หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 26 ฆ่าลูกของเธอ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

ฉู่หมิงเซวียนมองเฉิงซานซานแล้วถอนหายใจเบาๆ “ไม่มีทางเลือก ตอนนี้ตระกูลเจี่ยนมีอำนาจ ถ้าเธอมีลูกของฉันจริงๆ ฉันต้องรับผิดชอบเธอ และด้วยนิสัยของเจี่ยนอี๋นั่ว เธอก็รู้ หล่อนต้องไม่ปล่อยโอกาสในการทรมานเราแน่ๆ เด็กคนหนึ่งสามารถทรมานเราได้ตลอดชีวิตเลยนะ เฮ้อ ยุ่งยากเกินไปจริงๆ ถ้าหล่อนไม่มีเด็กคนนี้ก็ดี ฉันอยากฆ่าเด็กในท้องหล่อนจริงๆ ต่อไปชีวิตเธอกับฉันจะได้สงบสุขหน่อย”

“ฆ่าเด็กในท้องเธอเหรอ? ฆ่ายังไง?” เฉิงซานซานกุมท้องเบาๆ ถามขึ้นเสียงเบา

ฉู่หมิงเซวียนขมวดคิ้ว คิดอย่างจริงจังแล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “เช่นตอนเธอเดินอยู่ตรงบันได ก็ออกแรงผลักเธอ ให้เธอตกบันได แบบนี้เด็กก็จะหลุดแน่ๆ แล้วก็ตัวอย่างเช่น ใส่ยาทำแท้งลงในแก้วน้ำของเธอ แต่ก็แค่คิดเท่านั้น ฉันจะฆ่าลูกตัวเองลงได้ยังไง?”

เฉิงซานซานหายใจเข้าลึกๆ จู่ๆ ก็ถามขึ้นมา “หมิงเซวียน เราจะแต่งงานกันเมื่อไร ถ้ายืดเยื้อต่อไป ท้องฉันจะโตขึ้น สวมชุดแต่งงานไม่สวยแล้วนะ ฉันคิดว่าเรากำหนดงานแต่งกันสัปดาห์หน้าเลยได้ไหม?”

ฉู่หมิงเซวียนกวาดตามองเฉิงซานซาน ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “ขอโทษ ซานซาน เกรงว่าตอนนี้ฉันยังแต่งงานกับเธอไม่ได้ ฉันต้องคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอสักหน่อย”

“เพราะเจี่ยนอี๋นั่วท้อง เราเลยแต่งงานกันไม่ได้เหรอ? ฉันรู้ในใจคุณยังมีเธอ ตอนกลางคืนคุณนอนก็เรียกชื่อเธอ!” เฉิงซานซานตะโกนเสียงดัง

“ทางที่ดีเธอต้องรู้นะว่าเธอกำลังพูดอะไร เฉิงซานซาน! ฉันจะเรียกชื่อหล่อนได้ยังไง? เธอเป็นลูกสาวของเจี่ยนฉางรุ่น!” ฉู่หมิงเซวียนหรี่ตา เข้าใกล้เฉิงซานซานทีละก้าว

เฉิงซานซานรู้ว่าตัวเองพูดผิด รีบเม้มปากแน่น พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉ-ฉันพูดผิด คุณไม่ได้เรียกชื่อเธอ ฉันฟังผิดเอง”

ฉู่หมิงเซวียนยกมือขึ้นบีบแก้มเฉิงซานซานเบาๆ ยิ้มแล้วพูดขึ้น “รู้ว่าผิดก็ดีแล้ว ดูแลเด็กในท้องให้ดี ฉันอยากจะดูว่าเธอกับเจี่ยนอี๋นั่ว ใครจะคลอดลูกให้ฉันก่อนกัน บางทีอาจจะรอไม่กี่เดือน แต่ถ้าพวกเธอไม่มีลูกแล้ว ฉันก็จะไม่รอ หวังจริงๆ ว่าฉันจะเลือกเธอได้……”

“คุณจะเลือกผู้หญิงที่มีลูกให้คุณเหรอ?” เฉิงซานซานขมวดคิ้วถาม

ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะเบาๆ “ฉันจะเลือกผู้หญิงที่ไม่มีลูกให้ฉันเหรอ?”

เฉิงซานซานยกมือขึ้นจับแขนฉู่หมิงเซวียน รีบถามขึ้น “ถ้าเจี่ยนอี๋นั่วไม่มีลูกแล้ว คุณจะไม่ยุ่งกับเธออีกใช่ไหม?”

ในที่สุดฉู่หมิงเซวียนก็ได้ยินสิ่งที่น่าพึงพอใจจากปากเฉิงซานซาน เขายิ้มแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มเฉิงซานซานเบาๆ ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ถ้าเธอมีลูกให้ฉัน ฉันก็จะปฏิบัติต่อเธอด้วยใจจริง”

ฉู่หมิงเซวียนพูดจบก็หันตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน เฉิงซานซานลูบท้องตัวเอง พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันไม่มีทางให้เธอคลอดลูกของหมิงเซวียนเด็ดขาด!”

ฉู่หมิงเซวียนยืนอยู่หน้าประตู ได้ยินคำพูดของเฉิงซานซาน ในที่สุดมุมปากก็ยกขึ้นเผยยิ้มสบายใจ ไม่ว่าเด็กของเจี่ยนอี๋นั่วจะเป็นของใคร เขาอยากให้เด็กคนนั้นหายไป ฉู่หมิงเซวียนไม่อยากคิดว่าที่เขาทำแบบนี้ ทำไปเพื่ออะไร เขาแค่รู้ว่าตั้งแต่รู้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วมีลูกของผู้ชายคนอื่น เขารู้สึกเหมือนหน้าอกมีก้อนหินก้อนใหญ่มาทับ มันทำให้เขาหายใจไม่ออก เขาต้องกำจัดเด็กในท้องเจี่ยนอี๋นั่ว ถึงจะโล่งใจได้

และเฉิงซานซานคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา แค่โกหกว่าเจี่ยนอี๋นั่วท้องลูกของเขา เฉิงซานซานก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเด็กในท้องเจี่ยนอี๋นั่ว ไม่จำเป็นต้องให้เขาลงมือเอง ฉู่หมิงเซวียนถอนหายใจออกมาในที่สุด ยิ้มแล้วเดินออกจากบริษัท

หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วกลับมาถึงตระกูลเหลิ่ง ก็ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างมาก ทำตามคำแนะนำของคุณหมอ แทบจะไม่ลุกจากเตียงเลย จนถึงตอนกลางคืน เหลิ่งเซ่าถิงขึ้นเตียงมา เจี่ยนอี๋นั่วก็ขยับไปอีกข้างของเตียงอย่างประหม่า

เหลิ่งเซ่าถิงกวาดตามองเจี่ยนอี๋นั่ว “ช่วงนี้เธอคิดจะนอนบนเตียงตลอดเวลาเหรอ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดเสียงเบา “คุณหมอบอกว่านอนอยู่บนเตียงจะดีที่สุด ภายในเดือนสองเดือนอย่าขยับ”

“งั้นฉันต้องเผชิญหน้ากับเธอในห้องนี้เป็นเวลาเดือนสองเดือนเหรอ?” เหลิ่งเซ่าถิงถามด้วยเสียงเย็นชา

“หืม?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว ประหม่าขึ้นมาทันที “คุณก็ฟื้นตัวแล้ว ทำไมไม่ไปบริษัทล่ะ?”

“เรื่องแบบนี้จะรีบร้อนทำไม?” เหลิ่งเซ่าถิงยิ้มเยาะพูดขึ้น “ฉันอยากรอให้พวกเขาโกลาหลสักพัก ฉันเข้าใจสถานการณ์บริษัทอย่างถ่องแท้ก่อนค่อยไปบริษัท น่าจะรอไม่กี่เดือน”

“คุณไม่ได้เข้าใจสถานการณ์บริษัทแล้วเหรอ?” เจี่ยนอี๋นั่วจำได้ว่างานเลี้ยงเมื่อวาน เหลิ่งเซ่าถิงคุ้นเคยกับสถานการณ์ภายในบริษัทเป็นอย่างดี

“มันต่างกับการเข้าใจสถานการณ์จริงๆ อย่างสิ้นเชิง ฉันต้องการ……” เหลิ่งเซ่าถิงพูดถึงตรงนี้ ก็ชะงักเล็กน้อย จู่ๆ ก็หยุดพูดแล้วพูดเสียงทุ้ม “เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”

เหลิ่งเซ่าถิงพูดจบก็ไม่พูดอีก หยิบหนังสือหนึ่งเล่มที่วางบนหัวเตียงขึ้นมาแล้วเริ่มเปิด เจี่ยนอี๋นั่วเห็นเหลิ่งเซ่าถิงไม่พูดอะไรอีกก็ปิดปากแน่น หดตัวข้างเตียงแล้วหลับตา

ถึงแม้วันนี้เจี่ยนอี๋นั่วพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะเป็นหญิงตั้งครรภ์จึงเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วหลับตาก็หลับไปอีกครั้ง ได้ยินเสียงหายใจเธอเริ่มกลายเป็นหนักขึ้น เหลิ่งเซ่าถิงก็ย้ายตัวเจี่ยนอี๋นั่วที่หดไปข้างเตียงมายังข้างกายเขาอีกครั้ง

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วมองเจี่ยนอี๋นั่วที่หลับปุ๋ย ยกมือขึ้นปิดโคมไฟข้างเตียง

เห็นไฟในห้องเหลิ่งเซ่าถิงมืดลง เหลิ่งหมิงอันที่ยืนอยู่กลางลานบ้านก็ยิ้มแล้วก้มหน้า หันไปยิ้มให้กับเหลิ่งเฉิงอวี่ที่ยืนด้านหลังเขาแล้วพูดขึ้น “พ่อ พ่อจัดตำแหน่งงานในบริษัทเหลิ่งซื่อให้ผมหน่อยได้ไหม?”

เหลิ่งเฉิงอวี่ขมวดคิ้ว “เร็วเกินไปมั้ง เหลิ่งเซ่าถิงกับคุณนายไม่ได้ระวังลูกมาตลอดเพราะลูกไม่ได้มีตำแหน่งในบริษัท ถ้าตอนนี้ลูกทำงานในบริษัท จะทำให้พวกเขาระวังลูกหรือเปล่า?”

เหลิ่งหมิงอันยิ้มขึ้นมา “พ่อคิดว่าผมอยู่ต่างประเทศหลายปีขนาดนี้ พวกเขาไม่เคยระวังผมเหรอ? ตอนนี้มีตัวแปรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง บางทีเจี่ยนอี๋นั่วอาจจะเป็นไพ่ที่ดี”

“เจี่ยนอี๋นั่ว?” เหลิ่งเฉิงอวี่มองเหลิ่งหมิงอัน “ลูกใช้เธอทำให้เหลิ่งเซ่าถิงขายหน้า โจมตีบารมีของเหลิ่งเซ่าถิงก็ได้ หรือลูกคิดจริงๆ ว่าจะใช้เธอควบคุมเหลิ่งเซ่าถิงได้? เธอเป็นผู้หญิงคนเดียว จะทำอะไรได้? เธอเก่งไม่เท่าหลิวจื่อซิง ตอนแรกหลิวจื่อซิงทำให้เหลิ่งเซ่าถิงเป็นผักได้ แต่เจี่ยนอี๋นั่วจะทำอะไรได้? ลูกอย่าแยกแยะไม่ออก แล้วรู้สึกดีกับเจี่ยนอี๋นั่วผู้หญิงคนนั้น แค่ผู้หญิงคนเดียว เมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ของตระกูลเหลิ่ง มันไม่คุ้มที่จะกล่าวถึงเลย”

“ผมรู้ ผมจะใจเต้นกับผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไงล่ะ บนโลกนี้ ผู้หญิงที่ทำให้ผมละทิ้งธุรกิจตระกูลเหลิ่งได้ยังไม่เกิด”

เหลิ่งหมิงอันยิ้มแล้วมองหน้าต่างห้องเหลิ่งเซ่าถิง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “พ่อยังจำที่ผมเคยถามพ่อได้ไหมว่าทำไมผมนามสกุลเหลิ่ง แต่ไม่เหมือนเหลิ่งเซ่าถิงเลย เรียกคุณนายว่าคุณย่า? ทำไมทั้งๆ ที่ผมก็ทำอะไรดีเลิศมาก แต่ในสายตาคนอื่นมีแค่เหลิ่งเซ่าถิงคนเดียวที่เป็นคุณชายตระกูลเหลิ่ง?”

เหลิ่งเฉิงอวี่หรี่ตาพูดเสียงทุ้ม “จำได้ ฉันจะลืมได้ยังไง? ตอนนั้นลูกอายุแค่เจ็ดขวบ ฉันพาลูกมาที่นี่ ชี้ไปที่ห้องของเหลิ่งเซ่าถิงแล้วพูดกับลูกว่า เมื่อลูกเข้าไปในห้องนั้น เมื่อลูกกลายเป็นเจ้าของตระกูลเหลิ่ง ในสายตาทุกคนจะมีแค่ลูก ลูกก็จะเป็นคุณชายเพียงคนเดียวของตระกูลเหลิ่ง……”

รอยยิ้มเหลิ่งหมิงอันค่อยๆ หุบลง ใบหน้าเผยสีหน้าอาฆาต “น่าเสียดาย อุบัติเหตุครั้งนั้นเหลิ่งเซ่าถิงมันไม่ตาย!”

“แต่ไม่เป็นไร……”

เหลิ่งหมิงอันหันไปหาเหลิ่งเฉิงอวี่ เผยรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “นี่มันทำให้เกมน่าสนใจมากขึ้น ตั้งแต่เจ็ดขวบ ผมก็เล่นเกมนี้มาโดยตลอด ตอนนี้มีสมาชิกใหม่มาเข้าร่วมด้วย กลายเป็นน่าสนใจขึ้นแล้ว……”

เจี่ยนอี๋นั่วที่กำลังหลับสนิท ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นยกมือขึ้นลูบท้องตัวเอง พึมพำเสียงเบา “ลูกของฉัน……”

เธอขมวดคิ้วแน่น นอนขดตัวเหมือนแมว เธอจมอยู่ในฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัว ความมืดมิดในฝันร้ายโอบกอดเธอไว้ ทำให้เธอไม่มีทางหลบหนี

จู่ๆ มือเย็นข้างหนึ่งกำลังลูบหลังเธอเบาๆ มือนั้นเย็นเฉียบจนแทบไร้ความรู้สึก แต่กลับทำให้เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกสบายใจอย่างลึกลับ เจี่ยนอี๋นั่วยื่นถอนหายใจ ซ่อนตัวอยู่ใต้ฝ่ามือนั้น หลับลงไปอีกครั้งอย่างสบายใจ

เจี่ยนอี๋นั่วในฐานะหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป หลับจนกระทั่งตื่นโดยธรรมชาติ เมื่อตื่นขึ้นมา เจี่ยนอี๋นั่วลืมตามองไปทางห้องทำงาน ก็เห็นเหลิ่งเซ่าถิงกำลังนั่งจ้องโน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน

เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้ขยับ หรี่ตาครึ่งหนึ่งมองเหลิ่งเซ่าถิงตลอดเวลา ตอนนี้ฟ้าสว่างมากแล้ว แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างมาบนหน้าเหลิ่งเซ่าถิง ทำให้โครงหน้าหล่อเหลาของเหลิ่งเซ่าถิงยิ่งเด่นชัด เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจอีกครั้ง ผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อได้ถึงขนาดนี้ ราวกับถูกแกะสลักขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แม้แต่เส้นคิ้วยังสวยงามเมื่อมันขมวดขึ้นมา

เมื่อก่อนเจี่ยนอี๋นั่วรู้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงเป็นผู้ชายที่หล่อคนหนึ่ง แต่เธอไม่เคยคิดว่าคนหล่ออย่างเหลิ่งเซ่าถิงจะติดต่อกับเธอ หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วมีจิตสำนึกในฐานะแม่ ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มนึกหน้าตาของลูกตัวเอง เชื่อมโยงระหว่างเธอกับเหลิ่งเซ่าถิง

ความเสียใจที่สุดของเจี่ยนอี๋นั่วคือหน้าตาธรรมดาเกินไป เมื่อยืนกับผู้หญิงสวยๆ ก็มักจะดูด้อยกว่ามาก แต่ถึงแม้เหลิ่งเซ่าถิงจะมีอารมณ์ร้ายมาก แต่รูปลักษณ์เขาไร้ที่ติมากจริงๆ ถ้าหนึ่งในนั้นสามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมให้ลูกในท้องเธอได้ ก็จะสามารถเติบโตเป็นคนที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นได้

ถ้าคลอดลูกสาว ว่ากันว่าลูกสาวจะเหมือนพ่อ ถ้าอย่างนั้นลูกสาวของเธอก็จะเป็นสาวสวยผู้เย็นชา

ถ้าคลอดลูกชาย ก็คงได้รับพันธุกรรมจากเหลิ่งเซ่าถิงส่วนหนึ่ง เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อนิสัยเย็นชา

นึกถึงลูกในอนาคต อาจจะมีหน้าตาแบบเหลิ่งเซ่าถิงตอนเด็กๆ เรียกเธอว่าแม่ เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากยิ้มขึ้นมา

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท