หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 174 ทางเลือกที่ยากลำบาก

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เมื่อเห็นว่าเหลิ่งเซ่าถิงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหลิ่งหมิงอันก็ตะโกนเสียงดัง “รีบยิง รีบฆ่าเขา!”

เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วจ้องมองเหลิ่งเซ่าถิง นิ้วมือของเธอสั่น ในเวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น แขนของเหลิ่งหมิงอันก็ถูกกระสุนเจาะเข้าไป เขาทรุดลงกับพื้น ในกลุ่มชายคนหนึ่งของเหลิ่งเซ่าถิงรีบกล่าว “ปืนผมลั่น”

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ทุกคนก็กังวลใจมากกว่าเก่า คนของเหลิ่งเซ่าถิงยกปืนขึ้นและเล็งไปที่เหลิ่งหมิงอัน สถานการณ์ตึงเครียดมาก พร้อมที่จะปะทะได้ทุกเมื่อ

เจี่ยนอี๋นั่วถอยกลับไปยังด้านข้างของเหลิ่งหมิงอัน เธอขมวดคิ้วและถาม “เจี่ยนซวงล่ะ? คุณปล่อยเจี่ยนซวง ฉันจะโน้มน้าวให้เหลิ่งเซ่าถิงปล่อยคุณไป”

เหลิ่งเซ่าถิงทนกับความเจ็บปวด เขากัดฟันยิ้มและกล่าว “โน้มน้าวเขา? คุณคิดว่าเขายังเป็นเหลิ่งเซ่าถิงคนก่อนงั้นหรือ? ส่วนเจี่ยนซวง หากผมตาย คุณก็จะไม่ได้เจอเจียนซวงอีกเลย รีบยิงเหลิ่งเซ่าถิงซะจากนั้นพวกเราก็ค่อยหนี!”

เหลิ่งเซ่าถิงเดินเข้ามาใกล้ เขาพูดกับเหลิ่งหมิงอัน “เหลิ่งหมิงอัน แกไม่ต้องพูดให้เปลืองแรงหรอก ทุกอย่างควรจะจบได้แล้ว อี๋นั่ว

มาที่นี่เร็ว”

เจี่ยนอี๋นั่วมองไปยังเหลิ่งหมิงอันและกล่าวว่า “หากว่าเหลิ่งเซ่าถิงตาย พวกเราก็หมดหนทางที่จะออกไปจากที่นี่”

เหลิ่งหมิงอันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เขามองไปยังเจี่ยนอี๋นั่วพร้อมกับขมวดคิ้วและถาม “พวกเรา?”

ในขณะที่เหลิ่งหมิงอันยังไม่ทันได้สติ เจี่ยนอี๋นั่วก็คว้ามือเขาและเล็งปืนไปยังเหลิ่งเซ่าถิงจากนั้นเธอก็พูดกับเขา “ปล่อยเราไปซะ ซวงซวงอยู่ในกำมือของเขา!”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและพูดสุขุม “ผมสามารถพาซวงซวงกลับมาได้ เชื่อผม ตอนนี้คุณมาหาผม มายืนข้างกายผม เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรซวงซวงหรอก เขาเพียงแค่ขู่คุณเท่านั้น”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ฉันไม่มีทางที่จะเอาชีวิตซวงซวงมาเสี่ยง! ปล่อยฉันกับเขาไปซะ! คุณไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำอะไรซวงซวงได้บ้าง!”

เจี่ยนอี๋นั่วหันกลับมาและช่วยประคองหมิงอัน แต่เหมือนกับว่าเหลิ่งหมิงอันนั้นโง่งมไปชั่วขณะ เขาขมวดคิ้ว จ้องมองอี๋นั่ว เวลาผ่านไปชั่วขณะ เหลิ่งหมิงอันมีอาการตัวสั่นและถาม “อี๋นั่ว คุณกำลังช่วยผมใช่ไหม?”

ฉันกำลังช่วยซวงซวง!

ภายในใจของอี๋นั่วคิดเช่นนี้ แต่เธอนั้นไม่อยากขัดแข้งกับเหลิ่งหมิงอัน เธอจึงพยักหน้าเบาๆและพูด “ฉันกำลังช่วยคุณ ดังนั้นคุณต้องทำตามที่ฉันบอก…”

เหลิ่งหมิงอันยิ้มเบาๆ เขายกมือขึ้นเพื่อสัมผัสอี๋นั่วแต่แขนของเขานั้นถูกเหลิ่งเซ่าถิงยิงด้วยปืน เหลิ่งหมิงอันวางแขนลงในทันที เขาถอนหายใจด้วยความเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เงยหน้ามองเหลิ่งเซ่าถิงด้วยสายตาเคียดแค้น

เจี่ยนอี๋นั่วหันกลับมาจ้องมองเหลิ่งเซ่าถิงและเธอตะโกนว่า “คุณจะทำอะไร?”

ในเวลานี้มีเสียงกระสุนปืนดังขึ้นจากด้านซ้าย คนของเหลิ่งเซ่าถิงก็ถูกยิงและพวกเขาจึงหันกลับไปต่อสู้ เหลิ่งหมิงอันยิ้มและจ้องมองเซ่าถิง “แกคิดว่าฉันไม่ได้พาลูกน้องมาหรือไง? ฉันมาถึงที่นี่จะไม่ได้เตรียมตัวมาได้อย่างไรกันล่ะ?”

เหลิ่งเซ่าถิงยกปืนขึ้นและเล็งไปยังเหลิ่งหมิงอัน เจี่ยนอี๋นั่วรีบห้ามเหลิ่งเซ่าถิง เธอส่ายหน้า “อย่ายิง ซวงซวงอยู่ในกำมือเขา ปล่อยฉันกับเขาไปเถอะ!”

ในขณะที่อี๋นั่วกำลังห้ามเซ่าถิงอยู่นั้น มีคนออกมาจากในความมืดและเข้าไปประคองเหลิ่งหมิงอันไว้ เหลิ่งหมิงอันใช้มือปิดบาดแผลของเขาจากนั้นเขาหันกลับมาหาเจี่ยนอี๋นั่วและกล่าว “อี๋นั่ว มากับผม คุณมากับผม ผมจะปล่อยเจี่ยนซวงไป”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบก้าวเท้าไปในทันที คิดจะหนีไปกับเหลิ่งหมิงอันแต่ทว่าเธอยังไม่ทันจะได้วิ่งไปหาเหลิ่งหมิงอัน มือของเธอก็ถูกเหลิ่งเซ่าถิงคว้าเอาไว้ เหลิ่งเซ่าถิงคว้ามือเจี่ยนอี๋นั่วไว้และเตรียมลั่นไกยิงเหลิ่งหมิงอัน แต่คนที่มาช่วยเหลิ่งหมิงอันยกปืนขึ้นทันทีพร้อมกับยิงกระสุนใส่เหลิ่งเซ่าถิง

เหลิ่งเซ่าถิงดึงมืออี๋นั่วไว้และหลบหลังพุ่มไม้ เขาคอยเฝ้ามองเหลิ่งหมิงอันที่ได้รับการช่วยเหลือ เจี่ยนอี๋นั่วพยายามสลัดมือออกจากเหลิ่งเซ่าถิงและตามเหลิ่งหมิงอันออกไป เจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากจะคิด ถ้าหากว่าเธอไม่ไปอยู่ข้างกายเหลิ่งหมิงอันแล้วเจี่ยนซวงจะต้องเจอกับเรื่องราวอะไรบ้าง

แต่เหลิ่งเซ่าถิงกำข้อมือของเจี่ยนอี๋นั่วไว้แน่นซึ่งไม่มีโอกาสเลยที่เจี่ยนอี๋นั่วจะสลัดมือออกไปได้ เจี่ยนอี๋นั่าเฝ้ามองเหลิ่งหมิงอันที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ ด้วยความร้อนใจเธอยกปืนขึ้นและเล็งไปยังหน้าอกของเหลิ่งเซ่าถิง “ปล่อยฉันซะ!”

เหลิ่งเซ่าถิงก้มศีรษะลงขมวดคิ้วและเหลือบมองปืนที่กำลังจ่ออยู่ตรงหน้าอกของเขา เขาบีบข้อมือของเจี่ยนอี๋นั่วและกล่าวเสียงเบา “คุณจะยิงเลยก็ได้ แต่อย่างไรผมก็ไม่ปล่อยมือ ถ้าหากว่าคุณไป การช่วยคุณออกมาอีกครั้งนั้นไม่ง่ายเลย”

เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินเหลิ่งหมิงอันเรียกชื่อเธอจากระยะไกล เธอต้องการที่จะลุกขึ้นทันที แต่กลับไม่สามารถสลัดมือจากเหลิ่งเซ่าถิงได้เลย

“ฉันไม่ต้องการให้คุณช่วย!” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่ฉันอยากให้คุณช่วยก็คือซวงซวง ตอนนี้เธออยู่กับเหลิ่งหมิงอันตามลำพัง! คุณปล่อยฉัน!”

เหลิ่งเซ่าถิงกดไหล่ของเจี่ยนอี๋นั่วด้วยมือทั้งสองข้างของเขาและพูดด้วยเสียงทุ้มลึก “คุณใจเย็นก่อน เขาใช้ซวงซวงมาข่มขู่คุณ หากว่าคุณไม่ไป ซวงซวงก็จะไม่เป็นอันตรายและคนของผมกำลังพยายามคิดหาทางช่วยเธออยู่ จะต้องเจอตัวอย่างแน่นอน”

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเห็นว่าเหลิ่งหมิงอันและลูกน้องของเขานั้นได้จากไปแล้ว เธอนั่งลงและกล่าวเสียงเบา “หากว่าเกิดอะไรขึ้นกับซวงซวง ฉัน..ฉัน…”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปยังเหลิ่งเซ่าถิง เธอกัดฟันและกล่าว “ฉันจะไม่มีวันปล่อยหมิงอันไป จะไม่ปล่อยคุณไปด้วยเช่นกัน! สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่การคาดเดาของคุณ ไม่ใช่ความใจเย็น สิ่งที่ฉันต้องการคือทั้งความปลอดภัยของซวงซวง!”

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วกล่าวเช่นนี้ เธอก็ลุกขึ้นและยืนอยู่เช่นนั้น เธอขมวดคิ้วจ้องมองเซ่าถิงค่อยๆลดปืนที่ถืออยู่ในมือลง เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหลิ่งเซ่าถิงและถามเบาๆว่า “คุณเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าในเวลานี้จะช่วยฉันและปล่อยซวงซวงไว้ที่นั่น?”

เหลิ่งเซ่าถิงเงียบไปชั่วขณะและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผมส่งคนไปช่วยซวงซวงแล้ว แต่พบเพียงตัวแทนของเหลิ่งหมิงอันที่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่น ในสถานการณ์นี้ผมจึงทำได้เพียงแค่ช่วยคุณ แต่คนของผมนั้นก็ได้ตามหาในเส้นทางอื่นๆแล้ว อีกไม่นานก็อาจเจอตัว”

เจี่ยนอี๋นั่วสูดลมหายใจเข้าและหลับตาลง “คุณควรจะให้ฉันไปกับเหลิ่งหมิงอัน!”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วแน่น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผมไม่สามารถให้คุณไปกับเหลิ่งหมิงอันได้ คุณไม่รู้หรือไงว่าเขาพยายามจะทำอะไรคุณ?”

อี๋นั่วกล่าวพร้อมรอยยิ้มโง่เขลา “รู้สิ รู้อยู่แล้ว เขาอยากได้ฉัน อยากคบกับฉัน แล้วมันยังไงเหรอ ขอแค่รับรองได้ว่าลูกสาวของฉันปลอดภัย ฉันก็เต็มใจที่จะทำทุกอย่าง! เหลิ่งเซ่าถิง ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ ฉันรับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเองได้ ตราบใดที่ซวงซวงไม่เป็นอะไร ฉันก็ยอมที่จะแต่งงานกับเหลิ่งหมิงอัน ยอมที่จะเป็นภรรยาของเขา!”

ดวงตาของเหลิ่งเซ่าถิงนั้นมืดมน เขาจ้องมองอี๋นั่วและกล่าวอย่างเยือกเย็น “อี๋นั่ว คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไร? คุณเป็นคนใจเย็นมาโดยตลอดและคุณเข้มแข็งมาก คุณไม่ควร…”

“ใช่!” เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเซ่าถิง เธอตะโกนเสียงดัง “ฉันในตอนนี้ไม่ใช่เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันเป็นคนที่ลูกสาวกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ตัวเองกลับอยู่ในความปลอดภัย แม่ของเธอกลับไม่สามารถทำอะไรได้เลยในสิ่งที่ลูกสาวของเธอกำลังเผชิญอยู่!”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้ว เขามองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว “แต่คุณไม่เพียงเป็นแม่ของซวงซวงเท่านั้น คุณยังเป็นแม่ของเด็กอีกคนด้วย เขาต้องการคุณมากเช่นกัน!”

“ฉันมีลูกอีกคนเมื่อไหร่กัน!” เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ เธอเองก็ค่อยๆหยุดนิ่ง เธอขมวดคิ้วจ้องมองเซ่าถิง “เด็กคนนั้นยังไม่ตาย?”

เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้าและพูดกับอี๋นั่วว่า “ผมช่วยเขาไว้ ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศ ปลอดภัยแล้ว”

เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตา เธอทรุดลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งเซ่าถิง “คุณไม่คิดจะบอกฉันหรือไง? รู้ไหมว่าฉันรู้สึกผิดต่อลูกมานานแค่ไหน? ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันตั้งแต่แรกว่าลูกยังมีชีวิตอยู่?”

“เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน!” เหลิ่งเซ่าถิงกล่าว “ถ้าหากว่าผมตาย คุณก็ไม่สามารถรักษาเขาไว้ได้ สู้ให้คุณไม่รู้ตั้งแต่แรกยังดีกว่า”

“นั่นเป็นทางเลือกของฉัน ในฐานะพ่อของเด็ก ไม่ใช่ว่าควรบอกฉันตั้งแต่แรกเหรอว่าเขายังมีชีวิตอยู่?” เจี่ยนอี๋นั่วมองเหลิ่งเซ่าถิง เธอขมวดคิ้วและกล่าวเสียงเบา

เจี่ยนอี๋นั่วส่่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ เธอยิ้มขมขื่นและกล่าว “ประธานเหลิ่ง คุณใช้วิธีของคุณในการปกป้องเรามาโดยตลอด แต่ตอนนี้ล่ะ? แม้ว่าฉันจะปลอดภัยแต่ลูกของฉันจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไรก็ยังไม่รู้แน่ชัด ส่วนลูกชายของฉันนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด! วิธีการปกป้องแบบนี้ คุณคิดว่ามันเหมาะสมแล้วหรือ?”

เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วและมองเจี่ยนอี๋นั่ว เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “อย่างน้อยตอนนี้พวกคุณก็ยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พ่อของคุณเกิดอุบัติเหตุ ผมก็ได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าไม่ว่าอุปสรรคจะยากลำบากแค่ไหน สิ่งแรกที่ผมจะช่วยก็คือคุณ คนเราไม่ว่าจะบาดเจ็บแค่ไหนก็สามารถรักษาให้หายได้ในวันหนึ่ง แต่ถ้าไม่เหลือชีวิตรอดก็ไม่เหลือแม้แต่ทางรักษา”

เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า เธอกล่าวเสียงเบา “ประธานเหลิ่ง คุณรู้ไหมว่าวิธีที่ปกป้องฉันได้อย่างดีที่สุดคืออะไร? ก็คือเราไม่ต้องมาพบเจอกันอีก”

เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นและมองไปยังเหลิ่งเซ่าถิง “เมื่อฉันเลือกที่จะอยู่กับคุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ฉันก็ยังอยู่กับคุณ ช่างเถอะ อย่าเสียเวลาเถียงเรื่องพวกนี้เลย ถ้าคุณไม่ต้องการให้ฉันกลับไปก็ได้โปรดพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยลูกสาวของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะปลอดภัย…”

เจี่ยนอี๋นั่วกล่าว เธอค่อยๆหันหลังและเดินจากไป เหลิ่งเซ่าถิงจ้องมองแผ่นหลังของอี๋นั่วและขมวดคิ้วแน่น นี้คือบทสนทนาระหว่างเซ่าถิงและอี๋นั่วในรอบหลายปีที่ผ่าน แต่เหลิ่งเซ่าถิงรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขาและเจี่ยนอี๋นั่วห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วและเดินตามหลังเจี่ยนอี๋นั่วไป แต่ในเวลานั้นมีคนเดินมาข้างกายของเหลิ่งเซ่าถิง เขาถามเสียงเบาว่า “ประธานเหลิ่ง จะจัดการกับศพของคุณหญิงอย่างไร?”

เหลิ่งเซ่าถิงหันศีรษะไปเล็กน้อยและกล่าว “ก่อนอื่นให้ประกาศว่าเธอถูกยิงโดยเหลิ่งหมิงอัน จากนั้นก็ประกาศไปอีกว่าฉันและเหลิ่งหมิงอันไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งอะไรกันแล้วก็บอกไปอีกว่าเจี่ยนอี๋นั่วยังคงอยู่เคียงข้างฉัน ปิดกั้นข่าวอื่นๆให้หมด”

เจี่ยนอี๋นั่วหยุดลงอย่างกะทันหัน เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเหลิ่งเซ่าถิง เธอหันศีรษะเล็กน้อยและเห็นใครบางคนเดินผ่านมาพร้อมกับร่างของกู้เค่อหยิง ดวงตาของกู้เค่อหยิงยังคงเปิดกว้างราวกับว่าเธอยังไม่เชื่อว่าเธอตายแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วยังคงจำช่วงเวลาที่เหลิ่งเซ่าถิงยิงกระสุนใส่กู้เค่อหยิงได้ ในตอนนั้นเขาไร้ซึ่งความปราณี กู้เค่อหยิงคือภรรยาของเขาไม่ใช่หรือ? เหลิ่งเซ่าถิงไม่สนใจแม้แต่ความรักของเขาเลยหรือ?

เจี่ยนอี๋นั่วหันกลับมา เธอมองไปยังเหลิ่งเซ่าถิง หรือว่าเหลิ่งเซ่าถิงได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่เธอไม่คุ้นเคยไปแล้วงั้นหรือ?

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท