หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 6 สามีของเธอ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

คุณนายเหลิ่งก็มองเจี่ยนอี๋นั่วเช่นกัน ยิ้มแล้วถามขึ้น “คุณเจี่ยน เธอรู้ไหมว่าเราให้เธอมาทำไม? ”

เจี่ยนอี๋นั่งลูบท้องตัวเองเบาๆ แล้วพูดเสียงทุ้ม “เพราะเด็กคนนี้ในท้องของฉัน คงเพราะ……คงเพราะมีสัญญาบางอย่างต้องการให้ฉันเซ็น”

ตระกูลเหลิ่งทำอะไรระมัดระวังอย่างมาก ตั้งแต่ที่เจี่ยนอี๋นั่วเข้าใกล้ตระกูลเหลิ่งจนถึงตอนนี้ ก็ได้เซ็นสัญญาการรักษาความลับและสัญญารับรองทรัพย์สินไปหลายฉบับแล้ว

คุณนายเหลิ่งมองเจี่ยนอี๋นั่ว พยักหน้าช้าๆ “ฉันยิ่งชอบเธอขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ถึงแม้หลานชายฉันจะดีขึ้น ฉันก็จะเลือกเธอให้เป็นหลานสะใภ้ฉัน หญิงสาวหน้าตาสวยมีมากมาย หญิงสาวที่ฉลาดก็มีไม่น้อย แต่หญิงสาวที่ทั้งสวยและฉลาดมีไม่มาก ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ฉันได้เจอเธอ”

เจี่ยนอี๋นั่วผลุบตาลง ในรอยยิ้มมีความขมขื่นเล็กน้อย “ได้เจอคุณนายเหลิ่งก็เป็นเรื่องโชคดีของฉันเหมือนกันค่ะ”

คุณนายเหลิ่งมองเจี่ยนอี๋นั่วพลางหรี่ตา “เหมือนกับสัญญาที่เซ็นกับเธอก่อนแต่งงาน เรามีสัญญาบางอย่างที่ต้องให้เธอเซ็น มีข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับสิทธิของเธอ แต่ก็มีเงื่อนไขมากมายที่ดีสำหรับเธอ เธอลองดูก่อน……”

คุณนายพูดจบก็โบกมือ มีคนนำสัญญาสองสามกองมาให้ เจี่ยนอี๋นั่วอ่านสัญญาอย่างละเอียดก่อนเซ็นชื่อ เมื่อสัญญาทั้งหมดเสร็จสิ้น เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้เนื้อหาคร่าวๆ ของสัญญาเป็นการควบคุมจำกัดสิทธิเธอที่มีต่อสมบัติตระกูลเหลิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอใช้เด็กในท้องโอนย้ายสมบัติตระกูลเหลิ่งไป แต่ในสัญญาการช่วยเหลือของตระกูลเหลิ่งที่มีต่อตระกูลเจี่ยนนั้นเอื้อเฟื้อมาก ได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลเหลิ่ง ไม่เพียงแต่รักษาตระกูลเจี่ยนเอาไว้ แต่ยังทำให้ตระกูลเจี่ยนแข็งแกร่งขึ้นด้วย

เจี่ยนอี๋นั่วไม่คิดจะยักยอกสมบัติตระกูลเหลิ่งอยู่แล้ว แค่อยากรักษาตระกูลเจี่ยนเอาไว้ จึงไม่ลังเลเลย

เห็นเจี่ยนอี๋นั่วเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว คุณนายเหลิ่งก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันได้ยินมาว่า เธอไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายจริงๆ ……”

เจี่ยนอี๋นั่งได้ยินคุณนายเหลิ่งพูดแบบนี้ หน้าก็ซีด ใบหน้าแสดงความกระอักกระอ่วนอย่างอดไม่ได้

คุณนายเหลิ่งมองท่าทางเจี่ยนอี๋นั่ว ก็ไม่ได้พูดต่อ ยกมือขึ้นลูบแก้มเจี่ยนอี๋นั่วเบาๆ “เป็นเด็กดีจริงๆ ”

คุณนายเหลิ่งพูดถึงตรงนี้ ในน้ำเสียงยังมีความรู้สึกสงสารนิดหน่อย แต่เพราะความสงสารที่คุณนายเหลิ่งมอบให้จึงทำให้เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงหัวเราะเยาะตัวเองอย่างขมขื่น

คุณนายเหลิ่งเห็นสีหน้าเจี่ยนอี๋นั่วซีดเซียว ก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปเจอเซ่าถิง ได้เจอแล้วเธอจะเข้าใจ ผู้ชายที่โดดเด่นขนาดนี้ คุ้มค่าที่เธอจะมีลูกให้เขา คุ้มค่าความพยายามที่เธอจะเป็นภรรยาของเขา”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว พูดเสียงทุ้ม “ฉันเคยเห็นเขาแล้วค่ะ”

คุณนายเหลิ่งยิ้ม “เคยเห็นจากไกลๆ ไม่ใช่เหรอ? ระยะทางไกลขนาดนั้น มองเห็นไม่ชัดหรอก จะบอกว่าเคยเห็นได้ยังไง? ตอนนี้เขาเป็นสามีเธอแล้ว ถึงแม้ตอนนี้เขายังไม่ฟื้นก็เถอะ……”

คุณนายเหลิ่งพูดถึงตรงนี้ ดวงตาก็มืดลง “แถมยังเป็นผัก แต่เธอก็ควรคุ้นชินกับเขา ยังไงแล้วอนาคตเธอก็ต้องดูแลเขา”

เจี่ยนอี๋นั่วลังเลสักพัก แต่ก็ยังพยักหน้า ยืนขึ้นตามคุณนายเหลิ่ง สุยเฉิงจิ้งก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยยืนขึ้น อยากขึ้นข้างบนตามคุณนายเหลิ่งไป แต่คุณนายเหลิ่งหันหน้ากลับมามองสุยเฉิงจิ้ง หัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น “คุณนายรอง เธอไม่ต้องตามขึ้นมา เรื่องนี้คุณไม่ต้องใส่ใจ”

สุยเฉิงจิ้งกัดฟันเล็กน้อย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มทันที ยิ้มกับคุณนายเหลิ่งแล้วพูดขึ้น “งั้นลูกสะใภ้จะเข้าครัวไปดูอาหารเย็นนะคะ”

คุณนายเหลิ่งพยักหน้า “เธอก็ยังรู้จักพอประมาณ”

คุณนายเหลิ่งพูดจบ ก็หันไปมองเจี่ยนอี๋นั่ว ยิ้มแล้วพูดขึ้น “แต่ไม่รู้ว่าคุณเจี่ยน……อ่อ ตอนนี้ฉันควรเรียกว่าหลานสะใภ้สินะ เธอมีอาหารอะไรที่ไม่ชอบทานไหม? ในบ้านนี้เธอคือหลานสะใภ้คนโต ธุรกิจครอบครัวที่ฉันถืออยู่ทั้งหมดเก็บไว้ให้ลูกในท้องเธอ นอกจากฉันและเซ่าถิง เธอสามารถสั่งใครก็ได้ในตระกูลเหลิ่ง ชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร สั่งอาสะใภ้รองของเธอได้เลย”

เจี่ยนอี๋นั่วหันไปมองสุยเฉิงจิ้งที่เปลี่ยนจากยิ้มเป็นแข็งทื่อ รู้ว่าคุณนายเหลิ่งใช้เธอตั้งกฎกับสุยเฉิงจิ้ง วางกลอุบายท่ามกลางตระกูลร่ำรวย เริ่มตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในประตูใหญ่ตระกูลเหลิ่ง

เดิมทีหลังจากเหลิ่งเซ่าถิงประสบอุบัติเหตุรถยนต์กลายเป็นผัก ก็ควรเป็นเหลิ่งเฉิงอวี่ลูกชายคนรองที่สืบทอดสมบัติตระกูลเหลิ่ง แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เหลิ่งเฉิงอวี่ดูแลทรัพย์สินตระกูลเหลิ่ง คุณนายเหลิ่งก็คิดหาคนมาผสมเทียมให้เหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วรู้ว่าตราบใดที่เธอคลอดลูกออกมา คุณนายเหลิ่งจะสนับสนุนเด็กคนนี้ให้เป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลเหลิ่ง และรู้ว่าการปรากฏตัวของเธอ เทียบเท่ากับการทำลายโอกาสที่ดีที่สุดของเหลิ่งเฉิงอวี่ในการดูแลตระกูลเหลิ่ง ไม่แปลกใจที่สุยเฉิงจิ้งจะเต็มไปด้วยการปฏิปักษ์ต่อเธอ

แต่ในเมื่อเธอเข้ามาอยู่ในวังวนแล้ว ก็ไม่ลังเลถอยกลับอีก การต่อสู้ในครอบครัวคนรวยก็เหมือนต่อสู้ในสนามธุรกิจ ถอยออกมาทีละก้าว สุดท้ายก็ถอยไปสู่ความสิ้นหวัง ตัวเองถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ และถูกล้อเลียนหัวเราะเยาะว่าเป็น “ไอ้โง่”

เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเบาๆ หันหน้าไปหัวเราะเบาๆ กับสุยเฉิงจิ้งแล้วพูดว่า “อาสะใภ้รอง ฉันไม่ชอบทานผักชีค่ะ ต่อไปอย่าใส่ผักชีในการทำอาหารอีก”

รอยยิ้มบนใบหน้าสุยเฉิงจิ้งหายไปอย่างสมบูรณ์ มองเจี่ยนอี๋นั่ว หรี่ตาและหัวเราะเยาะ “ฉันจะจำไว้ แล้วจะไปสั่งที่ครัวให้นะ หลานสะใภ้ของฉัน”

คุณนายเหลิ่งเห็นการแสดงออกของเจี่ยนอี๋นั่วในสายตา ถึงจะเป็นการปะทะกันไม่กี่คำ แต่คุณนายเหลิ่งก็มองออกว่าเจี่ยนอี๋นั่วไม่ใช่คนขี้อาย สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอสามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ในเวลาอันสั้นที่สุด เลือกที่จะยืนข้างคุณนายเหลิ่ง

บนใบหน้าคุณนายเหลิ่งเผยรอยยิ้มพึงพอใจ จับมือเจี่ยนอี๋นั่วแล้วพูดขึ้น “หลานสะใภ้ ตามฉันมาเถอะ”

คุณนายเหลิ่งพาเจี่ยนอี๋นั่วเดินไปห้องในสุดชั้นสอง คุณนายเหลิ่งก็ปล่อยมือเจี่ยนอี๋นั่ว และผลักประตูห้องใหญ่

เมื่อประตูใหญ่เปิดออก เจี่ยนอี๋นั่วก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังนอนบนเตียงคนไข้ขนาดใหญ่

คุณนายเหลิ่งมองผู้ชายคนนั้น แล้วพูดเสียงทุ้มกับเจี่ยนอี๋นั่ว “นี่คือเซ่าถิง ต่อไปเขาคือสามีของเธอ”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท