หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 122 ตั้งท้องแล้ว

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เหอหลวนเล่อมองไปยังเจี่ยนอี๋นั่ว เธอขมวดคิ้วด้วยความสับสน เธอไม่รู้จริงๆว่าเจี่ยนอี๋นั่วนั้นกำลังพูดถึงอะไร แต่เนื่องจากเหอหลวนเล่อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงหยุดคิดเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเหอหลวนเล่อได้มั่นใจแล้วว่าอี๋นั่วคือเพื่อนรักของเธอและจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เหอหลวนเล่อก็จะยืนหยัดอยู่ข้างๆเจี่ยนอี๋นั่วและคอยช่วยเหลือเธอ เหอหลวนเล่อพยักหน้าและกล่าว “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะช่วยเธอจัดการเรื่องของบริษัทตามคำบอกของเธอ เพียงแต่ฉันไม่เคยจัดการกับเรื่องแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าว “ฉันเชื่อเธอ เธอจะต้องทำได้ดี เธอมีความสามารถมากกว่าที่เธอคิด”

เหอหลวนเล่ออดหน้าแดงไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่ว เธอยกมือขึ้นเกาศีรษะและกล่าว “ไอยา เธอพูดแบบนี้ ทำให้ฉันเขินมากจริงๆ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครเชื่อในตัวฉันและชื่นชมฉันเลย ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดและเมื่อไม่นานมานี้ที่บ้านฉันก็ผ่านมาได้ไม่เลว ถึงแม้ว่าพ่อจะยังคงปากไม่ตรงกับใจ แต่ญาติหลายๆคนก็ยืนเคียงข้างฉัน”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและกล่าว “เวลาเจอปัญหาไม่ต้องเร่งรีบ ลองมองลองคิดให้ดี คิดไม่ออกก็ลองถามแม่ได้ อย่าทำอะไรโดยประมาท ฉันคิดว่าเธอจะทำทุกอย่างได้ดีขึ้น…”

“ได้ ฉัน ฉันจะพยายาม…” เหอหลวนเล่อยิ้ม เธอก้มศีรษะ ดวงตาแดงเล็กน้อยและกล่าวเบาๆ “แต่ไม่ว่าฉันจะเก่งแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถดื่มชายามบ่ายกับฉันได้”

“ได้สิ” เจี่ยนอี๋นั่วหรี่สายตา “ฉันมีโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ได้ถูกตัดสินประหารชีวิต อยู่ในนี้ฉันจะทำตัวให้ดีบางทีมันอาจกลายเป็นช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อถึงเวลา ตราบใดที่เธอยังจำฉันได้ ฉันก็จะไปดื่มชายามบ่ายกับเธอ”

“ได้เลย!” เหอหลวนเล่อยิ้มทั้งน้ำตา

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นและค่อยๆลูบกระจกหนาระหว่างเธอกับเหอหลวนเล่อ เธอเช็ดน้ำตาของเหอหลวนเล่อจากในระยะไกล จริงๆแล้วเจี่ยนอี๋นั่วเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะออกไปได้หรือไม่ ตอนนี้เธออยู่ในคุกและเธอไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องราวของโลกภายนอก แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะเดาว่าเหลิ่งเซ่าถิงอาจต้องขังเธอไว้ในคุกเพื่อปกป้องเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะจบลงเมื่อใด

ดูเหมือนเธอจะต้องกลับไปยังห้องเล็กๆที่ปิดตายที่เหลิ่งหมิงอันได้จัดขึ้น ในครั้งนี้เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะหลบหนีได้ด้วยตัวเอง เธอทำได้เพียงแค่ยึดมั่นในความหวังที่เธอต้องเชื่ออย่างมั่นคงแต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าความหวังนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ เธอต้องตั้งตารอคอยอย่างอดทน

หากเหลิ่งเซ่าถิงลืมเธอ เธอก็พร้อมที่จะติดคุกตลอดชีวิต หากว่าเหลิ่งเซ่าถิงเกิดเรื่องอะไรที่เหนือความคาดคิด เธอก็จะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีและพยายามรีบออกจากคุกโดยเร็วและช่วยเซ่าถิงวางแผนล้างแค้น

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วถูกนำตัวกลับไปยังคุก เธอต้องแวะเข้าโรงงานก่อน ก่อนหน้านี้เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่าคุกเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เมื่อเข้าคุกเธอก็เข้าใจแล้ว ที่แท้เมื่ออยู่ในคุกก็ต้องทำงาน นักโทษหญิงเหล่านี้เนื่องจากพวกเขาถักและเย็บผ้าค่อนข้างรวดเร็วงานทั้งหมดที่จัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขาคือการถักเสื้อกันหนาว เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษซ่อนเข็มเสื้อกันหนาวสำหรับการต่อสู้หรือฆ่าตัวตายเข็มเสื้อกันหนาวเป็นเข็มพลาสติกชนิดพิเศษที่มีความปลอดภัยและหลังจากเสร็จสิ้นการทำงานแต่ละครั้งพวกเขาจะต้องคืนกลับ

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วกลับมายังที่นั่ง เธอก็หยิบเข็มและเสื้อกันหนาวขึ้นมาและเริ่มถักอย่างเชื่องช้า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทำงานเหล่านี้มาก่อน ในขณะนักโทษหญิงคนอื่นนั้นถักกันอย่างรวดเร็วว่องไว เธอค่อยๆแกะผ้าขนสัตว์และค่อยๆถักด้วยท่าทีจริงจัง

“953 เธอถักผิด” นักโทษหญิงที่นั่งข้างๆเจี่ยนอี๋นั่วกล่าว

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและมองลงไปที่ส่วนที่เธอถักไว้ เธอไม่เข้าใจว่าเธอผิดตรงไหนเธอขมวดคิ้วและมองไปที่นักโทษหญิงที่กำลังคุยกับเธอ นักโทษหญิงได้ขมวดคิ้วและพูด “มานี่ ฉันจะถักให้ดูสองครั้ง”

นักโทษหญิงยื่นมือไปหาเจี่ยนอี๋นั่ว เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นเข็มและด้ายในมือของเธอให้กับนักโทษหญิงคนนั้น นักโทษหญิงถักเย็บสองเข็มอย่างรวดเร็วแล้วยื่นเข็มและด้ายคืนให้กับอี๋นั่ว เธอกล่าวอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก “แบบนี้ ถึงจะถูกต้อง”

เจี่ยนอี๋นั่วมองลงไปที่ส่วนที่ถักโดยนักโทษหญิงคนนั้น เธอถักได้ประณีตกว่าอี๋นั่ว เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าเบาๆและกล่าวกับนักโทษหญิงคนนั้น “ขอบคุณ”

นักโทษหญิงยิ้มและส่ายหน้าพร้อมกับพูดเบาๆว่า “ไม่เป็นไร ถักบ่อยๆเดี๋ยวก็เข้าใจ”

“พูดเรื่องอะไรกัน! ไม่ต้องกระซิบกระซาบ!” เสียงที่ดุดันของผู้คุมก็ดังขึ้น

นักโทษหญิงหันหน้ากลับไปทันที เจี่ยนอี๋นั่วก้มหัวลงและเริ่มถักอย่างตั้งใจ ตอนนี้สำหรับเจี่ยนอี๋นั่วการถักเสื้อสเวตเตอร์ชิ้นเล็กๆในมือของเธอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าเธอจะถูกคุมขัง แต่ชีวิตของเธอในตอนนี้ก็เรียบง่ายกว่ากว่าเมื่อก่อนมาก เจี่ยนอี๋นั่วไม่ต้องไปนึกถึงเรื่องของคนอื่นและไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมาเล่นแง่กับเธอ ในทุกๆวันนอนตรงเวลากินตรงเวลาและไปทำงานให้ตรงเวลา หลังจากเอาชนะความรู้สึกไม่สบายใจในการใช้ห้องร่วมกับคนอื่นในช่วงแรกได้แล้วและเอาชนะในเรื่องของการอาบน้ำรวมได้ด้วยนั้น ชีวิตในคุกของเจี่ยนอี๋นั่วก็เรียบง่ายสบายๆมากยิ่งขึ้น

หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานของวันนี้ เจี่ยนอี๋นั่วก็ได้รวมกลุ่มกินข้าวจากนั้นเธอก็กลับไปยังห้องขังของเธอ ก่อนเข้าไปในห้องขัวเจี่ยนอี๋นั่วก็เห็นนักโทษหญิงที่เพิ่งช่วยเธอเดินตามเข้ามาด้วย เจี่ยนอี๋นั่วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เธอถามเสียงเบา “เธออยู่ห้องขังเดียวกับฉันเหรอ?”

การแสดงออกที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักโทษหญิง “ทำไม? เธอไม่รู้เหรอ? ฉันอยู่ห้องขังเดียวกับเธอมาตลอด”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้าเบาๆ “ฉันไม่รู้”

นักโทษหญิงถอนหายใจ “ก็จริง ตั้งแต่เธอมาไม่มีใครมองและคุยกับเธอเลย แต่นี่ก็ไม่ได้โทษเธอ ไม่มีกำหนด ใครทนได้ภายในใจจะต้องอึดอัดใจเป็นแน่ ฉัน 786 ฉันชื่อเยี่ยหมิงจู ฉันก่อเรื่องผิดพลาดเล็กน้อยก็เลยได้เข้ามา…”

“ไอยา ผิดพลาดเล็กน้อยเรื่องอะไร คุณยักยอกเงินไปสามสิบล้านนั่นเป็นความผิดเล็กน้อยเหรอ ถูกตัดสินจำคุกห้าปีเพราะความผิดพลาดเล็กน้อย! ฉันนี่กินนอนยากลำบากก็เลยโจรกรรม ทำไมกันนะ คนเหล่านั้นถึงกินอยู่อย่างสุขสบาย ฉันต้องทนทุกข์ทรมานจากอาชญากรรมนี้ ฉันออกไปแล้ว ฉันก็ยังคงก่อโจรกรรมอีกแล้วก็กลับเข้ามา ที่นี่ยังมีอาหารให้กินมีน้ำให้ดื่ม ดีกว่าข้างนอกเสียอีก” หญิงสาวผมสั้นหน้าเหลี่ยมที่กำลังเข้าใกล้วัยสี่สิบกล่าวอย่างร้อนรน

หลังจากที่ผู้หญิงหน้าเหลี่ยมพูดจบเธอก็เหลือบมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยความกลัว “แน่นอนว่าฉันนั้นเรื่องเล็กเปรียบเทียบกับเธอไม่ได้หรอก”

นักโทษในห้องขังยังคงกลัวเจี่ยนอี๋นั่วเล็กน้อย ในเรือนจำแห่งนี้มีนักโทษหญิงไม่กี่คนเท่านั้นที่ก่อคดีฆาตกรรม พวกเธอนั้นก็ยังคงกลัวเจี่ยนอี๋นั่วที่เข้ามาในคดีฆาตกรรม

เยี่ยหมิงจูกระพริบตาและพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว “ฉัน ฉันทำผิดพลาดนั้นมีเหตุผล ฉันตกหลุมรักผู้ชายผิด ชายคนนั้นโกหกฉันว่าขาดทุนจากการลงทุนและยืมเงินฉันไปหมุน ตอนนั้นใจของฉันก็อ่อนจึงให้เขายืมเงินไปจากนั้นชายคนนั้นก็หนีหายไปเลย คนอย่างฉันนั้นช่างน่าสงสาร”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าและกล่าวตามคำพูดของเธอ “อืม น่าสงสารมาก”

“จริงเหรอ” เยี่ยนหมิงจูรีบหยิบกล่องอาหารออกมาและกล่าวกับอี๋นั่ว “ฉันเดาว่าเธอคงเข้าใจฉัน ฉันเห็นเธออ่านหนังสือ ไม่เหมือนพวกเธอเหล่านั้น พวกเธอมักจะหัวเราะฉัน พวกเราจะต้องคุยกันได้แน่ๆ นี่คือผลไม้ที่ครอบครัวฉันนำมาให้ เธอกินสิ…”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้าและกล่าว “ไม่กิน เธอกินเลย”

เมื่ออยู่ในคุกมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้กินอาหารอร่อยๆ ผลไม้และแฮมที่พบเห็นได้ทั่วไปในโลกภายนอกกลายเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุด เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นอาหารเหล่านั้น จากนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง ไม่ว่าเธอจะสุขสบายหรือทุกข์ยากขนาดไหน ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมสัญชาตญาณได้เลย เมื่อเห็นอาหารเธอก็อดไม่ได้ที่จะอยากลิ้มรสมัน

“กินเถอะ อร่อยมากนะ” เยี่ยหมิงจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เจี่ยนอี๋นั่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ส่ายหน้า ภายในคุกนี้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าเช่นนี้ แต่การแลกเปลี่ยนนั้นล้วนแต่เป็นพวกบุหรี่และอาหารอย่างอื่น แต่เจี่ยนอี๋นั่วนั้นไม่มีอะไรให้แลกเปลี่ยนเลย และเธอไม่รู้ว่าในอนาคตยังจะมีใครมาเยี่ยมเธออีกหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงของเล็กๆน้อยๆแต่หากเธอรับมันมาแล้วเธอก็อาจไม่ได้ตอบแทนคืน

“ไอยา เธอเลิกผลักไสเถอะ ฉันบอกว่าให้ก็คือให้” เยี่ยหมิงจูยื่นแฮมมาตรงปากของเจี่ยนอี๋นั่ว

ในที่สุดเจี่ยนอี๋นั่วก็อดไม่ได้ เธอก้มหน้าลงและกัดมัน กลิ่นของเนื้อกระจายไปในปากของเธอ อี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะอ้าปากและหัวเราะ ชีวิตมนุษย์นั้นลึกซึ้ง ตราบเท่าใดที่สามารถกินและนอนหลับได้ ก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ในขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วเริ่มถักทอผ้าตามความเร็วของเพื่อนได้แล้ว ดูเหมือนว่าเหอหลวนเล่อก็เข้าใจว่าเธอต้องนำของมาเยี่ยม ในตอนแรกตามความคิดของเหอหลวนเล่อ เธอได้ส่งอาหารราคาแพงมากมาย แต่เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ในคุกว่ามันไม่มีอุปกรณ์การปรุงอาหารอย่างรังนกที่เหอหลวนเล่อส่งมาให้ เหอหลวนเล่อก็เข้าใจในเรื่องของการส่งอาหารมากยิ่งขึ้น

ความอยากอาหารในช่วงนี้ของอี๋นั่วกลายเป็นเรื่องแปลกมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เยี่ยหมิงจูให้เธอหรืออาหารที่เหอหลวนเล่อส่งมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะรับอาหารมาและกินอาหารเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงนี้ใบหน้าของเธอกลมขึ้นมากและรอบเอวของเธอก็กว้างขึ้นด้วย เดิมทีคนอื่นที่ติดคุกมักจะผอมลง ไม่รู้ทำไมเธอถึงเปลี่ยนเป็นอ้วนมากขึ้น

ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้อยู่ในคุก แต่อยู่ในช่วงพักร้อน

“เธอ..หรือว่าเธอมีแล้ว?” เยี่ยหมิงจูที่พิงเตียงของอี๋นั่ว เธอมองอี๋นั่วที่กินไม่หยุด เธอขมวดคิ้วและถาม

“มีแล้ว?” อี๋นั่วหยุดลง เธอขมวดคิ้วและมองเยี่ยหมิงจู “มีอะไรเหรอ?”

“มีเด็ก? ช่วงนี้เธอดูเหมือนคนกำลังท้องเลย ฉันจำได้ว่าเธอเหมือนประจำเดือนไม่มาแล้วก็เจริญอาหารมาก”

เยี่ยหมิงจูลังเลและกล่าวต่อ “ก่อนเธอจะเข้ามา ไปนอนกับใครมาใช่ไหม?”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท