สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 394 ไม่เป็นธรรมกับเธอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

“ คุณมู่ช่วยอธิบายเรื่องที่สถานีตำรวจให้เราฟังหน่อยได้ไหม?”

“ คุณมู่ที่ลือกันว่าคุณต้องขึ้นโรงพักในครั้งนี้เพราะมีคนใส่ร้าย?มันจริงหรือเปล่า?”

“คุณมู่คุณมีคำอธิบายเกี่ยวกับความแตกแยกระหว่างตระกูลมู่และตระกูลเฟิงหรือไม่?”

“คุณมู่… ”

หลังจากที่มู่เฉาเกอติดตามพ่อของเขามาเพื่อจัดการเรื่องต่างๆในบริษัท กำลังจะกลับไปที่บ้านของมู่ ก็ถูกนักข่าวที่เฝ้าอยู่ชั้นล่างรุมรายล้อม

โชคดีที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทมาทันเวลา ไม่กี่นาทีต่อมาทั้งสองก็ขึ้นรถไปได้

มู่เฉาเกอมองไปที่ผู้สื่อข่าวที่ยังคงไม่ยอมแพ้นอกหน้าต่างรถ ใบหน้าเย็นชาอึมครึม

เธอไม่คิดว่าเฟิงจิ่งเหยาจะโหดร้ายขนาดนี้ และทิ้งเธอไว้ที่สถานีตำรวจเป็นเวลาครึ่งเดือนโดยไม่ถามไถ่ไม่สนใจเลย

ถ้าพ่อแม่ของเธอไม่ได้มีเส้นอยู่บ้าง กลัวว่าในตอนนี้เธอก็ยังคงไม่ได้ออกไปได้

ขณะที่เธอกำลังจมอยู่ในความคิดเรื่องนี้ น้ำเสียงเย็นชาของพ่อเธอก็ดังขึ้นข้างหูของเธอ

“หลังจากนี้เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการติดต่อกับครอบครัวเฟิงอีก เลิกความคิดนั้นซะ”

มู่เฉาเกอเม้มริมฝีปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

พ่อมู่เหลือบมองเธอ แล้วก็ไม่พูดอะไรมาก เขาคิดที่จะกลับไปเพื่อให้แม่มู่ทำงาน

ทางฝั่งของตระกูลเฟิง แม้ว่าเฟิงจิงเหยาจะเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ แต่ตระกูลมู่ก็ทำให้ทั้งบริษัทตกอยู่ในความวุ่นวาย

อย่างไรซะทั้งสองบริษัทก็มีการร่วมมือกันไม่น้อย

ตอนนี้ตระกูลมู่ได้ถอนหุ้นและโครงการทั้งหมด เพราะข่าวบนอินเทอร์เน็ตทำให้ตลาดหุ้นแดงอย่างรวดเร็ว นักลงก็ทุนลังเล

เฟิงจิ่งเหยายุ่งมาก และเมื่อครอบครัวเฟิงเห็นข่าวก็อึมครึมทันที

“ปกติแล้วคุณกับคุณนายมู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีหรือไง?โทรไปถามหน่อยสิ”

เมื่อเห็นความวิตกกังวลของคุณนายเฟิง เฟิงซู่จึงแนะนำ

คุณนายเฟิงก็คิดเช่นนั้นจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรออก

หลังจากนั้นไม่นานสายก็เชื่อมต่อ

“ มู่… ”

เมื่อคุณนายเฟิงพูดได้เพียงคำหนึ่งเขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเย็นชาของคุณนายมู่

“คุณนายเฟิงฉันรู้ว่าคุณต้องการพูดอะไร ฉันไม่มีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ เนื่องจากจิ่งเหยาต้องการแก้แค้นให้กู้ฉางซิน และก็มารังแกตระกูลมู่ของพวกเรา ดังนั้นหลังจากนี้อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวอีกเลย”

เมื่อพูดจบ ‘ปัง’เธอก็วางสายไป

คุณนายเฟิงตะลึง

“เป็นไงบ้าง?”

เมื่อเฟิงซู่เห็นเธอไม่พูด ก็ขมวดคิ้วและถามขึ้น

คุณนายเฟิงกลับมามีสติ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธทันที

“ กู้ฉางซิน!”

เธอกัดฟันและกรีดร้องโดยไม่อธิบายให้เฟิงซู่ฟัง เธอลุกขึ้นและเดินไปที่บ้านหลังใหม่

เฟิงซู่มองไปที่แผ่นหลังของเธอกำลังจากไป ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็เดินตามไป

เมื่อทั้งสองมาถึงบ้านหลังใหม่พ่อบ้านก็เห็นทั้งสองคนมาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนัก และในขณะที่จ้องมองคนรับใช้เขาก็ทักทายคู่สามีภรรยาเฟิงด้วยรอยยิ้ม

“ คุณท่าน คุณผู้หญิง”

คุณนายเฟิงไม่แม้แต่จะมองเขาและเดินตรงเข้าไปในห้องนั่งเล่นทันที

“ไปเรียกกู้ฉางซินมา”

เมื่อพ่อบ้านได้ยินคำที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต เขารู้สึกใจเต้นอย่างหวาดกลัว และตอบอย่างระมัดระวัง “ให้เด็กไปแจ้งแล้วครับ”

เมื่อคุณนายเฟิงได้ยินแบบนั้นเธอก็ปล่อยเขาไป

เมื่อเห็นเช่นนี้พ่อบ้านจึงออกจากห้องนั่งเล่นโดยอ้างว่าจะไปชงชา

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อติดต่อเฟิงจิ่งเหยา

“นายครับ คุณผู้หญิงมาหา คุณผู้หญิงดูจะโกรธมากด้วย”

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว “จับตาดูไว้ อย่าให้พวกเขามีเรื่องกัน ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”

พ่อบ้านพยักหน้า หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับชาที่คนรับใช้ชงไว้ให้

ในขณะเดียวกันที่ห้องนอนชั้นบน

กู้ฉางฉิงยังคงงงงวยเมื่อรู้ว่าคุณนายเฟิงมาที่นี่

เนื่องจากกระจิตกระใจเธอมุ่งอยู่ที่จะพัฒนาการออกแบบ เธอจึงไม่รู้ข่าวที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต

“ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เธอพยักหน้าวางพู่กันวาดรูปในมือ แล้วเดินตามคนรับใช้ลงไปชั้นล่าง

“คุณแม่ คุณพ่อ”

หลังจากลงไปชั้นล่างเธอก็เห็นคุณนายเฟิงและเฟิงซู่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น สายตาของเธอฉายแววประหลาดใจและสงสัย

เนื่องจากใบหน้าของคุณนายเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะคิดพิจารณาตัวเองว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอทำอะไรทำให้พวกเขาไม่พอใจ?

ขณะที่เธอกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ถูกสาดน้ำใส่หน้า

“ อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!”

คุณนายแห่งตระกูลเฟิงจ้องมองเธอ ดวงตาของเธอราวกับจะกินเธอ

เมื่อเห็นแบบนี้เฟิงซู่ก็ขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับการที่ภรรยาของเขากระทำบุ่มบ่าม แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

อย่างไรก็ตามใบหน้าของกู้ฉางฉิงนั้นยังคงงงกับการโดนสาดน้ำ

“ แม่ ฉันทำอะไรให้คุณโกรธเหรอคะ?”

เธอเช็ดใบชาออกจากใบหน้าของเธอ เก็บความรู้สึกไม่สบายในใจ และถามด้วยเสียงทุ้ม

“หึ ทำอะไรหรอ? ทำไม ตอนนี้ยังจะแกล้งโง่ใส่ฉันอีกหรือไง!”

คุณนายเฟิงโกรธอย่างมากเมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ไม่รู้สึกไม่รู้สาของเธอ

เธอชี้ไปที่กู้ฉางฉิงและด่าออกมา “ฉันเคยบอกแล้วเธอมันตัวปัญหา ไม่ควรใจอ่อนและปล่อยไปตั้งแต่แรก น่าจะให้จิ่งเหยาไล่เธอออกไป! ดูซะสิสิ่งที่เธอทำน่ะ มิตรภาพของเรากับตระกูลมู่ที่มีมาเป็นสิบปี ตอนนี้เธอทำมันพังหมดแล้ว! ”

กู้ฉางฉิงตะลึง “คุณหมายความว่าอะไร?”

คุณนายเฟิงตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าเธอยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ยังเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?เธอกล้าบอกว่าจิ่งเหยาส่งเฉาเกอไปสถานีตำรวจโดยที่เธอไม่ได้ทำ?”

กู้ฉางฉิงตกใจ

“จิ่งเหยาส่งคุณมู่ไปสถานีตำรวจ?”

ไม่น่าแปลกใจที่เธอประหลาดใจมากขนาดนี้ เพราะเฟิงจิ่งเหยาไม่เคยบอกเธอเรื่องมู่เฉาเกอเลย

และคุณนายเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะลังเลขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของเธอในเวลานี้

เพราะท่าทางของกู้ฉางฉิงไม่ได้ดูเหมือนว่าเธอกำลังเสแสร้ง

“อะไรกันไม่รู้เรื่องเหรอ?”

กู้ฉางฉิงส่ายหัว “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นคุณนายเฟิงก็ชะงัก

เธอจ้องมองไปที่กู้ฉางฉิงอย่างโกรธเกลียด กัดฟันและพูดว่า: “ฉันไม่สนว่าเธอจะไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้ เธอต้องจัดการเรื่องนี้ให้ฉัน ไปขอโทษครอบครัวมู่ และให้ตระกูลมู่กลับมาร่วมหุ้นเหมือนเดิม”

กู้ฉางฉิงรู้สึกประหลาดใจ

เธอไม่ได้คิดว่าความขัดแย้งใหญ่ถึงขนาดที่มู่ซื่อกรุ๊ปถอนหุ้น

อย่างไรซะในความทรงจำของเธอ สัญญาระหว่างครอบครัวมู่และครอบครัวเฟิงคิดเป็นรายได้ครึ่งปีของทั้งสองบริษัท

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและจะจัดการยังไงดี คุณนายเฟิงเข้าใจผิดคิดว่าเธอไม่เต็มใจที่จะขอโทษในเรื่องนี้ และใบหน้าของเธอก็เย็นชาอีกครั้ง

“ยังไงล่ะ? ฉันขอให้เธอขอโทษก็ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นธรรมหรอ?”

กู้ฉางฉิงดึงสติอีกครั้งและเปิดปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะพูดเขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอันเยือกเย็น

“แน่นอนว่ามันไม่เป็นธรรมกับเธอ!”

เฟิงจิ่งเหยาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชา

คุณนายเฟิงและเฟิงซู่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขา

“กลับมาทำไมล่ะ?งานของบริษัทเสร็จแล้วเหรอ?”

เฟิงซู่ถามอย่างไม่พอใจ

เฟิงจิ่งเหยาเหลือบมองเขาและพูดอย่างเย็นชา “เรื่องบริษัทไม่ใช่เรื่องรีบร้อน ไม่ทราบว่าที่พ่อแม่กับแม่มามีอะไรหรือเปล่า?”

หลังจากที่เขาพูดจบเขาก็เดินตรงไปที่ข้างกายของกู้ฉางฉิงและยืนอยู่ข้างๆกัน

เมื่อคุณนายเฟิงเห็นฉากเช่นนี้ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าลูกชายตัวดีของเธอกลับมาเพื่อหนุนหลังกู้ฉางซินโดยเฉพาะ

เมื่อคิดแบบนี้ ไฟโทสะในใจของเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“มีอะไรหรือ? ฉันต้องถามภรรยาตัวดีของลูกแล้วล่ะ มิตรภาพระหว่างเรากับตระกูลมู่ที่มีมานานหลายสิบปี เธอทำอะไรเพื่อยั่วยุครอบครัวของมู่โดยไม่คำนึงถึงมิตรภาพของเรา ต่อต้านเรา!”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท