“ไม่ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าในตอนนั้นฉันไม่ได้เห็นธาตุแท้ของคุณอย่างชัดเจน ถูกความเอื้อเฟื้อของคุณบังตา”
ธราเทพเข้าใกล้ณัฐณิชา จ้องเธอเหมือนจะคุกคาม “คุณเชื่อไหม ตอนนี้ผมจะเปิดเผยธาตุแท้กับคุณให้หมดเปลือกเลย”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ลดสายตาลง มองไปยังคอเสื้อชุดนอนของเธอที่แหวกออกเล็กน้อย
ณัฐณิชารีบห่อเสื้อผ้าของเธอให้แน่นทันที “คุณ…คุณอย่ามาก่อกวนนะ ตอนนี้ฉันเป็นคนไข้นะบอกไว้ก่อน!”
ดวงตาเรียวรีของธราเทพชำเลืองเหล่มอง “ก็จริง รอคุณหายป่วยก่อน ค่อยกินก็ได้”
ได้ยินดังนั้น ณัฐณิชาก็ตัวสั่น
ไม่อยากเชื่อเลยว่าตอนนั้นไม่เห็นธาตุแท้ของไอ้คนนี้!
ธราเทพเห็นเธอทำท่าระแวดระวังอย่างกับกระต่ายน้อย จึงตัดสินใจไม่แกล้งเธออีก และลุงหัสดินก็เอาชาขิงน้ำตาลทรายแดงเข้ามาให้พอดี เขารับชามมา “จะดื่มเองหรือให้ผมป้อนคุณ”
ณัฐณิชาหน้าแดงขึ้นมาฉับพลัน ลุงหัสดินยังไม่ทันออกไปเลยนะ! ทำไมไอ้คนนี้ถึงได้น่าไม่อายขนาดนี้นะ……
แอบเหลือบมองลุงหัสดิน ลุงหัสดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม ยังช่วยปิดประตูอย่างเบามือให้พวกเขาอีกด้วย
ธราเทพหยิบช้อนขึ้นมา ทำท่าจะป้อนเธอเอง
ณัฐณิชารีบดึงชามมา “……ฉันดื่มเอง”
กระทั่งดื่มน้ำขิงหมด ณัฐณิชาถึงได้ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด ราวกับทั้งร่างกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“ขอโทษนะ ผมมาช้าไป” ธราเทพช่วยเอาทิชชูเช็ดมุมปากให้เธอแผ่วเบา “นภสรณ์ทำเกินไปมาก ผมจะให้เธอชดใช้ ต้องมีคำอธิบายให้คุณ”
“คุณจะทำยังไงเหรอ”
ดวงตาของธราเทพมืดลง
ธราเทพในเวลานี้ทำให้ณัฐณิชารู้สึกกลัวเล็กน้อย ที่จริงก่อนหน้านี้เธอก็เคยได้ยินเรื่องของธราเทพ เขาสืบทอดบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เพียงแค่อาศัยการสนับสนุนจากครอบครัว แต่ที่จริงแล้วตัวเขามีฝีมือค่อนข้างมาก
กระทำต่อผู้ที่ล่วงเกินเขาและจะไม่ปราณี
แม้ณัฐณิชาจะรู้สึกเกลียดนภสรณ์ แต่ก็กลัวว่าธราเทพจะทำอะไรไปโดยประมาท ดังนั้นตอนนี้จึงค่อนข้างกังวล
“คุณอยากให้ผมทำยังไง” ธราเทพเลิกคิ้วถาม
ในเมื่อให้เธอตัดสินใจ งั้นก็โอเค อย่างน้อยก็จะไม่ถึงชีวิต
และแน่นอน มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะกลืนความโกรธลงไป แค้นยังต้องแก้ ส่วนวิธีการแก้แค้นนั้น……
มอบให้เป็นหน้าที่คุณปู่ธรณ์เทพแล้วกัน
กฎของตระกูลทวีศักดิ์ทินโชตินั้นเข้มงวด ณัฐณิชาได้ยินธราเทพเคยพูดไว้ เธอต้องการสิ่งนั้น แค่ให้นภสรณ์ถูกลงโทษ แล้วจำไว้เป็นบทเรียน เพราะฉะนั้นคนที่ปกครองเธอได้ โดยหลักแล้วก็คือคุณท่านธีรศาสนติ์
ณัฐณิชาเชื่อว่าคุณปู่จะให้ความยุติธรรมแก่เธอ เพราะดูไปแล้วคุณปู่เป็นคนที่มองอะไรกว้าง
“ฉันหวังว่าสิ่งที่นภสรณ์ทำกับฉัน จะให้ทุกคนในครอบครัวได้รับรู้” ณัฐณิชาพูดอย่างแน่วแน่
การสู้รบกับนภสรณ์ในที่ลับนั้นไม่มีความหมาย และเธอก็ไม่สนใจด้วย แค่หวังว่าผู้ใหญ่จะรู้พฤติกรรมแย่ๆ ของนภสรณ์ แล้วให้ความยุติธรรมกับตน
“ได้ ผมจะพูดกับคุณปู่เอง”
ธราเทพพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนซึ่งหาได้ยาก
เขารู้อยู่แก่ใจ ถ้าณัฐณิชาเกิดใจดีขึ้นมา แต่เขาก็จะไม่มีแผนปิดบังคุณปู่ เพราะครั้งนี้นภสรณ์ทำเกินไปมากจริงๆ
ในห้องโถงของบ้านเก่า นภสรณ์เดินเป็นหนูติดจั่น ส่วนนพนันท์นั่งบนโซฟา กำลังกินองุ่น ท่าทางไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
นภสรณ์เห็นแม่ตัวเองยังกินอย่างมีความสุข จึงรีบคว้าเอาจานที่เต็มไปด้วยองุ่นมา “คุณแม่คะ เรื่องจวนตัวขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณยังมีอารมณ์กินอยู่อีก หรือว่าคุณเห็นลูกสาวจะตายแล้วไม่ช่วย!”