“อ๊ะ…ไม่ต้องๆ ฉันสามารถนึกออกเองได้แบบชัดเจนมาก ล้วนนึกออกหมดแล้ว”
ณัฐณิชาไม่กล้าพูดมากอีก ก้มหน้ากินอาหาร แต่ก็แทบจะไม่รู้ว่าอาหารที่กินเข้าไปมีรสชาติอะไรแล้ว
สวรรค์ ถ้าหากว่าอะไรก็เกิดขึ้นหมดแล้ว เธอจะตั้งครรภ์รึเปล่านะ…
ถ้าหากว่าตั้งครรภ์ อย่างนั้นก็ยุ่งยากแล้ว…
ขณะที่คิดเพ้อเจ้อ สภาพจิตใจสับสนวุ่นวาย ในที่สุดก็กินข้าวเสร็จ ณัฐณิชาเก็บกล่องอาหารเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวจะจากไป แต่จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
“เข้ามา”
ฐิติกานต์เลขาสาวค่อยๆเดินเข้ามา เมื่อเหลือบตาขึ้นมาก็เห็นธราเทพผู้เป็นเจ้านายของตัวเองนั่งอยู่บนโซฟา ส่วนณัฐณิชาภรรยาร่างเล็กก็นั่งอยู่บนพรมที่พื้นในระยะที่ห่างจากเขาไม่ถึงหนึ่งเมตร โดยถอดรองเท้าส้นสูงเอาไว้อีกด้าน จากมุมมองของฐิติกานต์นั้นคล้ายกับว่าณัฐณิชาแอบอิงอยู่บนร่างของธราเทพ
ฐิติกานต์ลนลานหลุบตาลง ลอบกัดริมฝีปากเงียบๆ
แต่ไหนแต่ไรมาห้องทำงานของท่านประธานธราเทพเป็นเพียงแค่สถานที่ทำงาน และรังเกียจที่คนอื่นมาทำตัวตามสบายในห้องทำงานของเขาเป็นที่สุด แต่ทว่าผู้หญิงคนนั้นกลับทำตัวผ่อนคลาย ราวกับนั่งอยู่ในบ้านของตัวเองเสียขนาดนั้น
แม้จะรู้ว่านั่นคือภรรยาของท่านประธานธราเทพ แต่หลังจากที่ฐิติกานต์เห็นภาพนี้แล้ว ก็ยังคงริษยามากอยู่ดี ต้องรู้ว่าเธออยู่ข้างกายท่านประธานธราเทพมานานหลายปี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังมาตลอด ก็เพียงหวังว่าตัวเองจะสามารถทิ้งความประทับใจอย่างลึกซึ้งไว้ให้ธราเทพ ตอนนี้ดูแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอทำได้ไม่ดีพอ แต่ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไร ท่านประธานธราเทพก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเธอเป็นพิเศษ เธอกับผู้ช่วยนรินทร์นั้นเหมือนกัน เป็นแค่พนักงานธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สภาพจิตใจของฐิติกานต์ก็หดหู่ลงไปหลายส่วน
“มีเรื่องอะไร?”
ธราเทพเห็นเธอเข้ามาแล้วก็ไม่เอ่ยพูดอะไร จึงขมวดคิ้ว ขณะเอ่ยถาม
ณัฐณิชาก็หันหน้าไปมองแล้วอดเลิกคิ้วไม่ได้ เลขาสาวคนนี้หน้าตาไม่เลวเลย!
ตอนที่เธอเพิ่งมาก็ไม่เห็นเลขาฐิติกานต์คนนี้ เพียงแค่ได้ยินผู้ช่วยนรินทร์เอ่ยถึงประโยคหนึ่งว่า เลขาท่านประธานมีชื่อว่าฐิติกานต์
เธอลอบมองธราเทพนิ่งๆ พลางหรี่ตาลง คุณก็รู้จักที่จะเลือกเลขาให้กับตัวเองเหมือนกันนี่!
“ท่านประธานธราเทพ จะให้ฉันชงกาแฟให้คุณตอนนี้เลยไหมคะ” ฐิติกานต์ถาม
เธอเอ่ยจบแล้วก็ผงกศีรษะ ยิ้มบางๆให้กับณัฐณิชา แต่ไม่ได้กล่าวทักทาย
“อืม” ธราเทพพยักหน้าอย่างไม่สงบอารมณ์ “หลังจากนี้โทรศัพท์มาก็พอแล้ว”
แต่ก่อนเลขาฐิติกานต์ล้วนโทรศัพท์มาสอบถาม ทำไมวันนี้ถึงได้มาที่ห้องทำงานกะทันหันกัน? ทั้งยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังรบกวนเวลาอาหารกลางวันอันมีความสุขระหว่างเขากับภรรยาตัวน้อยคนนี้อีกด้วย
ฐิติกานต์หมุนตัวเดินจากไป เธอไม่จำเป็นต้องเดินมาถามจริงๆ เพียงแค่โทรศัพท์มาก็ได้แล้ว
แต่เธอรู้ว่าณัฐณิชาอยู่ในห้องด้วย ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ยินยอม อยากจะมาดูสักหน่อยว่า ธราเทพมีความรู้สึกต่อหญิงสาวที่จู่ๆก็แต่งเข้ามาคนนี้จริงๆ หรือว่าเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาแค่เปลือกนอกกันแน่
ถึงอย่างไร ในฐานะที่เป็นเลขาของท่านประธานธราเทพ เธอก็ไม่เคยเห็นธราเทพมีความสนใจในตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“รอสักครู่ค่ะ” จู่ๆณัฐณิชาก็ลุกขึ้นยืน เอ่ยกับฐิติกานต์
ฐิติกานต์หันกลับมายิ้มน้อยๆ “คุณณัฐณิชามีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
ณัฐณิชาชะงักไปครู่หนึ่ง เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย จากคำเรียก “คุณณัฐณิชา” ของเลขาคนนี้ และยังรอยยิ้มจอมปลอมอย่างเป็นมืออาชีพบนใบหน้าของเธอ เธอได้รับข้อมูลอย่างหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีความรู้สึกสนใจในตัวธราเทพแน่นอน
“เลขาฐิติกานต์ใช่ไหมคะ รบกวนคุณรอสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยชงกาแฟให้เทพนะคะ”
“หือ? ทำไมล่ะคะ?”
ขณะที่ฐิติกานต์ถามกลับ ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของธราเทพ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยุ่มย่ามมากไปแล้ว!
ในตอนนี้ ธราเทพก็ยิ้มอย่างสงสัยอยู่บ้าง “ทำไมหรือ ผมจะดื่มกาแฟ คุณก็ไม่อนุญาตหรือ”