แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะบอกว่าเธอจะเป็นคนทำอาหาร และเริ่มลงมือ มันต่างจากที่เธอคิด หลังจากทำอาหารได้สักพักเจี่ยนอี๋นั่วก็ยอมแพ้ ถอนหายใจยาว และหันไปมองเฉิงเว่ยหรานที่กำลังยิ้มให้เธอ เธอทำหน้าบึ้งและพูดว่า: “เอาเป็นว่า เธอมาทำดีกว่า”
เฉิงเว่ยหรานยิ้มและเดินไปหยิบมีด เริ่มทำอาหาร เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เฉิงเว่ยหรานอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นไม่นานเฉิงเว่ยหรานก็มีเหงื่อออกที่หน้าผาก เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอี๋นั่วและพูดว่า: “อย่ามาจ้องสิ ฉันรู้สึกเกรงนะ”
ดวงตาของเจี่ยนอี๋นั่วเบิกกว้างโดยแสร้งทำเป็นคาดไม่ถึง: “จริงหรอ?”
เฉิงเว่ยหรานพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า:”จริงๆ”
เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเฉิงเว่ยหราน เธอก็ตอบว่า: “งั้นก็ได้ ฉันจะดูเหยียนเหยียนทำการบ้าน ปล่อยเธอไว้คนเดียว เดี๋ยวเธอก็ก่อเรื่องขึ้นอีก”
เฉิงเว่ยหรานมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว พูดด้วยรอยยิ้ม: “อืม ถ้าเสร็จแล้วฉันไปเรียก”
เจี่ยนอี๋นั่วกลับไปที่ห้อง เจี่ยนซวงเห็นเจี่ยนอี๋นั่ว เธอก็ย่นจมูกและพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ: “แม่ แม่จะอยู่กับลุงเฉิงคนนี้จริงๆเหรอ? ถึงเขาจะดีกว่าเด็กผู้ชายคนก่อนหน้านี้ แต่หนูก็ยังคิดว่าเขาดีกว่า…… ”
เมื่อเจี่ยนซวงพูดถึงตรงนี้ เธอก็หยุดและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว ขยิบตายิ้มมุมปากและไม่พูดอะไร ถึงเจี่ยนซวงจะไม่พูด แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้ว่าเจี่ยนซวงอยากพูดอะไร เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและยกมือขึ้นลูบหัวของเจี่ยนซวงและถามว่า:”ลูกอยากเจอพ่อจริงๆหรอ?”
เจี่ยนซวงพยักหน้าทันทีและรีบพูดว่า: “อยากเจอ หนูอยากเจอพ่อมาก หนูอยากกินอาหารที่พ่อทำ ถึงแม้ฝีมือของลุงเฉิงจะอร่อย แต่หนูก็อยากกินฝีมือพ่อ แม่คะ ทำไมหรอ? พ่อมาหาเราหรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและพูดว่า: “เปล่า แค่รู้สึกส่าพ่อน่าจะอยู่ไม่ไกลจากเรา”
เจี่ยนซวงไม่เข้าใจสิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วพูด ทำหน้ามุ่ยและพูดว่า: “แม่จะบอกว่าพ่ออยู่เคียงข้างเราตลอดอีกแล้วงั้นหรอ? บอกว่าที่เราอยู่ได้อย่างสงบก็เป็นเพราะพ่อ? ถ้าแม่จะพูดพวกนี้ หนูรู้ตั้งนานแล้ว”
หลังจากที่เจี่ยนซวงพูดจบ เธอก็ก้มศีรษะลงทำการบ้าน และพึมพำเสียงออกมา: “ยังไงพ่อก็ไม่รักพวกเราแล้ว ใครจะเป็นพ่อก็เหมือนกัน ลุงเฉิงยังทำกับข้าวให้หนูตั้งหลายมื้อ พ่อทำให้หนูแค่ครั้งเดียว ลุงเฉิงเป็นพ่อยังดีกว่า! ที่จริงหนูก็แทบจะจำหน้าพ่อไม่ได้แล้ว อีกหน่อยถ้าแม่แต่งงานกับลุงเฉิง หนูก็จะให้ลุงเฉิงเป็นพ่อ ไม่ต้องการพ่อคนนั้นอีกต่อไป”
เจี่ยนอี๋นั่วมองลงไปที่เจี่ยนซวง และกวาดมุมปากไม่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะพยายามแค่ไหนดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถชดเชยพ่อที่เสียไปให้เจี่ยนซวงได้ หลังจากที่เจี่ยนซวงโตขึ้น เจี่ยนซวงก็ค่อยๆเปลี่ยนจากคำถามที่ว่าทำไมเธอถึงไม่มีพ่อไปสู่ความรำคาญว่าทำไมพ่อของเธอถึงไม่สนใจเธอ
เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆและทำได้เพียงเฝ้าดูเจี่ยนซวงทำการบ้านอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเฉิงเว่ยหรานมาเรียกเจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวงไปกินข้าว เจี่ยนซวงวางปากกาลงและเดินออกไปพร้อมเจี่ยนอี๋นั่ว เจี้ยนซวงกินไปคำนึง จากใบหน้าที่เหี่ยวย่นก็ค่อยๆคลี่ออกและตะโกนออกมาว่า: “อร่อยมากเลย”
เฉิงเว่ยหรานยิ้มและพูด:”ถ้าหนูชอบ ก็กินเยอะๆนะ”
เมื่อกี้เจี่ยนซวงยังอารมณ์ไม่ดีเรื่องพ่อ แต่เมื่อเธอได้กินอาหารอร่อยๆ เธอก็มีความสุขขึ้นมาทันที ข้าวในจานหมดไปอย่างรวดเร็ว
เจี่ยนซวงกินกินข้าวเสร็จ มีเม็ดข้าวเล็กๆติดที่หน้าเธอ เฉิงเว่ยหรานนั่งอยู่ข้างๆ เธอกระพริบตา ยิ้มแล้วถาม: “ลุงเฉิง ลุงจะแต่งงานกับแม่เมื่อไหร่? หนูพร้อมจะมีพ่อแล้ว”
ใบหน้าของเฉิงเว่ยหรานแดงขึ้นทันที เขาเหลือบมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว จากนั้นมองไปที่เจี่ยนซวงและหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้: “เรื่องนี้……ต้องถามแม่หนูแล้วล่ะ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและมองไปที่เจี่ยนซวง พูดเบาๆว่า: “อย่ามัวพูด กินเสร็จแล้ว เอาจานของตัวเองไปวางที่อ่างล้างจาน แล้วออกไปเล่น แต่ตอนออกไปข้างนอกห้ามรังแกเพื่อนคนอื่นนะ”
เจี่ยนซวงพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้ม: “หนูจะรังแกเพื้อนได้ยังไง มีแต่เพื่อนที่ชอบรังแกหนู”
หลังจากที่เจี้ยนซวงพูดจบ เธอก็ลุกขึ้น หยิบจานและเดินไปเก็บที่อ่างล้างจาน
จากนั้นเจี่ยนซวงก็ตะโกนว่า: “หนูออกไปแล้วนะ แม่ เดี๋ยวหนูกลับมาล้างเอง” และวิ่งออกไป
เฉิงเว่ยหรานแปลกใจเล็กน้อย: “เธอล้างจานเป็นหรอ?”
เมื่อเห็นเจี่ยนซวงจากไป เจี่ยนอี๋นั่วก็ยิ้มและหันไปมองเฉิงเว่ยหราน: “อืม ฉันกับลูกผลัดกันล้างจาน วันนี้เป็นตาของเธอ ถึงแม้บางครั้งเธอจะล้างไม่สะอาด แล้วเด็กก็ชอบพูดไปเรื่อย เธออย่าไปสนใจเลย”
เฉิงเว่ยหรานยิ้มและส่ายหัว: “ต้องสนสิ ตอนนี้สำหรับเธอแล้วการแต่งงานมันอาจจะดูเร็วไปหน่อย แต่ฉันพร้อมที่จะแต่งงาน เธออย่าตกใจนะ”
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เฉิงเว่ยหราน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม: “แล้วครอบครัวของเธอเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไหม?”
เฉิงเว่ยหรานตอบว่า: “พ่อแม่ของฉันจากไปแล้ว ญาติๆของฉันก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่มีใครสนใจหรอกว่าฉันจะแต่งงานกับใคร ฉันย้ายมาอยู่กับเธอที่นี่ก็ได้”
เจี่ยนอี๋นั่วลดตาลงหัวเราะเบาๆและพูดว่า:”เธอเหมือนสามีที่สมบูรณ์แบบที่ตกลงมาจากสวรรค์เลย”
เฉิงเว่ยหรานก้มหัวลงและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ยังไม่ดีขนาดนั้นหรอก ฉันต้องพยายามกว่านี้ เรียนรู้วิธีดูแลเด็กและการเป็นพ่อที่ดี”
เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้น โน้มตัวไปหาเขาและกระซิบ: “ที่จริงเธอดีมากแล้ว”
เมื่อเฉิงเว่ยหรานได้กลิ่นจางๆของเจี่ยนอี๋นั่ว เขาก็ตะลึงทันที แต่เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆเข้ามาใกล้เขาและเกือบจะจูบเขา เฉิงเว่ยหรานก็ตัวสั่นอย่างกะทันหันและผลักเจี่ยนอี๋นั่วออก เฉิงเว่ยหรานเหลือบมองไปที่กล้องในสนามแล้วถอยหลังสองสามก้าวราวกับหวาดกลัว
เฉิงเว่ยหรานเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าและพูดด้วยความตื่นตระหนก: “ขอ ขอโทษ…….”
เจี่ยนอี๋นั่วเอียงศีรษะและมองไปที่เฉิงเว่ยหราน: “เธอเป็นอะไรไป? เหมือนกลัวฉันเลย เธอไม่ชอบผู้หญิง ชอบผู้ชายงั้นหรอ?”
“ไม่ใช่ ฉันชอบเธอมาก!” เฉิงเว่ยหรานพูดอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เฉิงเว่ยหรานพูดจบ เขาก็หายใจเข้าลึกๆก้มศีรษะลงและพูดเสียงเบาๆ:“ ฉันชอบเธอ……ฉันชอบเธอมาก”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและมองไปที่เฉิงเว่ยหราน จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า :”แล้วมันเป็นเพราะอะไร? เป็นเพราะมีคนส่งเธอเข้าหาฉันงั้นหรอ? เธอกลัวถ้าเข้าใกล้ฉันเกินไปแล้วจะทำให้คนที่ส่งเธอมาโกรธงั้นหรอ? ใคร? ใครอยู่เบื้องหลังเธอ? ”
เฉิงเว่ยหรานมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว จ้องมองไปที่กล้องในสนาม และพูดเบาๆมีแค่เขาและเจี่ยนอี๋นั่วเท่านั้นที่สามารถได้ยิน เขากระซิบว่า: “เธอหมายความว่าอะไร?”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “ที่นี่ไม่มีเครื่องดักฟัง พวกเขาไม่ได้ยินที่เราคุยกันหรอก และพวกเขาไม่รู้ว่าเธอล้มเหลว แต่ถ้าเธอไม่พูดอะไร ฉันก็อาจจะออกไปเจอกับเหลิ่งเซ่าถิงคนที่ส่งเธอเข้าหาฉัน บอกว่า เรื่องที่เธอพยายามเข้าหาฉันมันล้มเหลว เธอไม่มีทางทำสำเร็จ แถมยังตกหลุมรักฉัน อาจจะทำให้คนที่ส่งเธอมายิ่งโกรธ”
ขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วพูด เธอยกมือขึ้นและลูบใบหน้าของเฉิงเว่ยหราน ยิ้มและพูดว่า: “เธอได้ใช้ประโยชน์จากฉันและยังกินข้าวกับฉัน พูดคุยสนทนาทั้งวัน สุดท้ายก็ตกหลุมรักฉัน เธอคิดว่าคนนั้นจะปล่อยเธอไว้งั้นหรอ? บอกมาเถอะ เหลิ่งเซ่าถิงใช่ไหม?”
เฉิงเว่ยหรานทำหน้ามุ่ยและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว: “เธอ……ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะกลายเป็นผู้หญิงของเขา…… ”
เฉิงเว่ยหรานถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะลดเสียงลงและพูดว่า:“ ยังไงเธอก็รู้แล้ว จะถามอีกทำไม? เขาให้ฉันมาดูแลพวกเธอ เขาคิดว่าเธอและลูกสาวต้องมีผู้ชายคอยดูแล ก็เลยให้ฉันแกล้งทำเป็นผู้ชายที่มีใจให้เธอ ทำให้เธอและลูกสาวยอมรับฉัน”
“ทำไม?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและมองไปที่เฉิงเว่ยหราน: “ทำไมเขาต้องจัดการแบบนี้? เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”
เฉิงเว่ยหรานส่ายหัวทันที: “เปล่า เป็นเพราะคนที่ชื่อมั่วเชียนมารบกวนเธอ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายคนอื่นไล่ตามเธอมาก่อนแต่เงื่อนไขก็ธรรมดาและจะไม่ทำให้เธอหลงใหล แต่มั่วเชียนนั้นแตกต่างออกไป เขายังเด็กและหล่อเหลา แต่เนื่องจากเขายังเป็นวัยรุ่น คุณเหลิ่งรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ เขาจึงต้องการเลือกสามีที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ให้เธอ ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมและมั่นคงกว่ามั่วเชียนและจะไม่มีวันทำร้ายเธอ”
“เหอะ……” เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ยกมือขึ้นปิดหน้าและหัวเราะเยาะ: “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ทำไมเขาถึงมาควบคุมชีวิตของฉัน? เพราะงั้นสามีที่สมบูรณ์แบบคนนั้นก็คือเธอ? เธอมีอะไรเชื่อได้บ้าง?”
เฉิงเว่ยหรานเหลือบมองไปทางประตู ไม่เห็นใครเข้ามา กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: “ครั้งแรกที่ฉันบอกว่าฉันชอบเธอ มันปลอม แต่ความชอบที่ตามมาทั้งหมดเป็นความจริง เมื่อฉันเข้าหาเธอครั้งแรกฉันอ่านข้อมูลของเธอ เธอเคยเป็นผู้หญิงของเขา ฉันคิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่เหนือกว่าฉัน ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนง่ายๆและสบายใจเวลาที่อยู่ด้วย และ…… ”
เฉิงเว่ยหรานพูดถึงตรงนี้ เขาเงยหน้ามองเจี่ยนอี๋นั่วและกระซิบ: “และเธอก็ทำให้ฉันหวั่นไหว ฉันชอบเธอมาก”
“เธอไม่ใช่พ่อครัวธรรมดาสินะ? เธอไม่ได้มาจากร้านขายอาหารริมทาง?” เจี่ยนอี๋นั่วเหล่ไปที่เฉิงเว่ยหรานและถามออกมา
เฉิงเว่ยหรานพยักหน้า จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอี๋นั่ว: “นอกเหนือจากนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรโกหกเธอ รวมถึงการหย่าร้างของฉัน มันเป็นความจริงทั้งหมด คุณเหลิ่งเตรียมทุกอย่างเมื่อปีก่อน เขาเคยบอกกับฉันว่า ฉันต้องอยู่กับเธอตลอดไป เธอฉลาดมากและตัวตนที่แท้จริงจะสามารถป้องกันไม่ให้เปิดเผยตัวตนของฉันได้ง่ายๆ อันที่จริงถ้ามั่วเชียนไม่ออกมาก่อน ฉันอาจจะมีเวลาฝึกอยู่ข้างเธอนานกว่านี้ ความจริงทั้งหมดก็คงไม่ถูกเปิดเผย”
เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจและพูดด้วยรอยยิ้มที่เบี้ยว: “เขารู้วิธีทำให้ฉันเกลียดเขาจริงๆ!”
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็ดึงเฉิงเว่ยหรานและจูบริมฝีปากของเฉิงเว่ยหรานทันที ดวงตาของเฉิงเว่ยหรานเบิกกว้างก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดเธอ เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและผลักเขาออก กระซิบกับเฉิงเว่ยหรานว่า: “นี่คือบทลงโทษที่เธอโกหกฉัน!”