หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 136 เตรียมตัวพลิกแพลงคดี

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

“เฮ้ คนที่มาใหม่อ่ะ ทำเกินไปป่ะ” เยี่ยหมิงจูกระโดดลงมาเตียงชั้นบนก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูด : “ไปทำให้เด็กหวาดกลัวแบบนั้นได้ยังไง?”

เฉิงซานซานถอยหลังมาหนึ่งก้าวก่อนจะยกมือของเธอขึ้นอย่างประหม่า พร้อมกับนัยตาสีแดงของเธอแล้วพูดขึ้นว่า : “ฉัน…….ฉันผิดไปแล้ว……ฉันเองก็ได้รับความเจ็ปวดที่แสนสาหัดมาเหมือนกัน ฉันถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ เธออย่าด่าฉันเลยนะ ฉันกลัว ฉันกลัวเธอจริงๆนะ…….เธออย่าทำฉันเลยนะ…….”

เฉิงซานซานพูดไปด้วยพร้อมกับหลบเข้ามุมห้องขังไปด้วยก่อนจะทำท่าทางที่น่าสงสารออกมา

“อืม ดูเธอจะเป็นผู้หญิงที่พบเจอความยากลำบากมาเหมือนกันนะ ถึงแม้เธอจะขี้บ่นมาก แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องดุขนาดนั้น เรื่องนี้ช่างมันเถอะ พวกเราก็ช่วยกันดูหน่อย อย่าให้หล่อนทำอะไรเด็กก็พอแล้วไม่ใช่หรอ?”

ผู้หญิงที่อยู่ในห้องขังแห่งนี้ต่างก็ทนไม่ได้ที่เห็นสภาพของเฉิงซานซานที่เป็นแบบนี้ เมื่อเห็นท่าทางที่แสดงอกอย่างอ่อนแอของเฉิงซานซานทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเธอ

เจี่ยนอี๋นั่วกอดเจี่ยนซวงแน่นก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากห้องขัง เยี่ยหมิงจูก็ตามเธอออกมาเช่นกันก่อนจะถามเธอ : “เธอเป็นยังไงบ้าง? ผู้หญิงคนนี้ต้องผิดปกติแน่ๆ ให้หล่อนมาอยู่ห้องเดียวขังเดียวกันกับเธอแบบนี้ต้องมีจุดประสงค์อะไรแฝงอยู่แน่เลย ถ้าเกิดทางนั้นไม่เกิดเรื่องขึ้นล่ะก็ ฉัน…..”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับถามเธอ

เยี่ยหมิงจูถึงได้เอะใจว่าเธอเกือบจะพูดอะไรผิดแล้ว เธอรีบหายใจเข้าลึกๆก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำว่า : “ไม่มีอะไรหรอก ฉันพูดไปเรื่อยน่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปากของเธอแล้วมองไปที่เยี่ยหมิงจู เธอไม่ได้ถามอะไรต่อเพียงแค่อุ้มลูกน้อยเดินไปข้างหน้าต่อ เหมือนว่าเจี่ยนซวงนั้นจะตกใจมากๆจึงทำตัวเป็นเด็กดีทั้งวันแล้ว แม้แต่ข้าวก็ไม่ถามหาแล้ว เพียงตัวติดอยู่บนร่างของเจี่ยนอี๋นั่วไม่ยอมลงมา จนเจี่ยนอี๋นั่วนั้นทำอะไรไม่ได้เลย ทำได้เพียงอุ้มลูกสาวอยู่อย่างนั้น

“หม่าม้าคะ……คนนั้นเป็นคนไม่ดีหรอคะ?” เจี่ยนซวงสูดจมูกตัวเองก่อนจะถามคนเป็นแม่

เจี่ยนอี๋นั่วครุ่นคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพยักหน้า : “ใช่ค่ะ ดังนั้นหนูต้องอยู่ห่างๆเธอไว้นะคะ อย่าไปใกล้เธอ เข้าใจมั้ยคะ?”

เจี่ยนซวงรีบพยักหน้าก่อนจะตอบด้วยเสียงเล็กของเธอ : “ซวงซวงเข้าใจค่ะ ซวงซวงไม่เข้าใกล้เธอแน่นอน ซวงซวงกลัวค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นมาลูบหัวของเจี่ยนซวงก่อนจะพยักหน้า : “เด็กดี”

ในตาของเจี่ยนซวงเป็นสีแดง เธอขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเจี่ยนอี๋นั่วก่อนจะพูดอย่างน้อยใจ : “หม่าม้าคะ ทำไมเราไล่คนไม่ดีออกจากบ้านเราไม่ได้หรอคะ? คุณแม่คนผู้คุมมีกระบองนะคะ แต่ทำไมถึงปกป้องซวงซวงไม่ได้ล่ะคะ? ชวงชวงกลัวากเลยค่ะ………..กลัวจนไม่อยากกินอะไรแล้ว………”

เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้จะอธิบายให้เจี่ยนซวงคนเป็นลูกสาวฟังอย่างไร จึงทำได้เพียงกอดลูกน้อยเอาไว้ แล้วพูดขึ้นว่า : “หม่าม้าขอโทษค่ะ”

เป็นเพราะเธอที่ไม่สามารถหาบ้านที่ปลอดภัยให้กับเจี่ยนซวง เป็นเพราะเธอที่ทำให้เจี่ยนซวงต้องมีชีวิตที่ต้องมาเจอกับความน่ากลัวแบบนี้

เจี่ยนซวงยกมือน้อยๆของตัวเองมาลูบหน้าของเจี่ยนอี๋นั่วผู้เป็นแม่ : “หม่าม้าไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของหม่าม้าเลยนะคะ เป็นเพราะคนไม่ดีคนนั้นต่างหากที่ทำให้หนูผวา”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอทำได้เพียงกอดเจี่ยนซวงแน่นๆ ไม่กี่วันมานี้ เจี่ยนซวงเอาแต่ตัวติดเจี่ยนอี๋นั่ว ไม่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วไปที่ไหน เจี่ยนซวงก็จะตามติดไปราวกับว่าเป็นหางของเจี่ยนอี๋นั่วยังไงอย่างงั้นเลย เธอดึงกางเกงของเจี่ยนอี๋นั่วบ้าง เกาะหลังเจี่ยนอี๋นั่วบ้าง ตอนนี้เจี่ยนซวงนั้นราวกับกระต่ายตัวน้อยที่ตื่นตระหนกที่ไม่รู้ส่าตัวเองจะต้องไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหน

มีนักโทษบางคนที่ทนดูไม่ได้มาถามแลกห้องขังกับเจี่ยนอี๋นั่ว แต่เธอก็ปฏิเสธ ทางผู้คุมนักโทษก็จนปัญญา ยามที่เธอไปถามผู้คุมนักโทษว่าเมื่อไหร่จะได้ย้ายห้องขัง ผู้คุมนักโทษก็หลบหน้าเธอทุกที

เจี่ยนอี๋นั่วไม่มีทางเลือกจึงทำได้เพียงติดต่อกับเหอหลินเล่อ เพื่อให้เหอหลวนเล่อนั้นช่วยติดต่อเรื่องให้หน่อย ว่าจะมีทางไหนที่เธอสามารถย้ายห้องขังได้มั้ย ถึงแม้ว่าทางเหอหลวนเล่อนั้นจะรับปากเธอแล้ว แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็เดาว่าต้องมีคนตั้งใจให้เธอกับเฉิงซานซานมาอยู่ห้องขังเดียวกันแน่ เพื่อมาจัดระเบียบ ไม่ใครเธอนั้นย้ายห้องขังได้ง่ายๆแน่ๆ

เจี่ยนอี๋นั่วจึงทำได้เพียงเฝ้าระวังทั้งวันทั้งคืนเพื่อปกป้องไม่ให้เฉิงซานซานทำอะไรลูกของเธอ ถึงแม้ว่าเฉิงซานซานนั้นจะไม่ได้ทำอะไรรุนแรงอีก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธออีกเลย แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็เฝ้าระวังเฉิงซานซานเอาไว้ก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าเฉิงซานซานนั้นจับจ้องมาที่เจี่ยนซวงอยู่ มีบางครั้งที่เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลง เธอก็จะโดนเฉิงซานซานจ้องมาที่เธอ เธอตื่นขึ้นมาจากความฝัน ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาเธอก็พบเฉิงซานซานอยู่ในมุมมืดพร้อมกับจับจ้องมาที่เธอและเจี่ยนซวงลูกของเธอ

“อี๋นั่ว เรื่องนี้ฉันคงทำให้เธอไม่ได้นะ ฉันติดต่อคนออกไปแล้ว แต่พวกเขาบอกมาว่าเธอไม่สามารถแย่งห้องขังได้”

ตอนที่เหอหลวนเล่อมาเยี่ยมเจี่ยนอี๋นั่ว เธอก็พูดอย่างรู้สึกผิด : “ฉันคิดว่าตอนนี้มีการตรวจสอบอะไรอยู่ใช่มั้ย? คนพวกนั้นเลยไม่กล้าช่วยฉัน จริงๆแล้วเรื่องนี้มันง่ายมากเลยนะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกนั้นถึงไม่กล้า”

เจี่ยนอี๋นั่วยกยิ้มก่อนจะพูด : “ลำบากเธอแย่เลย ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น ขอบคุณเธอมากเลยนะ หลายปีมานี้ก็เป็นเธอคนเดียวเลยที่คอยดูแลฉันกับชวงชวง”

เจี่ยนชวงรีบพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอย่างเร่งรีบ : “ขอบคุณค่ะคุณแม่เล่อเล่อ”

เหอหลวนเล่อมองเจี่ยนซวงก่อนจะรีบยกยิ้มขึ้นมา : “ซวงซวงจ๋า น่าสงสารจริงๆเลย ผอมไปเยอะเลยนะคะ ท้องอ้วนกลมของหนูผอมไปเท่าไหร่กันแล้วนะ คุณแม่เล่อเล่อซื้อของมาให้หนูเยอะเลยนะคะ ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย หนูต้องกินให้ท้องอิ่มอยู่ตลอดเวลานะคะ เป็นเพราะคุณแม่เล่อเล่อแท้ๆเลยที่ไม่เอาไหน ช่วยให้หนูเปลี่ยนที่อยู่ไม่ได้……”

เหอหลวนเล่อพูดถึงตรงนี้เธอก็สูดจมูกอีกครั้ง ก่อนที่ตาแดงๆของเธอจะมีน้ำตาไหลออกมา เจี่ยนซวงเม้มปากของตัวเอง ก่อนจะร้องไห้ตามแล้วพูดว่า : “คุณแม่เล่อเล่ออย่าร้องไห้เลยนะคะซวงซวงปวดใจมากๆ”

เจี่ยนชวงพูดก่อนจะแกล้งร้องไห้ขึ้นมา เจี่ยนชวงแกล้งร้องไห้ แต่หลวนเล่อนั้นร้องไห้หออกมาเพราะว่าความเสียใจจริงๆ เหอหลวนเล่อร้องไห้พร้อมกับมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วแล้วถามเธอว่า : “เมื่อไหร่เธอจะได้ออกมา ชวงชวงก็โตแล้วนะ ควรจะเข้าโรงเรียนได้แล้ว ถ้ายังต้องอยู่ในนี้ต่อไปจะทำยังไง? แม้แต่โลกภายนอกซวงซวงก็ไม่เคยได้เห็น น่าสงสารจริงๆ…….”

เจี่ยนซวงได้ยินที่เหอหลวนเล่อพูด เธอก็หันหน้ามามองเจี่ยนอี๋นั่วทันทีพร้อมกับในตาแดงๆของตัวเอง : “หม่าม้าอย่าเสียใจนะคะ ซวงซวงไม่ได้น่าสงสารเลย ซวงซวงมีความสุขมากๆค่ะ ใช่มั้ยคะ?”

“อือ ซวงซวงไม่ได้น่าสงสาร ซวงซวงยังมีหม่าม้า มีคุณแม่เล่อเล่อ คุณแม่หมิงจู แล้วก็คุณแม่ผู้คุม แล้วก็ยังมีความรักอีกมากมาย ไม่น่าสมเพชเลยสักนิด มีความสุขมาๆต่างหาก!” เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นลูบหัวของลูกสาวเจี่ยนซวง ก่อนจะยิ้มแล้วพูดกับคนเป็นลูก

เหอหลวนเล่อรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไป เธอจึงรีบเช็ดสูดจมูกแล้วเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า : “จริงด้วยค่ะ คุณแม่เล่อเล่อพูดผิดเองค่ะ ซวงซวงเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วเนาะ ต่อไปซวงซวงจะมีความสุขมากกว่านี้อีกค่ะ”

เจี่ยนซวงเม้มปากของตัวเอง ตาแดงของเธอมองไปที่เหอหลวนเล่อ ก่อนที่จะหันหลังแล้วเข้าสู้อ้อมอกของคนเป็นแม่ เจี่ยนซวงนั้นเพิ่งจะสามขวบ แต่เธอนั้นไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับเด็กทั่วไป เธอจะแอบร้องไห้อู้อี้เท่านั้น

เหอหลวนเล่อเห็นท่าทีของเจี่ยนซวง เธอก็รีบพูดกับเจี่ยนอี๋นั่วอย่างตื่นตระหนกไป : “ฉันขอโทษนะ เป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้เด็กต้องร้องไห้แบบนี้”

เจี่ยนอี๋นั่วลูบหลังเจี่ยนซวงเบาๆ เธอยอมรับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเธอพยายามมากแค่ไหน เธอก็ยังต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้มีผลกระทบต่อแล้วก็ทำให้เกิดความเจ็บปวดแก่เจี่ยนซวง มันเป็นเพราะเธอไม่มีความสามารถที่จะชดเชยได้ เจี่ยนชซวงถึงต้องมีความทรงจำวัยเด็กแบบนี้ ไม่สามารถเติบโตมาอย่างเรียบๆง่ายๆแบบเด็กๆคนอื่นทั่วไป

“ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก เป็นความผิดของฉันเอง…….” เจี่ยนอี๋นั่วลูบหลังเจี่ยนซวงอีกครั้ง

เป็นเพราะเธอเห็แก่ตัวเกินไป ที่ให้กำเนิดเจี่ยนซวงมาโดยที่สภาพแวดล้อมมันไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตอย่างมีสุขภาพดี

เมื่อเหอหลวนเล่อได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดเช่นน้ัน เธอก็รีบแสดงออกถึงความรู้สึกผิดของเธอทันที จากนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า : “อี๋นั่ว จริงๆแล้วเรายังมีโอกาสนะ ตอนกำลังหาคนมาช่วยพลิกแพลงคำตัดสินอยู่ ตอนนี้ก็เริ่มคืบหน้ามาบ้างแล้ว ฉันจะช่วยให้เธอออกมาเร็วๆนะ”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า : “งั้นฝากเธอด้วยนะ”

ถึงแม้เธอจะพูดอย่างนี้ก็ตาม เรื่องการพ้นโทษนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เธอได้เข้ามาอยู่ที่เรือนจำแห่งนี้เพราะว่าคดีก่ออาชญากรรม เธอคงไม่มีวันพ้นโทษหรอก มันเกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อแย้งอำนาจของตระกูลเหลิ่งโดยตรงด้วย แต่ว่าเมื่อไหร่ที่ตระกูลเหลิ่งจะได้รับผลนั้นล่ะ? หรือว่าเมื่อไหร่ที่เหลิ่งเซ่าถิงจะยินยอมให้เธอพ้นโทษเมื่อไหร่?

เพราะเธอไม่ได้ข่าวของเหลิ่งเซ่าถิงมานาน เจี่ยนอี๋นั่วก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนที่แต่งงานไปแล้วคนนั้นจะจำผู้หญิงคนนี้กับลูกสาวของเขาที่ยังติดอยู่ในเรือนจำนี้ได้มั้ยนะ

หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วมาเจอเหอหลวนเล่อ เจี่ยนซวงก็มีปฏิกิริยาที่ดีมากขึ้นเธออมอมยิ้มก่อนจะกระโดดดึ๋งดั๋งอยู่ข้าๆเจี่ยนอี๋นั่ว ทั้งหัวเราะไปด้วยทั้งพูดไม่ด้วนในเวลาเดียวกัน : “หม่าม้าคะ ซวงซวงเป็นเด็กดีมากๆค่ะ วันนี้เลยได้กินลูกอม หม่าม้าต้องเอาลูกอมไปซ่อนไว้นะคะ ไม่ต้องให้ซวงซวงเห็น ซวงซวงไม่อยากกินลูกอมจนหมดแล้วค่ะ ซวงซวงจะค่อยๆกินไปทุกๆวัน”

“ชอบคุณแม่เล่อเล่อมั้ยคะ?” เจี่ยนอี๋นั่วถามเจี่ยนซวงด้วยรอยยิ้ม : “ทุกคร้ังที่คุณแม่เล่อเล่อมาๆหาหนู ก็ซื้อของกินอร่อยๆกับเสื้อผ้าสวยๆมาให้หนูตลอดเลย ”

เจี่ยนซวงพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะพูดด้วรอยยิ้ม : “ชอบค่ะ หนูชอบคุณแม่เล่อๆมากๆ แต่หนูชอบหม่าม้าคนนี้ที่สุดค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วถามด้วยรอยยิ้ม : “แต่ว่าห่าม้าไม่ได้มีเสื้อผ้าสวยๆกับของกินให้หนูนะคะ”

เจี่ยนซวงหัวเราะพร้อมกับพูดขึ้นว่า : “แค่หม่าม้ากอดชวงชวง ซวงซวงก็มีความสุขมากๆแล้วค่ะ ช่วงนี้ที่หม่าม้ากอดซวงซวง กอดจนเหนื่อยเลยใช่มั้ยคะ? มาค่ะซวงซวงจะให้ลูกอมหม่ามี้”

เจี่ยนซวงพูด พร้อมกับค่อยๆเอาอมยิ้มในปากของตัวเองออกมายื่นไว้ที่ปากของเจี่ยนอี๋นั่ว ก่อนจะพูดอย่างประหม่าว่า : “หม่าม้าแค่เลียก็พอนะคะ ไม่ต้องกัดนะ อมยิ้มมันกัดไม่ได้ค่ะ ถ้ากัดแล้วมันจะเปรี๊ยวจี๊ด”

เจี่ยนอี๋นั่สวย่อตัวของตัวเองลงมาก่อนจะชิมรสชาติของอมยิ้มนั้น แล้วก็พูดด้วยรอยยิ้ม : “ขอบคุณค่ะซวงซวงของหม่าม้า แต่ซวงซวงชอบอมยิ้มนี่นา หม่าม้ากินแบบนี้แล้วซวงซวงไม่ปวดใจหรอคะ?”

เจี่ยนซวงพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากแล้วพูดขึ้นมาว่า : “ปวดใจค่ะ แต่ว่าหม่าม้าเป็นคนกิน หนูก็มีความสุขไปด้วย”

“มาค่ะ ให้หม่าม้าอุ้มหนูหน่อย” เจี่ยนอี๋นั่วอ้าแขนจะอุ้มเจี่ยนซวงคนเป็นลูกด้วยรอยยิ้ม

เจี่ยนซวงยู่ปากของตัวเอง : “ชวงชวงอ้วนขนาดนี้ หม่าม้าไม่ต้องอุ้มแล้วค่ะ เดี๋ยวแขนหม่าม้าจะเจ็บ”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ค่ะ แขนหม่าม้าจะเจ็บ แต่ว่าคนที่หม่าม้ากอดเป็นซวงซวง ถึงแม้หม่าม้าจะเจ็บมากๆ แต่หม่าม้ามีความสุขมากกว่าค่ะ”

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท