เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน ก็ไม่ได้พูดอะไร
ชวี่ยี่เห็นเช่นนั้น รู้ว่าของถูกยืนยันแล้ว ก็พูดร้องขอว่า : “ในเมื่อไม่มีปัญหาแล้ว ยังไม่รีบปล่อยท่านประธานของพวกกูอีก!”
เย่าซือจ้องมองหน้าเขา หัวเราะเบาๆ
ชวี่ยี่มองเห็นความผิดปกติ ก็เคร่งเครียดขึ้นมา
“มึงหมายความว่ายังไง?”
เขาพูดจบ ก็มองไปที่เฟิงจิ่งเหยาโดยจิตใต้สำนึก
ใครจะรู้ เหตุการณ์นี้ไม่เกินความคาดหมายของเฟิงจิ่งเหยา นั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้
เป็นธรรมดาที่เย่าซือจะเห็น เลิกคิ้วเล็กน้อย ยิ้มพูดว่า : “หมายความว่าอะไรนะหรอ? แน่นอนกูกับประธานเฟิงเจอกันครั้งแรกก็เหมือนสนิทสนมกันมานาน อยากให้เขาอยู่คุยเล่นกันหน่อย”
พูดจบ คนโดยรอบที่ยืนอยู่ก็ทยอยลุกขึ้นมา กลุ่มชายร่างสูงใหญ่ด้านนอกประตูก็โผล่เข้ามา
เห็นได้ชัดเจนมาก ว่าเขาไม่ต้องการปล่อยคนไป
“นี่มึงจะผิดสัญญาหรอ?”
ชวี่ยี่โกรธอย่างมาก
“กูจะเตือนมึงไว้เลยนะ ถ้ามึงกล้าทำท่านประธานของพวกกู……”
เดิมทีเขาอยากจะพูดข่มขู่ แต่ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูเฟิงจิ่งเหยาตำหนิ
“ชวี่ยี่!”
สองคำสั้นๆ ก็สงบลงอย่างมาก
ไม่มีทางเลือก ชวี่ยี่ทำได้เพียงอดทนต่อความโกรธในใจและยืนอยู่ข้างๆดฟิงจิ่งเหยา
เย่าซือมองเขา และกวาดสายตาไปมองเฟิงจิ่งเหยา รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจฉายไปทั่วใบหน้า
“ดูเหมือนว่าประธานเฟิงจะเริ่มรู้สถานการณ์แล้ว”
เฟิงจิ่งเหยาชำเลืองมองเขาอย่าเย็นชา ขมวดคิ้วพูดว่า : “มึงคิดจะทำอะไร?”
เย่าซือได้ยิน ยกแก้วเหล้าข้างๆขึ้นมาพิจารณา โยกไปโยกมา
“กูคิดจะทำอะไร ประธานเฟิงน่าจะรู้ไม่ใช่หรอ? จะว่าไป ประธานเฟิงมีกลอุบายที่ดีจริงๆ ช่วงนี้กูสูญเสียไปไม่น้อยเลย”
เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตามอง ไม่พูดอะไร
เย่าซือจิบเหล้า ไม่ได้สนใจ พูดต่อว่า : “ประเทศXไม่ได้มีคำโบราณที่บอกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่งหรอ? ประธานเฟิงทำให้กูดีใจแปลกใจขาดนี้ กูก็ควรให้ของขวัญอันล้ำค่าแก่ประธานเฟิงด้วย”
เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำพูดนี้ ในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง
เขาขมวดคิ้วแน่น ในใจกระวนกระวายนิดๆ
เขาคิดว่าเย่าซือส่งคนไปจับกู้ฉางซินมา
ไม่ทันที่สีหน้าเขาจะเปลี่ยนไป ฉับพลันก็ได้ยินเสียงโวยวายที่นอกประตูโรงงาน
“พวกแกเป็นใคร? ปล่อยฉันนะ! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? จับฉันมาจุดจบของพวกแกไม่ดีแน่!”
ก็เห็นมู่เฉาเกอถูกชายร่างใหญ่สองคนจับเข้ามา
เธอดิ้นรนไม่หยุด ดีดดิ้นไปมา พยายามหนีจากการถูกควบคุม
แต่พละกำลังของเธอไม่สามารถต้านทานชายร่างใหญ่เหล่านี้ได้
เวลานี้ มู่เฉาเกอเห็นสถานการณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจน
เดิมทีที่เธอเห็นเฟิงจิ่งเหยาที่นั่งอยู่บนโซฟา ในแววตาประกายความตกตะลึง และใจฝ่อ
โดยเฉพาะเมื่อเห็นชายทางด้านซ้ายมือดื่มเหล้านั่งอย่างสบายใจ ยังจะมีอะไรที่มาเข้าใจอีกหรอ?
เพียงแต่ตอนนี้ไม่รู้เจตนาของชายคนนี้ที่จับเธอมา บีบบังคับเธอจนอกสั่นขวัญแขวน ตวาดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า : “แกเป็นใคร?”
เย่าซือเลิกคิ้ว จะไม่เข้าใจเจตนาของเธอที่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักได้อย่างไร
ผู้หญิงคนนี้ปากไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงตอนนี้ยังคิดว่าเขาจะช่วยเธอ
“คุณมู่ มาถึงขนาดนี้แล้วยังแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันอีก ทำให้ฉันเสียใจจริงๆ”
เขายกยิ้มมุมปากนิดๆ คำพูดนี้ทำให้มู่เฉาเกอใจสั่น
เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาโดยจิตใต้สำนึก ก็ชนเข้ากับสายตาของเฟิงจิ่งเหยาที่มองมาพอดี
ชั่วขณะ เธอเบนหน้าออกด้วยใจที่หวาดหวั่น
เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ สายตาที่ดำขลับก็เปลี่ยนเป็นลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สีหน้ายังคงไม่แสดงออกเหมือนเดิม แต่ชวี่ยี่ที่อยู่ข้างๆเขา แปลกใจเล็กน้อย
“คุณมู่รู้จักเขาด้วยหรอ?”
“ไม่รู้จัก!”
มู่เฉาเกอตอบกลับโดยไม่ต้องคิด
เย่าซือมองการแสดงออกของคนสองสามคนอยู่ในสายตา วางแก้วเหล้า แสดงเจตนาต่อลูกน้อง ให้พวกเขาปล่อยมู่เฉาเกอ
มู่เฉาเกอได้รับอิสระ ก็วิ่งไปยังเฟิงจิ่งเหยาด้วยจิตสำนึก
สำหรับการกระทำของเธอ เย่าซือก็ไม่ได้ขัดขวาง
หลังจากคนวิ่งไปถึงแล้ว ก็กล่าวอย่างแสร้งทำเป็นเสียใจว่า: “คุณมู่ทำไมปฏิเสธการรู้จักกับฉันแบบนี้ล่ะ ทำให้คนเสียใจจริงๆ หรือว่าคุณมู่จะลืมความร่วมมือของพวกเราไปแล้ว?”
มู่เฉาเกอฟังถึงคำพูดนี้ ก็ไม่เอ่ยถึงมันขึ้นมาโดยตรง
“คุณหมายความว่ายังไง?”
เธอจ้องมองเย่าซืออย่างเคร่งขรึม กล่าวถามอย่างไม่ได้ปฏิเสธแล้วก็ไม่ได้ยอมรับ
“นี่ฉันไม่ได้ทำสิ่งที่คุณปรารถนาหรอ คุณไม่ได้อยากอยู่ด้วยกันกับประธานเฟิงมาโดยตลอดหรอ?”
มู่เฉาเกอไม่คาดคิดว่าคนๆนี้จะพูดความคิดภายในใจของเขาออกมาโดยตรง สีหน้าก็หยุดชะงักไปฉับพลัน
ขณะเดียวกันก็มองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างใจฝ่อ
ใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้แสดงออก มองไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
“คุณพูดอะไร ฉันฟังไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!”
เธอแสร้งเป็นโต้แย้งกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน: “คุณไม่ต้องเอาคำพูดไร้สาระมาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา!”
เย่าซือเห็นมู่เฉาเกอไม่ยอมรับมาโดยตลอด ก็ค่อยๆเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า
“ทำไม? ไม่ใช่คุณอยากจะร่วมมือกับฉัน หลังจากนั้นให้ฉันได้ตัวผู้ชายที่คุณรักหรอ?”
เขาคล้ายกับเอ่ยปากอย่างไม่สนใจ แต่ปริมาณข้อมูลในคำพูดนั้นค่อนข้างมาก
สีหน้าของเฟิงจิ่งเหยาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชวี่ยี่ก็จ้องมองตาโต
“คุณมู่ คุณ……”
ชวี่ยี่มองมู่เฉาเกอ อยากจะซักถาม แต่คำพูดที่อยู่ในปากไม่รู้ว่าควรจะกล่าวถามยังไง
อีกทั้งเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวถาม
มู่เฉาเกอเห็นความตกตะลึงในสายตาของเขา แล้วก็สีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของเฟิงจิ่งเหยา สีหน้าก็ไม่น่าดูถึงขีดสุด
“ตกลงคุณต้องการทำอะไร? ฉีกสัญญาหรอ?”
เธอตวาดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เย่าซือยิ้มเบาๆ: “ฉันจะฉีกสัญญาได้ยังไง ในเมื่อรับปากจะให้พวกคุณอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องให้อยู่ด้วยกันแน่นอน”
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ ก็กำหมัดแน่น
ตอนนี้เธอไม่กล้ามองไปยังเฟิงจิ่งเหยา ทำได้เพียวจ้องมองเย่าซืออย่างกล้ำกลืนความเจ็บแค้น
“ในเมื่อไม่ฉีกสัญญา แล้วตอนนี้คุณจะทำอะไรอีก?”
เย่าซือส่ายนิ้วมือ “ดูท่าคุณมู่ยังไม่เข้าใจความหมายของฉัน”
เขาพูดจบ ก็ยกหางตาเบาๆ ยิ้มแล้วกล่าวว่า: ถึงแม้ว่าฉันจะรับปากให้พวกคุณอยู่ด้วยกัน เพียงแต่ให้พวกคุณเป็นคู่รักเดนตายคู่หนึ่ง นี่ก็คือว่าไม่ผิดสัญญา ใช่ไหมล่ะ?”
มู่เฉาเกอฟังคำพูดนี้จบ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าถูกหลอกลวงแล้ว
เธอโมโหจนตัวสั่นไปทั้งตัว สายตาจ้องมองเย่าซือเขม็ง
ยังไม่รอให้เธอตำหนิหนิด้วยความโกรธ ข้างหูก็ได้ยินเสียงกล่าวถามอย่างเยือกเย็น
“ฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นการออกแบบของพวกคุณใช่ไหม?”
มู่เฉาเกอเอียงหน้าไปมองอย่างตื่นตระหนก เห็นสายตาที่เยือกเย็นของเฟิงจิ่งเหยา
“จิ่งเหยา ไม่ใช่แบบนั้นนะ”
เธอปฏิเสธปากแข็งด้วยจิตสำนึก แต่สุดท้ายความมั่นใจบนใบหน้าก็ไม่เพียงพอ
เย่าซือมองคนทั้งสอง ก็ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ กล่าวอย่างทำให้สั่นคลอนว่า: “ดูท่าประธานเฟิงยังไม่เข้าใจผู้หญิงข้างๆคุณดีพอ ไม่เพียงแต่การออกแบบครั้งนี้นะ ก่อนหน้านี้ที่พวกคุณจะไปเขตเมือง แล้วยังครั้งที่แล้วที่อยู่ต่างประเทศอีก แต่ก็ต้องขอบคุณที่คุณมู่ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นฉันก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้”
มู่เฉาเกอเห็นเขาพูดเรื่องทั้งหมดออกมา ก็จ้องมองด้วยความโกรธ
“หุบปาก!”
เธอตวาดเสียงดัง เย่าซือยักๆไหล่ แต่ไม่ได้หุบปากจริงๆ
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็พูดเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว ก็ไม่ถึงกับว่าทำให้ประธานเฟิงโง่เง่าแล้ว ตอนนี้พวกคุณก็สามารถกลับสู่ใต้ธรณีได้แล้ว”
มู่เฉาเกอฟังถึงคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
แม้แต่เฟิงจิ่งเหยาที่แสดงออกอย่างเฉยเมยกับสิ่งใดๆมาโดยตลอดร่างกายก็ยังขึงตึงขึ้นมา
“คุณหมายความว่ายังไง!”
ชวี่ยี่และมู่เฉาเกอส่งเสียงกล่าวถามพร้อมกัน
เย่าซือไม่ได้ตอบกลับ แต่ลูกน้องของเขาก็ให้คำตอบอย่างรวดเร็ว