หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 143 เด็กสองคน

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

อาเหวินรีบอุ้มกู้เค่อหยิงขึ้น และทับลงไปบนโซฟา

อาเหวินหยุดเล็กน้อยแล้วกดลงบนตัวของกู้เค่อหยิงทันที พร้อมกับยิ้มและพูดว่า:“เมื่อเวลาอยู่ด้วยกันกับผม ห้ามคิดถึงชายอื่น คุณทำได้แค่ต้องมองมาที่ผมคนเดียวเท่านั้น!”

ในขณะที่เขาพูด อาเหวินก็กัดริมฝีปากของกู้เค่อหยิงอย่างแรง กู้เค่อหยิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และขยับร่างของเธอเข้าไปใกล้ทันที ในความเป็นจริงเธอยังไม่ทันจะพูดอะไร อาเหวินไม่เพียงมีรูปร่างที่เหมือนเหลิ่งเซ่าถิงมาก แต่บางครั้งวิธีที่เขาทำก็คล้ายกับเหลิ่งเซ่าถิงมากเช่นกัน เพียงแค่ว่าอาเหวินจะรุนแรง และไม่มีความกังวลหรือความกลัว แต่เหลิ่งเซ่าถิงจะดูอ่อนโยนมากกว่า อาจดูเหมือนกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่คล้ายกันโดยสิ้นเชิง

แต่หลังจากนั้น กู้เค่อหยิงยังไม่ทันจะคิดอะไรต่อ เธอก็ถูกอาเหวินเข้าจู่โจมอย่างเร้าร้อน

เมื่อทุกอย่างจบลง กู้เค่อหยิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ และจูบริมฝีปากของอาเหวินเบา ๆ แล้วกู้เค่อหยิงก็จากไป กู้เค่อหยิงไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นรับรู้ว่าเธอมีผู้ชายอย่างอาเหวิน ไม่อย่างงั้นชีวิตของเธอต้องพังพินาศแน่

อาเหวินเดินมองตามหลังกู้เค่อหยิงจากไป ก็เริ่มขมวดคิ้ว ในเวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้น อาเหวินดูไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา เสียงในโทรศัพท์เย็นชามาก เขาก็รีบบอกหมายเลขห้องของเขา เพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัว แต่เนิ่นๆ เพราะอีกไม่กี่วันอาเหวินต้องเข้ามาเป็นสามีของกู้เค่อหยิงแทน และมีเซ็กส์กับเธอ

อาเหวินตอบทันทีด้วยความ“เข้าใจ ”จากนั้นหายใจออกเฮือกยาวๆ แล้วหลับตาลง

เขาเป็นหนุ่มบาร์โฮสมาก่อน แต่เดิมเพราะเขาเป็นคนเกียจคร้านและไม่ชอบทำงาน อีกทั้งหลงใหลในชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์เลยต้องเลือกเดินเส้นทางนี้ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแม่ของเขาป่วยหนัก และอีกทั้งน้องสาวของเขาต้องเรียนหนังสือ แล้วชะตาชีวิตบังคับให้เขาต้องเลือกเดินทางเส้นทางนี้ แต่คนอย่างเขานั้นผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาก็คือผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว และเขามักจะมีปัญหาอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกผู้มีอำนาจขุ่นเคืองและเกือบถูกทำร้ายจนตาย โชคดีที่มีคนมาช่วยเขาไว้

จนถึงตอนนี้ อาเหวินไม่รู้ว่าคนที่ช่วยเหลือเขานั้นเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าอีกฝ่ายขอให้เขาไปดูแลเทคแคร์ผู้หญิงคนหนึ่ง และต้องสร้างอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมา ตัวตนที่หนึ่งคือเป็นคนรักของผู้หญิงคนนี้ และอีกตัวตนหนึ่งคือเป็นสามีของผู้หญิงคนนี้ เขาเป็นหนุ่มบาร์โฮสมาหลายปีแล้ว อาเหวินรู้วิธีที่จะเล่นบทผู้ชายบุคลิกที่แตกต่างต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง ผู้ชายอย่างเขาไม่สามารถอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียวได้ และเป็นเพียงผู้หญิงประเภทเดียว

ไม่ว่าผู้หญิงจะชอบอะไร เขาก็จะเล่นบทเป็นเช่นนั้น อาเหวินจุดบุหรี่ เขาไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้และเรื่องราวเบื้องหลังของเธอในตอนนี้เลยสักนิด และเขาก็ไม่รู้สึกกลัว แค่สามารถช่วยชีวิตแม่ของเขา และสามารถส่งเสียน้องสาวของเขาเข้าเรียนมหาลัย และยังเก็บเงินไว้ให้พวกเขาใช้มากมาย ถึงแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา เขาก็ไม่แคร์?

เหลิ่งเซ่าถิงเลือกอาเหวิน ก็เพราะด้วยเหตุผลนี้ เหลิ่งเซ่าถิงไม่ชอบความสิ้นหวังที่โดดเดี่ยว พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะปกป้องใครจริงๆ และพวกเขาไม่รู้ว่าการเสียสละที่แท้จริงคืออะไร และมันไม่สามารถที่จะควบคุมได้ง่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคน ๆ หนึ่งคือชีวิตของเขาเอง มีเพียงคนประเภทเดียวเท่านั้นที่จะสามารถสละชีวิตเพื่อสิ่งอื่นได้ และคนประเภทนี้มีคนที่สำคัญกว่าที่เขาต้องการความคุ้มครองและดูแล

เมื่อเหอหลวนเล่อติดต่อกับเจี่ยนอี๋นั่วอีกครั้ง ก็เป็นช่วงบ่ายของวันอีกวันแล้ว เมื่อเหอหลวนเล่อพูดออกมา แววตายังสะลึมสะลือเหมือนคนยังเมาไม่ส่าง เธอพยายามยิ้มและพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว:“รอฉันนะ ฉันจะไปรับเธอตอนนี้ จากนั้นเปลี่ยนชุดรอ ฉันจะพาเธอไปดูบริษัทของเรา เธอฟังนะ หลังจากที่เธอมา ฉันจะประกาศให้พวกเขาทราบ คุณประธานเจี่ยนกลับมาแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วเดิมทีเธอเก่งกาจขนาดนั้น เมื่อเธอเข้ามาบริหารใน บริษัท เธอจะต้องทำได้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มสักครู่และมองไปที่เจี่ยนซวงที่กำลังลุกจากเตียง และกำลังรู้สึกตื่นเต้นแล้วเดินไปรอบ ๆ ในห้องของโรงแรม เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “ไปช้อปปิ้งก็พอแล้ว แต่ฉันจะไม่ไปที่บริษัทแล้ว ฉันต้องขอบคุณมากสำหรับการที่เธอสนับสนุนบริษัทจนถึงทุกวันนี้ แต่ฉันได้ทิ้งบริษัทไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด เป็นเพราะเธอช่วยบริษัทไว้ ฉันไม่ควรจะเป็นประธานเจี่ยนอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันอยากซื้อเสื้อผ้าที่สุภาพหน่อย แล้วอยากจะไปที่สำนักงานทนายความเพื่อเปลี่ยนชื่อของบริษัทอย่างเป็นทางการและมอบให้กับเธอ”

“ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ?บริษัทเป็นของเธอนะ?”เหอหลวนเล่อหน้าคิ้วขมวด

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า “ถ้าไม่มีเธอ ก็จะไม่มีบริษัท เธอไม่ต้องเถียงฉันเรื่องนี้อีกแล้ว บริษัทจะมอบให้เธออย่างแน่นอน ถ้าเธอไม่ยอมรับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ใช่เพื่อนรักกันอีกแล้ว และไม่สามารถเป็นได้อีกต่อไปแล้ว”

เหอหลวนเล่อขมวดคิ้วและพูดเสียงดัง“ ฉัน……ฉันจะเอาบริษัทของเธอได้อย่างไร ตอนนี้เธอต้องการใช้เงินอย่างมาก และเธอยังต้องเลี้ยงดูซวงซวงนะ……ในความเป็นจริงเมื่อตอนที่เธอส่งมอบบริษัทให้ฉัน สถานการณ์ของบริษัทมันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากเธอเป็นคนบริหารบริษัทตั้งแต่แรก บริษัทจะทำได้ดีกว่านี้แน่นอน ฉันยังคิดว่าตอนนี้ฉันบริหารบริษัทได้เพียงแค่นี้เท่านั้น และมันทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อเธอมากเลย ”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและส่ายหัว: “ไม่รับไม่ได้ ฉันพร้อมที่จะทำสิ่งนี้ตอนที่ฉันอยู่ในคุก หลวนเล่อเธอให้ความช่วยเหลือที่มีต่อฉันนั้นมากมายเหลือเกิน ไม่เพียงแค่ความช่วยเหลือทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความช่วยเหลือทางจิตใจด้วย ฉันคิดว่าเธอจะกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เอาแบบนี้ละกัน คิดซะว่าฉันร่วมหุ้น ฉันถือหุ้นสำรองไว้ 10% ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นของเธอทั้งหมด จากนี้ไปจะได้รับปันผลทุกปี แบบนี้ดีไหม ?”

เหอหลวนเล่อหน้าขมวดคิ้ว: “ถ้าหากคุณซื้อตั้งแต่แรกแล้ว ก็คงจะไม่แบ่งเงินแค่นี้หรอก เธอทำให้ฉันเอาเปรียบเธออยู่นะ!”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า :“ถ้าหากเธอรู้สึกว่าเอาเปรียบฉันอยู่ อีกสักพัก เธอต้องซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ฉันและซวงซวงสักสองสามชุดแล้วล่ะ”

เหอหลวนเล่อยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า: “แม่ของฉันมักจะพูดเสมอว่าฉันดื้อ แต่ตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่าคนที่ดื้อรั้นมากจริงๆ นั่นก็คือเธอ โอเค! ฉันจะซื้อเสื้อผ้าให้เธอหลายๆชุด และยังมีโน๊ตบุ๊ค เธอรู้ไหมว่าเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเร็วแค่ไหนแล้ว!พวกเรามีแค่โทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว ก็สามารถไปได้ทุก โดยไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์แล้วอีกด้วย ”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันรู้แล้ว ฉันได้ดูข่าว ฉันไม่ใช่คนดึกดำบรรพ์นะ รีบมารับฉันเถอะ ฉันรอเธอนะ ฉันแทบรอไม่ไหวแล้ว ที่จะใช้เเงินในกระเป๋าเธอเกลี้ยงเลย”

เหอหลวนเล่อมาถึงในไม่ช้า และพาเจี่ยนซวงและเจี่ยนอี๋นั่วไปที่ห้างสรรพสินค้าทันที การได้เห็นในข่าวกับการเห็นด้วยตานั้นมันช่างแตกต่างกันจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหอหลวนเล่อวางโทรศัพท์ เมื่อกำลังชำระเงินอยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยความประหลาดใจ

เจี่ยนซวงก็เขย่งเท้าดูอย่างอยากรู้อยากเห็นและถามว่า: “คุณแม่เล่อเล่อคะ ชำระเงินแบบนี้เองเหรอคะ ทำไมถึงไม่จ่ายเงินให้ล่ะคะ

เหอหลวนเล่อพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มกับเจี่ยนซวงทันทีว่า:“ชำระเงินแบบนี้แหละจ๊ะ โอ้ ใช่แล้ว มา ลูกซวงซวง ยิ้มให้คุณแม่เล่อเล่อหน่อยสิลูก เดี๋ยวคุณแม่เล่อเล่อถ่ายรูปให้นะคะ”

เจี่ยนซวงไม่เคยถ่ายภาพมาก่อนรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจี่ยนอี๋นั่วอย่างประหม่า: “ไม่เอาคะ ซวงซวงกลัวค่ะ……ซวงซวงกลัวค่ะ……”

เหอหลวนเล่อได้ถ่ายภาพแล้ว และเอาให้เจี่ยนอี๋นั่วดู: “ถ่ายเสร็จแล้ว ซวงซวงมาดูนี่สิ นี่ใช่ลูกไหม”

เจี่ยนซวงมองไปที่รูปถ่ายในโทรศัพท์นั้น รีบปิดปากของเธอทันที และพูดด้วยรอยยิ้ม: “มันคือ ซวงซวง…… แม้แต่ผมเปียก็เหมือนกันมาก”

เหอหลวนเล่อยิ้มแล้วพูดว่า:“ถ้าอย่างนั้นซวงซวง มาถ่ายอีกรูปมา”

ในขณะนั้นเจี่ยนซวงได้ยื่นมือเล็กๆของเธอออกมาด้วยท่าทางระมัดระวัง เอียงศีรษะและหัวเราะออกมา ภาพที่ถ่ายในครั้งนี้ถ่ายได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ในขณะที่ถือโทรศัพท์เจี่ยนซวงยิ้มและพูดว่า “มันน่ารักมากจริงๆค่ะ……”

เหอหลวนเล่อหัวเราะออกมา:“ซวงซวงคนนี้น่ารัก หรือซวงซวงที่อยู่โทรศัพท์น่ารักมากกว่าจ๊ะ?”

เจี่ยนซวงยกมือขึ้นแตะที่จมูกของตัวเอง:“ซวงซวงคนนี้น่ารักค่ะ”

“เอาล่ะ ซวงซวงลูกรีบไปเลือกชุดให้คุณแม่เร็วๆเข้า ” เหอหลวนเล่อยิ้มและเดินไปที่ร้านเสื้อผ้าอีกแห่ง หันกลับมาและหยิบชุดเดรสและส่งให้กับเจี่ยนอี๋นั่ว เธอยิ้มและพูดว่า: “ฉันคิดว่าชุดเดรสชุดนี้เหมาะกับเธอมากเลย ไม่งั้น เธอไปลองใส่ดูก่อนดีไหม?”

เจี่ยนซวงชูนิ้วโป้งขึ้นรีบพูดว่า:“คุณแม่คะ ลองใส่ดูค่ะ……”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มจับชุดเดรสและเดินเข้าไปในห้องลองเสื้อ พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าลอง ชุดเดรสสีดำนี้เหมาะกับ เจี่ยนอี๋นั่วมาก เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเดินออกมาจากห้องลองเสื้อ เจี่ยนซวงรีบปรบมือทันที: “คุณแม่สวยมากคะ!”

พนักงานขายยังยิ้มและพูดว่า :“คุณผู้หญิงคะ ชุดนี้เหมาะกับคุณมากๆค่ะ คุณดูเส้นด้านหลังนี้สิคะ……”

เมื่อพูดถึงนี่ พนักงานขายก็หยุดทันที เมื่อเห็นรอยแผลเป็นบนไหล่ของเจี่ยนอี๋นั่ว เธอก็ขมวดคิ้วทันทีและตะโกนว่า: “โอ้ เป็นแผลใหญ่มากค่ะ”

ชุดเดรสชุดนี้แสดงให้เห็นรอยแผลเป็นของเจี่ยนอี๋นั่วได้อย่างชัดเจน และพนักงานขายก็พูดทันทีว่า: “ฉันขอโทษค่ะ ไม่ ถ้าไม่อย่างนั้นเปลี่ยนอีกชุดดีไหมคะ?”

เหอหลวนเล่อรีบขมวดคิ้วและเดินไป พร้อมพูดกับพนักงานขาย: “คุณพูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

เจี่ยนอี๋นั่วจับเหอหลวนเล่อยิ้มแล้วพูดว่า”ไม่เป็นไร ไม่ใช่ความผิดของเธอ ถึงแม้ชุดเดรสชุดนี้จะแสดงรอยแผลเป็นให้เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้สึกรอยแผลเป็นนี้สวยมาก ใช่ไหมคะ ลูกซวงซวง?”

เจี่ยนซวงซวงเม้มริมฝีปากของเธอ มองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยดวงตาแดงก่ำ พูดด้วยน้ำเสียงเบา: “ไม่สวยค่ะ แผลเป็นไม่สวยค่ะ……เป็นเพราะซวงซวงทำให้คุณแม่กลายเป็นคนไม่สวยค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วหันหลังไปมองเหอหลวนเล่อ ยิ้มแล้วถามว่า:“มีร้านสักตัวไหม?”

เหอหลวนเล่อผงะ จากนั้นพยักหน้าและพูดว่า :“มีสิ ฉันจะพาเธอไปเดี๋ยวนี้”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า :“นอกจากนี้ฉันต้องการชุดนี้อีกด้วย เธอช่วยชำระเงินให้ฉันด้วยนะ”

เมื่อถึงร้านสัก เจี่ยนอี๋นั่วก็ขอให้ช่างสักสักกิ่งดอกไม้ที่หลังของเธอ โดยมีดอกกุหลาบสองดอกงอกอยู่ และมันปิดกั้นรอยแผลเป็นพอดี เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วสักเสร็จแล้ว รีบเปลี่ยนชุดเดรส จ้องมองเจี่ยนซวง ยิ้มแล้วถามว่า:“รอบนี้สวยหรือยังลูก?”

เจี่ยนซวงค่อยพยักหน้า:“สวยมากค่ะ แต่ทำไมมีดอกสองดอกล่ะคะ”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า:“ดอกนึงคือซวงซวงและอีกดอกนึงคือเด็กที่น่ารักเหมือนกันกับซวงซวงไงจ๊ะ”

ลูกคนนั้นที่เจี่ยนอี๋นั่วเสียไป ในที่สุดเธอก็ออกมาแล้ว เธอก็ต้องพยายามเพื่อหาเขาให้เจอ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน