เซี่ยงเส้าหลง หางคิ้วกระตุกเล็กน้อยพูดขึ้นว่า “แก้วเบียร์ของคุณอย่างมากก็มีราคา ยี่สิบสามสิบเหรียญให้ผมชดใช้หนึ่งร้อยอย่างนี้ขู่กรรโชกกันไม่ใช่เหรอ?”
ได้ยินคำพูด พนักงานบริการตื่นตัวขึ้นมาทันที “อะไรกัน? กล่าวหาว่าฉันกรรโชก ก็ได้ งั้นก็ชดใช้มาสองร้อย ขาดสักแดงเดียว แกก็อย่าคิดจะไปจากที่นี่!”
“ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ผมไม่เชื่อว่าแก้วเบียร์เก่า ๆใบหนึ่ง จะมีราคามากมายขนาดนี้!”
“เรียกผู้จัดการของคุณมาคุยกันหน่อย!”
พนักงานบริการ ชำเลืองสายตามองส่งเสียงฮึด้วยท่าทีเหยียดหยาม “คุณคิดดีแล้วเหรอ เรียกผู้จัดการของเราออกมา จะต้องชดใช้ เป็นหนึ่งพันเหรียญ น้อยกว่านั้นไม่ได้เลยนะ!”
“ฮึ!ผมไม่เชื่อว่า จะไม่มีคนที่พูดจาด้วยเหตุผลกันดีๆ!”
“ฮึฮึ งั้นคุณคอยดูเองแล้วกัน!”
ไม่นานนัก มีชายรูปร่างกำยำ มือเท้าหูไหล่สะโพกใหญ่ เอวขาและลำคอหนา สวมเสื้อสูทเดินเข้ามา ชำเลืองมองเซี่ยงเส้าหลง ด้วยหางตาพูดเสียงอู้อี้ว่า “มีอะไรเหรอ ได้ยินมาว่า คุณทำแก้วเบียร์แตกแล้ว ไม่ต้องการที่จะชดใช้เงิน?”
“ทำข้าวของเสียหาย ต้องชดใช้เป็นเรื่องปกติ แต่ว่า แก้วเบียร์เล็กๆใบหนึ่งให้ชดใช้สองร้อยเหรียญ เลยเหรอ?”
หางคิ้วผู้จัดการกระตุกเล็กน้อยพูดขึ้นว่า “ไร้สาระ!ผมพูดว่าชดใช้เท่าไหร่ก็ต้องชดใช้เท่านั้น!”
“เอ่อใช่สิ โต้เถียงกับคุณมาพักหนึ่ง ไม่ใช่สองร้อยแล้ว ต้องเป็นหนึ่งพัน!”
“รีบส่งเงินมาเดี๋ยวนี้ อย่าชักช้าเสียเวลา ผมยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก!”
ปั้ง!
เซี่ยงเส้าหลงใช้มือทุบโต๊ะอย่างจัง “หรือว่าร้านของพวกคุณ จะเป็นบาร์ผิดกฎหมาย?”
“เฮอะ เฮอะ ……”
ผู้จัดการเงินยิ้มเยาะ “คุณพูดได้ถูกต้องแล้ว บาร์ของพวกเรา เป็นบาร์ผิดกฎหมาย!”
“ทั่วทั้งเมืองเทียนไห่ มีใครไม่รู้บ้างว่าบาร์ฮัมเมอร์นี้ เป็นถิ่นของพี่ซีเฟิง ผมจะบอกให้คุณฟัง ชดใช้เงินมาเสียโดยดี ไม่อย่างนั้น ผมจะให้คุณต้องนอนหยอดน้ำเกลือกลับไป!”
“ฮ่าฮ่า……”
เซี่ยงเส้าหลง หัวเราะเบาๆ หยิบเงินขึ้นมาวางบนโต๊ะและพูดว่า “เงินวางอยู่ที่นี่ แต่ผมกลัวว่า คุณจะไม่กล้ามาหยิบ!”
“น่าขัน!บนโลกใบนี้ มีเงินอะไรที่ฉันไม่กล้าหยิบ!”
ผู้จัดการส่งเสียงในลำคอ หยิบเงินจากบนโต๊ะ จากนั้นพูดด้วยท่าทีไม่แยแสว่า “นับว่าเด็กหนุ่มอย่างแกยังเข้าใจ รีบไสหัวไปให้พ้น!”
เซี่ยงเส้าหลงไม่โต้เถียงสักคำ ลุกขึ้นเดินออกไป ยืนอยู่หน้าประตูบาร์เหล้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เตรียมกำลังคนมาสัก500คน อาวุธครบมือ วันนี้จะให้พี่น้องของเราได้สุกกันสักตั้ง!”
ประเดี๋ยวเดียว เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นติด ๆกัน กองทหาร500นาย พร้อมกับรถยานเกราะ 2คัน เตรียมพร้อมอยู่หน้าประตูบาร์เหล้า ล้อมไว้ไม่ให้ใครเล็ดลอดออกไปได้!
“รายงานนายพลน้อย กำลังพล มากันพร้อมเพรียง ประจำที่เรียบร้อย รอฟังคำสั่งจากท่านครับ!”
แววตาเซี่ยงเส้าหลงถมึงทึงดุดันพูดว่า “ลอมบาร์เหล่านี้ไว้ ไม่ให้แมลงวันสักตัวเล็ดลอดออกไปได้ จากนั้นก็ใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไป!”
“รับทราบ!”
ก๊อกก๊อกก๊อก!
เสียงของเซี่ยงเส้าหลงดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู “ฉันเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ฉันเหมือนจะยังไม่ดื่มเบียร์เลย!”
“แกเป็นเชี่ยอะไร รนหาที่ตายหรือไง ยังอยากจะกินเบียร์อีก เชื่อไหมฉันจะทำให้แกกิน……”
ผู้จัดการที่เดินไปเปิดประตู ยังไม่ทันพูดจบประโยค ถึงกับ ตะลึงงัน มองเห็นกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยงเส้า หลง พร้อมกับรถยานเกราะสองคัน ชี้ปลายกระบอกปืนใหญ่ดำทะมึนมายังบาร์เหล้า จนทำให้เขาเหงื่อไหลออกมาทันที
“คุณเตรียมจะให้ผมดื่มอะไรเหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มหรี่ตา
“พี่……พี่ใหญ่ ผมมีตาหามีแววไม่ ขอให้ท่านโปรดให้เข้าใจและอดทน”
ผู้จัดการไม่ใช่คนโง่ มองเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็เข้าใจได้ทันที ว่าตนเองนั้นได้ทำผิดต่อผู้มีอิทธิพลเข้าเสียแล้ว!
“เถ้าแก่ของคุณ ชื่อหยางซีเฟิงหรือเปล่า”
ผู้จัดการพยักหน้ารับคำ
“โทรศัพท์ไปหาเขาเดี๋ยวนี้”
“อะ……อะไรนะ?”
“โทรศัพท์ไปบอกเขาว่า หากภายในห้านาที ฉันไม่เห็นหน้าเขา บาร์เหล้าแห่งนี้ ฉันจะทำลายให้ราบเป็นหน้ากลอง!”
ผู้จัดการ ไม่กล้าที่จะโต้แย้งสักคำรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหยางซีเฟิง สายทางนี้พูดอธิบายสถานการณ์จบความ หยางซีเฟิง บันดาลโทสะพูดขึ้นว่า “แม่งเอ้ย! ในเมืองเทียนไห่มีใครหน้าไหนที่หาญกล้าทำลายถิ่นของหยางซีเฟิง?!”
“ อีกเดี๋ยวฉันจะให้เขาคนนั้น ตายจนไม่รู้ว่าตัวเองตายไปยังไง!”
พูดจบ ก็รีบรวบรวมสมัครพรรคพวกพี่น้องได้กลุ่มหนึ่ง พร้อมกับอาวุธครบมือ มุ่งหน้าไปบาร์เหล้าด้วยท่าทีดุดัน
บาร์ฮัมเมอร์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเทียนไห่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนนั้นหลบหนีไปได้ หยางซีเฟิงรีบโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าแผนกกองบังคับการตำรวจเมืองเป่ย “ฮัลโหล คุณน้าเขย มีกลุ่มคนไปก่อกวนที่บาร์ฮัมเมอร์ของผม คุณรีบพาคนไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ อย่าให้พวกเขาหลบหนีไปได้! ผมจะจับมันมาถลกหนังด้วยตัวผมเอง!”
“อะไรนะ?! มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?! คุณวางใจได้ ผมจะรีบส่งคนไปด้วยตัวเองเดี๋ยวนี้!”
หานซวี่ หัวหน้าแผนกกองบังคับการตำรวจเมืองเป่ยมีความสัมพันธ์เป็นญาติสนิทกับหยางซีเฟิง สำหรับบาร์ฮัมเมอร์เขายังมีหุ้นลมอยู่อีกด้วย ในเมื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทองในกระเป๋าแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น!
“รีบรวบรวมกำลังตำรวจทั้งหมด มุ่งหน้าไปที่บาร์ฮัมเมอร์เดี๋ยวนี้!”
ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่รู้สถานการณ์เห็นหัวหน้าแผนกร้อนรนขนาดนี้ คิดว่าโอกาสที่จะทำความดีความชอบมาถึงแล้ว แต่ละคนทำท่าทีขึงขัง กำลังคนร้อยกว่าคน รถตำรวจอีกสามสิบกว่าคัน เปิดสัญญาณหวอ มุ่งหน้าไปที่บาร์ฮัมเมอร์ในทันที!
ขณะที่เดินทางมาถึงบาร์ฮัมเมอร์ หานซวี่ถึงกับตกตะลึง กองกำลังทหาร500คนพร้อมอาวุธครบมือ รถยานเกราะอีก2คันจอดอยู่หน้าประตูบาร์เหล้า รอบนอกยังมีปืนอาร์พีจี อีก 10กระบอก เขาไม่แปลกใจแม้แต่น้อย ถ้าหากรถยนต์ของเขาเข้าไปในเขตวิถียิงแม้เพียงครึ่งก้าว ปืนอาร์พีจีก็จะยิงรถยนต์ของเขาระเบิดลอยขึ้นบนฟ้าแน่นอน!
เขาก็ไม่ใช่คนโง่อีกเช่นกัน ล่วงรู้ในทันทีว่าหยางซีเฟิง ได้ไปล่วงเกินผู้มีอิทธิพลเข้าเสียแล้ว หยิบวิทยุสื่อสารมาพูดเสียงดังว่า “ทุกคนทั้งหมดให้ปิดไฟสัญญาณตำรวจ ปิดเสียงไซเรน แนวหลังเปลี่ยนเป็นแถวหน้า ขับรถกลับไปทางเดิม กลับไปทางเดิมทันที!”
คนทั้งหมด มุ่งหน้ามาด้วยท่าทางว่องไว และกลับไปก็ด้วยท่าทีว่องไวเช่นกัน หานซวี่คนนี้ช่างร้ายกาจนัก พวกนี้เป็นกลุ่มโจรจากที่ไหนกัน ถึงมีอาวุธเพียบพร้อมขนาดนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นลูกพี่ใหญ่ที่มีกองกำลังทหารของตนเอง!
ยังดีที่ตัวเองกลับตัวได้ทัน มิฉะนั้นแล้ว หัวหน้าแผนกกองบังคับการตำรวจตำแหน่งเล็ก ๆของตนเอง ก็คงจะไม่พอมือฝ่ายตรงข้ามเป็นแน่!
นับประสาอะไรกับการแจ้งเตือนหยางซีเฟิง หานซวี่ที่กำลังโมโห ไหนเลยจะมีจิตใจไปสนใจเขา!
แต่อีกด้านหนึ่ง ขณะที่หยางซีเฟิงพาสมัครพรรคพวกสองร้อยกว่าคนมาถึงด้วยท่าทีขึงขัง เหล่าลูกสมุนทั้งหลายเห็นภาพนี้ตกตะลึง อึ้งไปตาม ๆกัน
“พี่……พี่ใหญ่ที่พี่พูดว่า คนที่มาก่อกวนนั้นน่ะ คงจะไม่ใช่พวกเขาใช่ไหม?”
ลูกสมุนของตัวเองเดิมทีเพียงแค่เด็กน้อยลูกกระจ๊อก หลังจากที่เห็นปืนจริงกระสุนจริงเข้าไป แค่เพียงได้ยินเสียงหายใจดังฮึดเดียว อาวุธที่อยู่ในมือแทบถือไม่ไหวแล้ว โยนออกไปข้างทาง คนสองร้อยกว่าคน ชั่วพริบตาเดียว เหลือเพียงหยางซีเฟิงที่เป็นคนสั่งการคนเดียวเท่านั้น
หยางซีเฟิง ก็หวาดกลัวเช่นกัน แต่ว่าบาร์ฮัมเมอร์ ก็เป็นที่ทำมาหากินของเขา เขาก็คิดอยากจะวิ่งหนี แต่ไปไหนไม่ได้!
ในขณะนั้นเองมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อมองดูเป็นสายเรียกเข้าของหานซวี่ ขณะที่รับสาย เสียงปลายสายก็สบถด่าขึ้นมาในทันที
“แกไปทำเชี่ยอะไรมา ล่วงเกินใครเข้าล่ะ!”
“แม้แต่รถยานเกราะก็ยังมีด้วย แกทำเชี่ยอะไรให้ฉันมาจับคน หรือจะให้ฉันมาตายกันแน่!”
หยางซีเฟิง ก็รู้สึกผิดเช่นกัน “คุณลุง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คนที่มีอิทธิพลขนาดนี้ ผมจะใจกล้าไปล่วงเกินเขาได้อย่างไร!”
“ฉันจะบอกให้แกฟัง เบื้องบนแจ้งกับฉันมาว่า รอบๆ บาร์ฮัมเมอร์ สิบกิโลเมตร เกรงว่าจะเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว ไม่ต้องการให้ ใคร เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย!”
“แกเอง ก็ร้องขอร้องอ้อนวอนต่อสวรรค์เองแล้วกัน!”
หยางซีเฟิงยืนตะลึงงัน ในขณะนั้นเอง มีทหารสองนายเดินเข้ามาหา ชี้ปลายกระบอกปืนมาที่เขา พูดเสียงเย็นชาว่า “นายพลน้อยของพวกเรา เชิญคุณเข้าไปพบ!”
หยางซีเฟิง ในขณะที่ตัวสั่นงันงกเดินเข้ามาพบกับเซี่ยงเส้าหลง รวบรวมความกล้าแย้มยิ้ม ถามว่า “คุณ……ท่านนี้ ไม่ทราบว่าข้าน้อย ไปล่วงเกินอะไรท่าน ท่านถึงได้ส่งกำลังทหารมามากมายถึงเพียงนี้?”
เซี่ยงเส้าหลง ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย หยิบจานขึ้นมาหนึ่งใบ แย้มยิ้มนึกเล่นสนุกขบขัน “จานใบนี้ ราคาเท่าไหร่ล่ะ?”
หยางซีเฟิงถึงกับตกตะลึง และผู้จัดการเองตัวสั่นเทา!
แพร๊ง!
หลังเสียงจานตกลงบนพื้น เซี่ยงเส้าหลงก็ส่งเสียงขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ทำลายให้หมด!”