หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 93 ฉันจะไปรับเขากลับบ้าน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เจี่ยนอี๋นั่วรีบเอามือของเหลิ่งเซ่าถิงที่ปิดตาเธอไว้ออกในทันที เธอลุกขึ้นยืน เดินไปที่ร่างของฉู่หมิงเซวียนและตะโกนว่า “ฉู่หมิงเซวียน แกเอาพ่อฉันไปไว้ที่ไหน? แกตื่นขึ้นมา! บอกฉัน พ่อของฉันอยู่ที่ไหน!? แกพูดสิ ไม่ใช่ว่าต้องการเงินเหรอ ฉันจะให้แก ให้หมดเลย ไม่เอาหรือยังไง?”

แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่ทันได้รอคำตอบจากฉู่หมิงเซวียน เหลิ่งเซ่าถิงก็เดินเข้ามาจับไหล่ของเจี่ยนอี๋นั่วไว้และกล่าว “อี๋นั่ว คุณใจเย็นก่อน เขาตายแล้ว”

“ฉันใจเย็นไม่ไหวแล้ว! เขาเพียงแค่ต้องการเงินเท่านั้น เขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าพ่อของฉัน” เจี่ยนอี๋นั่วมองไปรอบๆและตะโกนเสียงดัง “พวกคุณใครเป็นคนยิ่ง? ใครยิ่ง?”

ตำรวจวัยหนุ่มหนึ่งคนยืนขึ้นและพูดอย่างเย็นชา “ผมเห็นเขาถือมีดเอาไว้และกำลังจะแทงคุณ ผมจึงลั่นไก่ ผมทำเพื่อปกป้องคุณ”

“เขาแค่กวักมือเรียกฉัน!” เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนเสียงดัง “เขาไม่ได้จะทำร้ายฉัน เขาแค่กวักมือ กวักมือเรียกฉันเท่านั้น เรียกให้ฉันไปหา จะบอกบางอย่างกับฉัน พ่อของฉันอยู่ที่ไหน เขาไม่ได้จะทำร้ายฉัน พวกคุณเป็นอะไรไปกันหมด? คุณจงใจฆ่าพ่อของฉันงั้นหรือ? พวกคุณจงใจใช่ไหม?”

เหลิ่งเซ่าถิงยกมือขึ้นและกอดเจี่ยนอี๋นั่วอย่างสุดแรง เขากล่าวอย่างเยือกเย็น “เจี่ยนอี๋นั่ว คุณใจเย็นหน่อย!”

เจี่ยนอี๋นั่วนั้นทั้งร้องไห้และตะโกนลั่น “ฉันจะใจเย็นลงได้อย่างไร ฉันไม่สามารถทำได้! ตอนนี้ฉู่หมิงเซวียนตายไปแล้ว บ้านหินนี้ก็ไม่มีพ่อของฉัน ฉันจะไปตามหาเขาจากที่ไหน พ่อของฉันแม้แต่โทรศัพท์เขาก็ใช้ไม่เป็น เขาไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างปกติ แม้ว่ามีคนอยู่ด้านหน้าเขา เขาก็ไม่รู้จะขอความช่วยเหลืออย่างไร เขาจะ เขา…”

เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?

จะอยู่ได้อย่างไร?

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วกล่าวเช่นนี้ เธอก็เม้มริมฝีปาก เธอทนไม่ได้ที่จะพูดออกมา เหลิ่งเซ่าถิงกอดเธอไว้แน่นและพูดว่า “อี๋นั่ว อย่ากระวนกระวายไป ถึงแม้ว่าเรื่องจะเกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ แต่…”

เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาก็จมลงลึกไป เขาหยุดชั่วครู่และกล่าวต่อ “แต่นี่เป็นความผิดของพวกเรา แต่คุณคิดดู ฉู่หมิงเซวียนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว ไม่มีพ่อของคุณ นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”

เจี่ยนอี๋นั่วร้องไห้และเงยหน้ามองเซ่าถิง เธอถามอย่างโง่เง่า “หมายความว่าอะไร?”

ตอนนี้จิตใจของเจี่ยนอี๋นั่วนั้นยุ่งเหยิง เธอไม่สามารถคิดหรือแก้ปัญหาใดๆได้เลย

“เขาไม่ต้องการรักษาสัญญาตั้งแต่แรก หากว่าเขาต้องการรักษาสัญญา เมื่อเราฝากเงินให้เขาในบัญชี เขาจะปล่อยพ่อของคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็จะต้องเก็บพ่อของคุณไว้ข้างกาย เมื่อคุณนัดหมายกับเขา เขาก็จะต้องพาตัวพ่อคุณไปด้วย ตั้งแต่ที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยออกมาจากฉู่หมิงเซวียน แล้วคุณรับโทรศัพท์จากฉู่หมิงเซวียนเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ฉู่หมิงเซวียนนั้นก็ไม่ได้มีเวลามากมายที่จะขับรถไปยังที่อื่น ในช่วงเวลานี้เขาขับรถมาที่บ้านหินนี้ เขาจะมีเวลาซ่อนตัวพ่อของคุณไว้ในที่ลับได้อย่างไร?” เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้ามองเหลิ่งเซ่าถิงและรีบกล่าว “ดังนั้น เขาอาจทิ้งพ่อของฉันไว้ข้างทาง มีโอกาสเป็นไปได้มากที่พ่อของฉันอาจอยู่ใกล้ๆกับภูเขานี้?”

เหลิ่งเซ่าถิงเม้มริมฝีปากแน่นและไม่พูด เขาจ้องมองเจี่ยนอี๋นั่วและพูด “พ่อของคุณสุขภาพไม่ดี เดินได้ไม่ไกลนัก หากว่าปล่อยเขาลงข้างทาง เขาก็มีโอกาสที่จะถูกเราหาพบ ถ้าเป็นอย่างนั้นแผนที่ฉู่หมิงเซวียนวางไว้ก็เปล่าประโยชน์ จากมุมมองของฉู่หมิงเซวียนนั้น เขาเกลียดพ่อคุณมาก การที่จะพาพ่อไปไหนมาไหนด้วยนั้นค่อนข้างจะลำบาก มีโอกาสมากที่…”

“ความหมายของคุณก็คือ มีโอกาสมากที่พ่อของฉันจะถูกฉู่หมิงเซวียนฆ่าไปแล้ว?” เจี่ยนอี๋นั่วนั้นถามด้วยสีหน้าซีดขาวและน้ำเสียงสั่นเครือ

เหลิ่งเซ่าถิงเม้มริมฝีปาก ไม่กล่าวอะไร เขามองลงไปที่มีดพกในมือของเจี่ยนอี๋นั่วและกล่าวว่า “ตำรวจจะตรวจดูมีดของเขา เพื่อดูว่ามีคราบเลือดของพ่อคุณบนมีดนี้หรือเปล่า จากนั้นตำรวจจะหาตำแหน่งรถของฉู่หมิงเซวียน ถ้าหากว่าคุณสามารถหาเส้นทางขับรถของเขาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนรถได้ ก็จะไปตามหาพ่อของคุณตามเส้นทางกัน”

เจี่ยนอี๋นั่วตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนใบไม้แห้งที่แขวนอยู่บนกิ่งไม้ในฤดูหนาว เธอมองไปรอบข้างอย่างว่างเปล่าและกล่าวเบาๆว่า “ฉันทำผิดพลาดตรงไหน ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้? ทำไมฉันต้องสนใจเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยจนลืมพ่อ ทำไมฉันต้องพยายามโทรหาคนให้ตามหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยจนไม่ได้รับสายจากศูนย์รักษาตัว ทำไมฉันต้องไล่ตามฉู่หมิงเซวียน ฉันไม่ควรจัดการฉู่หมิงเซวียนตั้งแต่แรกใช่ไหม? เขา เขามีความคิดที่ผิดเพี้ยน เขาป่วย ทำไมฉันต้องลงมือลงไม้กับเขา? ให้เขาเอาทรัพย์สินตระกูลเจี่ยนไป ให้เขาได้อยู่กับเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย ปล่อยพวกเขาเป็นอิสระ ทำไมฉันต้องสนใจพวกเขา? อย่างร้อยหากหมิงเซวียนต้องการฉัน ถ้างั้นฉันก็จะ…”

เจี่ยนอี๋นั่วยังไม่ทันจะพูดพบ เธอก็ถูกสวมกอดโดยเหลิ่งเซ่าถิง เหลิ่งเซ่าถิงกอดเธอไว้แน่นและกล่าว “ขอโทษ…”

“ไม่ใช่ความผิดคุณ ทำไมคุณต้องขอโทษ?” เจี่ยนอี๋นั่วร้องไห้และพูด “ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน”

เหลิ่งเซ่าถิงจับไหล่ของเธอและพูด “คุณไม่ผิด มีคนต้องการให้พ่อคุณหายไป ต่อให้คุณทำอะไร พวกเขาก็จะทำเช่นนี้อยู่ดี”

เจี่ยนอี๋นั่วกัดฟันอย่างรุนแรง เธอสูดลมหายใจเข้าและร้องไห้อย่างหนักหน่วง “ไม่ได้ ฉันจะไม่ละทิ้งความหวัง ฆ่าคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ฉู่หมิงเซวียนไม่เคยฆ่าคนมาก่อนเลย เขาจะกล้าฆ่าคนได้อย่างไร บางทีเขาอาจจะส่งพ่อลงระหว่างทางก็ได้ ตอนนี้ให้คนไปตามหาจะต้องหาพบอย่างแน่นอน”

เหลิ่งเซ่าถิงมองเจี่ยนอี๋นั่วด้วยความสงสาร เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นผมจะให้คนตามหาระหว่างทาง คุณพักผ่อนเสียหน่อยเถอะ หากมีข่าวคืบหน้าผมจะบอกคุณ”

“ไม่ ฉันก็อยากจะช่วยหา ช่วยกันมากอาจจะตามพบไวกว่า” เจี่ยนอี๋นั่วกัดริมฝีปากล่างของเธออย่างแรง น้ำตาไหลลงมาอย่างอดไม่ได้ เธอสำลักและไอจากนั้นก็กล่าว “เริ่มมืดแล้ว ตอนนี้พ่อของฉันเหมือนเด็กน้อย เขาจะต้องกลัวมากแน่ ฉันต้องตามหาเขา หากหาเขาพบ ฉันจะไม่ให้เขาไปอยู่ศูนย์รักษาตัวแล้ว ฉันจะดูแลเขาอย่างดี จะดูแลเขาเอง จะไม่ปล่อยให้เขาละสายตาไปอีก บริษัทอะไร เรื่องต่างๆอะไร ฉันจะไม่สนใจอีกแล้ว”

เหลิ่งเซ่าถิงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของเจี่ยนอี๋นั่ว น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายและปลอบประโลม “ได้สิ ในอนาคตคุณตั้งใจดูแลเขาจากนั้นผมจะคอยหาเงินเลี้ยงดูพวกคุณ”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าว “อืม ได้สิ แบบนั้นดีเลย ดีมากๆ รอให้พ่อของฉันฟื้นตัว เขาจะต้องชอบคุณมากแน่นอน”

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้เธอก็ลดเสียงลง น้ำเสียงของเธอดูลังเลและเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ

ในขณะที่การค้นหาค่อยๆเริ่ม หัวใจของเจี่ยนอี๋นั่วก็กระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเข้าร่วมในการค้นหา ระหว่างทางมีคนถือไฟฉายตะโกนเรียกชื่อเจี่ยนฉางรุ่น แต่ก็ไม่มีผล

ท้องฟ้าค่อยๆมืด มีฝนตกกระจายในท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกกระทบผู้คน ความเย็นไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีเลย เจี่ยนอี๋นั่วเธอเดินสะดุดพื้นหญ้า ร่างกายของเธอสั่นเทาแทบจะไม่มีแรงเดินต่อ แต่เธอยังคงกัดริมฝีปากไม่หยุดที่จะมองไปรอบข้าง

ใบไม้และกิ่งไม้ทำให้เกิดบาดแผลเล็กๆมากมายบนแขนและขาของเจี่ยนอี๋นั่ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เธอเป็นเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่หยุดท่าทางของการค้นหา

เหลิ่งเซ่าถิงมองไปยังด้านหลังของอี๋นั่ว เขาขมวดคิ้วแน่นและเม้มริมฝีปาก เขาไม่ได้ห้ามเจี่ยนอี๋นั่วจากการค้นหาที่ไร้จุดหมายเช่นนี้ ทุกครั้งที่เจี่ยนอี๋นั่วล้มลง เหลิ่งเซ่าถิงจะคอยยื่นมือช่วยและประคองเจี่ยนอี๋นั่วไว้

เมื่อเห็นเจี่ยนอี๋นั่วเดินโซเซและร้องไห้ตะโกนเรียกชื่อพ่อของเธอ ดวงตาของเหลิ่งเซ่าถิงก็จมและ ภายในดวงตานั้นมีความแค้นเกิดขึ้น

เมื่อการค้นหาดำเนินไปจนมืดค่ำ จู่ๆโทรศัพท์ของเหลิ่งเซ่าถิงก็ดังขึ้น เขารับสาย ฟังข่าวคราวจากปลายสาย และในที่สุดก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่สุขุม “อืม ผมเข้าใจแล้ว ผมจะบอกเธอเอง”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินเหลิ่งเซ่าถิงกล่าว เธอก็รีบหันมายังเหลิ่งเซ่าถิง “เกิดอะไรขึ้น ตามหาพ่อเจอแล้วเหรอ?”

เหลิ่งเซ่าถิงเม้มริมฝีปากแน่นและพูดว่า “อี๋นั่ว คุณต้องเข้มแข็ง”

เจี่ยนอี๋นั่วก้าวถอยหลังในทันทีโดยที่เธอยังมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง เธอร้องไห้และส่ายหน้า “ไม่ ฉันไม่เข้มแข็ง ฉันไม่เข้มแข็งเลยสักนิด คุณอย่ามาบอกให้ฉันเข้มแข็ง ฉันแค่เพียงอยากตามหาพ่อให้พบ ชีวิตที่เข้มแข็งถึงจะมีได้!”

เหลิ่งเซ่าถิงยื่นมือหาเธอ เขาคว้ามือของเจี่ยนอี๋นั่วไว้ เขาคว้าตัวของเจี่ยนอี๋นั่วมาไว้ในอ้อมกอด “พวกเขาตามหาพบแล้ว”

เจี่ยนอี๋นั่วพิงไหล่ของเหลิ่งเซ่าถิง เธอร้องไห้และวิงวอน “ขอร้อง บอกฉันว่าพ่อยังสบายดี ขอร้อง เซ่าถิง ฉันรักคุณมากขนาดนี้ คุณบอกฉัน ตอนนี้พ่อของฉันปลอดภัยดี ได้ไหม? ฉันขอร้องคุณ ฉันขอร้องเพียงเรื่องเดียว”

เหลิ่งเซ่าถิงยกมือขึ้นและลูบศีรษะของเจี่ยนอี๋นั่วอย่างเบามือ เขาพูดด้วยเสียงที่ยากลำบาก “ถ้าทำได้ ผมก็ไม่อยากบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับคุณ”

เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวเช่นนี้และถอนหายใจ “พวกเขาพบศพพ่อของคุณ ตำรวจบอกว่าให้คุณไปยืนยันตัวตน ผลการตรวจก็ออกมาแล้วว่าบนมีดของฉู่หมิงเซวียนนั้นมีคราบเลือดของพ่อคุณ หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นพ่อของคุณถูกฆ่าโดยฉู่หมิงเซวียน เขาโยนศพเข้าไปในป่า”

เจี่ยนอี๋นั่วตัวแข็งทื่อ เธอยืนพิงหน้าอกของเหลิ่งเซ่าถิง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มร้องไห้อย่างเงียบๆ จากนั้นไม่นานเสียงร้องของเธอก็ดังขึ้นอย่างช้าๆ เจี่ยนอี๋นั่วร้องไห้จนเสียงแหบแห้งเมื่อได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเสียงร้องไห้ที่เยือกเย็น

เหลิ่งเซ่าถิงกอดเจี่ยนอี๋นั่วและกล่าว “วางใจเถอะ พวกเขา ผมจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่”

เจี่ยนอี๋นั่วที่จมอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจไม่ได้ยินคำสัญญาของเหลิ่งเซ่าถิงเลย เธอร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนแทบเป็นลม เธอร้องไห้มากจนไม่สามารถหลั่งน้ำตาได้อีกต่อไป เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาที่แทบจะลอยหายไปในสายลม “ไปกันเถอะ ฉันจะไปรับพ่อกลับบ้าน”

“ฉันจะ…ไปรับเขากลับบ้าน…” เจี่ยนอี๋นั่วพูดคำเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมา เธอหันตัวหนีและออกจากอ้อมแขนเซ่าถิง เธอเดินไปข้างทางของถนนอย่างโซซัดโซเซ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน