หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 30 รักข้างเดียว

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วนอนในอ้อมแขนเหลิ่งเซ่าถิง การเต้นของหัวใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ ในหัวสมองวุ่นวาย ไม่กล้าขยับเลยสักนิด เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกตัวเองจะเป็นบ้าแล้ว เมื่ออยู่กับฉู่หมิงเซวียน เจี่ยนอี๋นั่วยังหาเหตุผลชอบเขาได้ เพราะตอนแรกฉู่หมิงเซวียนอ่อนโยนและเอาใจใส่เธอจริงๆ แต่เหลิ่งเซ่าถิงในตอนนี้ปฏิบัติกับเธอแย่มากขนาดนั้น ทำไมเธอถึงชอบเหลิ่งเซ่าถิงล่ะ?

และเหลิ่งเซ่าถิงชอบเธอไหม? ชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่อาจจะพูดจาถากถางและไม่ใส่ใจเขาเหรอ? ถึงแม้ตอนนี้เหลิ่งเซ่าถิงจะแสดงความอ่อนโยนกับเธอเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเหลิ่งเซ่าถิงชอบเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอแอบรักข้างเดียวเหรอ?

เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาอย่างแรง พยายามปลอบตัวเองว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ภาพลวงตาของความผิดปกติฮอร์โมนในระหว่างการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่หัวใจเต้นไม่สามารถสงบลงได้ทั้งคืน ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องยอมรับความจริงว่าเธอชอบเหลิ่งเซ่าถิงจริงๆ แต่ความรู้สึกแบบนี้เมื่อเทียบกับตอนอยู่กับฉู่หมิงเซวียนแล้ว มันรุนแรงกว่า

เจี่ยนอี๋นั่วง่วงนอนทั้งคืน เมื่อแสงแดดยามเข้าสาดส่องเข้ามา กลายเป็นยิ่งง่วง ถึงเธอจะนอนไม่หลับทั้งคืน แต่ก็ยังหลับตาอยู่ ทำท่าเหมือนยังนอนหลับ เพราะเธอไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับเหลิ่งเซ่าถิงอย่างไร ไม่รู้ว่าควรต่อสู้กับเหลิ่งเซ่าถิงอย่างไร ยังต้องเก็บความรักที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเอาไว้

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าเหลิ่งเซ่าถิงก็ตื่นแล้วเช่นกัน เหลิ่งเซ่าถิงปล่อยเธอ จากนั้นก็ลุกขึ้นช้าๆ ห่มผ้าห่มให้เธอแล้วลงจากเตียง การเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนไม่เหมือนการเคลื่อนไหวที่เหลิ่งเซ่าถิงทำออกมาได้ มันทำให้เจี่ยนอี๋นั่วเหมือนสาวๆ หลายคนที่ตกหลุมรักข้างเดียว จมอยู่ในการต่อสู้กับคำถามที่ว่าเขารักฉันหรือเขาไม่รักฉัน

เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้น ก็เห็นเหลิ่งเซ่าถิงถือแก้วชาเดินไปข้างหน้าต่าง จิบมันเบาๆ เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่ด้านหลังเหลิ่งเซ่าถิง เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเหลิ่งเซ่าถิง แสงแดดยามเช้าตกกระทบใบหน้าเขา ทำให้โครงหน้าเขาอ่อนโยนลงมาก ผมเขายุ่งเล็กน้อย สวมชุดลำลอง ดูเหมือนหนุ่มหล่อสะอาดสะอ้าน

เจี่ยนอี๋นั่วเข้าใจในพริบตาเดียวว่าทำไมเธอถึงชอบเหลิ่งเซ่าถิง เพราะเหลิ่งเซ่าถิงแค่ยืนตรงนั้น เขาก็กลายเป็นภาพวาด เจี่ยนอี๋นั่วก็เป็นคนธรรมดา เธอมองสิ่งสวยงามเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะชอบมัน ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งเซ่าถิงคนนี้ก็ยังเป็นสามีเธออีกด้วย และถือว่าเป็นพ่อของเด็กในท้องเธอ เธอจะไม่ชอบได้อย่างไร?

เหลิ่งเซ่าถิงยกแก้วชาหันตัวกลับไปมองเจี่ยนอี๋นั่ว เขาขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างช้าๆ “วันนี้เธอตื่นเช้าจังนะ”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบก้มหน้า พูดขึ้นเสียงเบา “ฉัน……ฉัน……”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ก็ก้มหน้า เห็นเหลิ่งเซ่าถิงที่เคยนอนข้างเธอ ก็พูดเสียงทุ้ม “เมื่อกี้ตอนฉันตื่น เหมือนรู้สึกว่าคุณกอดฉัน……”

เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว พูดเสียงเย็นชา “อืม ต้องโทษที่เธอนอนไม่ถูกวิธี ตอนนี้เธอท้องอยู่ ถึงฉันจะเลือดเย็น ก็ไม่อยากเห็นเธอหล่นพื้นไปแท้งลูกไปต่อหน้าหรอกนะ ถึงจะอยากให้เด็กคนนี้หายไป ก็ควรให้หมอทำ ไม่ควรปล่อยให้ฉันทำต่อหน้า และฉันก็ไม่ชอบเห็นเลือดด้วย”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินสิ่งที่เหลิ่งเซ่าถิงพูดก็เงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งเซ่าถิง “แค่เพราะคุณไม่อยากเห็นเลือดเหรอ?”

เหลิ่งเซ่าถิงหัวเราะเบาๆ ค่อยๆ เดินไปหาเจี่ยนอี๋นั่ว ยิ้มเยาะแล้วถามขึ้น “แล้วเธอคิดว่าเหตุผลอะไร? คุณเจี่ยนอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันไม่เกิดความรู้สึกดีๆ กับผู้หญิงอย่างเธอเลยสักนิด นอนเตียงเดียวกับเธอ มันเลี่ยงสัมผัสทางร่างกายไม่ได้ เธออย่าคิดมากเกินไป ถ้าฉันมีความรู้สึกกับเธอจริงๆ ฉันไม่แค่กอดเธอหรอก ฉันจะจูบเธอ สัมผัสเธอ แล้วก็นอนกับเธอ ถึงแม้เธอจะท้องอยู่ ฉันก็ควบคุมความปรารถนาของตัวเองไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้เธอนอนหลับไม่น่าไว้วางใจเกินไป จะหล่นพื้นตลอดเวลา ฉันแค่กอดเธอเอาไว้ มันไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่น”

เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันไม่ได้คิดอะไรมาก ฉันรู้สถานะฉันดี และรู้ว่าคุณชายใหญ่เหลิ่งไม่ชอบผู้หญิงอย่างฉันหรอกค่ะ”

เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตามองเจี่ยนอี๋นั่ว “ฉันก็ไม่อยากให้เธอชอบฉันเหมือนกัน ความรู้สึกไร้ประโยชน์นั้นมันไม่ดีกับเธอและกับฉัน และอาจจะเพราะเด็กในท้องเธอทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกับฉันมีการเชื่อมโยงอะไรบางอย่างที่พิเศษ แต่เธอมีสติหน่อย เธอต้องจำว่าเด็กคนนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ไม่อย่างนั้นเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดใจมาก พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเพิ่มเตียงเสริม ให้เธอใช้บำรุงครรภ์ คุณย่าคงไม่ออกความเห็นอะไร ต่อไปเราจะนอนแยกเตียงกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็น”

เจี่ยนอี๋นั่วมองเหลิ่งเซ่าถิง หัวเธอเหมือนจะระเบิดโดยทันที เหลิ่งเซ่าถิงรู้อะไรงั้นเหรอ? เขารู้ว่าเธอชอบเขาเหรอ? ไม่อย่างนั้นเหลิ่งเซ่าถิงจะพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้อย่างไร? แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็ถามออกไปไม่ได้ ถ้าถามออกไปจริงๆ มันจะทำให้เธออึดอัดใจมากเกินไป

ถึงแม้เจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากถาม แต่เหลิ่งเซ่าถิงก็ไม่ทิ้งความรู้สึกใดๆ แก่เจี่ยนอี๋นั่วเลย เขาขมวดคิ้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันรู้เมื่อคืนเธอไม่ได้หลับ เสียงหัวใจเธอเต้นเร็ว ฉันคิดว่าหัวใจเธอจะกระโดดออกมาแล้ว ผู้หญิงที่ชอบฉันเยอะมาก ฉันรู้ว่าเวลาผู้หญิงชอบผู้ชายมันเป็นยังไง ผู้หญิงคนอื่นจะคิดยังไงฉันไม่สนใจ แต่เธอไม่เหมือนกัน สถานะและลูกในท้องของเธอ ทำให้เธอมีภาพลวงตาว่าสามารถอยู่กับฉันได้นานๆ นี่มันเป็นเรื่องลำบากมากสำหรับฉัน”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปากแน่น มองเหลิ่งเซ่าถิง หายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นเล็กน้อย เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่าในชีวิตเธอยังมีประสบการณ์อันน่าอับอายมากกว่านี้หรือไม่ แต่ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตเธอ

เหลิ่งเซ่าถิงผลุบตามองเจี่ยนอี๋นั่ว “ดูเหมือนฉันต้องปฏิเสธเธอจริงๆ จังๆ สักครั้ง ฉันไม่อาจชอบผู้หญิงแบบเธอได้ ฉันยอมรับว่ารูปร่างเธอดี เด็กในท้องเธอก็ทำให้ฉันรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องปกป้องเธอ แต่ความรู้สึกนี้ฉันมีให้เด็กในท้อง เมื่อเธอคลอดลูกออกมา ฉันกับเธอก็จะเป็นแปลกหน้ากัน ฉันคงไม่เกิดความรู้สึกอยากปกป้องเธออีก เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉันชอบแน่ๆ ตรงกันข้าม เธอมีหลายอย่างที่ฉันเกลียดมาก เธอมีประโยชน์แต่มีอำนาจและเล่ห์เหลี่ยมมากเกินไป ฉันชอบเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสามากกว่า และไม่ใช่ผู้หญิงแบบเธอ”

เจี่ยนอี๋นั่วยกมุมปาก ค่อยๆ ยิ้มขึ้นมา นี่เธอเป็นอะไร? ความรู้สึกดีที่เพิ่งงอกขึ้นมา ถูกเหลิ่งเซ่าถิงเหยียบย่ำในพริบตาเดียว แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่โทษเหลิ่งเซ่าถิงหรอกนะ เพราะทั้งๆ ที่รู้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงดูถูกเธอ เธอยังชอบเหลิ่งเซ่าถิงได้ลง ต่ำต้อยเกินไปจริงๆ เธอควรโดนด่า นี่ทำให้เธอมีสติขึ้นมาหน่อย สามารถตื่นขึ้นมาจากภาพลวงตาในการชื่นชอบเหลิ่งเซ่าถิงได้

“คำพูดของคุณชายเหลิ่ง ฉันจำมันได้แล้ว ฉันชอบคุณจริงๆ เมื่อกี้เพิ่งรู้ ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมเป็นแบบนี้ และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงชอบคุณ บางทีอาจจะเพราะคุณรวย บางทีอาจจะเพราะคุณหน้าตาดี และบางทีอาจจะเพราะตอนคุณกอดฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณกำลังปกป้องฉัน เกิดภาพลวงตาว่าฉันชอบคุณได้ แต่ต่อไปนี้ไม่แล้วล่ะ ฉันจะระงับความรู้สึกนี้เอาไว้ กำจัดมันคลุมมันเอาไว้ ทำให้มันหายไปตลอดกาล”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดขณะที่ยิ้มแล้วยืนขึ้น พูดเสียงทุ้มกับเหลิ่งเซ่าถิง “ฉันขอบคุณคุณมากนะ ที่ปฏิเสธฉันตรงๆ แบบนี้ ทำให้ฉันมีสติขึ้นมาอีกครั้ง ไม่งั้นถ้าฉันชอบคุณมากขึ้น จุดจบของฉันจะต้องยิ่งอึดอัดใจมากแน่ๆ ฉันยอมรับว่าฉันชอบคุณ แต่เรื่องที่ชอบคุณ ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

เหลิ่งเซ่าถิงไม่คิดว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะยอมรับตรงๆ เขาตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ถอยหลังหนึ่งก้าว พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เธอคิดอย่างดีได้ก็ดีมาก”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปาก ประคองท้อง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “งั้นฉันลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ก่อนนะ ถ้าต่อจากนี้ฉันทำอะไรที่ทำให้คุณคิดว่าฉันชอบคุณ ก็หวังว่าคุณจะเตือนฉัน ฉันจะรีบแก้ไขมันทันที และหวังว่าต่อจากนี้ตอนคุณกอดฉัน ห่มผ้าให้ฉัน ก็บอกฉันว่าที่คุณทำไปทั้งหมดมันเพราะฉันหรือเด็กในท้อง หรือต้องการแสดงให้คนอื่นเห็น ฉันจะได้ไม่เข้าใจผิด”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ ก็หันตัวเดินออกไปจากห้อง เหลิ่งเซ่าถิงมองแผ่นหลังเจี่ยนอี๋นั่ว ขมวดคิ้ว เขายกมือขึ้นนวดขมับ จู่ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

เขาไม่เคยทำอะไรผิดพลาด เขารู้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้หลับ จริงๆ แล้วตื่นตลอดเวลา เขาเห็นความเหนียมอายของเจี่ยนอี๋นั่วตอนถามเบาๆ ว่าทำไมเขาถึงกอดเธอ เขาแน่ใจว่าจะไม่ชอบผู้หญิงอย่างเจี่ยนอี๋นั่ว เขาไม่มีทางยอมรับภรรยาของตนที่น่าอับอายตั้งแต่แรก

การปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เธอตัดใจ มันก็ดีกับเขา และยิ่งดีกับเธอด้วย ครั้งหนึ่งเหลิ่งเซ่าถิงเคยปฏิเสธผู้หญิงมามากมาย ถึงขนาดบางครั้งแม้แต่การปฏิเสธก็ขี้เกียจจะพูด แค่ส่งสายตาเย็นชาออกไป ก็ทำให้ผู้หญิงคนนี้พ้นไปจากสายตาเขาได้

แต่อาจจะเพราะเจี่ยนอี๋นั่วยอมรับอย่างง่ายดายเกินไป ตกลงเด็ดขาดเกินไป ทำให้เหลิ่งเซ่าถิงเกิดความรู้สึกว่าจริงๆ แล้วคนที่โดนปฏิเสธคือเขา

เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตามองไปที่เตียง มองตำแหน่งที่นอนของเจี่ยนอี๋นั่ว ขมวดคิ้วขึ้นมาช้าๆ

เจี่ยนอี๋นั่วยืนอยู่นอกประตู ยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเอง เธอรู้สึกว่าเธอขายขี้หน้าเกินไปแล้วจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วเคยคบกับแฟนแค่ฉู่หมิงเซวียนคนเดียว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มันค่อนข้างราบรื่นมากในตอนแรก เธอไม่เคยมีประสบการณ์แอบชอบผู้ชายในช่วงวัยรุ่น

เหลิ่งเซ่าถิงเป็นคนแรกที่เธอตกหลุมรักก่อน แต่เป็นผู้ชายที่ปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี ที่น่าขำที่สุดก็คือ เธอไม่ทันได้สารภาพรัก ไม่ทันได้ซ่อนตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกเหลิ่งเซ่าถิงปฏิเสธอย่างไร้ความปรานีเสียแล้ว ก่อนหน้านี้เจี่ยนอี๋นั่วไม่เชื่อว่าสาวงามคนใดจะสามารถทำให้ประเทศชาติล่มจมได้ รู้สึกว่านั่นเป็นพระราชาที่ไร้ความรับผิดชอบ

แต่ตอนนี้เธอรู้สึกจริงๆ ว่าถ้ามีใครสักคนหน้าตาระดับเหลิ่งเซ่าถิง ก็อาจจะมีพระราชายินยอมที่จะจุดสัญญาณไฟหยอกล้อเจ้าแห่งรัฐจริงๆ ก็ได้ อย่างไรแล้วเธอที่ปกติสามารถควบคุมได้ ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับใบหน้าเหลิ่งเซ่าถิง ทำอะไรโง่ๆ มากมายออกไปด้วยความสับสน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท