หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 22 เย่อหยื่งและเย็นชา

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสักวันนึงเธอจะเกิดความรู้สึกหวาดกลัวกับผู้ชายคนนึงได้มากขนาดนี้ อาจะเป็นเพราะเหลิ่งเซ่าถิงนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วที่มีความมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอดนั้นรู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำต้อย ก็เลยกลัวเขาเป็นพิเศษ ไม่สิ่ ที่พูดว่ากลัวเขา พูดว่ากลัวการดูถูกของเขาส่ะดีกว่า

เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆผ่อนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหลับตาลง จากนั้นก็พยายามกล่อมตัวเองว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น เธอไม่ได้นอนข้างๆเหลิ่งเซ่าถิง เธอก็จะไม่แตะต้องตัวเหลิ่งเซ่าถิงโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วทำให้เขาดูถูกเยาะเย้ยเธอได้

เจี่ยนอี๋นั่วหวังว่าประสบการณ์ที่เธอได้พบเจอในตอนนี้จะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น และเมื่อตื่นจากฝัน เธอก็ยังคงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน แต่ไม่ใช่เพระาว่าเรื่องเงินเธอถึงยอมรับการผสมเทียม และยอมที่จะเป็นภรรยาของเหลิ่งเซ่าถิงต่อไป

อนาคตจะเป็นยังไง เจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่กล้าที่จะนึกคิด เธอเพียงแค่หวังว่าค่ำคืนนี้จะผ่านไปได้โดยเร็ว เจี่ยนอี๋นั่วขดตัวอยู่ตรงมุมอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าจะหลับไปแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็ยังคงหลบหนีสัญชาตญานของเหลิ่งเซ่าถิง และค่อยๆขัยบตัวอย่างช้าตรงขอบเตียง ในขณะที่เธอกำลังจะตกจากเตียงนั้น จู่ๆเหลิ่งเซ่าถิงก็ยื่นมือออกมา แล้วโอบเอวของเจี่ยนอี๋นั่วเอาไว้ จากนั้นก็ดึงเจี่ยนอี๋นั่วเข้ามาในอ้อมกอด

เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาและพิงลงตรงอกแกร่งของเหลิ่งเซ่าถิง ลมหายใจอุ่นๆของเธอนั้นรดลงตรงอกแกร่งของเหลิ่งเซ่าถิง มือของเหลิ่งเซ่าถิงนั้นวางลงตรงเอวของเจี่ยนอี๋นั่ว และสัมผัสได้ถึงผิวที่อ่อนนุ่มของเจี่ยนอี๋นั่ว

เอวของเธอบางมาก!

นี่เป็นช่วงเวลาที่ชุดเดรสของเจี่ยนอี๋นั่วหลุดออก เป็นความคิดนึงที่ผุดขึ้นมาในหัวของเหลิ่งเซ่าถิง และก็เป็นความคิดเดียวที่ผุดขึ้นในหัวในตอนนี้ เอวบางขนาดนี้ ราวกับว่าเมื่อเอามือทั้งสองข้างมาชนกันก็สามารถโอบเอาไว้ได้แล้ว เหลิ่งเซ่าถิงอดไม่ได้ที่จะขยับนิ้วมือ และค่อยวัดรอบเอวของเธออย่างช้าๆ

มันบางจริงๆ ผู้หญิงที่มีเอวบางได้ขนาดนี้ ต้องเป็นคนที่ตั้งใจรักษารูปร่างของตัวเองมากแน่ๆ แต่ตอนนี้กลับยอมมีลูกให้เขา?เหลิ่งเซ่าถิงก้มหน้ามองเจี่ยนอี๋นั่ว ดูเหมือนว่าเธอจะเหนื่อยเอามากๆ หลับสนิทขนาดนี้ ยังตอบสนองต่อการสัมผัสของเขา เธอหลับสนิทจนราวกับเป็นแมวน้อย แก้มของเธอนั้นพิงลงตรงอกของเขาอย่างเบาๆ

แต่ผู้หญิงคนนี้ใช้วิธีที่ไร้ยางอายในช่วงเวลาที่เขาลำบากที่สุด กลายมาเป็นแม่ของลูกของเขา?ภรรยาตามสัญญาของเขา?เหลิ่งเซ่าถิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และเผยใบหน้าที่งงงวยอย่างที่ไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็นมาก่อน ภายใต้แสงจันทร์ เขานั้นหรี่ตามองและพิจารณาเจี่ยนอี๋นั่ว ราวกับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เจอเจี่ยนอี๋นั่วตรงขอบเตียง

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วตื่นขึ้นมา ฟ้าก็สว่างแล้ว เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเธอนั้นยึดพื้นที่ทั้งหมดของเตียงขนาดใหญ่ และเหลิ่งเซ่าถิงก็ไม่ได้อยู่ข้างๆเธอแล้ว!พระเจ้า เมื่อคืนเธอนั้นนอนตรงขอบเตียงนี่หน่า ทำไมไปนอนตรงกลางเตียงได้ล่ะ?เมื่อคืนเธอคงจะไม่ได้ดิ้นไปดิ้นมามากเกินไป จนทำให้เหลิ่งเซ่าถิงโกรธหรอกนะ?

บ้าจริง!รู้อยู่นานแล้วว่าการที่ผู้ชายกับผู้หญิงนอนด้วยกันแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เหลวไหล!

เจี่ยนอี๋นั่วรีบลุกขึ้นทันที เมื่อลงจากเตียงก็สวมรองเท้าแตะ เมื่อกำลังสวมรองเท้าแตะนั้น เหลิ่งเซ่าถิงก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

เขาเห็นสายตาที่ร้อนรนของเจี่ยนอี๋นั่ว ก็พูดขึ้นว่า:“เดี๋ยวจะมีคนรับใช้เอาอาหารเช้ามาให้ คุณย่าจัดรถเอาไว้ให้เธอแล้ว เบอร์ของคนขับรถวางอยู่บนโต๊ะ เธอไปดูเองสิ่”

“เอ่อ เมื่อคืนฉันไม่ได้รบกวนนายใช่หรอกใช่มั้ย” เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิงและถามขึ้นอย่างระมัดระวัง

เหลิ่งเซ่าถิงเม้มริมฝีปาก และไม่ได้พูดอะไร จากนั้นจึงมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว และถามขึ้นว่า:“หือ?แล้วเธอคิดว่าตัวเองได้รบกวนฉันหรือเปล่าล่ะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วมองสีหน้าท่าทางของเหลิ่งเซ่าถิงเล็กน้อย และก้มหน้าลงอย่างๆช้าพรางพูดหยั่งเชิงขึ้น:“ฉันนอนได้ไม่สะเปะสะปะมากๆ อาจจะไปรบกวนนายก็ได้……ฉัน……”

“รบกวนฉัน?คุณหนูเจี่ยนรู้สึกถึงข้อนี้ด้วย มันไม่สายไปหน่อยหรอ ตอนที่ฉันเป็นเจ้าชายนิทรา เธอก็ควรจะรู้ได้แล้ว ในวันที่ฉันฟื้นขึ้นมา การที่เธอยังอยู่เป็นสิ่งที่รบกวนฉันมากที่สุด” เหลิ่งเซ่าถิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะเย็นชา

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว พรางเม้มมุมปากและอยากที่จะอธิบาย แต่กับเหลิ่งเซ่าถิงคนนี้แล้ว คำพูดที่เธออยากจะอธิบายก็กลับพูดไม่ออก ในคดีทั้งหมดนี้ บางทีเหลิ่งเซ่าถิงก็อาจจะเป็นผู้บริษุทธิ์ก็ได้ ตอนที่เขาเป็นเจ้าชายนิทราหลัใหลไม่ได้สติ แต่กลับถูกคนอื่นจัดแจงภรรยามาให้แล้ว แม่ของลุกของเขา หลังจากที่เหลิ่งเซ่าถิงฟื้นขึ้นมา เขาก็ถูกบังคับให้รับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ เจี่ยนอี๋นั่วลองคิดว่าถ้าเธอเป็นเหลิ่งเซ่าถิงจะรู้สึกยังไง เธอรู้สึกว่าเธอเองก็คงรัลเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ

“ขอโทษนะ” เจี่ยนอี๋นั่วพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ

เหลิ่งเซ่าถิงเงยหน้ามองดูเจี่ยนอี๋นั่ว จากนั้นก็พยักหน้าช้า:“เธอก็มีข้อดีอยู่นิ่ อย่างความสามารถในการขอโทษของเธอนั้นดีมาก”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วพรางมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง จากนั้นจึงก้มหน้าลง ในใจก็อดที่จะบ่นพึมพัมไม่ได้:เหลิ่งเซ่าถิงนี่เป้นอะไรของเขานะ?ทำไมฉันทำอะไรก็ดูเหมือนไม่เคยทำให้เขาพอใจได้เลย ทั้งๆที่ฉันก็คิดเผื่อเขาตลอดนี่หน่า?เป็นคนที่เข้าถึงได้ยากจริงๆ!ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นบอกว่าเขาเย่อหยิ่งแล้วก็เย็นชา!ช่างเย่อหยิ่ง!เย็นชาจริงๆ!

“คิดอะไรอยู่น่ะ?” เหลิ่งเซ่าถิงที่เห็นเจี่ยนอี๋นั่วที่ก้มหน้าอยู่นั้น ก็ถามขึ้นมาด้วยเสียงทุ้ม

เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นมามองเหลิ่งเซ่าถิง จาหนั้นก็รีบก้มหน้าลงทันที แน่นอนว่าเธอนั้นไม่สามารถพูดคำที่เธอกำลังบนอยู่ในใจออกมาได้ จึงทำได้เพียงพูดพึมพัมว่า:“ฉันกำลังคิดว่า ตอนนี้คนตระกูลเหลิ่งก็รู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับนายแล้ว ถ้าหากเขาพูดเรื่องนี้ออกไป หรือฉันกับพวกเขาบังเอิญเจอกัน แล้วแันควรจะทำยังไงล่ะ?”

“ฉันมีเงื่อนไขแค่กับเธอ ไม่ใช่กับคนอื่น” เหลิ่งเซ่าถิงเดินไปที่ห้องหนังสือ แล้วเปิดโน้ตบุ้คขึ้นมา

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเล้กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมา และพูดขึ้นเบาๆว่า:“งั้น ที่ไม่ให้ฉันพูดเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับนาย เป็นแค่เงื่อนไขของฉันคนเดียว?ฟังดู…..เป็นสัญญาที่ยุติธรรมดีนะ”

“หิม?เธอพูดอะไรอยู่น่ะ?”เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว พรางรีบส่ายหน้าไปมาและพูดขึ้นว่า:“ฉัน ฉันไม่ได้พูดอะไร ฉันแค่เห็นว่าตอนนี้ก็สายแล้ว ฉันควรจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปได้แล้ว”

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เหลิ่งเซ่าถิงที่เห็นแผ่นหลังของเจี่ยนอี๋นั่ว ก็ยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงก้มลงไปจิบน้ำชา ทุกนาทีที่ได้สนทนากับเหลิ่งเซ่าถิงทำให้เจี่ยนอี๋นั่วนั้นรู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลา เธอรีบล้างหน้าแปลงฟัน แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าและทานอาหารเช้าด้วยความรวดเร็ว และเตรียมที่จะออกจากห้องไป

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของเหลิ่งเซ่าถิงพูดขึ้นว่า:“รอเดี๋ยว!”

“หืม?มีอะไรหรอ?”เจี่ยนอี๋นั๋วรีบหันกลับไปมองเหลิ่งเซ่าถิง

เหลิ่งเซ่าถิงเดินมาตรงประตู และเข้าใกล้เจี่ยนอี๋นั่ว เจี่ยนอี๋นั่วก็รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที จากนั้นจึงถามขึ้นอย่างลนลาน:“ฉัน ฉันทำไมหรอ?”

เหลิ่งเซ่าถิงยื่นมือออกมา และหยิบบัตรออกมาวางในมือเจี่ยนอี๋นั่ว พรางพูดด้วยเสียงทุ้มว่า:“เธอลิมหยิบเบอร์ของคนขับรถไปน่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบกำบัตรเอาไว้แน่น พรางพยักหน้าอย่างลุกลี้ลุกรน จึงพูดขึ้นว่า:“ขอบคุณนะ”

จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็เดินลงไปชั้นล่าง หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเหลิ่ง และขึ้รถแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง หลังจากที่ถอนหายใจแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือมาทุบๆที่หัวของตัวเองเบาๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ประโยชน์มากๆ ทำไมตอนที่เผชิญหน้ากับเหลิ่งเซ่าถิง เธอถึงต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนตลอดเลยล่ะ?

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าเธอนั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากเจอหมาป่าที่หิวโซนั้น เธอก็ไม่ลังเลที่จะแยกเขี้ยวโชว์กรงเล็บของเธอเพื่อที่แสดงให้เห็นว่าเะธอนั้นดุร้ายมากแค่ไหน แต่เมื่อเธอนั้นได้เจอกับราชาเสือที่น่าเกรงขามแล้ว ความรู้สึกของเธอทั้งหมดที่ว่อนอยู่ก็ถูกเปิดเผยออกมา!

“โถ่เอ้ย ทำไมถึงไร้อนาคตขนาดนั้น…..”เจี่ยนอี๋นั่วตำหนิตนเอง พรางยกมือขึ้นมาทุบหัวของตัวเองอย่างหงุดหงิด

ทำให้คนขับรถหน้าซื่อๆที่นั่งอยู่ด้านหน้ามองไปข้างหลังไม่หยุด เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึก และสงบลงอีกครั้ง จากนั้นก็รีบใช้เสียงที่สุขุมสั่งคนขับรถ:“คุณช่วยไปส่งฉันที่บริษัทอี๋เหม่ยด้วย ขอบคุณค่ะ”

คนขับรถพยักหน้าเล็กน้อย แต่การที่เจี่ยนอี๋นั่วเปลี่ยนสีหน้าท่าทางอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย ตลอดทาง เขาคอยมองเจี่ยนอี๋นั่วอยู่ตลอดเวลา เจี่ยนอี๋นั่วรู้ดีว่างานคนขับรถนี้ คุณนายเหลิ่งต้องจัดคนที่ไส้ใจได้มาให้เธออย่างแน่นอน ในเมื่อในท้องของเธอก็มีลูกของลี่ถิงเซียวอยู่ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่กลัวว่าคนขับรถจะเป็นอันตรายกับเธอ

เมื่อถึงบริษัทอี๋เหม่ย สีหน้าของเจี่ยนอี๋นั่วถึงจะกลับมาสุขุมและดูช่ำชองอย่างเดิม เธอเดินเข้าไปในบริษัท เธอก็สั่งให้เลขาเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นทันที เมื่อผู้ถือหุ้นมารวมตัวกันเจี่ยนอี๋นั่วก็มองไปที่ผู้ถือหุ้นเหล่านั้น และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ฉันคิดว่าทุกๆท่านคงจะรู้แล้วว่า ฉันได้รับเงินทุนจากตระกูลเหลิ่งแล้ว และข่าวที่เสียๆหายๆของบริษัทอี๋เหม่ยก็ได้ถูกชี้แจงไปแล้ว ตอนนี้ประธานของบริษัทอี๋เหม่ยก็ยังเป็นของพอฉันเจี่ยนฉางรุ่น ฉันในฐานะที่เป็นผู้รักษาการแทน ก่อนที่พ่อของฉันจะฟื้นขึ้นมา ฉันจะทำหน้าที่แทนเขา มีใครสงสัยอะไรไหม?”

เหล่าผู้ถือหุ้นต่างส่ายหน้าไปมาพรางหัวเราะขึ้น:“ประธานเจี่ยน คุณสามารถเอาเงินทุนมาจากตระกูลเหลิ่งได้ พวกเราจะมีข้อสงสัยอะไรอีกล่ะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ่ ตระกูลเหลิ่งให้เงินช่วยเหลือมาขนาดนี้ ก็แสดงว่าพวกเราคงพัฒนาได้ดีกว่า คงต้องรบกวนอี๋นั่วแล้วล่ะ”

“นั่นสิ่นะ ที่สุดแล้วก็เป็นประธานเจี่ยน ที่มีความสามารถมากขนาดนี้!”

เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตามองเหล่าผู้ถือหุ้นที่พูดยอเธออยู่ จากนั้นก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา เธอยังจำได้ว่าหลังจากที่พ่อของเธอล้มป่วยนั้น ผู้ถือหุ้นพวกนี้ถ้าดึงตระกูลเจี่ยนของเธอลงนรกไม่ได้ ก็จะไม่ยอมรามือ แต่ว่าเธอก็ยังต้องอดทนเอาไว้ เธอจำเป็นจะต้องทำให้สถานการณ์ของบริษัทมั่นคงเสียก่อน แล้วค่อยไล่ผู้ถือหุ้นพวกนี้ออกจากบริษัทไปทีละคน

“ใช่แล้ว ประธานเจี่ยนมีความสามารถที่ดีมาก ที่ในที่สุดก็สามารถมีความสัมพันธ์กับตระกูลเหลิ่งได้” ฉู่หมิงเซวียนนหัวเราะพรางเดินเข้ามาในห้องประชุม:”ฉันจะไปกล้ามีข้อสงสัยได้ยังไง?”

เจี่ยนอี๋นั่วไม่แม้แต่จะมองฉู่หมิงเซวียนแม้แต่น้อย เธอแค่ลุกขึ้นมา พรางหัวเราะและพูดกับเหล่าผู้ถือหุ้นว่า:”ในเมื่อไม่มีข้อสงสัยแล้ว งั้นพวกเราก็แยกย้ายกันได้แล้ว”

ฉู่หมิงเซวียนหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว:”เดี๋ยวก่อน ฉันก๋เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้นะ ทำไมมีประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นแล้วไม่รายงานฉัน?”

ครั้งนี้เจี่ยนอี๋นั่วจึงจะหันไปมองฉู่หมิงเซวียน และพูดด้วยเสียงเบาๆว่า:”กฎของการประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์ ประธานไม่ต้องรายงานให้ผู้ถือหุ้นผู้นั้นทราบ น่าเสียดาย ที่หุ้นของฉู่หมิงเซวียนมีไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์พอดี”

ฉู๋หมิงเซวียนมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว พรางกัดฟันแล้วหัวเราะออกมา:”คุณหนูเจี่ยน เธอนี่ช่างเก่งจริงๆ ตอนนี้ก็เข้าถึงตระกูลเหลิ่งได้แล้ว ก็คิดที่จะกำจัดฉันหรอ? เธอคิดหรอว่าเหลิ่งเฉิงอวี๋จะคุ้มหัวเธอไปได้ตลอดชีวิต? ที่เธอขายตัวเพื่อเอาเงินทุนกลับมาได้ ฉันอยากจะรู้จริงๆเลยว่าถ้าพ่อของเธอฟื้นขึ้นมา จะรู้สึกภูมิใจ หรือว่าอับอายขายหน้ากันแน่?”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน