เจี่ยนอี๋นั่วปิดตาของเธอลงและพิงมุมห้อง จ้องมองที่ปลายนิ้วที่สั่นเของเธออย่างว่างเปล่า แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วได้เตรียมการทางด้านจิตใจมาเพียงพอแล้ว แต่เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วถูกส่งไปยังคุก บรรยากาศที่คับแคบและหายใจไม่ออกทำให้เจี่ยนอี๋นั่วนึกถึงช่วงเวลาที่ถูกเหลิ่งหมิงอันขัง
แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะถูกเหลิ่งหมิงอันขังมาก่อน แต่ความเงียบที่หายใจไม่ออกยังคงทำให้เจี่ยนอี๋นั่วเป็นเงาทางจิตใจ เธอเริ่มกลัวพื้นที่แคบและหายใจไม่ออก กลัวแสงที่ส่องมาหาเธอ เจี่ยนอี๋นั่วสงสัยว่าเธอจะมีอาการกลัวน้ำด้วยหรือเปล่า
แต่อารมณ์ที่กระวนกระวายและวิตกกังวลนี้ทำให้ความคิดของเจี่ยนอี๋นั่วชัดเจน เธอยังสามารถร่างแผนการของเหลิ่งหมิงอันที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ใน ตอนแรกเหลิ่งหมิงอันต้องการใช้เธอเป็นเบี้ยและดำเนินแผนการเดิมต่อไป แต่เมื่อเหลิ่งหมิงอันกำลังทำตามแผน เขาก็เจอกับเอ เหลิ่งหมิงอันสามารถติดตั้งกล้องถ่ายรูปในห้องที่เธอและฉู่หมิงเซวียนพบกัน เขาก็ต้องรู้เกี่ยวกับวิดีโออนาจารของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย และเอที่ติดต่อกับเธออยู่ในช่วงนั้นต้องเป็นแผนของเหลิ่งหมิงอันด้วยแน่นอน
เนื่องจากเหลิ่งหมิงอันรู้จักเอแล้ว เอมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเหลิ่งเซ่าถิงและการควบคุมเอนั้นมีค่ามากกว่าการควบคุมเจี่ยนอี๋นั่ว แต่เหลิ่งหมิงอันไม่ได้ทำอะไรกับเอต่อ แต่เขายังคงวางแผนที่จะฆ่าพ่อของเธอด้วยความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากความเกลียดชังของเธอ นี่แสดงให้เห็นว่าเหลิ่งหมิงอันไม่มีความสามารถฆ่าเอได้ในเวลานั้น ก็เลยต้องหาวิธีต่อไป
แต่ทำไมหลังจากที่เธอเห็นทุกอย่างแล้ว เหลิ่งหมิงอันมีความสามารถในการสังหารเอ ขโมยข้อมูลจากเอและยังวางแผนใส่ร้ายเธออีกด้วย? เขาต้องมีพันธมิตรที่ทรงพลังมากมากแน่
พวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขาต้องการให้เธอเข้าคุก พวกเขาต้องการให้เหลิ่งเซ่าถิงแยกจากเธอ พวกเขาต้องการให้เหลิ่งเซ่าถิงไม่มีวันให้อภัยเธอ เขาตัดปีกของเหลิ่งเซ่าถิงให้เขาไม่กล้าแข็งข้อ และทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง……
หลานชายที่ดี?
เจี่ยนอี๋นั่วนึกถึงคุณนายเหลิ่งที่ดูใจดีและเป็นมิตร แต่อยากที่จะควบคุมทุกอย่าง เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและหัวใจของเธอก็ปวดร้าว เธอรู้สึกเสียใจที่เหลิ่งเซ่าถิงต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น คนเลือดเย็นที่จะปฏิบัติต่อคนอื่นในฐานะของเล่นเกมหรือตัวหมากรุกเท่านั้น
“เจี่ยนอี๋นั่ว มีคนต้องการพบเธอ” มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้น
เจี่ยนอี๋นั่วลืมตาขึ้นและถามว่า: “ใคร?”
“ น้องสาวของเธอ” น้ำเสียงเย็นชาตอบกลับ
เจี่ยนอี๋นั่วลดสายตาลงและหัวเราะเยาะ: “ฉันไม่มีน้องสาว ฉันไม่ไป”
“เร็วเข้า อย่าลีลา เธอบอกว่าเธอชื่อเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย และเธออยากเจอเธอ” ตำรวจหญิงเดินเข้ามาดึงเจี่ยนอี๋นั่วออกจากเรือนจำ
เจี่ยนอี๋นั่วเกือบจะล้มลงกับพื้น เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ตำรวจหญิง จากนั้นก็พูดว่า: “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ถ้าต้องไปเจอเธอ ฉันไปเองได้”
เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆเดินไปที่ห้องรับรองของเรือนจำ เธอเห็นเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยที่แต่งตัวดีนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทันทีที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเห็นเธอ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็แสดงรอยยิ้มที่สดใสทันที
“ พี่ ทำไมพี่ถึงหน้าซีดแบบนี้?” เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
เจี่ยนอี๋นั่วนั่งตรงข้ามเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและหัวเราะ: “อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ ฉันรู้สึกขยะแขยง เธอมาหาฉันทำไม ตอนนี้เธอได้รับอิสรภาพแล้ว แต่ฉันถูกขังไว้ เธอมาหัวเราะเยาะฉันสินะ? เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย ฉันอยากได้ยินสิ่งที่เธอพูด อาจจะทำให้ฉันรู้สึกอับอายและละอายใจบ้าง”
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยยิ้มออกมาทันทีและพูดอย่างโกรธๆว่า: “เจี่ยนอี๋นั่ว แกยังกล้าปากดีอีกหรอ? ตอนนี้แกเป็นฆาตกรไม่ใช่หรอ? แกรู้หรือเปล่า? ต่อให้แกจะมีทัศนคติที่ดีในการสารภาพผิด แกก็ฆ่าคนตาย แกต้องติดคุก บางทีอาจจะตลอดชีวิต แกยังมีหน้ามายิ้มกับฉันอีกหรอ”
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเบาๆ : “ฉันรู้ ฉันรู้ด้วยว่านี่เป็นฝีมือของเธอ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย ฉันไม่คิดเธอทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดต่อ: “ฉันคิดว่าเธอคงทำได้แค่ฆ่าพ่อตัวเอง อย่างอื่นคงทำอะไรไม่ได้ อุ้ย ขอโทษนะ ฉันพูดผิดไป”
เจี่ยนอี๋นั่วตบโต๊ะแรงๆ และพูดเสียงดังว่า: “ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของฉัน ทนายของฉันช่วยฉันย้อนคดีแล้ว มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน ฉู่หมิงเซวียนเป็นคนพาพวกเราออกไป พ่อและฉันรู้สึกโล่งใจก่อนที่ฉันจะพาพ่อออกไป สิ่งที่ฉู่หมิงเซวียนทำหลังจากนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันถูกหลอกโดยเธอและฉู่หมิงเซวียน! ”
“ ทนายคนไหนที่สามารถย้อนภาพขาวดำได้ ใครหรอ? เหลิ่งหมิงอันเป็นฆาตกรตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมพ่อ เธอใช้ทนายของเขาเพื่อคืนอิสรภาพเธอ ไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ? อ่อ ฉันลืมไป เธอคงไม่รู้จัก”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดเบาๆ : “พ่อไม่สำคัญกับเธอ เธอทำเรื่องเลือดเย็นได้เพียงเพื่อตัวเอง”
“เจี่ยนอี๋นั่ว แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง?” เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยอดไม่ได้และตะโกนออกมา
“เจี่ยนอี๋นั่ว อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!” ตำรวจหญิงที่ยืนเฝ้าเจี่ยนอี๋นั่วพูดขึ้นทันที
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มให้ตำรวจหญิงทันที: “ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี ต่อไปฉันจะระวัง”
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็มองไปที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและพูด: “ตอนนี้ฉันอยู่ในคุก และชื่อเสียงของแกก็พังพินาศ ฉันพยายามที่จะปกปิดวิดีโอที่ไม่เหมาะสมของแกกับฉู่หมิงเซวียน แต่ตอนนี้แกได้พูดไปแล้ว เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย ต่อไปจะมีใครเอาแกอีก? ความหวังของแก คงไม่อยากแต่งกับคนธรรมดาสินะ คนที่มีเงินเดือนเดือนชนเดือน มีค่าใช้จ่ายฟืนข้าวน้ำมันเกลือต่อเดือนเพียงเล็กน้อย กินข้าวกับซอสและชา แกทนไม่ได้หรอก กระเป๋าหนังของแกราคาสามสี่หมื่นหยวน กระเป๋าแต่ละใบต้องเข้ากับเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน เธอจะใช้เงินเพียงเล็กน้อยนั้นได้ยังไง? แต่ตอนนี้ฉันตัดความสัมพันธ์กับแกแล้ว แต่ฉันก็ยังเห็นใจแกเหมือนเดิม”
“แกไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตฉัน…… ฉันจะมีชีวิตที่ดีในอนาคต……ฉัน……” เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดพลางขมวดคิ้วช้าๆ ลังเลที่จะพูดต่อ
แม้ว่าเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไม่จำเป็นต้องติดคุก เหลิ่งหมิงอันให้การรับประกันการปล่อยตัวเธอ หลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก เธอพบว่าสมบัติของครอบครัวเจี่ยนได้ถูกยืดตามกฎหมายไปหมดแล้ว เงินที่ใช้จ่ายทุกเดือนก็หายไป ตอนนี้อี๋นั่วเองก็ถูกจับทำให้เธอไม่มีรายได้ใช้จ่าย
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไม่รู้ว่าเธอจะใช้ชีวิตยังไงในอนาคต ด้วยความตื่นตระหนกเธอทำได้เพียงแค่มาหาเจี่ยนอี๋นั่ว เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าในปัจจุบันของเจี่ยนอี๋นั่ว อย่างน้อยก็ทำให้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยรู้สึกว่าทุกสิ่งที่เธอทำนั้นคุ้มค่าและในที่สุดเธอก็เอาชนะเจี่ยนอี๋นั่วได้ แต่เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเธอ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและกุมมือของเธออย่างกังวล
“อืม ฉันรู้ดีว่าเธอจะมีชีวิตที่ดี เธอสวยและยังเด็ก” เจี่ยนอี๋นั่วเอียงศีรษะ มองไปที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยและหัวเราะเบาๆ : “ดูเธอตอนนี้สิ เธอสวมเสื้อผ้าชนบทธรรมดาๆ แต่ไม่ดูบ้านนอกเลย น่ารักดีนะ”
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยปกปิดแขนเสื้อของเธอทันทีและหดมือลงใต้โต๊ะ เธอจ้องไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและพูดอย่างดุเดือด: “ตอนนี้ฉันต้องแต่งตัวแบบนี้ ก็เป็นเพราะแกไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ฉันเป็นคนเดียวในตระกูลเจี่ยน แกรีบโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้ฉัน ไม่งั้นทรัพย์สินของตระกูลต้องโดนแกทำลายหมดแน่! ”
“ตระกูลเจี่ยน?” เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม: “ตั้งแต่พ่อตาย ก็ไม่มีตระกูลเจี่ยนอีกต่อไป”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องคิดมากกับเสื้อผ้าพวกนี้หรอก เหลิ่งหมิงอันเคยบอกฉันว่าเธอน่ารัก ไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็รัก”
“เหลิ่ง…… เหลิ่งหมิงอันเขาชมฉันงั้นกรอ?” เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยหน้าแดงและถามออกมาเบาๆ
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า: “เขาสนใจเธอมาก เขาน่าจะชอบเธอมาก ฉันคิดว่าเขาชอบฉันแต่สุดท้ายก็รู้ว่าคนที่เขาชอบคือเธอ เพียงเพราะฉันดูเหมือนเธอนั่นแหละ ไม่งั้นเขาจะจับฉันทำไม แต่เธอกลับได้ออกไป?”
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยพูดด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน: “แต่……แต่ฉันเจอเขาครั้งเดียวและเขาก็ไม่เจอฉันอีกเลย”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “เขาคือเหลิ่งหมิงอัน เธอเคยเห็นตัวเขาไม่ใช่หรอ? เขาไม่เคยเห็นเธอมาก่อน เขาไม่สนใจเธอคงเป็นเพราะเรื่องเธอกับฉู่หมิงเซวียน เขาเห็นแล้วคงโกรธ เป็นห่วงเธอมากเท่าไหร่ก็จะโกรธมากขึ้น เธอต้องคิดหาวิธีที่จะอยู่กับเขา เธอต้องเอาชนะใจเขาให้ได้ อนาคตพวกเธอต้องมีชีวิตที่มีความสุขแน่นอน”
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกระพริบตา หน้าแดงและก้มศีรษะลง เธอจำได้ว่าตอนที่เธอพบกับเหลิ่งหมิงอัน เหลิ่งหมิงอันมองไปที่เธอหลายครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งหมิงอันยังหล่อเหลา ร่ำรวยและมีอำนาจมากทนายความที่เขาทำให้เธอออกจากคุก แต่เดิมเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคิดว่าเธอจะต้องอยู่ในคุกเป็นเวลานาน
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคิดกับตัวเอง: ถ้าเธออยู่กับเหลิ่งหมิงอัน เธอจะมีความสุขมากแน่
ถ้าเธออยู่กับเหลิ่งหมิงอันมันคือนรกของเธอ ไม่ เพียงแค่เข้าไปใกล้เหลิ่งหมิงอัน เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยมันคือประตูสู่นรกของเธอ มันเปิดออกแล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่ดวงตาของเธอเหมือนน้ำพุ เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเยาะในใจขณะที่คิด เจี่ยนอี๋นั่วจะไม่มีวันให้อภัยเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยสำหรับสิ่งที่เธอทำกับพ่อ ไม่ว่าจะมีแผนการร้ายซ่อนอยู่เบื้องหลัง แต่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็พาตัวพ่อหนีไปกับฉู่หมิงเซวียน ทำให้พ่อต้องตาย
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยได้รับการปล่อยตัวจากคุก เจี่ยนอี๋นั่วต้องการให้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยมีชีวิตเหมือนอยู่ในนรก คนเลือดเย็นและร้ายกาจอย่างเหลิ่งหมิงอันจะทนต่อการคุกคามของหมากรุกที่ถูกทอดทิ้งแบบนี้ได้ไหมนะ?