หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 90 พวกเราคือรักแท้

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

“งั้นเหรอ? ฮุ่ยฮุ่ยอาจจะไม่ได้อยู่กับฉู่หมิงเซวียน? งั้นก็ดีสิ!” เฮ่อเยี่ยนหงพูด แล้วถอนหายใจออกมายาว

แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด คิ้วของเธอขมวดแน่น ในทางกลับกันรู้สึกว่ายิ่งกดดันเข้าไปอีก ถ้าเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยอยู่ด้วยกันกับฉู่หมิงเซวียน งั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็ยังสามารถคิดหาวิธีได้ อย่างน้อยเธอก็ยังนับว่าคุ้นเคยกับฉู่หมิงเซวียนอยู่บ้าง สามารถเดาทางได้ว่าฉู่หมิงเซวียนจะทำอะไร

แต่ถ้าเป็นคนใดคนหนึ่งในตระกูลเหลิ่งลักพาตัวเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย งั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็คงไม่มีวิธีแล้วจริงๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในตระกูลเหลิ่งจะใช้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยทำเรื่องแบบไหน

“คุณหญิง กู้คืนมือถือได้แล้วครับ” คนที่กู้คืนระบบมือถือยื่นมือถือส่งมาให้เจี่ยนอี๋นั่ว

“คุณหญิง? อี๋นั่ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เธอ เธอแต่งงานแล้ว?” เฮ่อเยี่ยนหงขมวดคิ้วมองเจี่ยนอี๋นั่ว ถามอย่างประหลาดใจ

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปาก แล้วพยักหน้าเบาๆ:“ฉันแต่งงานแล้ว”

เฮ่อเยี่ยนหงตกใจเบิกตากว้าง:“นี่……นี่มันเป็นไปได้ยังไง? ถ้าเธอแต่งงาน ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลยล่ะ? อีกอย่างดูคนพวกนี้สิ เป็นลูกน้องของสามีเธอหมดเลยเหรอ? คนที่เธอแต่งงานด้วยคงจะไม่ธรรมดาสินะ? ในเมื่อแต่งงานกับคนที่ดีขนาดนี้ ทำไมไม่บอกพวกเราหน่อยล่ะ? เธอกลัวว่าฉันกับฮุ่ยฮุ่ยจะทำให้เธอเสียเวลาเหรอ? พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ ถ้าเธอได้แต่งงานกับคนที่ดี สามารถช่วยฉันกับฮุ่ยฮุ่ยได้ ฉันก็ดีใจด้วย ไม่มีทางเป็นภาระเธอแน่นอน ฉันยังหวังอยู่เลยว่าเธอจะหาคนที่ดีสักคนให้ฮุ่ยฮุ่ย……”

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้นะ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือต้องหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยให้เจอ” เจี่ยนอี๋นั่วพูดกับเฮ่อเยี่ยนหงด้วยเสียงเย็นชา

เฮ่อเยี่ยนหงได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย จู่ๆก็นึกขึ้นได้ แล้วรีบบังหน้าร้องไห้ออกมา:“จริงสิ ฮุ่ยฮุ่ยของฉัน……ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว……”

เจี่ยนอี๋นั่วมองเฮ่อเยี่ยนหง แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮ่อเยี่ยนหงคนนี้ไม่สามารถพูดข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์กับเธอได้เลย เรื่องตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย เธอคงต้องพึ่งตัวเองแล้วล่ะ เจี่ยนอี๋นั่วรีบหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูหน้าข้อความ เธอเห็นว่าเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยโทรคุยกับเบอร์ที่ไม่รู้จักหลายสายมาก อีกอย่างในข้อความมีไม่กี่ข้อความที่ใช้ได้ ในข้อความที่ใช้ได้มีนัดเจอที่ไหนและนัดเจอเมื่อไหร่อยู่

ถึงแม้ว่าในข้อความจะไม่ได้พูดถึงชื่อของฉู่หมิงเซวียน แต่เจี่ยนอี๋นั่วมีความรู้สึกว่าคนที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยส่งข้อความไปหา มีความเป็นไปได้ว่าเป็นฉู่หมิงเซวียน พอพบว่าคนที่ไปมาหาสู่กับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคือฉู่หมิงเซวียน เจี่ยนอี๋นั่วก็ผ่อนคลายลง เธอชี้ไปที่สถานที่ในข้อความ:“ตอนนี้รีบไปที่สถานที่นี้ ที่นี่น่าจะมีกล้องวงจรปิด ไปถึงแล้วก็คิดวิธีที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิด พอหาร่องรอยของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเจอ ให้รีบมาบอกฉัน”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เลือกรูปเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและฉู่หมิงเซวียนออกมาจากมือถือ แล้วส่งให้คนอื่นๆผ่านข้อความ:“สองคนนี้แหละ แล้วเดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลอย่างละเอียดของสองคนนี้ตามไป ตอนนี้รีบไปหาเถอะ”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ คนอื่นๆก็แยกย้ายกันไป เริ่มตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย เฮ่อเยี่ยนหงเช็ดน้ำตา มองเจี่ยนอี๋นั่วแล้วพูด:“พวกเราก็ควรจะตามไปหาด้วยสิ คนตามหาเพิ่มขึ้น โอกาสเจอก็เพิ่มขึ้น”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า:“ใช้กำลังคนสิ้นเปลืองไม่ได้ พวกเขาตามหลังเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไป พวกเราต้องไปรอเขาที่ด้านหน้า ในเมื่อมีกำลังคนพอที่จะตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยแล้ว ตอนนี้คุณก็กลับไปที่บ้านพักก่อน ฉันจะจัดคนให้ไปคุ้มครองคุณสองคน คุณห้ามออกจากบ้านพักนะ ฮุ่ยฮุ่ยไม่ได้พกเงินติดตัว ฉู่หมิงเซวียนก็เหมือนกัน ถ้าพวกเขายังอยากจะมีชีวิต มีความเป็นไปได้ว่าจะให้ฮุ่ยฮุ่ยกลับไปเอาเงินที่บ้านพัก ถ้าฮุ่ยฮุ่ยกลับไป คุณต้องคิดวิธีให้เธออยู่ต่อ ถ้าอยู่ต่อไม่ได้จริงๆ คุณก็ให้มือถือเธอไปเครื่องหนึ่ง พวกเราสามารถตามตำแหน่งที่อยู่เธอจากมือถือ แล้วหาเธอเจอได้”

เฮ่อเยี่ยนหงรีบพยักหน้า:“ฉันรู้แล้ว ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ แล้วเธอล่ะอี๋นั่ว?”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว:“ฉันจะไปหาฉู่หมิงเซวียน ช่วงนี้เขาไม่ได้ใช้บัตรธนาคารไม่ได้ใช้บัตรประชาชน เงินสดติดตัวก็ไม่พอ แถมยังหาวิธีติดต่อกับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยได้อีก ต้องมีคนช่วยเขาอยู่แน่ ฉันต้องคัดเลือกเพื่อนฝูงญาติพี่น้องของฉู่หมิงเซวียนสักหน่อย หาคนที่น่าจะเป็นคนช่วยเหลือฉู่หมิงเซวียน บางทีเขาอาจจะล่อฉู่หมิงเซวียนออกมาให้ได้”

เฮ่อเยี่ยนหงได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ จู่ๆก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกอะไรขนาดนั้นแล้ว เธอรีบจับมือของเจี่ยนอี๋นั่วขึ้นมา พูดอย่างสะอึกสะอื้น:“อี๋นั่วเธอต้องหาให้ละเอียดนะ เรื่องฮุ่ยฮุ่ยฉันฝากเธอด้วย”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า:“คุณก็ระวังตัวด้วย เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับฮุ่ยฮุ่ย คุณต้องบอกฉันให้หมด ห้ามทำอะไรโดยพลการ ถ้าพวกเขาใช้ชื่อของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยนัดคุณออกไป คุณก็ต้องบอกฉันก่อน พวกเขาอาจจะลักพาตัวคุณ พอถึงตอนนั้นคุณไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยฮุ่ยฮุ่ยออกมาได้ ในทางกลับกันก็จะทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายไปด้วย”

เฮ่อเยี่ยนหงพยักหน้าติดต่อกัน:“โอเค ฉันจะจำไว้ ฉันจะไม่ไปไหน”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเฮ่อเยี่ยนหง เธอก็พยักหน้าเบาๆ หลังจากนั้นก็กวักมือเรียกคนมาหนึ่งคน ให้คนนั้นส่งเฮ่อเยี่ยนหงกลับบ้านพักตระกูลเจี่ยน

หลังจากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เริ่มสืบหาจากเบอร์ที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยติดต่อมาตลอด เบอร์ที่ไม่รู้จักนั้นถ้าเป็นฉู่หมิงเซวียน มีความเป็นไปได้ว่าฉู่หมิงเซวียนจะใช้เบอร์นั้นติดต่อกับคนอื่นๆ เจี่ยนอี๋นั่วคัดเลือกทีละเบอร์ ในที่สุดก็หาคนที่มีความเป็นไปได้ว่าช่วยเหลือฉู่หมิงเซวียนเจอ คิดไม่ถึงว่าเขาคือหวังเหมี่ยน

ขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วกำลังจะโทรหาหวังเหมี่ยน คนที่กำลังตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็ส่งข้อความกลับมา เป็นคลิปรอบๆสถานที่ที่พวกเขานัดเจอกัน เป็นอย่างที่คิด เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยอยู่กับฉู่หมิงเซวียน แต่ตอนนี้หาร่องรอยฉู่หมิงเซวียนกับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไม่เจอแล้ว

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว แล้วรีบโทรหาหวังเหมี่ยน เสียงของหวังเหมี่ยนค่อนข้างตื่นตระหนก:“ประธานเจี่ยน……มีธุระอะไรเหรอ?”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินน้ำเสียงของหวังเหมี่ยนที่ตื่นตระหนก ก็รีบถามเสียงเย็นชา:“คุณไม่ต้องพูดเจรจากับฉัน ฉันถามคุณหน่อย คุณให้เงินฉู่หมิงเซวียนไปก้อนหนึ่งใช่ไหม?”

หวังเหมี่ยนถอนหายใจเบาๆ:“ประธานเจี่ยน……ตอนนี้เขาน่าสงสารมากนะ ทั้งๆที่เป็นคนที่มีความสามารถขนาดนั้น ถูกบีบจนถึงขั้นนี้แล้ว ผมในฐานะที่เป็นเพื่อนอดใจไม่อยู่จริงๆ เขามาขอร้องผมแล้ว ผมก็เลยให้คนของบริษัทย่อยให้เงินเขาไปก้อนหนึ่ง”

“เงินสด?” เจี่ยนอี๋นั่วถามเสียงเย็นชา

หวังเหมี่ยนตอบรับ:“ใช่ เขาต้องการแค่เงินสด”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบพูดเสียงเย็นชา:“งั้นตอนนี้คุณติดต่อเขา ฉันจะบอกสถานที่คุณ คุณให้เขาไปที่นั่นเพื่อรับเงิน”

“ประธานเจี่ยน อย่าบีบจนเขาไม่เหลือที่ยืนแบบนี้เลย ยังไงซะคุณก็เคยคบกับเขา ยกโทษให้ได้ก็ยกให้เถอะ” หวังเหมี่ยนยังคงแก้ต่างให้ฉู่หมิงเซวียน

เจี่ยนอี๋นั่วเพิ่มระดับเสียงแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง:“เขาลักพาตัวน้องสาวฉันไป มีความเป็นไปได้ว่าข่มขู่เธอ ตอนนี้คุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการทำผิดกฎหมายนะ หวังเหมี่ยน ถ้าเกิดน้องสาวฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันไม่มีทางให้คุณได้อยู่สงบสุขแน่ พอถึงเวลานั้น ฉันจะทำให้คุณรู้ ว่าอะไรคือบีบจนไม่เหลือที่ยืนที่แท้จริง!”

“หา……แบบนี้นี่เอง……” หวังเหมี่ยนพูดอย่างร้อนรน:“ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย ประธานเจี่ยนคุณวางใจเถอะ ผมจะรีบโทรไปหาเขา งั้นผมวางสายก่อนนะ รอให้ผมติดต่อเขาได้ ผมจะรีบติดต่อคุณไป”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินมือถือถูกวางสายแล้ว ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วขมวดคิ้ว เธอเม้มริมฝีปาก ขมวดคิ้วรอสักพัก แล้วคิดว่าจะแจ้งความดีไหม ถ้าแจ้งความสามารถใช้กำลังหลายคนในการตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยได้ แต่มันก็เป็นการประกาศความสัมพันธ์ระหว่างฉู่หมิงเซวียนกับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเหมือนกัน พอถึงตอนนั้นเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยจะยืนในสังคมนี้ยังไง?

แต่ถ้ายังเสียเวลาต่อไปอีก……

เจี่ยนอี๋นั่วที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทั้งสองอย่างกำลังครุ่นคิด มือถือของเจี่ยนอี๋นั่วดังขึ้นอีกครั้ง เธอรีบรับโทรศัพท์ ก็ได้ยินหวังเหมี่ยนพูดอย่างร้อนรน:“ประธานเจี่ยน ผมติดต่อกับฉู่หมิงเซวียนได้แล้ว อีกสักพักเขาจะไปเจอกับคนของผมที่ศูนย์การค้าหอไข่มุก พวกคุณสามารถไปที่นั่นตอนนี้ได้เลย ประธานเจี่ยน เรื่องนี้ผมทำได้ไม่ถูกต้องไม่ถูกมนุษยธรรม หวังว่าคุณจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องก่อนหน้านี้ที่ผมทำไปนะ”

“วางใจเถอะ เรื่องก่อนหน้านี้ ฉันไม่เอามาใส่ใจหรอก” เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ ก็วางสายโทรศัพท์เลย

หลังจากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็บอกให้ทุกคนทราบทันที ให้ไปที่ศูนย์การค้าหอไข่มุก พอถึงที่ศูนย์การค้าหอไข่มุกแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วก็นั่งอยู่ในรถ จ้องทิศทางการเคลื่อนไหวในศูนย์การค้า รอประมาณสองชั่วโมง เจี่ยนอี๋นั่วก็มองเห็นเงาของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย

คนที่จัดเตรียมไว้แล้วรีบโผเข้าไปจับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเอาไว้

เจี่ยนอี๋นั่วรีบเดินลงจากรถไป มองเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย ขมวดคิ้วแล้วถาม:“เธอคนเดียวเหรอ? ฉู่หมิงเซวียนล่ะ?”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยดิ้นแล้วตะโกนออกมา:“เจี่ยนอี๋นั่ว ผู้หญิงอย่างเธอมันอำมหิต ที่ทำแผนการร้ายนี่ล่อฉันออกมา!”

“ฉู่หมิงเซวียนล่ะ?” เจี่ยนอี๋นั่วกดไหล่ของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยแล้วตะโกนออกมา:“เขาอยู่ไหน?”

ถ้าจับฉู่หมิงเซวียนไม่ได้ เจี่ยนอี๋นั่วก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยตะโกนออกมา:“ฉันจะบอกเธอให้ เธออย่าคิดว่าจะหาหมิงเซวียนเจอ ฉันจะปกป้องเขา ฉันไม่มีทางให้เขาถูกผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอทำร้ายหรอก!”

เจี่ยนอี๋นั่วจ้องเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย:“เธอรู้ไหมว่าเขาทำอะไรเธอลงไปบ้าง? ทำไมเธอยังจะปกป้องเขาแบบนี้อีก? เขาอัดคลิปที่เธอมีอะไรกับเขาไว้ แล้วมาขู่ฉัน ฮุ่ยฮุ่ย เธอหยุดโง่ได้แล้ว!”

“เป็นไปไม่ได้ เขาบอกว่าเขารักฉัน” เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเงยหน้าขึ้น มองเจี่ยนอี๋นั่วแล้วตะโกน:“เขาเคยบอกว่าจะคบกันฉัน ถ้าพวกเราพาพ่อไป เธอก็จะเอาเงินมาให้พวกเราแน่ๆ หลังจากนั้นพวกเราก็จะไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน”

“พ่อ?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าสมองเสียงดังสะเทือนอยู่พักหนึ่ง ถามเสียงสั่น:“นี่มันเกี่ยวอะไรกับพ่อ?”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยยิ้มอย่างโอหัง:“เจี่ยนอี๋นั่วฉันจะบอกเธอให้ ไม่เพียงแต่เธอที่ฉลาด หมิงเซวียนเขารู้ตั้งนานแล้วว่าเธอไม่มีทางที่จะปล่อยพวกเราไป เพราะงั้นเมื่อกี้ พวกเราไปรับพ่อที่สถานพักฟื้นมาแล้ว เธอแคร์พ่อมากที่สุดไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พ่ออยู่ในกำมือของพวกเรา ถ้าเธอฉลาดก็รีบเอาเงินมาให้พวกเรา ให้พวกเราได้หนีไปให้ไกลจากที่นี่สักที!”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท