเหยาก็ลุกขึ้นกล่าวทักทายอย่างประจบสอพลอ
เจียวหนูเห็นเช่นนี้ ก็ลุกขึ้นตาม
“คุณผู้ชาย——”
เสียงของเจียวหนูออกมาจากปากของเธอ เหมือนต้องการจะหักกระดูกมนุษย์จริงๆ
เธอในคืนนี้ รู้ว่าจะต้องปรนนิบัติเฟิงจิ่งเหยา จงใจสวมเสื้อผ้าที่ดูดีอย่างมาก รวมทั้งแต่งหน้าด้วยฝีมือที่ละเอียดงดงาม จะพูดว่าสวยล่มเมืองก็ไม่เป็นการกล่าวเกินจริง
เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตาพิจารณาเธอ ลูกค้าเห็นในสายตา ก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ว่าตนเองพาเจียวหนูมาก็ถูกต้องแล้ว
ถึงแม้จะได้ยินมาว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่เข้าใกล้ผู้หญิง แต่คนที่สวยงามไม่อาจมีใครเทียบแบบนี้ ก็มีผู้ชายไม่กี่คนหรอกที่สามารถไม่ใจสั่นได้
เขาวางแผนที่จะให้เจียวหนูเข้าไปปรนนิบัติเฟิงจิ่งเหยา เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ทำลายโอกาสทั้งหมดของเขา
“จิ่งเหยา ทำไมยืนอยู่หน้าประตู ลูกค้ายังมาไม่ถึงหรอ?”
ประโยคนี้พูดได้ว่ากู้ฉางฉิงจงใจพูด
เธอถูกเฟิงจิ่งเหยาบังอยู่ด้านหลัง จึงไม่มีใครเห็น
แต่เธอสามารถเห็นภาพทั้งหมดในห้องวีไอพีด้วยสายตา
เห็นได้ชัดว่ากรรมการหวังต้องการจัดผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นให้กับจิ่งเหยา
ไม่ต้องพูดถึงความอันตรายของผู้หญิงคนนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ต้องการให้ผู้หญิงแบบนี้เข้าใกล้จิ่งเหยา
ต่อให้เธอจะรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจเธอ
แต่ในใจเธอก็ไม่พอใจ
“ท่านนี้คือ?”
กรรมการหวังตกใจกับการปรากฎตัวของกู้ฉางฉิง มองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างงุนงง
“นี่คือภรรยาของฉัน”
เฟิงจิ่งเหยาจะเดาไม่ออกว่ากู้ฉางฉิงจงใจเอ่ยปากได้ยังไง
เขาจูงมือกู้ฉางฉิงอย่างอารมณ์ดี กลัดนิ้วทั้งสิบแน่นแล้วแนะนำ
กรรมการหวังฟังถึงคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อไปชั่วพริบตา
“ที่แท้ก็เป็นภรรยาของคุณ เสียมารยาทแล้ว”
เขายิ้มขอโทษอย่างเก้อเขิน
ถึงอย่างไรก็ยัดเยียดผู้หญิงคนอื่นให้สามีต่อหน้าภรรยาแท้ๆนี้ ก็ทำให้คนไม่พอใจไม่ใช่หรอ?
กู้ฉางฉิงก็ดูออกถึงความหวาดผวาของเขา เม้มปากยืนอยู่ด้านข้างเฟิงจิ่งเหยาไม่พูดจา
เจียวหนูที่อยู่ด้านข้าง มองไปยังกู้ฉางฉิงด้วยท่าทีที่ดี
ถึงแม้ว่าเธอจะได้ข่าวของกู้ฉางฉิง แต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเห็นตัวจริง นึกถึงเรื่องที่เฟิงจิ่งเหยาทำเพื่อผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตามอง ในดวงตาเต็มไปด้วยแสงสว่าง
ดูท่าแผนการคืนนี้จะต้องคุ้มกันอีกชั้นหนึ่ง
หลังจากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เหมือนกับลืมความเก้อเขินเมื่อกี้ ทยอยกันเชิญนั่ง
เฟิงจิ่งเหยาและกรรมการหวังปรึกษาหารือกันเรื่องความร่วมมือ
กู้ฉางฉิงนั่งรับประทานอาหารเงียบๆอยู่ข้างๆ ขณะเดียวกันก็ดูแลเฟิงจิ่งเหยา
ในงานเลี้ยง ขณะที่บรรยากาสกำลังดี เจียวหนูก็ยกแก้วเหล้าเดินมายังข้างๆเฟิงจิ่งเหยา
“คุณผู้ชาย เจียวหนูด้วยความเคารพคุณแก้วหนึ่ง ถ้าไม่ได้คุณเก็บเจียวหนูมาเลี้ยง ก็ไม่มีเจียวหนูในวันนี้
เธอพูดจบ ร่างกายส่วนบนเอียงเล็กน้อยเข้าใกล้เฟิงจิ่งเหยา ปรากฎร่างกายของตนเองออกมา
เธอเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมที่รุนแรงของเธอก็เปลี่ยนเป็นฉุนจมูก
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วแน่น กู้ฉางฉิงก็ปิดจมูกกระแอมเบาๆอย่างยากที่จะรับได้