หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 92 ฉู่หมิงเซวียนตายแล้ว

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วต้องการที่จะดุด่าฉู่หมิงเซวียน แต่เธอนั้นไม่กล้าที่จะพูดอะไรให้ฉู่หมิงเซวียนระคายเคือง เจี่ยนอี๋นัวทำได้เพียงกัดริมฝีปากและหายใจเข้าลึกๆ เธอใช้มือเช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้มที่สั่นเทา “ฉันจริงใจ ฉันจริงใจจริงๆ แค่เพียงคุณให้ฉันเจอพ่อ พาพ่อของฉันกลับมา…ฉันก็ตกลงกับคุณทุกอย่าง ฉู่หมิงเซวียน เขาอายุมากและตอนนี้เขาจำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าคุณจะเกลียดเขาอย่างไร ไม่ว่าคุณจะตอบโต้เขาอย่างไรเขาก็จะไม่รู้สึกเลยสักนิด”

ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะ “นั่นแหละทำให้ฉันประทับใจจริงๆ ฉันสามารถทำสิ่งเหล่านี้กับพ่อของเธอได้ แต่ฉันเป็นคนที่รักษาสัญญา ในเมื่อฉันตกลงไว้ว่าฉันต้องการเงิน ฉันไม่ได้ต้องการเธอ ฉันจะเอาแค่เงิน เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันจะให้เลขบัญชีธนาคารไว้กับเธอ เธอต้องโอนเงิน 100 ล้านดอลลาร์เข้าบัญชีนั้น”

“100 ล้านดอลลาร์?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วแน่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น”

“เธอไม่มี แต่เหลิ่งเซ่าถิงมี” ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะและกล่าว “เธออย่าคิดว่าฉันมองไม่ออกว่าคนที่มาหาเธอวันนั้นคือเหลิ่งเซ่าถิง สำหรับตระกูลเหลิ่ง100ล้านดอลลาร์นั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปากแน่น “เรื่องของฉันกับเหลิ่งเซ่าถิงมันไม่ได้สนิทใกล้ชิดกันจนถึงขนาดจะขอเงินก้อนโตขนาดนั้นได้”

ก่อนที่เจี่ยนอี๋นั่วจะพูดจบฉู่หมิงเซวียนก็ขัดจังหวะเจี่ยนอี๋นั่วด้วยเสียงหัวเราะ “เหลิ่งเซ่าถิงสามารถทำเรื่องต่างๆเพื่อเธอได้ เขาจะให้เงินหนึ่งร้อยล้านนี้อย่างแน่นอน เธอบอกเขา หวังว่าเขาจะเป็นคนที่รักษาสัญญา รีบเอาเงินมาให้ฉันไวๆไม่งั้นฉันไม่รู้จะทำอย่างไรจะพูดอย่างไรทำให้ความพยายามของเขานั้นเปล่าประโยชน์! เจี่ยนอี๋นั่ว เธอว่าถ้าหากฉันไม่ได้เงิน ฉันจะทำอะไรกับพ่อของเธอ? พ่อของเธอนั้นโง่เง่าซะขนาดนี้แล้ว เธอว่าถ้าฉันตัดนิ้วเขาไปสักนิ้วสองนิ้ว เขาจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่านะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกได้ถึงความประหลาดในคำพูดของฉู่หมิงเซวียน เธอรีบกล่าว “หมายความว่าอะไร? คุณอย่าทำร้ายพ่อของฉัน!”

“ฉันหมายความว่าอะไรล่ะ? เพียงรู้สึกว่าเจี่ยนอี๋นั่วเธอมองผู้ชายได้ดีจริงๆ ช่างรักเดียวใจเดียว ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ ไปหาเงินมาแล้วเอามาให้ฉัน ทันทีที่เงินอยู่ในบัญชีฉันจะคืนพ่อที่โง่เขลาให้กับเธอ” ทันทีที่ฉู่หมิงเซวียนกล่าวจบก็ตัดสายไปในทันที

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินว่าฉู่หมิงเซวียนตัดสายไป เธอก็รีบตะโกนทันที “หมิงเซวียนอย่าวางสาย…”

แต่เจี่ยนอี๋นั่วนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงของฉู่หมิงเซวียนดังกลับมา เจี่ยนอี๋นั่วรีบหันไปมองคนที่ติดตามสัญญาณของฉู่หมิงเซวียน “เป็นไงบ้าง? ติดตามสัญญาณโทรศัพท์ของเขาได้ไหม? ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”

คนที่ติดตามสัญญาณโทรศัพท์ของฉู่หมิงเซวียนตอบทันทีว่า “ฉันพบแล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน!”

ในที่สุดเจี่ยนอี๋นั่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะบอกเซ่าถิง จะดูว่าเขาจะรับมืออย่างไร”

เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยที่อยู่ข้างกายเจี่ยนอี๋นั่วรีบกล่าวเสียงดังว่า “พี่ คุณพาฉันไปด้วยสิ หมิงเซวียนอาจจะฟังฉันก็ได้ เมื่อกี้เขาก็พูดถึงฉันใช่ไหม? แค่เขาเห็นฉัน เขาก็อาจจะปล่อยพ่อ! จากนั้นคุณให้เงินจำนวนหนึ่งกับเรา ปล่อยฉันและหมิงเซวียนไป พวกเราไม่ได้ตั้งใจ พวกเราแค่อยากอยู่ด้วยกันเท่านั้น”

“เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย เมื่อกี้หมิงเซวียนไม่ได้พูดถึงเธอเลยสักนิด เธออย่าเพ้อฝันให้มากนัก เขาต้องการแค่เงินเท่านั้น” เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบสายตามองไปยังเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและกล่าวอย่างเย็นชา “สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้คืออธิษฐานให้พ่อของเธอปลอดภัย ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็มองไปยังคนที่ประคองเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยอยู่และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ดูแลเธอด้วย”

จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็รีบขึ้นรถ เธอปิดประตูในทันทีและไม่หันไปมองเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยแม้หางตา ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเจี่ยนอี๋นั่วก็ดังขึ้น เสียงที่สุขุมและสงบของเหลิ่งเซ่าถิงก็ดังจากปลายสาย “หาที่อยู่ของเขาพบหรือยัง?”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า “เจอแล้ว ในตอนนี้ฉันกำลังรีบไป เขาบอก..เขาบอกว่าเขาต้องการเงิน100ล้านดอลลาร์ ต้องการโอนเข้าบัญชีของเขา แต่ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น..”

เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวทันที “ทางผมสามารถหาเงินทุนหมุนเวียนบางส่วนได้ คุณทำให้เขาเชื่อใจก่อน แต่เงินยังไม่สามารถโอนได้ในตอนนี้ รอให้พวกผมตามไป จับเขาไว้ไม่ได้ ก็ติดต่อเขาไว้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการจ่ายค่าไถ่ แม้ว่าคุณจะจ่ายค่าไถ่ แต่ต้องยืนยันก่อนว่าจะต้องได้เห็นคุณลุงก่อนจึงจะโอนเงินให้ ไม่งั้นบางทีหากเขาได้เงินไปก็อาจ…”

หากหลังจากฉู่หมิงเซวียนได้เงินแล้ว ก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะฆ่าพ่อของเจี่ยนอี๋นั่ว แต่เพียงแค่ประโญคนั้นค่อนข้างโหดร้าย แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็เข้าใจในความหมายของเหลิ่งเซ่าถิง

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปากและกล่าว “เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก การจ่ายค่าไถ่เป็นขั้นตอนสุดท้ายและฉันจะระมัดระวัง”

เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ “คุณไม่ต้องขอบคุณผม นี่เป็นเรื่องที่ผมควรทำ ตอนนี้ผมกำลังไปในที่ที่หมิงเซวียนซ่อนตัวอยู่ เราไปพบกันที่นั่น”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า “ได้เลย แล้วค่อยติดต่อกัน”

จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็วางสายโทรศัพท์ เธอโบกมือจากนั้นรถก็สตาร์ทอย่างรวดเร็ว เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกรีดร้องจากระยะไกล “พี่ คุณให้ฉันไปพบหมิงเซวียนสิ อย่าปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่ เขาจะไม่ทิ้งฉันอย่างแน่นอน..”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว เธอยกมือขึ้นปิดหูและหลับตาลง เธอบังคับให้ตัวเองอารมณ์เย็นลง เรื่องราวในวันนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรื่องราววุ่นวายเกินไปทำให้หัวของเจี่ยนอี๋นั่วแทบจะระเบิดออกมา เธอมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเธอสับสนวุ่นวายเกินไปและเธอไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากตรงไหน มันเปลี่ยนสิ่งต่างๆทีละขั้นตอนให้กลายเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน

ในไม่ช้ารถก็มาถึงที่ซ่อนของฉู่หมิงเซวียน ก่อนที่เจี่ยนอี๋นั่วจะลงจากรถ เธอเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนได้เข้ามาล้อมพื้นที่ไว้ เจี่ยนอี๋นั่วรีบลงจากรถและถามคนรอบข้าง “ทำไมตรวจมากันเยอะแบบนี้? หาตัวหมิงเซวียนพบแล้วหรือ?”

“ใช่แล้ว หาตัวหมิงเซวียนเจอแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านหิน โดนล้อมไว้แล้ว” มีบางคนตอบกลับเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว เธอกัดฟันและกล่าว “พ่อของฉันยังอยู่ในกำมือของเขา ตอนนี้ล้อมเขาไว้แล้ว หากว่าเขาจะทำร้ายพ่อฉันขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวจบ เธอปิดหน้าตัวเองอย่างหมดแรง เธอหลับตาลง ในเวลานี้เธอได้ยินเสียงรถหยุดลง เหลิ่งเซ่าถิงลงจากรถ เขาขมวดคิ้วและมองไปยังตำรวจที่อยู่รอบตัวเขา “ทำไมตำรวจมากมายขนาดนี้?”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า “ตอนที่ฉันมาถึงก็เป็นแบบนี้แล้ว”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วแน่น “ผมเองที่แจ้งตำรวจ แต่ผมบอกแล้วว่าให้ระมัดระวัง ทำไมถึง…”

เมื่อเหลิ่งเซ่าถิงพูดเช่นนี้คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้น ทันใดนั้นเขาก็กลั้นลมหายใจ สายตาจ้องมองไปยังเจี่ยนอี๋นั่ว เขาเม้มริมฝีปากแน่น ในสายตาของเขานั้นอดไม่ได้ที่จะแสดงความสงสารและรู้สึกผิด เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเหลิ่งเซ่าถิง เธอถามด้วยความตื่นตระหนก “พ่อของฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉู่หมิงเซวียนจะไม่ทำร้ายพ่อของฉันใช่ไหม?”

“ขอโทษ” จู่ๆเหลิ่งเซ่าถิงก็กล่าวอย่างเย็นชา

เจี่ยนอี๋นั่วนิ่งงันไปชั่วขณะ เธอเงยหน้ามองเหลิ่งเซ่าถิงและรีบกล่าว “เซ่าถิง ฉันไม่ได้โทษคุณ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แจ้งตำรวจถูกต้องแล้ว การจัดการของตำรวจนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณ แม้ว่าคุณจะไม่แจ้งตำรวจ แต่ฉันก็จะ …”

จู่ๆเหลิ่งเซ่าถิงก็ยกมือขึ้นและคว้าเจี่ยนอี๋นั่วมากอดไว้และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ขอโทษ…”

“เซ่าถิง…” เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นและคิดอยากจะถามว่าเซ่าถิงเป็นอะไรไป

ทันใดนั้นก็มีตำรวจเดินเข้ามา “คุณเจี่ยน ผู้ร้ายต้องการพบคุณและคุณเหลิ่ง”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าทันที “โอเค ฉันจะเข้าไป”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวพร้อมกับจับมือของเหลิ่งเซ่าถิง “คุณเข้าไปพร้อมกับฉันไหม?”

เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้าช้าๆยกมือขึ้นจับมือเจี่ยนอี๋นั่ว เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่ามือของเหลิ่งเซ่าถิงนั้นได้จับมือของเธอแน่นและมือเขาก็เย็นมาก เจี่ยนอี๋นั่วรีบยกมืออีกข้างขึ้นและจับมือเหลิ่งเซ่าถิง พยายามที่จะทำให้มือของเซ่าถิงอบอุ่น เหลิ่งเซ่าถิงจ้องมองเธอจากนั้นทั้งสองก็เดินขึ้นไปบนเขาพร้อมกัน

เหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วและตำรวจสองสามคนเดินไปที่บ้านหินบนภูเขา พวกเขาเห็นฉู่หมิงเซวียนเดินออกมาอย่างช้าๆ เขาถือมีดพกไว้กับเขา สีหน้าของเขาซีดเซียว จ้องมองเจี่ยนอี๋นั่วพร้อมกับตะโกนว่า “เธอมันไม่มีความน่าเชื่อถือ! เธอบอกจะเอาเงินมาให้ฉัน เธอต้องการพ่อ ฉันต้องการเงิน ฉันทำทุกอย่างแล้วแต่เธอกลับแจ้งตำรวจ!”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบส่ายหน้า “ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ ฉันพยายามทำทุกอย่างให้คุณหนีไปได้ แต่พ่อของฉัน…”

“เขา? เขาซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ พวกแกคิดว่าหาฉันพบแล้วจะหาเขาพบงั้นเหรอ ฉันจะบอกให้ว่ามันไม่ได้ง่ายแบบนั้น” ฉู่หมิงเซวียนกล่าว สายตาเขาเหลือบมองไปยังเจี่ยนอี๋นั่วและเหลิ่งเซ่าถิงจากนั้นเขาก็หัวเราะ “ฉันใช้งานมันเสร็จฉันก็ทิ้งมันไป ไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น ฉันตายไป พวกแกก็ไม่มีใครรู้ถึงเบาะแสของไอแก่เจี่ยนฉางรุ่น ไม่มีใครรู้ว่ามันยังอยู่หรือว่าตายไปแล้วกันแน่”

หมิงเซวียนกล่าว เขายิ้มและกวักมือเรียกเจี่ยนอี๋นั่ว “อี๋นั่ว มานี่สิ ฉันจะบอกอะไรกับเธอ สิ่งสกปรกบางอย่างที่คนอื่นไม่กล้าบอกเธอ รู้หรือเปล่า? มีใครบางคนที่เพื่อเธอแล้วเขาสามารถฆ่า….”

“ปัง!” ด้วยเสียงกระสุน หน้าผากของฉู่หมิงเซวียนก็ถูกกระสุนเจาะในทันที เขาล้มลงกับพื้นดวงตาของเขายังคงเปิดกว้างราวกับว่ามีบางอย่างที่ยังสะสางไม่เสร็จและไม่เต็มใจที่จะตาย

เจี่ยนอี๋นั่วเฝ้าดูเลือดของฉู่หมิงเซวียนที่กระเซ็นออกมาต่อหน้าเธอ เธอล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เหลิ่งเซ่าถิงรีบเข้ามาประคองเจี่ยนอี๋นั่วไว้ เขาปิดตาของเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “คุณไม่ต้องกลัว!”

เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกกลัวมาก เธอไม่ได้กลัวที่หมิงเซวียนตาย ความทรมานในวันนี้ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วนั้นไม่กลัวความตายเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วกลัวก็คือหากหมิงเซวียนตาย เธออาจหาตัวพ่อของเธอไม่พบ

ตำรวจรีบเข้าไปในบ้านหิน หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่งพวกเขาก็กล่าวออกมา “ไม่มีอะไรเลย! ตัวประกันไม่ได้อยู่ที่นี่!”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท