หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 25 นั่นลูกของฉัน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองเหลิ่งหมิงอัน อยากจะด่าเหลิ่งหมิงอันเสียงดัง “นายมันบ้านายมันป่วย!”

แต่ตอนนี้นึกถึงเด็กในท้อง เจี่ยนอี๋นั่วลูบท้องเบาๆ แล้วพูดกับเหลิ่งหมิงอันเสียงทุ้ม “คุณเหลิ่งหมิงอัน แผนกจิตเวชอยู่ชั้นสอง ฉันแนะนำให้นายไปดูสักหน่อย ความเย่อหยิ่งและหลงตัวเองก็เป็นโรคชนิดหนึ่ง ในฐานะพี่สะใภ้ของนาย ฉันเป็นห่วงนายมากจริงๆ นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ลูกของฉัน ฉันจะดูแลเป็นอย่างดี และจะตั้งใจเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตกับพี่ใหญ่ของนาย”

“เด็กไม่เป็นอะไรเหรอ?” เหลิ่งหมิงอันขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ “แต่ในละครแค่เลือดตกก็ต้องแท้งแน่”

เหลิ่งหมิงอันพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าก็เผยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย เขาพึมพำเสียงทุ้ม “เธอยังมีลูกของเหลิ่งเซ่าถิงในท้องอยู่? งั้นฉันก็ไม่มีทางรับผิดชอบเธอแล้วสิ?”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปากอย่างแรง หันไปทางเหลิ่งหมิงอัน “ก่อนที่คนขับรถจะมา นายหายไปจะดีกว่านะ อย่าให้คุณนายเหลิ่งเห็นเราอยู่ในโรงพยาบาลด้วยกันเลย?”

เหลิ่งหมิงอันถอนหายใจ เผยรอยยิ้มเย่อหยิ่งอีกครั้ง “ฉันกลัวอะไร? เธอเป็นคนดึงเสื้อผ้าฉันไม่ปล่อย ให้ฉันมาส่งเธอที่โรงพยาบาลนะ”

เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น มองเหลิ่งหมิงอัน “นายมาก่อกวนฉันที่บริษัทก่อน”

เหลิ่งหมิงอันหรี่ตา ถอยหลังไม่กี่ก้าวแล้วพยักหน้า “อ่า พูดถูก ฉันเกือบลืม งั้นฉันไปก่อนนะ ถ้าวันไหนพี่ใหญ่ไม่ต้องการเธอแล้ว ฉันยินยอมต้องการเธอจริงๆ เอาล่ะ เรื่องที่ฉันมาส่งเธอที่โรงพยาบาล ถือเป็นความลับระหว่างเราสองคนแล้วกัน ลาก่อน……”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มเบาๆ หัวเราะเสียงทุ้มให้เหลิ่งหมิงอันแล้วพูดขึ้น “ลาก่อน”

เหลิ่งหมิงอันยิ้มแล้วพยักหน้า หันหลังเดินไป เจี่ยนอี๋นั่วมองแผ่นหลังเหลิ่งหมิงอัน หายใจเข้าลึกๆ เขาดูเป็นคุณชายเสเพล เหมือนไม่สนใจทุกเรื่องของตระกูลเหลิ่ง แต่เธอเข้าตระกูลเหลิ่งมาไม่กี่วัน ก็พบว่าไม่มีคนไหนในตระกูลเหลิ่งที่เรียบง่าย คนที่อันดับต่ำสุดอย่างสุยเฉิงจิ้งก็แสดงออกอย่างช่วยร้าย เหลิ่งหมิงอันก็มีเหลิ่งเฉิงอวี่ที่หน้าตาใจดีแต่จิตใจชั่วร้ายเป็นพ่อ มีสุยเฉิงจิ้งที่ในใจมีแต่แผนการร้ายเป็นแม่ เขาจะเรียบง่ายได้อย่างไร?

ทันทีที่คิดได้ เจี่ยนอี๋นั่วก็จับศีรษะส่ายทันที ให้ตัวเองหยุดคิดเรื่องพวกนี้ เธอคิดเรื่องพวกนี้ไม่ได้อีกแล้ว แผนการร้ายทั้งหมด ก่อนที่เธอจะปกป้องเด็กคนนี้ให้แข็งแรงปลอดภัย มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย

เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองคิดถึงเรื่องพวกนี้ เจี่ยนอี๋นั่วทำได้แค่จัดการเรื่องอื่นก่อน เธอโทรหาบริษัทตัวแทนรถ ขายรถของเธอไปแล้ว จากนั้นก็โทรหาเลขา ให้เลขาจ้างพยาบาลดูแลเจี่ยนฉางรุ่น สุดท้าย เจี่ยนอี๋นั่วลังเลสักพักก่อนโทรหาเฮ่อเยี่ยนหง ถามอาการของเจี่ยนฉางรุ่นพ่อของเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้ไปหาพ่อเธอมาสองวัน ตั้งแต่เจี่ยนฉางรุ่นป่วย เจี่ยนอี๋นั่วจะยุ่งแค่ไหนก็ไปเยี่ยมเขาทุกวัน เธอไม่เคยหยุดไปเยี่ยมพ่อของตัวเองนานขนาดนี้

หลังจากโทรติดแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็ได้ยินเสียงวุ่นวายในโทรศัพท์ เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงการเล่นไพ่นกกระจอก ดูเหมือนเฮ่อเยี่ยนหงจะไปเล่นไพ่คนเดียว เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆ กลั้นความโกรธเอาไว้ แล้วพูดกับเฮ่อเยี่ยนหงด้วยเสียงเย็นชา “พ่อฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

เฮ่อเยี่ยนหงรีบวิ่งออกมายังสถานที่เงียบๆ ทันที แล้วพูดเสียงทุ้ม “อี๋นั่วอ่า เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อของเธอสบายดีมาก แค่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา สองวันนี้เธอไปไหนมา? ฉันกับฮุ่ยฮุ่ยไม่มีเงินใช้จ่ายเลย”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดเสียงทุ้ม “ฉันมีธุระ อาจจะกลับบ้านไม่ได้นานสักพัก ฉันจ้างพยาบาลมาดูแลพ่อหนึ่งคนแล้ว เดี๋ยวฉันจะโอนเงินไปบัตรคุณหนึ่งหมื่นหยวน ให้ค่าครองชีพคุณกับฮุ่ยฮุ่ย……”

“ว่าไงนะ? มีเงินแล้วเหรอ?” เฮ่อเยี่ยนหงเพิ่มระดับเสียงทันที “อี๋นั่ว เรายังเป็นคนรวยอยู่ไหม?”

“ช่วงนี้คุณดูแลฮุ่ยฮุ่ยกับพ่อให้ดี ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่คุณไม่ต้องกังวล ฉันไม่อยากกลับไปแล้วเห็นพ่อกับฮุ่ยฮุ่ยเป็นอะไร” เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยเสียงเย็นชา

เฮ่อเยี่ยนหงรีบยิ้มแล้วพูดขึ้น “โอ๊ย เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี แต่เธอจะเสียเงินจ้างพยาบาลมาดูแลทำไม? เธอเอาเงินจ้างพยาบาลให้ฉันก็ได้นะ? จะได้ประหยัดเงินในครอบครัว”

เจี่ยนอี๋นั่วกดเสียงต่ำพูดขึ้น “เอาให้คุณไปเล่นไพ่เหรอ?”

“นี่……เธอรู้ได้ยังไง?” เฮ่อเยี่ยนหงถามด้วยความประหลาดใจและตื่นตระหนก

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มขึ้นมา “คุณทำอะไรฉันก็รู้หมด ดังนั้นอย่าหลอกฉัน ดูแลพ่อกับฮุ่ยฮุ่ยให้ดี”

เฮ่อเยี่ยนหงรีบพูดขึ้น “อืม ฉันต้องดูแลพวกเขาให้ดีอย่าแน่นอน เธอไม่ต้องเป็นห่วง แต่เงินนั้น เธอต้องโอนให้ตรงเวลานะ”

เจี่ยนอี๋นั่วไม่เชื่อใจเฮ่อเยี่ยนหง เธอไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าเฮ่อเยี่ยนหงจะดูแลพ่อเธอเป็นอย่างดี เธอหวังแค่เฮ่อเยี่ยนหงจะดูแลเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยได้ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกับเจี่ยนอี๋นั่วความสัมพันธ์ไม่ดีอยู่ตลอด ไม่ยอมรับเจี่ยนอี๋นั่วในฐานะพี่สาว แต่เจี่ยนฉางรุ่นรักเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยมาก เจี่ยนอี๋นั่วหวังว่าหลังพ่อตัวเองฟื้นขึ้นมา จะเห็นว่าทุกอย่างยังเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้

หลังจากเจี่ยนอี๋นั่ววางสายไป ก็เห็นคนขับรถรีบมองหา คนจับรถเดินมาหาเจี่ยนอี๋นั่ว พูดขึ้นเสียงทุ้ม “คุณหญิง คุณเป็นอะไร?”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า “ฉันไม่ได้เป็นอะไร นายส่งฉันกลับก่อนเถอะ ฉันจะบอกคุณนายเอง”

ตอนแรกสุดเจี่ยนอี๋นั่วอยากปกปิดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้สงบลงแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้ว่าเรื่องนี้เธอปกปิดไม่ได้ ถ้ารักษาเด็กไว้ไม่ได้จริงๆ ตระกูลเหลิ่งต้องรู้แน่ๆ และต้องบ่นว่าเธอจงใจปกปิด โกหกเรื่องที่ไม่สามารถปกปิดได้เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย และเธอก็ต้องการความช่วยเหลือจากคุณนายเหลิ่ง ตระกูลเหลิ่งคงมีคุณหมอเก่งๆ สามารถช่วยเธอรักษาเด็กคนนี้ไว้ได้

กลับถึงตระกูลเหลิ่ง เจี่ยนอี๋นั่วนำรายงานการตรวจให้คุณนายเหลิ่งแล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันไม่ได้ทำตามความรับผิดชอบในฐานะแม่อย่างเต็มที่ เด็กเกือบหลุด”

คุณนายเหลิ่งมองเจี่ยนอี๋นั่ว ถอนหายใจ “ยังไงเธอก็ยังสาว เพิ่งท้อง มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่โทษเธอหรอก แต่ต่อไปต้องระวังให้มากๆ แต่ฉันก็ยังดีใจมาก เพราะเธอไม่ได้ปกปิดเรื่องนี้กับฉัน พรุ่งนี้ฉันจะให้คุณหมอมา ทางที่ดีช่วงนี้เธอต้องเลื่อนงานไปก่อน ฉันจะเตรียมคนไปช่วยเธอ”

“ตระกูลเหลิ่งช่วยฉันไว้มากแล้ว ถ้าส่งคนไปอีก ฉันกลัวว่าจะมีคนเดาความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับตระกูลเหลิ่งออก” เจี่ยนอี๋นั่วรีบพูด

คุณนายเหลิ่งยิ้มขึ้นมา “เพราะเซ่าถิงเจ้าเด็กคนนั้นจงใจทำให้เธอลำบากใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลเหลิ่งจะปกปิดได้ยังไง? แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะให้คนที่ช่วยเธอปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเหลิ่ง ส่วนจะปกปิดได้นานแค่ไหนก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ”

จริงๆ แล้วเจี่ยนอี๋นั่วไม่มีทางทิ้งงานในมือได้ ตอนนี้กว่าจะได้การช่วยเหลือจากตระกูลเหลิ่ง เจี่ยนอี๋นั่วควรฉวยโอกาสขับไล่ฉู่หมิงเซวียนและคนที่ก่อเรื่องออกไปให้หมด ตอนนี้เธอวางมือ ไม่ว่าตระกูลเหลิ่งจะส่งใครไปควบคุมงานของเธอ ต้องคุ้นเคยนานมากกว่าจะรับงานได้ เท่ากับเป็นการให้โอกาสฉู่หมิงเซวียนและคนอื่นๆ

แต่เจี่ยนอี๋นั่วเอามือกุมท้อง สุดท้ายก็พยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันฟังคุณนาย ถ้าเด็กในท้องมั่นคงแล้ว ฉันค่อยจัดการธุระในบริษัท”

คุณนายเหลิ่งยิ้มแล้วพูด “ฉันรู้ความยากลำบากของเธอ ฉันก็เคยมาจากสถานการณ์แบบเธอ เธอสามารถเสียสละเพื่อลูกจนมาถึงจุดนี้ได้ก็ยากลำบากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ต่อไปก็นอนพักผ่อนให้เยอะๆ ……”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มแล้วพยักหน้า หันตัวเดินออกไปจากห้องคุณนายเหลิ่ง ลังเลสักพักก่อนจะขึ้นไปชั้นบน เดินไปถึงห้องเหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆ ผลักประตูออก ก็เห็นเหลิ่งเซ่าถิงยังคงดูโน้ตบุ๊กอยู่ในห้องทำงาน

เจี่ยนอี๋นั่วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง หันหลังให้เหลิ่งเซ่าถิง หยิบชุดนอนออกมา

“ลับๆ ล่อๆ? ทำอะไรผิดมาอีกใช่ไหม?” เหลิ่งเซ่าถิงพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา

เจี่ยนอี๋นั่วชะงักเล็กน้อยแล้วค่อยๆ หันหน้ากลับมามองเหลิ่งเซ่าถิง แล้วพูดเสียงทุ้ม “วันนี้ เกือบเสียเด็กไปแล้ว ขอ……”

“ไม่ต้องพูดขอโทษอีก ฉันฟังมามากพอแล้ว และถ้าเธอไม่มีเด็ก คุณย่าก็จะไล่เธอออกจากตระกูลเหลิ่งโดยเร็วที่สุด ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับฉัน” เหลิ่งเซ่าถิงพูดด้วยเสียงเย็นชาจบ ก็ก้มหน้าทำงานต่อ

ท่าทีของเหลิ่งเซ่าถิง เหมือนเด็กในท้องเจี่ยนอี๋นั่วไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลยจริงๆ เลือดเย็นจริงๆ เลย ถึงเจี่ยนอี๋นั่วจะรู้ว่าเด็กคนนี้ในท้องเธอ เหลิ่งเซ่าถิงไม่อยากยอมรับเขาว่านั่นเป็นเลือดเนื้อของเขาเลยสักนิด แต่เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเหลิ่งเซ่าถิงก็ยังรู้สึกผิดหวัง

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าเธอบ้าไปแล้ว วันนี้ยังคิดว่าเหลิ่งเซ่าถิงเป็นคนที่เชื่อถือได้อยู่เลย คนที่เลือดเย็นแบบนี้จะน่าเชื่อถือได้อย่างไร?

เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆ ก้มหน้าลูบท้องเบาๆ พึมพำเสียงเบา “ลูก ลูกไม่ต้องเสียใจนะ แม่อยากให้หนูได้เติบโตและอยู่เคียงข้างแม่ได้”

แม่เหรอ?

เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ชะงัก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็ปรับตัวกับสถานะแม่ได้แล้ว และเริ่มตั้งตารอคอยการเกิดมาของเด็กคนนี้

“เจี่ยนอี๋นั่วมีลูกกับคนอื่นเหรอ?” ฉู่หมิงเซวียนนั่งในห้องทำงานคนเดียว พูดเสียงทุ้มต่ำซ้ำๆ

พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ห้องทำงานฉู่หมิงเซวียนก็เปิดออก เฉิงซานซานเข้ามาจากนอกประตู ตะโกนเสียงดังใส่ฉู่หมิงเซวียน “ได้ยินว่าวันนี้เจี่ยนอี๋นั่วจงใจมาทำให้คุณลำบากใจเหรอ? เธอทำเกินไปแล้วจริงๆ นะ? ทำแบบนี้กับเราได้ยังไง? ผู้หญิงที่ดุร้ายแบบเธอ สมควรแล้วที่จะไม่แต่งงานตลอดไป……”

“เจี่ยนอี๋นั่วท้องแล้ว” ฉู่หมิงเซวียนเงยหน้ามองเฉิงซานซาน แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม

เฉิงซานซานอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รีบถามขึ้น “ว่าไงนะ? ไม่คิดว่ามีคนจะเอาเธอ? เป็นลูกของใคร?”

ฉู่หมิงเซวียนลังเลสักพัก จากนั้นก็เงยหน้ามองเฉิงซานซาน ยิ้มแล้วพูดขึ้น “อาจจะเป็นลูกของฉัน”

เฉิงซานซานตกตะลึงทันที “เป็นไปได้ยังไง? คุณเคยนอนกับเธอเหรอ?”

ฉู่หมิงเซวียนพยักหน้าเบาๆ “ครั้งนั้นฉันดื่มค่อนข้างเมา คิดว่าหล่อนเป็นเธอ ถึงหล่อนจะปฏิเสธคัดค้านหัวชนฝา แต่ตอนนั้นน่าจะเป็นลูกของฉัน ตอนแรกฉันไม่อยากก้าวก่ายเจี่ยนอี๋นั่ว ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้แล้ว ยังไงก็มีลูกของฉัน นั่นเป็นเลือดเนื้อของฉัน”

เฉิงซานซานขมวดคิ้ว “ฉันก็ท้องเลือดเนื้อของคุณนะ หรือของฉันไม่ใช่เหรอ?”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน