ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 43 คุณพ่อคือฮีโร่ของหนู

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

หูตงกับหวังฮุ่ยได้ยินแล้วตะลึงงัน

ร้านอาหารSaint Roste มีสาขาไปทั่วทุกมุมโลก สมาชิกระดับเพชรของพวกเขา ก็ต้องสามารถใช้ได้ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีเกียรติมาก อีกทั้ง ไม่ใช่จะมีเงินถึงจะซื้อได้ แต่ต้องได้มาจากการมอบให้จากผู้ก่อตั้งโดยตรงเท่านั้น สามารถได้รับสิทธิ์พิเศษต่างๆ จากร้านในเครือร้านอาหารSaint Rosteได้ทั่วทุกมุมโลก

“เป็นไปไม่ได้!ฉันไม่เชื่อ!”

หวังฮุ่ยรีบเอ่ยปากถาม “ถ้าพวกเขาเป็นสมาชิกระดับเพชรจริงๆ ทำไมถึงนั่งกินสปาเกตตีฟรีๆ ดื่มน้ำเปล่าราคาถูกละ?”

ผู้จัดการมองเขาด้วยท่าทีเรียบเฉยและพูดว่า “ก่อนอื่น ผมต้องอธิบายให้ท่านทั้งสอง เข้าใจให้ถูกต้องเสียก่อน!”

“คุณลูกค้าอยากทานอะไร ก็เป็นสิทธิ์ของลูกค้า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับของสมาชิก พวกเราไม่สามารถไปก้าวก่ายได้!”

“อีกทั้ง ทางร้านของเราก็ได้จัดเตรียมอาหารสุดพิเศษให้กับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านไว้เรียบร้อยแล้วอาทิ สเต๊กเนื้อโกเบเกรดพิเศษ กับฟัวกราส์เกรดพิเศษจากฝรั่งเศสพร้อมกับไข่ปลาคาเวียร์ ถ้าหากลูกค้าต้องการเมื่อไหร่ ทางร้านอาหารก็จะเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ลิ้มรสอาหารอร่อยได้ในทันที”

“ประการที่สอง น้ำเปล่าที่คุณบอกว่าราคาถูกนั้น เป็นน้ำแร่ที่ผลิตจากรอยแยกขนาดใหญ่ของเทือกเขาปาเฟยที่มาจากธรรมชาติ แต่ละปีสามารถผลิตออกมาเป็นน้ำ ได้เพียงแต่แปดร้อยกิโลกรัม จึงได้สมญานามว่า เป็นน้ำดื่มที่แพงที่สุดในโลก!”

“ราคาขายต่อขวด อยู่ที่สองแสนหยวน!”

โลกทัศน์ของทั้งสองคน พังไปแล้วอย่างสิ้นเชิง!

เดิมที่คิดว่าพ่อลูกทั้งสอง เป็นคนยากจนคู่หนึ่ง แต่คาดไม่ถึง ที่แท้ตนเองก็คือกบอยู่ในบ่อ!

เดิมทีคิดว่าจะทำให้พวกเขาอิจฉากับอาหารที่กิน แต่คาดไม่ถึงเลย เพียงแค่น้ำเปล่าเพื่อดับกระหายของเขา แค่อึกเดียวราคาก็เท่ากับอาหารทั้งโต๊ะของตนเอง

ทั้งสองตกตะลึง และบนใบหน้ายังเต็มไปด้วยความอัปยศ เดิมที่คิดว่า จะแสดงท่าทีโอ้อวดต่อพ่อลูกสองคนให้เห็น ไม่คาดคิดเลย ตนเองกลับถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะผละตัวหนีไปจากเหตุการณ์ เซี่ยงเส้าหลงยื่นมือเข้ามาขวาง พวกเขาไว้

“ท่านทั้งสอง ดูเหมือนว่าจะลืมทำอะไรไปบางอย่างนะ?”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มมุมปาก ชี้ไปที่เศษแก้วบนพื้นพูดว่า “ลูกสาวผมหยิบน้ำให้พวกคุณดื่มด้วยความเป็นห่วง คุณกลับใจร้ายปัดมันจนตกแตก งั้นค่าน้ำขวดนั้น พวกคุณจะต้องชำระด้วยหรือเปล่า?”

มองคราบน้ำหกเต็มพื้น หวังฮุ่ยแทบจะอดรนทนไม่ได้ที่จะตบหน้าหูตง นั่นเป็นน้ำราคาสองแสนเชียวนะ หากตนได้ดื่มลงไปสักคำ คงพอจะได้โม้กับกลุ่มเพื่อนไปหลายเดือนเชียว แต่ทั้งหมดนี้ หูตงที่ไม่รู้อะไรเลยปัดขวดแก้วตกแตกเสียหายหมด!

หูตงใบหน้าซีดเผือด เต็มไปด้วยความตกใจ แม้นเขาจะมีรายได้ที่ไม่น้อย แต่คนที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตหรูหราอย่างเขานั้น ราคาสองแสน เป็นราคาที่แพงเอามากๆ เช่นกัน

เขาก้มหน้าพูดกับเซี่ยงเส้าหลง ด้วยท่าทีหวาดกลัวว่า “คุณ……คุณผู้ชายท่านนี้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมมีตาหามีแววไม่ ทำผิดต่อคุณ คุณพอจะใจกว้างให้อภัยกับพวกผมสักครั้งได้หรือไม่?”

เซี่ยงเส้าหลง พูดเบาๆ ว่า “พวกคุณไม่ได้ทำผิดกับผม แต่พวกคุณทำผิดกับลูกสาวของผม”

“หากพวกคุณทำให้เธอให้อภัยได้ ผมก็ไม่คิดที่จะเอาความ”

ใบหน้าของคนทั้งสองร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ โค้งตัวขอโทษไอ้หนุ่มคนหนึ่ง การกระทำเช่นนี้ ทำให้ ผู้ใหญ่ทั้งสองต้องอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก

แต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับราคาน้ำเปล่าจำนวนสองแสนหยวนแล้ว ทั้งสองคนไม่ทำก็ไม่ได้ จึงเดินเข้าไปโค้งคำนับขอโทษอวิ๋นเยนเอ๋อพูดว่า “ขอโทษด้วยนะหนู พวกเราผิดไปแล้ว หนูให้อภัยพวกเราได้ไหม”

อวิ๋นเยนเอ๋อเด็กตัวน้อยที่น่ารักแสดงท่าทางจริงจังพูดว่า “คุณแม่เคยสอนไว้ว่า การให้อภัยเป็นสมบัติของผู้ดี เด็กเล็กคนหนึ่ง ต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยกับคนที่ทำผิด ดังนั้น หนูให้อภัยพวกคุณ”

ทั้งสองคนอับอายขายหน้าเป็นยิ่งนัก ที่ถูกเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ว่ากล่าวสั่งสอนท่ามกลางผู้คนมากมาย หลังจากได้รับการให้อภัยแล้ว จึงรีบออกไปจากสถานที่นั้นในทันที ไม่คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมาเลยสักนิด

“ลูกรัก หนูเก่งมาก!”

อวิ๋นเยนเอ๋อ ดีใจมากที่ได้ยินคำชมของเซี่ยงเส้าหลงใช้แขนโอบกอดเซี่ยงเส้าหลงและพูดออดอ้อนว่า “คุณพ่อ เค้กเมื่อครู่นี้อร่อยมากจริงๆ เยนเอ๋อ อยากกินอีกหนึ่งชิ้น!”

เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้ารับคำ “ไม่มีปัญหา!”

“ผู้จัดการ เอามาอีกสิบจาน!”

หลังจากทั้งสองได้ทานอาหารกันจนอิ่มท้อง เซี่ยงเส้าหลงพาอวิ๋นเยนเอ๋อ ไปห้างสรรพสินค้าที่หรูหราที่สุดของเมืองเทียนไห่ อ้าวซือกู่เล่อ

หญิงสาวปกติก็ชื่นชอบความงามอยู่แล้ว อวิ๋นเยนเอ๋ออายุแค่ห้าขวบ ก็เป็นเช่นเดียวกัน

ราวกับว่าได้เข้ามาดินแดนแห่งความสุขสันต์ อวิ๋นเยนเอ๋อเปรียบเสมือนผีเสื้อน้อยตัวหนึ่ง โบบบินไปทั่วทุกแห่งไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ไม่นานนักในมือของเซี่ยงเส้าหลง ก็หอบเต็มไปด้วยถุงใส่ของทั้งเล็กทั้งใหญ่จำนวนมากมาย

“คุณพ่อ กระโปรงตัวนั้นสวยมาก หนูอยากได้”

มือเต็มไปด้วยเสื้อผ้าราคานับแสน แต่เมื่อเขามองไปทางอวิ๋นเยนเอ๋อลูกสาวตัวน้อย ดวงตาโตๆนั้นเต็มไปด้วยการร้องขอออดอ้อน เซี่ยงเส้าหลงเองก็ยากที่จะปฏิเสธได้?

“โอเค ขอเพียงเยนเอ๋อชอบ พ่อก็จะซื้อให้เยนเอ๋อ!”

“เย้ คุณพ่อน่ารักที่สุดเลย!”

ขณะที่อวิ๋นเยนเอ๋อ กำลังเลือกกระโปรงตัวใหม่อย่างมีความสุข ทันใดนั้น ก็มีเสียงปืนดังขึ้น!

เซี่ยงเส้าหลงตื่นตัวขึ้นทันที รีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวอวิ๋นเยนเอ๋อ มาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็เข้าไปหลบอยู่ด้านข้างชั้นวางของ เอียงตัว สังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีโจรถือปืนสองคนจับตัวเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอวิ๋นเยนเอ๋อ อยู่ไม่ไกลนัก

ทั่วทั้งห้างสรรพสินค้า ตกใจกลัววิ่งกันโกลาหล คนที่มาจับจ่ายใช้สอยที่นี่ล้วนเป็นคนมีเงิน คนมีเงินมีอุปนิสัยที่คล้ายคลึงกันอย่างหนึ่งก็คือ กลัวตาย!

ทุกคนต่างก็วิ่งกันสับสนอลหม่านเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่มีใครเลยที่จะใส่ใจแม่ของเด็กชายคนนั้น และเด็กชายที่กำลังร้องไห้

โจรสองคนยิงปืนและพูดด้วยท่าทีดุดันว่า “จะบอกให้พวกแกทุกคนฟังไว้ เราสองพี่น้องยังมีพรรคพวกอีกหลายคน!”

“ภายในสิบนาที เตรียมรถคันหนึ่ง เงินสดอีกห้าแสนให้พวกเรา ไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าเด็กคนนี้เสีย!”

แม่ของเด็กชายคนนั้น เป็นเพียงพนักงานธรรมดาคนหนึ่งที่ดูแลความสะอาดในห้างสรรพสินค้า เธอที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะว่าวันนี้ฝนตกจึงจำเป็นต้องพาลูกชายติดสอยห้อยตามมาด้วย ใครจะไปรู้ล่ะ ผ่านไปไม่นานนัก จะเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นนี้!

“ฉันเป็นเพียงแค่พนักงานดูแลความสะอาดธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น จะมีเงินที่ไหนถึงห้าแสน!ขอร้องพวกคุณล่ะ ปล่อยลูกชายของฉันเถอะ! ปล่อยขาเถอะ!”

ทั้งๆ ที่เห็นแม่ของลูกชายร้องไห้ โจรทั้งสองคนยังแสดงสีหน้าดุดัน พูดว่า “พูดเชี่ยอะไรให้มากความ ไม่มีเงินห้าแสน เราสองคนก็จะฆ่าเด็กคนนี้เสีย!”

แม่ของเด็กชายตกใจกลัวมองไปรอบๆ คุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะให้กับคนมากมายที่วิ่งหนีตายกันอย่างอลหม่าน “ขอร้องคุณล่ะ ช่วยลูกชายฉันด้วย!จะให้ฉันเป็นม้าเป็นควายยังไงก็ได้ ฉันจะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ให้กับพวกคุณ!”

เงินแค่เพียงห้าแสน? ไม่ว่าลูกค้าคนไหนที่มาเดินที่นี่ เป็นเพียงเงินแค่ขนหน้าแข้งเท่านั้น แต่สำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นพนักงานทำความสะอาดแล้ว เงินห้าแสน เป็นเงินมากมายที่เธอไม่สามารถหาได้ทั้งชีวิต เหมือนเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดเขาสูง

ไม่มีทางเป็นไปได้ คนทุกคนได้ยินคำวิงวอนร้องขอของแม่เด็กชายคนนั้น แต่ทุกคนต่างก็ยืนมองดูด้วยสายตาเย็นชาอยู่ห่างๆ ไม่มีใครกล้าที่จะยื่นมือช่วยเหลือแม้สักคนเดียว

แต่เซี่ยงเส้าหลงยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เตรียมที่จะออกไปจากที่เกิดเหตุ ยังไงเสียลูกปืนไร้ลูกตา เขาเองก็ไม่กล้าที่จะ เสี่ยงต่อความปลอดภัยของอวิ๋นเยนเอ๋อเช่นกัน

ขณะที่เขาค่อยๆ หาจังหวะหลบหนีออกไปนั้น จู่ๆ อวิ๋นเยนเอ๋อก็หยุดฝีเท้า

“คุณพ่อ”

ไอ้หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่ของเด็กชายคนนั้นที่กำลังร้องห่มร้องไห้ จึงพูดขึ้นมาว่า “ถ้าลูกชายของเธอเป็นอะไรไป น้าคนนั้นคงจะเสียใจมากเลยใช่ไหม?”

ดวงตาเซี่ยงเส้าหลงนิ่งลงเล็กน้อย

“คุณครูเคยพูดว่า พวกเราอยู่ในโลกใบนี้ แม้ว่าทุกที่จะมีภยันตราย แต่มักจะมีฮีโร่เข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์เสมอ”

“พวกเขามักจะปรากฏตัว ก็ต่อเมื่อ มีคนต้องการมากที่สุด ช่วยเหลือทุกคนให้พ้นจากอันตราย!”

พูดจบ อวิ๋นเยนเอ๋อมองดูเสื้อผ้า ที่อยู่ในมือเซี่ยงเส้าหลง อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก พูดว่า “คุณพ่อ เสื้อผ้าเหล่านี้ คงจะพอมีราคาอยู่บ้าง เยนเอ๋อคิดว่า เสื้อผ้าพวกนี้หนูไม่เอาแล้ว นำเงินพวกนี้ไปช่วยเด็กคนนั้นได้หรือไม่?”

เซี่ยงเส้าหลง เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ถามว่า “งั้นลูกเยนเอ๋อ ไม่ชอบเสื้อผ้าสวยๆ เหล่านี้แล้วเหรอ?

อวิ๋นเยนเอ๋อก้มหน้า พูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “ชอบค่ะ”

“แต่เยนเอ๋อ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พ่อของเยนเอ๋อ จะเป็นฮีโร่คนนั้น!”

เซี่ยงเส้าหลงแย้มยิ้ม บางทีเป็นเพราะเยนเอ๋อเอง ที่น่ารักและเชื่อฟังอย่างนี้ เขายิ้มขึ้นด้วยความสบายใจ ลุกขึ้นยืนเหมือนดั่งภูเขาลูกใหญ่มหึมา มือลูบหัวอวิ๋นเยนเอ๋อเบาๆ “เจ้าหญิงของพ่อ จะทำตามที่ลูกปรารถนา !”

ส่วนอีกด้านหนึ่ง สิบนาทีผ่านไปแล้ว ไม่มีใครที่จะเข้ามาช่วยเหลือ โจรคนหนึ่งจึงพูดด้วยท่าทีดุดันว่า “เชี่ยอะไรวะ!โคตรซวยเลยจริงๆ คนมีเงินตั้งมากมาย ดันไปจับตัวลูกชายของพนักงานความสะอาดได้ยังไง! ลูกพี่ พวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะ?”

“รอไม่ได้แล้วล่ะ หากชักช้ากว่านี้ สายตรวจก็จะมาถึงแล้ว!”

“งั้นเด็กคนนี้จะทำยังไงล่ะ?”

“พาเขาไปด้วย มีเขาอยู่ พวกเราเก็บไว้เป็นตัวประกัน!”

“รอจนหนีไปถึงที่ปลอดภัยแล้ว ค่อยหาสถานที่สักแห่งหนึ่งฝังมัน!”

“ไม่ อย่าทำอย่างนั้น!”

ได้ยินคำพูดของโจรทั้งสองคน เสียงของแม่ยิ่งร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า แทบจะเป็นลมสลบไป

“ไอ้แก อันธพาลที่ไหน รีบไสหัวไปให้พ้น!”

เซี่ยงเส้าหลงมองดูคนทั้งสอง พูดเบาๆ ว่า “ปล่อยตัวเด็กชายคนนั้น!”

โจรทั้งสองกวาดสายตามองดูครู่หนึ่ง โจรคนหนึ่งหัวเราะเยาะพูดว่า “ปล่อยตัวเขา? ได้! แกเอาเงินมาห้าแสน ฉันจะปล่อยตัวเขาทันที!”

“ปล่อยตัวเด็ก บางทีฉันจะลองทบทวน ที่จะให้พวกแกทั้งสองคน เจ็บปวดน้อยกว่านี้”

เซี่ยงเส้าหลง ไม่มีทีท่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย

“พี่ชาย คุณคงจะเป็นบ้าไปแล้ว!”

โจรทั้งสองหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ชี้ปากกระบอกปืนแสดงท่าทีดุดันพูดว่า “ฉันจะพูดอีกครั้ง รีบไสหัวไปให้พ้น!”

“ไม่งั้น พวกเราสองพี่น้องจะทำให้ตัวของแกมีรูสองรู!”

เผชิญหน้ากับปืนสองกระบอกดำทะมึนจ่อมาที่ตัว เซี่ยงเส้าหลงไม่มีทีท่าหวาดกลัวแต่น้อย “อยากจะขอเตือนพวกแกสักคำ อย่าเอาปืนมาชี้หน้าฉัน เพราะว่าคนที่เอาปืนมาชี้หน้าฉันทุกคน ล้วนมีจุดจบที่น่าอนาถ!”

“ถุย เชี่ยอะไร! ไม่เพียงจะใช้ปืนชี้หน้าแก ยังจะยิงแกให้ตายเสียเดี๋ยวนี้!”

โจรทั้งสองคน ดูก้าวร้าวยิ่งนัก ขณะที่เขาเตรียมที่จะเหนี่ยวไกปืน ดวงตาเซี่ยงเส้าหลงเยือกเย็น ทันใดนั้นก็มีร่างเงาคล้ายดั่งลูกกระสุนพุ่งออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ โจรทั้งสองได้เห็นแค่เพียงภาพเงา จากนั้นแขนก็สัมผัสได้เบาๆ แต่ไม่ทันได้ตอบสนองว่าเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดที่ข้อมือก็เกิดขึ้นทันที

“โอ้ย!”

เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วทั้งห้างสรรพสินค้า นิ้วมือทั้งห้าที่ถือปืนของโจรทั้งสองคน ถูกหักเสียงดังกรอบจนไม่เหลือสภาพเดิม

ปืนทั้งสองกระบอกที่ทำขึ้นมาเอง ก็อยู่ในมือของเซี่ยงเส้าหลง เขาค่อยๆใช้แรงบีบ “พวกแกทั้งสองคนโชคดีมาก ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ ไม่อย่างนั้น จุดจบของพวกแกทั้งสองคน ก็เหมือนปืนสองกระบอกนี้!”

เมื่อคลายมือออก ปืนที่ทำขึ้นจากโลหะ ถูกบีบบี้แบน ไม่เป็นรูปทรงปืนอีกเลย!

“ลูกของฉัน! ลูกของฉัน!”

แม่ของเด็กชายคนนั้น รีบคลานเข้าไป คว้าตัวลูกชายจากมือของเซี่ยงเส้าหลง โค้งคำนับขอบคุณอย่างต่อเนื่อง “ขอบพระคุณมาก ขอบคุณที่ช่วยชีวิตลูกชายของฉัน!”

ในเหตุการณ์เงียบสนิท แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้น เสียงปรบมือดังขึ้น จากนั้นก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนดังสนั่นหวั่นไหว ไปทั่วทั้งห้างสรรพสินค้า!

“คุณพ่อ!”

อวิ๋นเยนเอ๋อวิ่งเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลง ดวงตาทั้งสองเปล่งประกาย เข้าไปโอบกอดเขาไว้ หอมไปที่ใบหน้าของเขาฟอดใหญ่!

ภายในจิตใจของเด็กเล็กๆ ทุกคน ล้วนใฝ่ฝันที่จะมีฮีโร่ในใจ และเคยจินตนาการเอาไว้ พ่อของตนเองอาจจะเป็นฮีโร่ที่ทุกคน เคารพและยอมรับ

“ขอบคุณคุณพ่อมาก พ่อคือฮีโร่ของหนู!”

อวิ๋นเยนเอ๋อซบหน้าไปที่หน้าอกของเซี่ยงเส้าหลง พูดออกมาด้วยความชื่นชม

ได้รับคำยกย่อง จากผู้คนมากมาย เซี่ยงเส้าหลง ลูบไปที่เส้นผมของอวิ๋นเยนเอ๋อ “ลูกรัก ลูกก็เป็นฮีโร่ของพ่อ เป็นความภูมิใจของพ่อ!”

เวลาก็ค่อยๆ ค่ำลง อุ้มอวิ๋นเยนเอ๋อที่กำลังหลับสนิทกลับมาถึงบ้าน จัดแจงที่ทางให้เรียบร้อยแล้ว ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เซี่ยงเส้าหลงเอนหลังนั่งลงบนโซฟา ยิ้มด้วยความเหน็ดเหนื่อย พาลูกสาวไปเดินช้อปปิ้ง เป็นการออกกำลังกายที่หนักหนาที่สุดในชีวิตจริงๆ อีกทั้งสิ่งที่น่ากลัวก็คือ เด็กคนนี้อายุยังน้อยไม่รู้ความ

ขณะที่เขากำลังถอนหายใจ ประตูใหญ่ก็เปิดออก อวิ๋นเสว่เหยนเดินเข้ามาด้วยท่าทีเดือดดาล โยนกระเป๋าสะพาย นั่งลงบนโซฟาอย่างเสียอารมณ์

มองดูสีหน้าของเธอ เซี่ยงเส้าหลงลุกขึ้นถามเธอว่า “เหยนเหยน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

อวิ๋นเสว่เหยน หันหน้าไปมองด้วยดวงตาทั้งสองที่แดงระเรื่อ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความเสียใจ “เซี่ยงเส้าหลง ฉันควรทำอย่างไรดี!”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท