ผู้ชายดึงแขนเธอ มืออีกข้างหนึ่งบีบคอเธอแน่น “ณัฐณิชา คุณคิดว่าวันนี้ยังจะมีคนมาช่วยคุณหรอ? คุณคิดไปเอง! วันนี้ผมจะให้คุณชิมรสชาติของการถูกรังแก …”
“อา! คุณ คุณอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา…”
ณัฐณิชาถอยหลังไปไม่หยุด เธอหันหลังกลับแล้ววิ่งหนี แต่ว่าข้างหลังยังคงมีเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของชายคนหนึ่งดังเข้ามา เสียงหัวเราะของชายคนนั้นราวกับปีศาจที่เข้ามาพัวพันตัวเองอย่างแน่นแฟ้น
เธอวิ่งไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็ล้มลงดัง “ตุบ” ณัฐณิชาใช้มือดันพื้นและหมุนตัวกลับ พยายามจะลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นก็เห็นใบหน้าที่ใหญ่ขึ้นของชายคนนั้น
“วิ่งสิ ทำไมคุณไม่วิ่งแล้วล่ะ? วิ่งต่อไปสิ!”
รอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัวของชายคนนี้อยู่ใกล้ตรงหน้า หมัดของเขาเหวี่ยงมาที่ตัวเอง ณัฐณิชากรีดร้องออกมา “อ้า! ธราเทพ ช่วยฉันด้วย…ช่วยฉันด้วย…”
“ธราเทพ!”
เสียงแหลมคมตัดผ่านท้องฟ้า ธราเทพเดิมทีก็นอนหลับไม่ค่อยสนิทอยู่แล้ว สะดุ้งตื่นขึ้นเอื้อมมือออกไปหมุนเปิดโคมไฟที่อยู่บนตู้หัวเตียง ก็เห็นณัฐณิชากำลังดิ้นตะโกนอะไรบางอย่าง บนใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเป็นชั้นๆ ธราเทพรู้ทันทีว่าเธอกำลังฝันร้าย
เกรงว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนบ่าย
“ณัฐณิชา ตื่น” ธราเทพสูดหายใจเข้า ใช้มือตบหน้าเธอเล็กน้อย แต่ว่าณัฐณิชาไม่เพียงแค่ไม่ตื่น ยังเอื้อมมือมาคว้าแขนของเขาไว้
สถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติธราเทพล้วนสะบัดออก แต่ว่าครั้งนี้…เขาไม่ได้ทำ
เขาตะโกนอีกสองสามครั้ง ณัฐณิชาถึงจะลืมตาขึ้นอย่างสับสน “อย่านะ!”
“ผมเอง คุณปลอดภัยแล้ว” ธราเทพเห็นเธอตื่นขึ้นมา ตัวเองไม่ได้สังเกตเลยว่าตัวเองโล่งใจออกมา และพูดปลอบโยนเบาๆ
ณัฐณิชาสมองยังคงเบลออยู่ เธอจำได้แค่เพียงว่าตัวเองเกือบจะ…
ความทรงจำที่เจ็บปวดแบบนั้นเธอไม่อยากพูดถึงอีก เห็นธราเทพที่สวมชุดอยู่บ้านท่าทางงัวเงียตรงหน้าอีกครั้ง ณัฐณิชาก็รู้สึกลำบากใจทันที บางทีเด็กสาวที่ตื่นจากฝันเดิมทีก็อ่อนแออยู่แล้ว ตอนนั้นเธอก็เลยซบเข้าไปในอ้อมแขนของธราเทพ ในน้ำเสียงถูกย้อมไปด้วยเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น “ธราเทพ ฉันนึกว่าฉันจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่ว่าคุณเย็นชาปากร้ายอีกแล้ว ฮือฮือ……”
“……”
เย็นชา? ปากร้าย?
ที่แท้ในสายตาของเธอตัวเองเป็นแบบนี้?
ความเยือกเย็นรอบกายของธราเทพปกคลุมขึ้นมาทันที ณัฐณิชาตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ นี่ถึงจะพบว่าตัวเอง…เหมือนว่าจะกำลังกอดธราเทพอีกครั้งแล้ว? !
เธอถอยออกจากอ้อมแขนของธราเทพด้วยใบหน้าขาวเผือก พูดติดขัด “ขอโทษ ฉันฉันเมื่อกี้…ฉันขอโทษ” เธอหาคำพูดไม่ได้ เลยได้แต่ขอโทษเงียบๆ
“ในเมื่อคุณไม่เป็นไรแล้ว ถ้างั้นก็นอนเถอะ” ธราเทพไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับเธอต่อไปอีก สาเหตุหลักคือตอนนี้ณัฐณิชาท่าทางเหมือนกับกระต่ายน้อยสีขาวตัวหนึ่งที่น้อยใจที่ถูกรังแก เขาก็ไม่มีใจมาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอหรอก
ก็แค่…ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อตอนบ่ายจะมีผลกระทบต่อเธออย่างมาก ธราเทพสีหน้ามืดมน
ณัฐณิชาเห็นธราเทพหลับไปแล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวเองก็สงบลง พยายามนอนหลับตาลงช้าๆ อาจจะเพราะธราเทพนอนอยู่ข้างๆ เธอก็เลยไม่กลัวขนาดนั้นแล้ว
ธราเทพพูดไว้แล้ว ว่าจะทำให้รเณศหายไปจากเมืองS เธอเชื่อว่าธราเทพทำได้อย่างแน่นอน เมื่อคิดแบบนี้ ณัฐณิชาก็ค่อยๆหลับไปอีกครั้ง…
เพียงแค่ รอจนณัฐณิชาส่งเสียงหายใจยาวออกมา ทันใดนั้นธราเทพก็ลืมตาขึ้น ดวงตาลึกล้ำคู่หนึ่งเงางามในความมืด เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม