สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 402 ไม่ยอมถูกเหยียบย่ำ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ู้ฉางฉิงกับจี้อี้ได้ยิน ก็ต่างมองหน้ากัน แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา

กู้ฉางฉิงสงสัยว่าทำไมจึงเรียกร้องให้เธอกับจี้อี้ร่วมมือกัน

ทว่าจี้อี้รังเกียจจริงๆ

ถึงอย่างไรเธอมองว่า คนนอกรีตอย่างกู้ฉางฉิงไม่เหมาะสมที่จะร่วมมือกับเธอ

“เปลี่ยนคนไม่ได้หรอ?”

เธอเม้มปากถาม : “ฉันกับนักออกแบบกู้มีสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกัน หากเราร่วมมือกัน ไม่จำเป็นต้องนำเสนอการออกแบบที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้าเสมอไป”

หลี่ม่านมองเธอ รู้ว่านี่คือเธอพูดให้เป็นพิธี

ถึงอย่างไรความไม่ลงรอยกันระหว่างทั้งสอง เธอยังคงเคยได้ยิน

“นี่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เป็นการร้องขอของลูกค้าทางด้านนั้น”

เธอส่ายหัวปฏิเสธคำร้องของจี้อี้ พูดเอาใจว่า : “จะว่าไป ไสตล์ที่แตกต่างกันก็ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าพวกคุณ ตั้งใจที่จะทำงาน แน่นอนว่าจะหาวิธีการที่จะร่วมมือกันได้”

จี้อี้กับกู้ฉางฉิงได้ยิน ก็รู้เลยว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จึงเห็นด้วยได้เท่านั้น

“โอเค ความต้องการด้านการออกแบบของลูกค้าคืออะไร?”

จี้อี้เม้มปากถาม

กู้ฉางฉิงก็มองหลี่ม่านอย่างจริงจัง

ในเมื่อต้องร่วมมือกัน เธอก็ไม่อยากถูกจี้อี้หาเรื่องทะเลาะไปทุกที่

หลี่ม่านเห็นเช่นนั้น จากนั้นจึงพูดถึงความต้องการของลูกค้าอย่างน่าพอใจ

“ด้านการออกแบบ ลูกค้าต้องการนวัตกรรมใหม่ มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร”

จี้อี้กับกู้ฉางฉิงได้ยิน จึงหยิบกระดาษต้นฉบับที่พกติดตัวมาจดบันทึกไว้

ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป หลี่ม่านจึงจบการสนทนา : “ภาพรวมประมาณนี้ พวกคุณกลับไปออกแบบร่างมาก่อน ถ้าลูกค้าทางด้านนั้นเห็นด้วย เราก็จะได้ปรับแต่งตามแบบร่างนี้ให้เสร็จสมบูรณ์”

จี้อี้พยักหน้า เก็บกระดาษต้นฉบับในมือ แล้วมองไปทางกู้ฉางฉิงอย่างหยิ่งยโส พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “เช่นนี้ เพื่อผลงานการออกแบบที่ดียิ่งขึ้น สองสามวันนี้ก็ต้องรบกวนนักออกแบบกู้มารายงานที่บริษัทด้วย จนกว่าจะได้ต้นฉบับตัวอย่างออกมา”

แม้ว่ากู้ฉางฉิงจะไม่สบายใจกับท่าทีของเธอ แต่ยังคงพยักหน้า : “ฉันรู้แล้ว”

เช่นนี้ กู้ฉางฉิงต้องยุติเวลาทำงานที่บ้านชั่วคราว ทุกๆวันต้องไปรายงานที่บริษัท แลกเปลี่ยนการวางแผนต้นฉบับกับจี้อี้

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร

เขามองว่ามีเรื่องที่จะทำให้กู้ฉางฉิงใช้เวลาไปได้ ไม่สามารถกังวลทางด้านเขานี้ จะได้ไม่ทำให้กู้ฉางฉิงต้องคิดฟุ้งซ่าน

แต่ไม่รู้ว่า เรื่องราวไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดแบบนั้น

อย่างที่พูดก่อนหน้านี้ จี้อี้ก็สนใจเฟิงจิ่งเหยาอยู่มาก และการมีอยู่ของกู้ฉางฉิงก็ทำให้รู้สึกขวางหูขวางตาอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอยังฉีกหน้ากันแล้ว เพียงแต่ภายนอกพอจะผ่านไปได้

เช่นนี้ความร่วมมือของทั้งสองคน จึงปะทะกันเป็นภูเขาไฟโดยไม่ต้องสงสัย

จี้อี้ไม่ชอบแนวคิดการออกแบบของกู้ฉางฉิง ดูเหมือนกับสอนจระเข้ว่ายน้ำต่อหน้าเธอ แต่กู้ฉางฉิงรู้สึกว่าจี้อี้จงใจที่จะข่มเธอ

ปัญหานี้ ทั้งสองโต้เถียงกันตลอดสองวันที่ผ่านมา

วันนี้ยิ่งเป็นวันระเบิดครั้งใหญ่

“กู้ฉางซิน คุณฟังคำพูดของฉันเข้าใจไหม ฉันบอกว่าตรงนี้ไม่สามารถออกแบบเช่นนี้ได้ ทำไมคุณยังไม่เอาออก? แล้วก็ตรงนี้ คุณทำอะไรลงไป? นี่คือเสื้อผ้าอาชีพ ไม่ใช่สิ่งที่คุณเคยออกแบบมาก่อนหน้า ดีไซน์ของคุณรัดแน่นขนาดนี้ ต้องการให้ผู้หญิงในที่ทำงานไปยั่วยวนใคร?”

จี้อี้วิจารณ์ภาพวาดการออกแบบที่กู้ฉางฉิงมอบให้เธอ ยิ่งพูดดูหมิ่นดูแคลน จนถึงคำพูดสุดท้าย ยังโยนภาพวาดการออกแบบทิ้งไปข้างๆเท้าของกู้ฉางฉิงด้วย

กู้ฉางฉิงฟังเธอเปรียบเทียบแบบร่างที่ออกแบบมาอย่างดีของตนจนกลายเป็นย่ำแย่แบบนั้น ก็โกรธจนตัวสั่น

โดยเฉพาะท้ายที่สุดที่เธอทิ้งต้นฉบับลงไป ทำให้เธอขายหน้าอย่างยิ่ง

“พอได้แล้ว”

เธอจ้องมองจี้อี้แล้วตะคอกด้วยสายตาที่แดงกร่ำ ทำให้จี้อี้ตกใจ

“กู้ฉางซิน คุณจะตะคอกทำไม?

จี้อี้ตอบสนองเข้ามา ก็โมโหไม่หยุด กล่าวถามด้วยท่าทีที่วางตัวเหนือกว่า “ทำไม? หรือคิดว่าที่ฉันพูดมันไม่ถูก?”

กู้ฉางฉิงพยักหน้าอย่างไม่คิด: “ไม่ถูกอยู่แล้ว คุณกำลังหาเรื่องทะเลาะ ฉันจะขอให้คุณขอโทษฉันกับการกระทำเมื่อกี้เดี๋ยวนี้!”

จี้อี้ได้ยิน ก็คล้ายกับได้ฟังเรื่องตลกขบขัน

“เห๊อะ? ขอโทษ? ให้ฉันขอโทษคุณ คุณคิดว่าเป็นไปได้หรอ?”

เธอพูดพลาง บนใบหน้าก็แฝงไปด้วยท่าทางที่เหยียดหยาม จ้องมองกู้ฉางฉิงแล้วกล่าวทีละคำๆว่า: “จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคุณมีสิทธิ์อะไรที่ยังอยู่ในบริษัท? อย่าคิดว่าคุณออกแบบเสื้อผ้าแล้วขายดีสองสามรายการแล้วจะมาสอนจระเข้ว่ายน้ำต่อหน้าฉัน จะบอกคุณให้นะ การออกแบบเหล่านั้นของคุณไม่ได้เข้าตาฉันเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าจิ่งเหยา ฉันไม่มีทางให้คุณผ่านโดยเด็ดขาด คาดไม่ถึงว่ามันจะเพิ่มความหยิ่งผยองให้คุณ”

กู้ฉางฉิงโมโหจนตัวสั่น กำมือทั้งสองแน่น

ก็ไม่รู้ว่าโกรธมากแค่ไหน สุดท้ายก็คาดไม่ถึงว่าจะยิ้มอย่างปล่อยวาง

เธอผ่อนคลายมือ กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ในเมื่อผู้จัดการแผนกจี้ไม่ชอบการออกแบบของฉัน โครงการนี้ ฉันก็ถอนตัวแล้วกัน”

พูดจบ เธอก็เก็บภาพต้นฉบับการออกแบบบนพื้น แล้วหันตัวจะเดินออกไป แต่ความกลัดกลุ้มที่อยู่ในใจในที่สุดก็ทำให้เธอจนปัญญาที่จะปล่อยวาง ในที่สุดก็หันกลับมาตอบโต้อีกครั้งอย่างเหลือทน

“อีกอย่าง สอนจระเข้ว่ายน้ำ แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยทำ แต่คนบางคนไม่เหมือนกัน ตนเองได้รับรางวัลสองสามครั้ง ก็คิดว่าตนเองเลิศเลอ จะบอกให้รู้นะ รางวัลเหล่านั้น ถ้าฉันปรารถนา ก็ได้ไปตั้งนานแล้ว”

เธอพูดจบ ก็ไม่สนใจว่าจี้อี้จะมีสีหน้ายังไงก็หันเดินจากไป

แน่นอนว่า เหตุผลที่เธอทำแบบนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะนี่คืออาชีพของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะนี่คือความฝันของเธอด้วย

ความฝันไม่สามารถถูกคนเหยียบย่ำได้

ส่วนคำพูดเมื่อกี้ เธอก็ไม่ได้พูดโอ้อวด

ถ้าไม่ใช่เพราะความล่าช้าจากเรื่องไม่สำคัญ จริงๆอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอเคยบอกว่า เธอจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบคนใหม่ที่อายุน้อยที่สุด

น่าเสียดายที่เรื่องเหล่านี้จี้อี้ล้วนไม่รู้

ถึงแม้เธอจะตอบโต้ด้วยความโมโห แต่ก็ยังดีใจอย่างมาก

สองสามวันนี้เธอหาเรื่องทะเลาะไม่หยุดหย่อน ก็เพื่อบีบบังคับให้กู้ฉางฉิงสละสิทธิ์โครงการครั้งนี้

แต่ทว่าความเป็นจริงไม่ได้ราบรื่นเหมือนกับที่เธอคิด

ถึงแม้กู้ฉางฉิงจะบอกว่าถอนตัวจากความร่วมมือครั้งนี้ แต่ทางด้านของหลี่ม่านไม่มีทางที่จะเห็นด้วย

ก่อนหน้านี้ก็บอกไปแล้วว่า ใบรายการครั้งนี้ลูกค้าระบุว่าต้องการให้คนทั้งสองทำ

เมื่อเธอรู้ว่ากู้ฉางฉิงและจี้อี้มีเรื่องขัดแย้ง ก็ติดต่อให้คนทั้งสองมายังห้องทำงานทันที

เดิมทีกู้ฉางฉิงก็ออกไปแล้ว ได้รับโทรศัพท์ ก็ทำได้เพียงกลับมาบริษัทใหม่อีกครั้ง

เมื่อเธอมาถึงห้องทำงาน จี้อี้ก็มาถึงก่อนแล้ว และคนชั่วร้ายก็ฟ้องไปก่อนแล้วด้วย ผลักความรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างมาให้เธอ

โชคดีที่หลี่ม่านไม่ได้ฟังความข้างเดียวจากเธอ เห็นคนเข้ามาแล้ว หลังจากเรียกให้นั่งแล้วก็กล่าวถาม: “พูดมา ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

กู้ฉางฉิงเม้มริมฝีปาก เล่าภาพรวมคร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้น

“ผู้จัดการใหญ่ ในเมื่อผู้จัดการแผนกจี้รู้สึกว่าภาพการออกแบบของฉันมันไม่ดี ตัวฉันเองก็คิดว่าคุณสมบัติไม่เพียงพอ จึงไม่เข้าร่วมการออกแบบในครั้งนี้ คุณหาคนอื่นมาให้เธอเถอะ”

หลี่ม่านฟังจบ ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที

ตามการพูดของคนทั้งสองแล้ว เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นความตั้งใจของจี้อี้

แต่ด้วยสถานะ เธอไม่สามารถพูดอะไรมากได้ เลยหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนานี้ แล้วพูดเรื่องธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา

“ถ้าคุณถอนตัว ธุรกิจนี้ก็ถือว่าไม่สำเร็จ อีกทั้งพวกเรายังต้องจ่ายค่าเสียหายให้อีกฝ่ายสามเท่า การชำระบัญชีความเสียหายนี้ พวกคุณวางแผนว่าใครจะเป็นคนชดใช้?”

กู้ฉางฉิงและจี้อี้ฟังถึงคำพูดนี้ก็ตกตะลึง

“เป็นไปได้ยังไง?”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท