หนี้รัก วิวาห์จำเป็น – บทที่ 204 คุณคือคุณพ่อจริงๆเหรอคะ

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วได้ยินสิ่งที่เจี่ยนซวงพูด เธอก็ยกมือขึ้นแล้วลูบหัวเจี่ยนซวงเบา ๆ และพูดอย่างจริงจัง: “ถ้าหากลูกไม่กลัวอันตราย และต้องการกลับไปเป็นซวงซวงอีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ก็บอกหนูตอนนี้เลยว่า วันเวลาแห่งการซ่อนตัวของเราสิ้นสุดลงแล้ว หนูสามารถกลับมาเป็นซวงซวงใหม่ได้อีกครั้งแล้วนะคะ ”

ดวงตาของเจี่ยนซวงเบิกกว้างทันที และดีใจจนกระโดดขึ้นเต้นอย่างมีความสุข: “คุณแม่คะ นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหมคะ?”

หลังจากเจี่ยนซวงกระโดดโลดเต้นขึ้น ดวงตาของเธอก็แดงขึ้นอีกครั้ง เธอจ้องมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วบีบจมูกของตัวเอง ร้องไห้แล้วพูดว่า : “คุณแม่คะ ซวงซวงเป็นคนอื่นมานานมากแล้ว ซวงซวงแทบจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร?”

เจี่ยนอี๋นั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็กอดเจี่ยนซวงทันที และพูดด้วยเสียงเข้มว่า:“ จากวันนี้เป็นต้นไป หนูจะกลับมาเป็นซวงซวงแล้ว และไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนของหนูอีกแล้ว หนูจะได้เป็นตัวของตัวเองแล้ว”

เจี่ยนซวงขยี้ตาร้องไห้แล้วพูดว่า:“ คุณแม่คะ ถ้าอย่างนั้นซวงซวงจะได้พบหน้าคุณพ่อแล้วใช่ไหมคะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: “อืม ใช่จ๊ะ คุณแม่จะพาหนูไปพบคุณพ่อเดี๋ยวนี้นะคะ”

เจี่ยนซวงได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่ว แล้วก็ตกตะลึงทันที หลังจากนั้นไม่นาน เธอเบิ่งตาโตจ้องมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและถามว่า:“คุณแม่คะ คุณแม่พูดจริงๆใช่ไหมคะ ? คุณแม่ไม่ได้หลอกซวงซวงใช่ไหมคะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้า ยืนขึ้น แล้วจับมือเจี่ยนซวง: “คุณแม่เคยหลอกหนูเหรอคะ ไปกันเถอะ คุณแม่จะพาหนูไปเดี๋ยวนี้ ”

เจี่ยนซวงรีบส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างรีบร้อนว่า:“คุณแม่คะ อย่าพึ่งไปตอนนี้ได้ไหมคะ?ถ้าหากต้องไปหาคุณพ่อจริงๆ หนูเปลี่ยนชุดใส่กระโปรงใหม่ได้ไหมคะ ?มีอีกเรื่อง ช่วยมัดผมให้ซวงซวงใหม่ได้ไหมคะ ดีไหมคะ?ซวงซวงต้องการถักเปียสองข้างค่ะ ”

เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า ยิ้มแล้วตอบรับทันที :“ดีจ๊ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเจี่ยนซวง และมัดผมให้กับเธอ เจี่ยนซวงดึงมุมเสื้อผ้าของเธออย่างระมัดระวัง อีกทั้งจู้จี้ถามนู่นถามนี่ไม่หยุด: “คุณแม่คะ คุณพ่อของหนูมีชื่อว่าเหลิ่งเซ่าถิงใช่ไหมคะ? แล้วทำไมหนูถึงไม่แซ่เหลิ่งล่ะคะ แต่ใช้แซ่เจี่ยนของคุณแม่ล่ะคะ?เพื่อนของหนูใช้แซ่ของคุณพ่อกันทั้งหมดเลยค่ะ ”

“แต่ว่าแซ่เหลิ่งก็ไม่ดี เหลิ่งซวง……เหลิ่งซวง เจี่ยนซวงน่าฟังกว่าเยอะเลยคะ”

“คุณแม่คะ คุณแม่คิดว่าคุณพ่อจะชอบหนูไหมคะ?เขายังเหมือนเดิมไหมคะ?”

“ หนูแทบจำไม่ได้เลยว่าคุณพ่อหน้าตาเป็นยังไง แล้วถ้าเกิดหนูจำคุณพ่อไม่ได้ทำยังไงดีคะ ?”

เจี่ยนซวงจู้จี้ถามนู่นถามนี่ตลอดทาง เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วจูงมือของเจี่ยนซวงถึงคฤหาสน์ เจี่ยนซวงก็รีบเอามือปิดปาก จ้องมองไปที่คฤหาสน์นั้น และถามด้วยความประหลาดใจ: “คุณแม่คะ ทำไมคุณแม่มาที่นี่คะ?”

“เพราะคนที่เป็นคุณจู๋ ก็คือคุณพ่อของซวงซวงค่ะ ” เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เจี่ยนอี๋นั่วไม่ต้องการปกปิดความจริงเรื่องนี้กับเจี่ยนซวง เมื่อตอนที่เหลิ่งเซ่าถิงเห็นหน้าเจี่ยนซวง ในตอนนั้นเจี่ยนซวงยังเล็กอยู่ พวกเขาพบเจอกันอย่างรีบร้อน และเจี่ยนอี๋นั่วก็ดูไม่ออกว่าเหลิ่งเซ่าถิงก็คือคุณจู๋ แล้วนับประสาอะไรกับเจี่ยนซวงล่ะ แต่ในช่วงระยะเวลานี้เจี่ยนซวงและคุณจู๋ได้อยู่ด้วยกันบ่อยมากขึ้น และต้องการปกปิดเรื่องที่คุณจู๋ก็คือเหลิ่งเซ่าถิงนั้นให้เจี่ยนซวงรู้ คนอย่างเจี่ยนซวงที่กระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเจี่ยนอี๋นั่วเลยตัดสินใจที่จะบอกความจริงทุกอย่าง ดีกว่าที่เจี่ยนซวงจะรู้เองทีหลัง และดีกว่าที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นโดนหลอก

เจี่ยนซวงหยุดเดินกะทันหันและทำหน้ามุ่ย:“คุณจู๋ก็คือคุณพ่อ?ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาไม่บอกซวงซวงล่ะคะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ : “เพราะเขามีเหตุผลของตัวเอง และเขาคงลำบากใจ”

“เขากลัวซวงซวงไปรบกวนเขาหรือเปล่าคะ” เจี่ยนซวงตาแดงก่ำ จ้องมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและน้ำเสียงสะอื้น: “ช่างมันเถอะค่ะ ซวงซวงไม่อยากเจอคุณพ่อแล้วค่ะ เขาไม่อยากรู้จักซวงซวง ซวงซวงก็ไม่อยากรู้จักเขาแล้วค่ะ ซวงซวงไม่อยากเจอเขาตลอดไปแล้วค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วนั่งยอง ๆต่อหน้าเจี่ยนซวง เช็ดน้ำตาให้เจี่ยนซวง และถามด้วยรอยยิ้ม: “ซวงซวง นี่เป็นคำพูดประชด หรือพูดออกมาจากใจจริงๆคะ ?ถ้าหากพูดออกมาจากใจจริงๆ คุณแม่จะพาหนูไปจากที่นี่ทันที และจะไม่ให้คุณพ่อหาหนูเจออีกตลอดไป ถ้าหากเป็นคำพูดที่พูดประชด งั้นรีบเช็ดน้ำตา พวกเราจะเข้าไปด้วยกัน เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณพ่อ บอกว่าหนูโกรธมากๆ และไม่พอใจกับวิธีการของเขา ดีไหมคะ?ให้หนูเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ ”

เจี่ยนซวงสั่งน้ำมูกและขยี้ตา ร้องไห้สักพัก แล้วสะอื้นพูดว่า:“เป็นคำพูดที่พูดประชดค่ะ ซวงซวงยังต้องการที่จะเจอหน้าคุณพ่อค่ะ ซวงซวงจะบอกคุณพ่อว่า ซวงซวงโกรธมากค่ะ”

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้กับซวงซวง และพูดด้วยรอยยิ้ม: “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะเดินเข้าไปเดี๋ยวนี้ ดีไหมคะ?”

เจี่ยนซวงสั่งน้ำมูก รีบพยักหน้าตอบรับทันทีและพูดด้วยเสียงสะอื้น: “ดีค่ะ”

หลังจากเจี่ยนซวงพูดจบ เธอก็เอื้อมมือไปจับมือของเจี่ยนอี๋นั่ว และเดินไปที่ประตูคฤหาสน์ ยังไม่ทันที่เจี่ยนอี๋นั่วจะกดกริ่ง ประตูก็ถูกเปิดออก เหล่าสวีรีบเปิดประตู พูดกับเจี่ยนอี๋นั่วด้วยรอยยิ้ม:“คุณหนูเจี่ยนคะ พวกคุณมาแล้ว รีบเข้ามาเถอะครับ ”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มสักครู่ จับมือเจี่ยนซวงแล้วเดินเข้าไปในประตูคฤหาสน์ทันที เมื่อเดินเข้าไปในประตูคฤหาสน์ เจี่ยนอี๋นั่วก็มองขึ้นไปที่หน้าต่างบนชั้นสอง เหลิ่งเซ่าถิงกำลังชะโงกออกมาจากหน้าต่างบนชั้นสอง และมองลงไปที่ เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวง เมื่อเจี่ยนซวงเงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งเซ่าถิง เหลิ่งเซ่าถิงก็กระตุกมุมปากเล็กน้อย เผยให้เห็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมา

หลายปีที่ผ่านมานี้เหลิ่งเซ่าถิงต้องการให้ตระกูลเหลิ่งอยู่อย่างเป็นสุข เขาได้สังหารผู้คนมากมาย จิตสังหารของเขาแรงมาก เจี่ยนซวงเองผ่านเรื่องเลวร้ายมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และมีความอ่อนไหวต่ออันตรายอย่างมาก แม้ว่า ก่อนหน้านี้เจี่ยนซวงพูดตลอดเวลาว่าอยากพบหน้าพ่อของเธอ แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นเหลิ่งเซ่าถิง แล้วเธอก็ถูกใบหน้าที่ซีดเซียวของเหลิ่งเซ่าถิงและกลิ่นอายที่เย็นชาและโหดร้ายนั้น จนทำให้เธอกลัวและไปหลบอยู่ข้างหลังเจี่ยนอี๋นั่ว

“คุณแม่ …… เขาเป็นคุณพ่อจริงๆเหรอคะ? ทำไมหนูถึงรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคุณพ่อคนเดิมแล้วคะ” เจี่ยนซวงกระซิบถามและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจี่ยนอี๋นั่ว

เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะเบา ๆ : “เพราะว่าคุณพ่อท่านไม่สบายค่ะ เมื่อคุณพ่อหายดีขึ้น คุณพ่อก็จะกลับมาเหมือนเดิมแล้ว”

เจี่ยนซวงแตะที่จมูก พูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ทำไมถึงรู้สึกว่าคุณพ่อน่ากลัวจังเลยคะ?”

เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะซวงซวงและคุณพ่อยังไม่คุ้นเคยกัน เมื่อค่อยๆทำความรู้จักกันแล้ว ก็จะไม่รู้สึกว่าคุณพ่อไม่น่ากลัวแล้วนะคะ”

เจี่ยนอี๋นั่วหน้ามุ่ยขมวดคิ้วและพยักหน้าเบา ๆ แม้ว่าเจี่ยนซวงจะพยักหน้า แต่เจี่ยนซวงก็ยังคงซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง เจี่ยนอี๋นั่ว เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพาเจี่ยนซวงเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง หลังจากเคาะประตู เธอก็ได้ยินเสียงออกมาจากภายในห้อง: “เข้ามาสิ”

เจี่ยนอี๋นั่วเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง เจี่ยนซวงค่อยๆเดินออกมาจากด้านหลังของเจี่ยนอี๋นั่ว โผล่หัวออกมามองไปทางเหลิ่งเซ่าถิง ในชีวิตนี้เจี่ยนซวงคงไม่อาจลืม ฉากที่พบหน้าคุณพ่อของเธออีกครั้ง พ่อของเธอยืนอยู่ตรงหน้าต่าง และลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่าง ผ้าม่านสีขาวที่พัดเข้ามาเกือบจะห่อหุ้มตัวเขา ราวกับว่าเขากำลังจะปลิวไปยังไงยังงั้น

ในความทรงจำของเจี่ยนซวง คุณพ่อของเธอสมบูรณ์แบบ หล่อมาก และทำอาหารเป็น คุณพ่อตัวสูงและคุณพ่อของเธอเก่งและดีกว่าคุณพ่อของคนอื่น ๆ ทั้งหมด

แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียว นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะไม่สูงหล่ออีกต่อไปแล้ว เขาดูน่าสงสารมาก สิ่งนี้ทำให้เจี่ยนซวงรู้สึกกลัวเหลิ่งเซ่าถิงน้อยกว่าก่อนหน้านั้น ก็รีบวิ่งไปหาทันที คว้าที่มุมเสื้อผ้าของเหลิ่งเซ่าถิงแล้วถามว่า:“คุณเป็นพ่อของหนูจริงๆเหรอคะ?”

เพราะถ้าเทียบกับการที่กลัวเหลิ่งเซ่าถิงแล้ว เจี่ยนซวงกลัวการที่ตัวเองจะต้องสูญเสียคุณพ่อไปมากกว่า

เจี่ยนซวงดึงมุมเสื้อผ้าของเหลิ่งเซ่าถิงไว้ และเธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปล่อยให้พ่อของเธอปลิวไปกับสายลม

เหลิ่งเซ่าถิงสะดุ้งตกใจเมื่อเจี่ยนซวงวิ่งเข้ามาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาก็ยกมือขึ้นทันที พยายามที่จะไม่แตะโดนเจี่ยนซวงให้มากที่สุด

“พ่อเป็นคุณพ่อของหนู ซวงซวง”เหลิ่งเซ่าถิงหน้าคิ้วขมวด พยามยามพูดน้ำเสียงที่เบาที่สุด

เจี่ยนอี๋นั่วเห็นอาการของเหลิ่งเซ่าถิงไม่เป็นธรรมชาติ และอีกทั้งเหลิ่งเซ่าถิงยังยกมือขึ้นอยู่ตลอดเวลา เหมือนกลัวที่จะสัมผัสโดนเจี่ยนซวง เจี่ยนอี๋นั่วรีบก้าวไปข้างหน้าทันที เธอวางมือของเธอลงบนไหล่ของเจี่ยนซวง และพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า : “เจี่ยนซวง หยุดรบกวนคุณพ่อได้แล้วค่ะ ให้คุณพ่อได้พักผ่อนก่อนนะคะ”

เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วแยกเจี่ยนซวงให้ออกจากเหลิ่งเซ่าถิงแล้ว เหลิ่งเซ่าถิงกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา: “ผมขอโทษ”

จากนั้นเหลิ่งเซ่าถิงก็เดินเข้าไปในห้องน้ำในห้องทันที เจี่ยนซวงขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอี๋นั่ว และถามด้วยเสียงน้ำเสียงเบา: “คุณแม่คะ คุณพ่อไม่ชอบหนูจริงๆใช่ไหมคะ?”

แม้ว่าเจี่ยนซวงจะยังเป็นเด็กที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เธอก็รู้สึกเสมอว่าท่าทางของคุณพ่อเธอเมื่อกี้นี้ ดูเหมือนท่าทางที่ไม่ชอบเธอเลย เหมือนราวกับว่าเธอทำให้คุณพ่อตกใจกลัวยังไงยังงั้น

เจี่ยนอี๋นั่วยกมือขึ้นแล้วลูบหัวเจี่ยนซวง ยิ้มและพูดว่า:“ไม่มีอะไรหรอก คุณพ่อไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวคุณแม่ไปดูคุณพ่อก่อนนะคะ ”

หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็หันกลับมาด้วยรอยยิ้ม และเดินไปที่ห้องน้ำ เคาะหน้าประตู และไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากในห้องน้ำ มีเพียงเสียงน้ำไหลไม่ขาดสาย เจี่ยนอี๋นั่วเปิดประตูเข้าไปดู เห็นเหลิ่งเซ่าถิงพิงอ่างล้างหน้าและล้างมือตัวเองตลอดเวลา

เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ไหวถามด้วยหน้าคิ้วขมวด:“เหลิ่งเซ่าถิง คุณเป็นอะไรไปคะ?”

เหลิ่งเซ่าถิงหน้าคิ้วขมวด สูดหายใจเข้าลึกๆใช้แรงส่ายหัวไปมา:“ผมไม่ได้เป็นอะไร!”

“คุณเป็น คุณเป็นอะไรไปคะ?”เจี่ยนอี๋นั่วถามด้วยน้ำเสียงที่เบา

เหลิ่งเซ่าถิงปิดก๊อกน้ำมองลงไปที่นิ้วซีดเซียวของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา : “ก่อนที่ผมจะเห็นซวงซวง ผมไม่เคยรู้สึกว่ามือของผมนั้นมันสกปรก แต่เมื่อกี้นี้ ทันใดนั้นผมรู้สึกว่ามือของผมเปื้อนไปด้วยเลือด ไม่สมควรเลยสักนิดที่จะอุ้มซวงซวง”

เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ คิ้วขมวดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“หลายปีที่ผ่านมานี้ คุณมีแต่ช่วงเวลาที่เลวร้ายเหรอคะ?”

“แต่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ” เหลิ่งเซ่าถิงก้มหัวลงและจ้องมองไปที่นิ้วที่ซีดเซียวและยาวของเขา

เหลิ่งเซ่าถิงลืมไปแล้วว่าสองมือของเขา ฆ่าคนไปแล้วมากแค่ไหน แม้ว่าจะมีใครลงมือฆ่าคนแทนเขา แต่ในบางครั้งเขาก็ต้องลงมือฆ่าด้วยตัวเอง แต่เขาก็ออกคำสั่งให้ฆ่าคนเหล่านั้นเป็นการส่วนตัว และเอาชีวิตของคนเหล่านั้น ชีวิตของคนเหล่านั้นจะถูกบันทึกไว้ในใจของจนวันตาย

คนดีหรือคนเลว คนบริสุทธิ์หรือคนมีความผิด มันไม่ใช่เกณฑ์ที่เขาจะเป็นคนตัดสิน ขอเพียงเป็นศัตรูของเขา ไม่ว่าจะถูกหรือผิดพวกเขาล้วนต้องตาย! และมันต้องถอนรากถอนโคน แม้แต่เด็กเล็กก็ปล่อยมันไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว เนื่องจากจิตใจที่อ่อนไหวของเขา มีโอกาสสูงมากที่เขาจะมีศัตรูหลงเหลือไว้

เหลิ่งเซ่าถิงใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดหลายปี และเขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะทำอะไรผิดไป แต่จนกระทั่งเขาได้เห็น เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวงอีกครั้ง และเหลิ่งเซ่าถิงพบว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ในมือของเขามีแต่กลิ่นไอเลือดเต็มไปหมด เหม็นจนทำให้เขาล้มป่วย เขาไม่กล้าที่จะคิดเลยว่า ถ้าหากเจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวงรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตยังไง แล้วพวกเขาจะคิดยังไง

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

หนี้รัก วิวาห์จำเป็น

Status: Ongoing
เหลิ่งเซ่าถิง เป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจทั้งหมดของบริษัทไว้ในมือ เป็นบุคคลสำคัญของธุรกิจ ซ้ำยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่เขากลับต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมีสภาพกลายเป็นผัก เจี่ยนอี๋นั่ว เป็นลูกสาวของประธานแห่งเจี่ยนกรุ๊ป เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสัยอ่อนโยน และรักกับแฟนหนุ่มมา3ปีแล้ว แต่เพราะอาการป่วยของพ่อ ทำให้เจี่ยนกรุ๊ปล้มละลาย เธอต้องแบกรับหนี้หลายสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้นภายใต้เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ทำให้เจี่ยนอี๋นั่วต้องมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของเหลิ่งเซ่าถิง ซึ่งเธอไดแต่คิดว่าจะต้องอยู่กับคนที่สภาพเหมือนผักแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าเขานั้นฟื้นแล้ว และแค่รอให้ ‘ปฏิหาร’เกิดขึ้นอีกครั้ง………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท