หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 38 ต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินข่าวเฉินซานซานโดนตำรวจจับแล้ว ก็ปล่อยขวดแก้วในอ้อมกอด ค่อยๆวางไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เปลี่ยนชุดคนไข้ออกแล้วใส่ชุดของหล่อนเองแล้วเดินออกห้องคนไข้ เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆตื่นจากอาการโศกเศร้าจากการแท้งลูก ก็นึกถึงเรื่องราววันที่ได้ข่าวว่าคุณพ่อของหล่อนฟื้นขึ้นมาแล้วทันที

ถึงแม้ว่าหล่อนจะเจ็บปวดที่สูญเสียลูกไป แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วต้องเข้มแข็งขึ้นมาให้ได้ เพราะว่าหล่อนยังต้องดูแลคุณพ่อ คุณพ่อของหล่อนพึ่งฟื้นขึ้นมา หล่อนยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ต้องคุยกับคุณพ่อ

เจี่ยนอี๋นั่วกัดริมฝีปากฝืนทนความเจ็บแล้วค่อยๆเดินไปทางห้องคนไข้ ห้องของเจี่ยนฉางยุ่น หล่อนเหมือนวิญญาณพเนจรและเหมือนร่างกายที่ไร้ชีวิต เป้าหมายเพื่อต้องการพบหน้าคุณพ่อให้เร็วกว่านี้ จึงค่อยๆขยับตัวอย่างยากลำบาก

เจี่ยนอี๋นั่วในใจคิดเพียงว่าขอแค่ได้เจอหน้าคุณพ่อพอแล้ว รอให้คุณพ่อแข็งแรงขึ้น สิ่งที่หล่อนทำมาทั้งหมดมันก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

มันไม่ง่ายเลยที่เดินมาถึงหน้าห้องเจี่ยนฉางยุ่น เจี่ยนอี๋นั่วเห็นพยาบาลพิเศษที่ดูแลคุณพ่อกำลังเดินออกจากห้องมา

พยาบาลพิเศษเห็นเจี่ยนอี๋นั่วรีบพูดว่า:“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ฉันรอคุณมาตลอด ก่อนหน้านี้โทรหาคุณ แต่ว่าคุณไม่รับสาย ทำไมสีหน้าของคุณ ……”

เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งแท้งลูก สีหน้าซีดเซียว หล่อนต้องคอยใช้มือยันกำแพงเพื่อไม่ให้ล้ม รีบส่ายหัว:“ฉันไม่เป็นอะไรมาก คุณพ่อของฉันตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างคะ?”

พยาบาลพิเศษคิ้วขมวดพูดด้วยความลำบากใจว่า:“เมื่อวานพึ่งได้รับการตรวจ คุณพ่อของคุณ……ร่างกายของเขามีบางอย่างที่ผิดปกติ”

“ผิดปกติยังไง?”เจี่ยนอี๋นั่วตื่นตระหนกถามกลับ

พยาบาลพิเศษพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“หลังจากที่ได้ทำการการตรวจและวินิจฉัยพบว่าคุณพ่อของคุณสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตอนนี้สติปัญญาได้รับความเสียหาย กลัวว่าจะไม่สามารถใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปได้อีก ……”

“อะไรนะ?”เจี่ยนอี๋นั่วสั่นไปทั้งตัว จากนั้นใช้มือยันกำแพงเพื่อไม่ให้ล้ม :“อะไรคือสติปัญญาได้รับการกระทบกระเทือนคะ?”

พยาบาลพิเศษรีบไปพยุงเจี่ยนอี๋นั่ว รีบร้อนพูดตอบกลับ:“เป็นเพราะว่าคุณพ่อของคุณเลือดคั่งในสมอง เลือดคั่งเยอะมาก ทำให้เนื้อเยื้อในสมองได้รับการความเสียหายอย่างรุนแรง อาการมันต่างจากอัลไซเมอร์ คุณพ่อของคุณความจำได้รับความเสียหายอย่างถาวร ตอนนี้เขาจำได้เพียงแค่ ……”

“จำได้เพียงอะไรคะ?”เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองพี่เลี้ยงถามด้วยตาที่แดงก่ำ

พยาบาลพิเศษพูดว่า:“จำได้เพียงคุณและน้องสาวของคุณ เขาเรียกหา‘อี๋นั่ว’และ ‘ฮุ่ยฮุ่ย’ตลอด ……”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบหลับตาลง น้ำตาของหล่อนไหลออกมาทันที พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ:“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?ฉันตั้งใจรอให้คุณพ่อฟื้นขึ้นมาทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

“คุณอย่าพึ่งคิดมากไปเลย คุณหมอบอกว่ายังต้องทำการตรวจและวินิจฉัยอีกขั้นหนึ่ง คุณรีบเข้าไปดูคุณพ่อของคุณก่อนเถอะ เผื่อคุณพ่อได้เห็นหน้าคุณ ท่านอาจจะนึกเรื่องราวอะไรขึ้นมาได้”พยาบาลพิเศษพูดปลอบใจเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วใช้แรงกัดไปที่ริมฝีปากหนึ่งที ยกมือปาดน้ำตาของตัวเอง เปิดประตูแล้วค่อยๆเดินเข้าไป พึ่งจะเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เจี่ยนอี๋นั่วก็เห็นคุณพ่อของตัวเองนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ ท่านหันหลังให้เจี่ยนอี๋นั่วอยู่ นั่งเหม่อลอยมองไปทางหน้าต่าง

เจี่ยนอี๋นั่วยันกำแพงเบาๆ ค่อยๆเดินเข้าไปหาทีละก้าว การก้าวเดินแต่ละก้าว หล่อนต้องใช้แรงอย่างมาก เดินไปจนถึงด้านหลังเจี่ยนฉางยุ่น เจี่ยนอี๋นั่วก็เรียก:“คุณพ่อ……”

เจี่ยนฉางยุ่นไม่ได้หันหลังกลับมามอง เขายังคงเงยหน้ามองไปทางหน้าต่างตลอด สายตาของเขาว่างเปล่าจ้องมองที่หน้าต่าง พูดโดยไม่รู้ตัว :“อี๋นั่ว กินเค้กลูก ……ฮุ่ยฮุ่ยต้องเชื่อฟังพี่สาวนะ……”

“คุณพ่อคะ คุณพ่อมองหน้าหนูสิคะ หนูคืออี๋นั่ว หนูมาเยี่ยมคุณพ่อแล้วนะคะ”เจี่ยนอี๋นั่วรีบเดินเข้าไปหาและกุมมือของเจี่ยนฉางยุ่นทันที

แต่ว่าเจี่ยนฉางยุ่นไม่ตอบสนองใดๆ ยังคงจ้องมองไปทางหน้าต่างบานนั้น พูดซ้ำโดยไม่รู้สึกตัว:“อี๋นั่ว กลับมากินข้าวที่บ้านได้แล้ว……”

เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆคุกเข่าลงข้างเตียง ปิดปากพร้อมร้องไห้ออกมา:“คุณพ่อคะ……คุณพ่อคะ……คุณพ่อมองหน้าหนูสิคะ หนูคืออี่นั่ว หนูมาหาคุณพ่อแล้วค่ะ คุณพ่อมองหนูสิคะ คุณพ่ออย่าเป็นแบบนี้ได้ไหมคะ หนูตั้งใจรอคุณพ่อฟื้นขึ้นมา คุณพ่ออย่าไม่สนใจหนูแบบนี่สิคะ หนูไม่หลงเหลืออะไรอีกแล้วค่ะ ลูกก็เสียแล้ว ศักดิ์ศรีก็ไม่มีแล้ว คุณพ่ออย่าเป็นแบบนี้สิคะสนใจหนูหน่อยสิคะ”

ถึงแม้เจี่ยนอี๋นั่วจะเรียกยังไง เจี่ยนฉางยุ่นก็ไม่ตอบสนองใดๆ ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงเจี่ยนอี๋นั่วเรียกเลยสักนิด เจี่ยนฉางยุ่นไม่มองเจี่ยนอี๋นั่วเหมือนเดิม เพียงแต่จ้องมองไปทางหน้าต่างพูดซ้ำๆด้วยน้ำเสียงเบาๆ:“อี๋นั่ว……ฮุ่ยฮุ่ย……พวกหนูต้องเป็นเด็กดีนะลูก ……”

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเจี่ยนฉางยุ่นส่ายหัวไปมาไม่หยุด หล่อนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง คุณพ่อของหล่อนต้องเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตสิ ไม่ใช่ต้องมาเป็นคนไข้ติดเตียงแบบนี้ จ้องมองไปทางด้านหน้าต่างอย่างเดียว ไม่มีความรู้สึกชีวิตอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี

เจี่ยนอี่นั่วร้องไห้พร้อมพูดว่า:“คุณพ่อ หนูคืออี๋นั่ว หนูต้องการคุณพ่อมากนะคะ หนูต้องการให้คุณอยู่เคียงข้างหนูในวันที่เจอแต่เรื่องแย่ๆ คุณพ่อพูดกับหนูสิคะ อย่าไม่สนใจหนูแบบนี้สิคะ ถ้าหากคุณพ่อโกธรหนูแล้ว คุณพ่อพูดกับหนูสิคะ หนูจะปรับปรุงแก้ไข หนูจะปรับปรุงตัวเอง หนูจะปรับปรุงตัวเองจริงๆนะคะ คุณพ่อพูดกับหนูสิคะ……”

แต่ไม่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะพูดอะไร เจี่ยนฉางยุ่นทำเพียงแค่จ้องมองไปหน้าต่างบานนั้น แววตาเหม่อลอย เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ

“โอ้พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เฮ่อเยี่ยนหงตะโกนไปด้วยพร้อมกับวิ่งเข้าห้องคนไข้ไปด้วย

เฮ่อเยี่ยนหงแกล้งแสดงอาการร้องไห้ออกมาแล้วก็วิ่งไปข้างๆเจี่ยนฉางยุ่น :“คุณเจี่ยน ในที่สุดคุณก็ฟื้น?ระยะเวาลานี้พวกเราใช้ชีวิตกันยังคุณรู้บ้างไหม?คุณต้องให้ความเป็นธรรมกับเราพวกด้วยนะคะ เจี่ยนอี๋นั่วหล่อนมีเงินทองมากมายขนาดนั้น ก็ไม่ยอมแบ่งให้พวกเราใช้กันบ้างเลยคะ……”

ในขณะที่เฮ่อเยี่ยนหงกำลังพูดก็หันหน้าตะโกนออกไปนอกห้อง:“ฮุ่ยๆรีบเข้ามาลูก รีบมาดูอาการของคุณพ่อ”

“พอได้แล้วค่ะ พอได้แล้วค่ะ หนูยังต้องเล่นเกมส์อยู่นะคะ อย่าทำให้หนูเสียเวลา ฟื้นก็ฟื้นแล้วสิคะจะอะไรกันนักกันหนา?”เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดพร้อมเดินเข้าห้องคนไข้ด้วย

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและเจี่ยนอี๋นั่วมีคิ้วที่คล้ายคลึงกัน แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถในการทำงานและมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วกลับเป็นผู้หญิง เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่1 หล่อนจะสวมใส่แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมและทาเล็บหลากสี กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นแต่มือถือ

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเล่นมือถือไปด้วยพร้อมหัวเราะไปด้วย:“ฮ่าฮ่า ไอ้โง่เอ้ย เล่นแพ้ฉันอีกแล้ว สมน้ำหน้า!”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย ค่อยๆปาดน้ำตาหันหน้ามองไปทางเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดขึ้นว่า:“เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย คุณพ่อเรียกหาชื่อเธอตลอด เธอเดินมาดูคุณพ่อหน่อยได้ไหม?ตอนนี้คุณพ่อได้รับการกระทบกระเทือนสมองอย่างรุนแรง จำได้เพียงแค่ฉันและเธอแล้ว ……”

เฮ่อเยี่ยนหงก็รู้สึกว่าเจี่ยนฉางยุ่นไม่เหมือนเดิม หล่อนคิ้วขมวดทันทีตะคอกใส่เจี่ยนฉางยุ่นสองสามคำ ปรากฏว่าเจี่ยนฉางยุ่นไม่มีการตอบสนองใดๆ จากนั้นค่อยหันหลังมองเจี่ยนอี๋นั่ว:“ทำไมฉันตะโกนเรียนชื่อพ่อเธอ เขาไม่มีการตอบสนองใดๆ?เกิดอะไรกับเขากันแน่?”

เจี่ยนอี๋นั่วสำลักพร้อมพูดว่า:“คุณพ่อได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรง สติปัญญาของคุณพ่อได้รับความเสียหาย”

เฮ่อเยี่ยนหงรีบตอบกลับ:“ถ้าอย่างนั้น ……”

เฮ่อเยี่ยนหงยังไม่ทันพูดจบ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็รีบตะโกนออกมาว่า:“ถ้าอย่างนั้นก็กลายเป็นคนบ้าแล้วสิ ถ้าให้เพื่อนนักเรียนของหนูรู้ว่าคุณพ่อเป็นคนบ้า หนูจะขายขี้หน้าขนาดไหนกัน”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดจบก็หันหลังเตรียมเดินจากห้องคนไข้

“เธอจำไว้ให้ดีนะ!”เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนพูดกลับ

เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบแล้วปาดน้ำตาพร้อมลุกขึ้น หันหน้าตะโกนใส่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย:“เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย!เธอกล้าพูดประโยคเมื่อกี้กล้าพูดอีกครั้งไหม?เขาคือคุณพ่อของเธอ!คนที่มอบความสุขความสบายในชีวิตให้กับเธอ เธอพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

“ฉันทำอะไร?ก็เป็นคนบ้าจริงๆนี่ ……”เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยยังเถียงไม่หยุด

เจี่ยนอี๋นั่วเดินเข้าไปหา ยกมือขึ้นตบหน้าเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไปหนึ่งทีแล้วกัดฟันพูดว่า:“ตอนนี้

ตอนนี้เกิดเรื่องกับคุณพ่อและในฐานะที่ฉันเป็นพี่สาวคนโต ฉันก็ควรที่จะสั่งสอนเธอได้ ให้เธอได้รู้ว่าอะไรควรพูดหรืออะไรไม่ควรพูด ในฐานะลูกสาวควรจำทำตัวยังไง!คุณพ่อท่านรักและเอ็นดูเธอมาตลอด ตอนนี้ถึงแม้ว่าสมองของท่านจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จำได้เพียงแค่เธอและฉันเท่านั้น ทำไมเธอถึงอกตัญญูเช่นนี้?”

“คุณแม่คะ คุณแม่ดูหล่อนสิคะ หล่อนกลับตบหนู!”เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยรีบไปซบข้างกายเฮ่อเยี่ยนหง

เฮ่อเยี่ยนหงเอาตัวมาบังให้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย เห็นเจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองหล่อนด้วยหน้าตาที่เย็นชาดุร้าย เฮ่อเยี่ยนหงที่กลัวเจี่ยนอี๋นั่วอยู่แล้วก็เกิดสะดุ้ง กล้าพูดเพียงแค่ว่า:“ลูก เมื่อกี้ลูกก็พูดเกินไป พูดมั่วๆแบบนี้ได้ยังไง?”

“ฮึม พวกคุณก็ปกป้องแต่เจี่ยนอี๋นั่ว ไม่มีใครอยู่ข้างหนูสักคน พวกคุณไม่เคยแคร์ความรู้สึกของหนู หนูจะหนีออกจากบ้านเดี๋ยวนี้แล้วก็จะไม่กลับมาอีกแล้ว”เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยร้องไห้พร้อมพูดตะโกน

“ถ้าเธอกล้าก้าวออกจากห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว บัตรเครดิตของเธอทั้งหมดจะโดนระงับ และฉันจะไม่ให้เธอใช้แม้แต่สลึงเดียว!”เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เธอ……”เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยจ้องมองเจี่ยนอี๋นั่ว ร้องไห้พร้อมพูดขึ้นว่า:“ทำไมเธอถึงไม่มีเหตุผลขนาดนี้นะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพึ่งแท้งลูก เมื่อกี้อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เกือบยืนต่อไปไม่ไหว ต้องยึดจับตู้ข้างกำแพงไว้ถึงสามารถทรงตัวยืนอยู่ได้ แต่ว่าหล่อนกัดริมฝีปากแน่นพูดกับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา:“ฉันจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่คุณพ่อป่วยท่านเรียกหาแต่ชื่อของเธอและฉัน

ไม่ว่าเธอจะรังเกลียดพี่สาวอย่างฉันคนนี้มากแค่ไหน คุณพ่อดีต่อเธอมากแค่ไหน เธอไม่สมควรที่จะพูดจาแบบนี้กับท่าน!นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องอยู่ดูแลปกป้องตระกูลเจี่ยนและดูแลคุณพ่อของเราไปด้วยกัน”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยรีบเอามือปิดหน้าและร้องไห้ออกมา:“ฉันไม่สน ฉันไม่อยากดูแลใครทั้งนั้น ฉันยังสาวและสวย ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบเธอ มีผู้ชายมากมายที่เต็มใจให้เงินฉันใช้ ฉันไม่ต้องการเหมือนหล่อน เป็นแม่หม้ายที่ถูกทอดทิ้ง และไม่ต้องการดูแลคนป่วย ในวัยที่สดใสของฉันไม่ควรต้องมานั่งดูแลคนชราแบบนี้หรอก !”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดจบรีบหันหลังวิ่งออกไป เฮ่อเยี่ยนหงรีบวิ่งตามออกไป:“ฮุ่ยฮุ่ย ลูกคนนี้นี่ ลูกอย่าวิ่งสิ ถ้าหากลูกวิ่งออกจากห้องคนไข้นี้ไป ลูกจะไม่ได้เงินใช้อีกนะ คนอย่างหล่อนพูดจริงแล้วก็ทำจริงๆนะ!”

เฮ่อเยี่ยนหงพูดจบมองหน้าเจี่ยนอี๋นั่วพูดขึ้นว่า:“อี๋นั่ว เธอจะหยุดให้เงินฮุ่ยฮุ่ยใช้ไม่ได้นะ หล่อนเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอนะ”

เจี่ยนอี๋นั่วสีหน้าเฉยเมยกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ฉันไม่มีน้องสาวที่อกตัญญูแม้แต่คุณพ่อของตัวเองแท้ๆยังรังเกียจได้ลงคอ หล่อนไม่มีเหตุผล ก็ควรได้รับในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้

!”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท