เมื่อเจี่ยนซวงเห็นซวีอี้เฟย เธอจ้องมองไปที่ซวีอี้เฟย จากนั้นก็ประกบปากและพูดเบาๆ: “ตัวไม่ค่อยสูงเลย ดวงตาก็ไม่สวยด้วย”
เจี่ยนอี๋นั่วหันไปหาเจี่ยนซวงทันทีและพูดอย่างนุ่มนวล: “ซวงซวง ห้ามพูดไม่สุภาพแบบนี้”
เมื่อเจี่ยนซวงได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้ เธอก็หยุดพูด จับมือและทำหน้ามุ่ยใส่ซวีอี้เฟย ซวีอี้เฟยไม่อายและพูดด้วยรอยยิ้มกับเจี่ยนซวง: “ลุงดูธรรมดามากและไม่ค่อยสูง ซวงซวงพูดถูก”
เจี่ยนซวงได้ยินซวีอี้เฟยพูดเช่นนี้ เธอรีบก้มศีรษะลงและพูดว่า: “ขอโทษนะคะ”
ซูอี้เฟยยิ้มและตอบ: “ไม่เป็นไรจ้า”
จากนั้นซวีอี้เฟยก็ยิ้มให้เจี่ยนอี๋นั่วและพูดว่า: “ซวงซวง เป็นเด็กดีจริงๆ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้า: “เธอค่อนข้างเชื่อฟัง”
หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็แตะที่หัวของเจี่ยนซวงเบาๆ ทันใดนั้นก็เงียบลง ซวีอี้เฟยผลักอาหารตรงหน้าเขาด้วยความลำบากใจเล็กน้อย ผลักอาหารไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวง พูดเกรงๆว่า: “พวกเธอลองชิมดู อาหารจานนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้า หยิบผักวางไว้บนถ้วยและป้อนให้เจี่ยนซวง เจี่ยนซวงอ้าปากทันที เจี่ยนซวงกินไปสักพักก็ตะโกนว่าจะไปห้องน้ำ เจี่ยนอี๋นั่วดูแลเจี่ยนซวงมาโดยตลอดจนแทบไม่ได้คุยกับซวีอี้เฟย
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกตัว เธอก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซวีอี้เฟย เธอก็เห็นว่าซวีอี้เฟยกำลังมองเธออย่างแน่วแน่ เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มอย่างขอโทษและพูดว่า: “ขอโทษด้วยนะ ออกมากินข้าวกับเธอแต่ฉันเอาแต่ดูแลลูก”
ซวีอี้เฟยรีบยิ้มและส่ายหัว: “ไม่เป็นไร อย่าลืมสิ ฉันเป็นกุมารแพทย์และฉันเข้าใจสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี ฉันเข้าใจ กลับกันฉันยังรู้สึกว่าเธอ สวยมาก……”
“สวย?” เจี่ยนอี๋นั่วตะลึงเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินคำชมนี้ เธอไม่ได้ยินคำชมแบบนี้จากเพศตรงข้ามมานานแล้ว เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อย
ซวีอี้เฟยพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดเบาๆ: “ก่อนหน้านี้เธอก็สวยมากเช่นกัน ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาของเธอเท่านั้น แต่อารมณ์ของเธอก็น่าดึงดูดมาก แต่แค่……ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่ามันเหมาะสมหรือเปล่า แต่บางทีก็เกินไป ทำให้เข้าถึงยาก แต่ตอนนี้เธออ่อนลงมากทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนตัวเล็กๆ ฉันสามารถเข้าใกล้เธอได้ มันรู้สึกดีกว่าเมื่อก่อนมาก ฉันมักจะกลัวว่าจะทำอะไรผิดและพูดอะไรผิดจะให้เธอหัวเราะได้ไหม แต่……แต่เธอคงจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นฉันเป็นยังไง ”
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเบาๆและพูดว่า: “เพราะฉันไม่ใช่เจี่ยนอี๋นั่วคนเมื่อก่อนแล้ว”
ซวีอี้เฟยรีบพูดว่า: “ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปยังไง เธอก็เป็นเจี่ยนอี๋นั่วในใจฉันเสมอ อี๋นั่ว ฉันชอบเธอ ฉันชอบเธอมาก ฉันอยากอยู่กับเธอมาตลอด ตอนฉันเจอเธออีกครั้ง ฉันคิดว่าฉันกำลังฝันไม่…..ไม่ตอนนี้ฉันก็กำลังฝัน การได้อยู่กับเธอคือความฝันตลอดชีวิตของฉัน ฉันจะดูแลซวงซวงกับเธอให้ดี ฉันไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก่อน ฉันจะทำทุกอย่างให้เธอมีความสุข”
เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินดังนั้นก็ลดสายตาลงมองไปที่ซวีอี้เฟยและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันในตอนนี้เธอก็เห็นแล้ว เธอไม่สนจริงๆงั้นหรอ เธอไม่สน แต่ครอบครัวเธอจะรับได้หรอ? ตอนนี้เรายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องอนาคต”
ซวีอี้เฟยรีบตอบว่า: “อี๋นั่ว ถึงแม้ว่าคนในครอบครัวของฉันจะไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่ปัญหา ความเป็นจริงสถานการณ์ของเธอในตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะหาผู้ชายที่เหมาะสม ฉันมีการมีงานที่มั่นคง ฉันสามารถดูแลเธอกับลูกได้ มันเป็นโอกาสของเธอที่ควรรีบคว้าไว้ไม่ใช่หรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของซวีอี้เฟย ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดกับซวีอี้เฟยว่า:“ จริงๆแล้วฉันไม่ได้รู้สึกแย่กับเธอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ ถ้าเธออยู่กับ ฉันเธอจะรู้สึกเสียใจทีหลัง บางทีมันเหมาะกับเราที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า ”
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้ เธอก็ลุกขึ้นยืนหันหลังกลับและยิ้มให้เจี่ยนซวงแล้วพูดว่า: “ไปเถอะ ซวงซวง แม่จะพากลับบ้าน”
ซวีอี้เฟยยืนขึ้นและขมวดคิ้ว มองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและรีบถาม: “เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? ถ้าพูดอะไรผิดไป อย่าถือสาฉันเลยนะ ที่ฉันพูดเพราะเป็นห่วงเธอจริงๆ ขอให้เธออย่าพลาดโอกาสดีๆนี้ไปเลย เราก็อายุมากแล้ว ไม่ควรมาเพ้อฝันเหมือนในนิยาย ทำตามหัวใจตัวเองมันดีที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ? เธอบอกว่าเธอไม่ใช่อี๋นั่วคนเมื่อก่อน เธอ…….”
“ฉันไม่ใช่เจี่ยนอี๋นั่วคนเดิมอีกต่อไปแล้ว” เจี่ยนอี๋นั่วหันศีรษะไปและยิ้มให้ซวีอี้เฟยพร้อมพูดว่า: “แต่นั่นหมายถึงสภาพภายนอกของฉัน แต่ภายในฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ฉันแค่ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์การใช้ชีวิตใหม่ ขอโทษด้วยนะ คุณซวี ฉันขอปฏิเสธการจีบของเธอ”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็อุ้มเจี่ยนซวงและยืนขึ้น ซวีอี้เฟยขมวดคิ้วมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเสียงดัง: “เจี่ยนอี๋นั่ว ทำไมเธอยังเป็นแบบนี้? เธอรู้ไหม ฉันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเธอ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและมองไปที่ซวีอี้เฟยและพูดว่า: “ไม่ เธอเป็นแค่คู่เดทของฉัน เธอไม่ได้ดี……”
หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ ทันใดนั้นก็มีแก้วไวน์เทใส่เธอ เจี่ยนอี๋นั่วรีบบังเจี่ยนซวงทันทีและน้ำก็เทลงบนตัวเจี่ยนอี๋นั่ว ซวีอี้เฟยขมวดคิ้วและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและพูดเบาๆว่า: “เธอเป็นแค่ผู้หญิงที่เคยติดคุก ฉันอยากอยู่กับเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว แต่เธอยังมาปฏิเสธ? เธอคิดว่าเธอยังเป็นเจี่ยนอี๋นั่วคนเมื่อก่อนหรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วก้มศีรษะลงและมองไปที่เจี่ยนซวง ถามเบาๆ : “ซวงซวง เป็นไงบ้าง เปียกหรือเปล่า?”
เจี่ยนซวงตาแดง เธอส่ายหัว: “ไม่เปียก แม่ เขาไม่ใช่คนดี…… ”
ซวีอี้เฟยขมวดคิ้วและมองไปที่เจี่ยนซวงและตะโกนเสียงดัง: “ยัยเด็กบ้า เธอพูดว่าอะไรนะ?”
เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆ หยิบแก้วน้ำที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา สาดใส่หน้าของซวีอี้เฟยอย่างไม่ใยดี และพูดว่า: “ฉันไม่เคยจำเธอได้ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเจี่ยนอี๋นั่วในตอนนั้นถึงไม่ชอบเธอ เจี่ยนอี๋นั่วในตอนนั้นไม่มีวันชอบเธอ แล้วเจี่ยนอี๋นั่วตอนนี้ก็ไม่มีทางชอบผู้ชายแบบเธอ! ทางที่ดีเธอรีบเปลี่ยนนิสัยแบบนี้ซะนะ ไม่งั้น เธอไม่มีวันได้อยู่กับคนที่เธอชอบหรอก ผู้หญิงที่ฉลาดเขาจะปฏิเสธเธอ” ”
ในขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วพูด ก็ก้มศีรษะลงและเหลือบมองไปที่อาหารบนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: “ตอนแรกฉันก็ว่าจะหารค่าอาหารกับเธอ แต่จะว่าไปแล้วเธอเป็นคนชวน เธอก็จ่ายละกัน ถือว่าเป็นการขอโทษฉันเรื่องเมื่อกี้ด้วย”
หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็หันไปและปล่อยเจี่ยนลง เดินออกจากร้านอาหาร เจี่ยนซวงยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำบนใบหน้าของเจี่ยนอี๋นั่วด้วยมือเล็กๆ ในขณะที่เธอตาและจมูกแดงพูดออกมาว่า: “แม่ เขาเป็นคนไม่ดี”
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: “แม่รู้แล้ว ดูเหมือนว่าแม่จะให้โอกาสผิดคน ต่อไปแม่จะระวังกว่านี้นะ”
เจี่ยนซวงสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดด้วยเสียงร้องไห้: “แม่ หนูไม่อยากได้พ่อแล้ว หนูอยากอยู่กับแม่”
“ซวงซวง……” เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม: “แม้ว่าคนนี้จะไม่ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่ดี ลูกยังคิดถึงลุงคนที่เจอในสวนสาธารณะไม่ใช่หรอ? แสดงว่าโลกนี้ยังมีลุงดีๆให้ลูกเลือกอีกมากมาย ตอนนี้คนที่ทำผิดคือลุงคนเมื่อกี้ แต่เราห้ามตัดสินลุงคนอื่นว่าไม่ดี อาจจะทำให้เราเสียคนดีๆไป มันคุ้มไหม?”
เจี่ยนซวงพยักหน้าเบาๆ: “เราจะมาเสียโอกาสเพราะเรื่องนี้ไม่ได้”
หลังจากเจี่ยนซวงพูดจบ เธอก็พูดทันที: “ถ้าอย่างนั้นเราก็ให้โอกาสลุงคนอื่นต่อไปหรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้า: “มาเถอะ แม่จะพาซวงซวงกลับบ้าน”
เจี่ยนซวงพยักหน้าและพูดกับเจี่ยนอี๋นั่ว: “ซวงซวงจะเดินเอง ไม่อยากให้แม่อุ้ม ซวงซวงจะเดิน……”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและวางเจี่ยนซวงลง พูดกับเจี่ยนซวงด้วยรอยยิ้ม: “ถ้าซวงซวงเหนื่อยแล้วก็บอกแม่นะ เดี๋ยวแม่จะอุ้มซวงซวง”
หลังจากเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็หยุดชั่วขณะและมองไปที่เจี่ยนซวงและพูดเบาๆ: “ซวงซวง ต่อไปลูกอย่ามองคนที่ภายนอก อย่าเชื่อใครง่ายๆ คนอื่นจะทำให้ชีวิตเรายุ่งลำบาก”
จริงๆแล้วเจี่ยนซวงไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดในตอนนี้ เธอแค่พยักหน้าอย่างว่างเปล่า มือเล็กๆของเธอจับมือของเจี่ยนอี๋นั่วไว้แน่นและพูดอย่างจริงจัง: “แม่ ซวงซวงจะโตเร็วๆ จะได้ดูแลแม่ได้ ไม่ต้องการพ่อมาดูแลแม่อีก”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและแตะศีรษะของเจี่ยนซวงเบาๆ:“ ซวงซวงไม่ต้องรีบโตหรอก ซวงซวงยังเป็นเด็กก็ควรทำตัวเป็นเด็ก ไม่ต้องรีบโต แม่ดูแลตัวเองได้ ซวงซวงไม่ต้องเป็นห่วง แม่อยากขอโทษซวงซวงเพราะวันนี้ทำให้ซวงซวงตกใจ พาซวงซวงมาเจอกับคนแบบนี้ แม่ให้พร1ข้อ ซวงซวงอยากขออะไรเอ่ย ”
“ ซวงซวงอยากกินเค้ก…… ” เจี่ยนซวงพูด
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้าและพูดเบาๆ “โอเค แม่จะพาซวงซวงไปกินเค้ก”
เจี่ยนซวงกระโดดขึ้นทันที ปรบมือ พูดด้วยความดีใจ: “เยี่ยมไปเลย กินเค้กกัน…… ”
คุณนายเหลิ่งนั่งอยู่ในรถฝั่งตรงข้าม แอบมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นเหล่ไปที่เจี่ยนซวงและพูดกับสาวใช้ที่อยู่ข้างๆว่า: “แกคิดว่าสาวน้อยคนนั้นหน้าตาเหมือนใคร?”
สาวใช้ขมวดคิ้ว: “ดูไม่ออกว่าเหมือนใคร”
“เหมือนฉัน” คุณนายเหลิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม: ” ตอนแรกดูในรูปว่าเหมือนแล้ว มาเห็นตัวจริงยิ่งเหมือน ตอนฉันยังเด็กก็หน้าตาแบบนั้นเลย เมื่อวานฉันเอารูปฉันตอนเด็กมาเทียบดู มันเหมือนกันอย่างกับแฝด”