หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 18 นี่มันไม่ใช่ความผิดฉัน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว ขณะที่มองเหลิ่งเซ่าถิงก็ก้มหน้า เธอก็ไม่รู้ว่าควรตอบเหลิ่งเซ่าถิงอย่างไร เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้สึกว่าวิธีที่ดีที่สุดคือแยกจากเหลิ่งเซ่าถิง ถ้าตระกูลเหลิ่งยินยอมที่จะช่วยเหลือเธอต่อได้ จากนั้นก็ให้เธอคลอดลูกเลี้ยงดูจนโตได้นั่นก็จะดีมากที่สุดแล้ว

ในตอนนี้คนรับใช้ก็มาเคาะประตูห้องเหลิ่งเซ่าถิง พูดขึ้นเสียงเบา “คุณชายใหญ่ คุณหญิง คุณชายกลับมาแล้วค่ะ……”

“คุณชาย? ” เจี่ยนอี๋นั่วหันไปมองเหลิ่งเซ่าถิง ถามขึ้นอย่างสงสัย

เหลิ่งเซ่าถิงยิ้มเยาะขึ้นมา “น่าจะเป็นอารองของฉัน แต่ก่อนเป็นการเรียกพ่อฉัน หลังจากพ่อฉันตาย เขาก็กลายเป็น ‘คุณชาย’ ของในบ้านตระกูลเหลิ่งแล้ว ถึงแม้เขาจะดูเหมือนไม่มีอำนาจตลอดเวลา แต่ไม่เคยหยุดนิ่งความคิดที่จะควบคุมตระกูลเหลิ่ง แตะต้องอำนาจหลักไม่ได้ก็เริ่มต้นจากชื่อเรียก เมื่อก่อนเขาไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนมันเลย แต่……”

เหลิ่งเซ่าถิงหยุดชะงักเล็กน้อย หรี่ตาแล้วพูดเสียงทุ้ม “อาจจะเพราะหลังจากฉันป่วย ทำให้อำนาจเขาแข็งแกร่งขึ้น ไม่คิดว่าจะสามารถเปลี่ยนชื่อเรียกได้แล้ว”

เหลิ่งเซ่าถิงพูดจบ ก็เชิดคางเล็กน้อยชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า “เปลี่ยนเสื้อผ้าสิ เราจะลงไปข้างล่างกัน”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองเหลิ่งเซ่าถิง เปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่เหรอ? ต่อหน้าเหลิ่งเซ่าถิง?

เหลิ่งเซ่าถิงมองเจี่ยนอี๋นั่ว หันหลังให้เจี่ยนอี๋นั่วช้าๆ แล้วพูดเสียงเย็นชา “ฉันไม่สนใจร่างกายเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ และฉันให้เวลาแต่งหน้าสิบนาที”

เจี่ยนอี๋นั่วมองแผ่นหลังเหลิ่งเซ่าถิง เม้มปากก่อนจะถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเดรสสีดำในตู้เสื้อผ้า แต่เดรสตัวนี้เพราะว่ามันซื้อใหม่ ถึงแม้จะใส่ได้พอดีตัว แต่ซิปด้านหลังยืดหยุ่นไม่พอ มือเจี่ยนอี๋นั่วดึงซิปด้านหลังขึ้น ทำให้ซิปที่ไม่ยืดหยุ่นพอพันเข้ากับผมเธอ

“ซี้ด……” ผมของเธอพันเข้ากับซิป เจี่ยนอี๋นั่วพอดึงซิปก็ดึงผมเธอด้วย ทำให้เธอร้องเจ็บออกมาอย่างอดไม่ได้

“เป็นอะไร? ” เหลิ่งเซ่าถิงหันหลังให้เจี่ยนอี๋นั่ว ถามขึ้นด้วยเสียงเย็นชาอย่างใจร้อน “แม้แต่เสื้อผ้าเธอก็ใส่ได้ไม่ดีเหรอ? ”

“เปล่า เดี๋ยวจะใส่เสร็จแล้ว” เจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากให้เหลิ่งเซ่าถิงคิดว่าเธอไร้ความสามารถเกินไป แม้แต่เสื้อผ้าก็ใส่ได้ไม่ดี รีบดึงซิปอย่างแรง ผลลัพธ์คือทำให้ซิปพันเข้ากับผมแน่นขึ้น เจ็บจนทำให้เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำให้เธอกลั้นไม่ร้องเจ็บออกมาอีก

“มีใครที่โง่กว่าเธออีกไหม? ” จู่ๆ เสียงเหลิ่งเซ่าถิงก็ดังขึ้นด้านหลังเจี่ยนอี๋นั่ว

เมื่อครู่เจี่ยนอี๋นั่วง่วนกับการดึงซิปตลอดเวลา ไม่ได้สังเกตเลยว่าเหลิ่งเซ่าถิงหันตัวเดินมาหาเธอ เพราะซิปด้านหลังเจี่ยนอี๋นั่วยังดึงไม่หมด ตอนนี้เธอเผยทั้งแผ่นหลัง ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง เจี่ยนอี๋นั่วหันตัวทันที เอาหลังพิงกำแพง ปิดหน้าอกแล้วตะโกนเสียงดัง “คุณเดินมาทำไม? ”

เหลิ่งเซ่าถิงมองเจี่ยนอี๋นั่วอย่างเย็นชา “ถ้าฉันไม่เดินมาดู ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอโง่แบบนี้ หันมา!”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองเหลิ่งเซ่าถิง “ฉ-ฉัน……ค-คุณ ฉันกับคุณเป็นผู้ชายผู้หญิงนะ ด้านหลังฉัน……”

เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตา “คนที่มีลูกให้กับชายแปลกหน้าเพราะเงิน มีความละอายด้วยเหรอ? คืนนี้เราอาจจะต้องนอนเตียงเดียวกัน ตอนนี้เธอแกล้งทำท่าแบบนี้ มันน่าสนใจมากเหรอ? ”

เจี่ยนอี๋นั่วเข้าใจว่าทำไมเหลิ่งเซ่าถิงถึงพูดว่าคืนนี้เธอกับเหลิ่งเซ่าถิงอาจจะได้นอนเตียงเดียวกัน เพราะสถานการณ์ในตระกูลเหลิ่งตอนนี้ซับซ้อน ถ้าเพิ่มเตียงเสริมในห้องเหลิ่งเซ่าถิง เป็นไปได้อย่างมากว่าจะมีคนอื่นรู้เข้าว่าพวกเขาไม่ได้นอนเตียงเดียวกันเลย และมันไม่เป็นผลดีสำหรับเธอและสำหรับเหลิ่งเซ่าถิง

เจี่ยนอี๋นั่วกัดปาก ค่อยๆ หันหลังยืนนิ่งๆ ให้เหลิ่งเซ่าถิง เพราะไม่เห็นเหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วสัมผัสไวต่อสัมผัสเหลิ่งเซ่าถิงมากเป็นพิเศษ เธอรู้สึกได้ถึงเหลิ่งเซ่าถิงเอาผมเธอขึ้น นิ้วเย็นเฉียบของเขาลูบที่คอเธอเล็กน้อย จากนั้นมือเขาก็แตะแผ่นหลังเธอ

ปลายนิ้วของเหลิ่งเซ่าถิงเย็นมาก เมื่อแตะผิวแผ่นหลังของเจี่ยนอี๋นั่ว บางทีอาจจะเพราะเป็นสัมผัสจากเพศตรงข้าม บางทีอาจจะเพราะนิ้วเหลิ่งเซ่าถิงเย็นเกินไป มันทำให้เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะหลบหลีกอย่างประหม่า

“เฮอะ……” เหลิ่งเซ่าถิงที่รู้สึกถึงการหลบหลีกของเจี่ยนอี๋นั่ว ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา

เหลิ่งเซ่าถิงราวกับหัวเราะเยาะเจี่ยนอี๋นั่วที่ตอนนี้แสร้งทำเป็นสงวนตัว แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่สามารถควบคุมอารมณ์ประหม่าของตัวเองได้ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งโดนผู้ชายสัมผัสใกล้ชิดแบบนี้ แล้วไม่มีอารมณ์ประหม่าสักนิดสิถึงจะแปลก

“เสร็จหรือยัง? ” เจี่ยนอี๋นั่วถามเสียงเบา

เธอได้ยินเสียงเหลิ่งเซ่าถิงกำลังดึงซิป แต่เห็นได้ชัดว่าปัญหาของซิปก็เกิดขึ้นกับเหลิ่งเซ่าถิงเช่นกัน เหลิ่งเซ่าถิงอยู่ด้านหลังเจี่ยนอี๋นั่ว พูดขึ้นเสียงทุ้มต่ำ “ถ้าเธอไม่ได้โง่แบบนั้น ถ้าไม่ดึงซิปพันผมขึ้นมา มันก็ไม่แย่แบบนี้หรอก”

เหลิ่งเซ่าถิงพูดจบก็ออกแรงดึง เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินเสียงกระโปรงฉีกทันที เธออดไม่ได้ที่จะหันตัวไป แต่ขณะที่เธอหันตัวไป เดรสบนตัวเธอเนื่องจากเหลิ่งเซ่าถิงฉีกจนเป็นรูใหญ่ ไม่คิดว่ามันจะหลุดออกจากร่างกายเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วเผชิญหน้ากับเหลิ่งเซ่าถิงแบบนี้ เหลิ่งเซ่าถิงสวมชุดสูทเรียบร้อย ใบหน้าเย็นชา แต่เจี่ยนอี๋นั่วสวมแค่เสื้อในและกางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว พร้อมใบหน้ามึนงง

“ฉัน……ฉันไม่ได้ตั้งใจ……” เจี่ยนอี๋นั่วกลัวคำพูดเย้ยหยันของเหลิ่งเซ่าถิง ตอนนี้ปกปิดไม่ได้ อธิบายความจริงให้กับเหลิ่งเซ่าถิง

เหลิ่งเซ่าถิงมองร่างกายเจี่ยนอี๋นั่ว เจี่ยนอี๋นั่วหุ่นดีมาก เพราะเจี่ยนอี๋นั่วเป็นคนที่เข้มงวดกับตัวเองมาก ถ้ามีเวลา เจี่ยนอี๋นั่วก็จะไปออกกำลังกาย

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท