ชายวัยกลางคนมีหน้าตาสง่างาม แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้มีอำนาจที่สูงส่ง สายตากวาดมองเล็กน้อย นอกจากเซี่ยงเส้าหลงแล้ว ทุกคนในที่นี้ ต่างแสดงสีหน้าเคารพนับถือออกมา
ผู้ที่มาไม่ใช่ใครอื่น ก็คือลูกชายของนายท่านฉวี่ ผู้นำของตระกูลฉวี่ในตอนนี้ ฉวี่เฉิง!
เมื่อได้รับข่าวว่าพ่อของเขาหัวใจวาย ฉวี่เฉิงก็รีบมาอย่างเร่งด่วน และเห็นฉากตรงหน้าพอดี
เมื่อเห็นชัดเจนคนที่มา หวังเจ๋อเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าประจบสอพลอ “คุณฉวี่ คือว่าอย่างนี้……”
ใส่สีตีไข่เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบไปหนึ่งรอบ หลังฟังจบ สีหน้าของฉวี่เฉิงก็กลายเป็นน่าเกลียดเล็กน้อย สายตามองไปทางเซี่ยงเส้าหลง และพูดอย่างสูงส่งว่า“บอกมาสิ ว่านายต้องการเงินเท่าไหร่?”
เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วส่ายหัว! “ฉันไม่ต้องการเงิน”
“แล้วนายต้องการอะไร?”
เซี่ยงเส้าหลงพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่อยากเห็นพ่อนายตาย!”
“นายว่าอะไรนะ?! ”
สีหน้าของฉวี่เฉิงเย็นยะเยือก ราวกับฤดูหนาวในเดือนธันวาคม!
เขาเป็นประมุขแห่งตระกูล ต่อให้เจ้าเมืองที่ใหญ่ที่สุดอยู่ต่อหน้าเขา ก็ยังต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ ไม่เคยมีใครกล้าพูดจาอวดดีเช่นนี้ต่อหน้าเขาเลยสักคน!
“คุณฉวี่! อย่าโกรธเลย! แม้แต่ใบอนุญาตทางการแพทย์เขายังไม่มีเลย ไม่มีปัญญาที่จะรักษาพ่อของคุณได้หรอก!”
หวังเจ๋อรีบเดินเข้าไปประจบสอพลอ “ผมว่า ให้รปภ.มาไล่เขาออกไปดีกว่า จะได้ไม่ทำให้คุณเสียอารมณ์!”
ฉวี่เฉิงแค่นเสียงเย็นชา ไม่พูดอะไร
หวังตั๋วเห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ ก็ชักสีหน้าแล้วพูดกับเซี่ยงเส้าหลงว่า “คุณฉวี่โกรธแล้ว นายยังจะนิ่งเฉยอยู่ที่นี่อีกทำไม?”
เซี่ยงเส้าหลงเห็นว่าพวกเขายังไม่เชื่อเขา สีหน้าเย็นชาขึ้น “แล้วพวกคุณจะเสียใจ!”
“เสียใจ? ฮ่าฮ่าฮ่า……”
“เสียใจที่ไม่ให้นายเป็นคนรักษาเหรอ?”
ดวงตาของหวังเจ๋อเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เห็นแก่เงินจนบ้าคลั่งจริงเชียว! รีบไสหัวไปซะ!”
เซี่ยงเส้าหลงส่ายหัวอย่างเงียบๆ ขณะที่กำลังจากเดินจากไป ก็มีเงาร่างคนคนหนึ่ง มาอยู่ตรงหน้าเขาอย่างจัง
“น้องชาย เพื่อนฉันเป็นยังไงบ้าง?”
ผู้ที่มาถามอย่างเร่งรีบเงยหน้ามอง ก็เห็นชายชราที่เล่นหมากรุกตัวแบล็กกี้กับท่านฉวี่นั้นเอง
“ท่านเหอ!”
เมื่อเห็นชายชรา ฉวี่เฉิงก็รีบเดินเข้ามาหา พร้อมพูดทักทายด้วยความเคารพ
คนอื่นๆ ก็ก้มหัวโค้งคำนับทำความเคารพให้กับชายชราอย่างนอบน้อม
เห็นสีหน้าอันน่าเกลียดของเซี่ยงเส้าหลงแล้ว เหอจงซวินก็อดใจไม่ได้จึงเอ่ยปากถาม “น้องชาย นี่นายเป็นอะไรไป?”
เซี่ยงเส้าหลงพูดตามตรงว่า “ผมบอกว่าผมรู้วิชาแพทย์ สามารถช่วยคุณท่านที่อยู่ข้างในได้ แต่พวกเขาไม่เชื่อ แล้วยังจะโยนผมออกไปอีก”
“ท่านเหอ! ไอ้หมอนี่จะรู้จักวิชาแพทย์ได้อย่างไร? ท่านอย่าไปหลงกลเล่ห์เหลี่ยมของมันนะ!”
หวังเจ๋อร้อนรน และรีบแก้ตัวทันที!
“นี่……..”
เหอจงซวินอึ้งไปเล็กน้อย แม้ว่านิสัยการเล่นหมากรุกก็เสมือนนิสัยตัวตนที่แท้จริง แต่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก เหอจงซวินกล้าพูดได้ว่านิสัยของเซี่ยงเส้าหลงนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่เขาไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มผู้นี้ จะมีวิชาทางการแพทย์หรือไม่!
ต่อให้มีวิชาจริง แต่คนที่อยู่ข้างใน เป็นเพื่อนสนิทของเขามานานหลายปี เป็นนายท่านแห่งตระกูลฉวี่ เมื่อเกี่ยวกับความเป็นความตาย เขาก็ไม่กล้าตัดสินใจแทนได้!
เซี่ยงเส้าหลงมองเขาอย่างเคร่งขรึมและเชื่อมั่น “ท่าน ได้โปรดเชื่อผมด้วยเถอะ!”
เหอจงซวินถอนหายใจ “น้องชาย ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคุณ แต่เรื่องใหญ่เช่นนี้ ฉันไม่อาจแทรกแซงเข้ามาได้เลย!”
หวังเจ๋อหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นทันที “ไอ้หนุ่มได้ยินไหม? ที่นี่ไม่มีใครเชื่อนาย รีบไสหัวไปซะ!”
“ก็ได้!”
เซี่ยงเส้าหลงส่ายหัว จะเป็นหรือตายแล้วแต่ฟ้าลิขิต เขาได้พยายามเต็มที่แล้ว!
ขณะที่เขากำลังจะออกไป ทันใดนั้น ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดกว้างออก พยาบาลที่อยู่ด้านในได้ตะโกนพูดออกมาว่า “เร็ว! เตรียมนํ้าและออกซิเจน! ปรมาจารย์ถังจะไม่ไหวแล้ว!”ทุกคนมองไปทางเสียงที่ดังมา เห็นหมอเทวดาถังติ่งซานเหงื่อท่วมตัว มือที่ถือเข็มเงินนั้นสั่นไม่หยุด ร่างกายก็สั่นไหวเบาๆ
ดวงตาทั้งสองข้างก็เหม่อลอย มองคนไข้บนเตียงอย่างงุนงง
ส่วนหน้าอกหัวใจของนายท่านฉวี่นั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังลดทอนลงอย่างต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะได้กลับคืนสู่สวรรค์แล้ว!
เซี่ยงเส้าหลงกวาดตามองแวบหนึ่ง แววตาพลันเข้าหากัน รีบเดินไปด้านหน้า แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ซ้ายบนจุดเสินถืง2นิ้ว ลงเข็ม3ส่วน!”
เมื่อได้ยินเสียง หมอเทวดาที่งุนงงก็แววตาเป็นประกาย ราวกับค้นพบโลกใบใหม่ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มือก็หยุดสั่น แล้วทำตามคำชี้นำของเซี่ยงเส้าหลง รีบลงเข็มฉีดยาทันที!
“ขวาล่างจุดเฟิงฉือหนึ่งนิ้วครึ่ง ลงเข็ม5ส่วน!”
เซี่ยงเส้าหลงพูดต่อทันที
แววตาของชายผู้เฒ่าพลันฉายแววเย้ายวนใจ วิธีการลงเข็มนั้น ยิ่งทำยิ่งชำนาญ!
เมื่อเห็นเซี่ยงเส้าหลงบุกเข้าไปในห้องผ่าตัด แล้วยังพูดจาเหลวไหล เปลือกตาของหวังตั๋วก็กระโดดโลดเต้นไปมา และตะโกนออกมาว่า “เร็ว! รีบไปจับไอ้สารเลวนั้นออกมาเดี๋ยวนี้!”
“แต่ละจุดที่มันพูดมีแต่จุดเสี่ยงทั้งนั้น! ลงเข็มผิดอาจตายได้! มันตั้งใจที่จะฆ่านายท่านฉวี่ชัดๆ !”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ฉวี่เฉิงก็เดินนำหน้า เนื่องจากความโกรธทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย “บัดซบ! ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันไม่เอานายไว้แน่นอน!”
เมื่อกลุ่มคนได้ยินที่ฉวี่เฉิงพูด ก็เดินเข้าห้องผ่าตัดอย่างดุร้าย อยากจะฉีกเซี่ยงเส้าหลงออกเป็น8ชิ้น!
ด้วยผู้คนที่บุกเข้ามา ทำให้เซี่ยงเส้าหลงเหมือนจมอยู่ในมหาสมุทร ในขณะที่เขากำลังจะถูกลากตัวออกมานั้น ถังติ่งซานที่ยังคงรอคำแนะนำของเซี่ยงเส้าหลงไม่ได้ยินอะไรต่อ รีบหันมามองอย่างร้อนรน เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เกือบจะโกรธจนจมูกบิดเบี้ยว!
“บังอาจ!”
หวังเจ๋อยิ้มอย่างได้ใจ “ใช่ กล้ามาบังอาจต่อหน้าอาจารย์ฉัน ช่างไม่รู้จักชั่งนํ้าหนักตัวเองเลย!”
ถังติ่งซานก้าวฝีท้าวออกมาอย่างไว อายุราวๆ 80ปี เตะหวังเจ๋อออกไปไกลๆ แล้วแล้วด่าทออย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้บัดซบ! คนที่ฉันด่าคือแก!”
“ฉัน…… ฉันทำไม?”
หวังเจ๋อทำหน้างุนงง แม้แต่กลุ่มคนที่กำลังยกเซี่ยงเส้าหลงนั้น ก็หยุดลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“รีบปล่อยคนลงมาเดี๋ยวนี้!”
ถังติ่งซานพุ่งเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลง ด้วยสีหน้าร้อนรน “แล้วไงต่อ? อะไรต่อไป! พูดสิ! รีบพูดมาสิ!”
“สองข้างร่องริมฝีปากบน ลงเข็มคู่พร้อมกัน!”
เซี่ยงเส้าหลงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ใช่! ใช่! ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้!”
ร่างกายถังติ่งซานสั่นสะท้านไปทั้งตัวราวกับคนที่บ้าไปแล้ว จากนั้นจึงหมุนตัวไปแล้วลงเข็มตามคำที่เซี่ยงเส้าหลงพูด เมื่อเข็มที่สามลงไปในวินาทีนั้น เครื่องติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจและสัญญาณชีพของนายท่านฉวี่ก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน ลมหายใจจากที่เกือบจะหยุดนิ่งไปนั้น ก็ค่อยๆ กลับมาเต้นเป็นปกติ
ถังติ่งซานที่เหงื่อแตกท่วมหัวนั้น ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
อีกนิดเดียว ท่านฉวี่ก็จะหมดหนทางช่วยได้แล้ว!
ฉวี่เฉิงรีบพุ่งกระฉูดเข้ามา ถามอย่างร้อนรนว่า “ปรมาจารย์พ่อของผมเป็นยังไงบ้าง?”
ถังติ่งซานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พลางโบกมือ “ปลอดภัยแล้ว!”
“จริงหรือ? เยี่ยมไปเลย!”
กลุ่มคนในตอนนี้ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ อะไรนะ? ขอบคุณมาก ปรมาจารย์ถัง คุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของตระกูลฉวี่ของผมจริงๆ !”
ฉวี่เฉิงกล่าวขอบคุณด้วยสีหน้าที่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก
ในเวลานี้หวังเจ๋อออกตัว และพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “อาจารย์ของผมลงมือด้วยตัวเอง นายท่านฉวี่ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ไอ้หมอนี่เมื่อครู่ออกมาก่อกวน แล้วยังพูดจาเหลวไหลอีก เสมือนอยากเอาชีวิตของนายท่านฉวี่!”
“ผมว่า ต้องทำโทษมันด้วยการส่งไปขังที่โรงพัก!”
“ใช่แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะจิตที่นิ่งสงบของปรมาจารย์ถัง ต้องถูกไอ้หมอนี่ทำลายสมาธิแน่นอน!”
“เขาเห็นชีวิตคนเป็นแค่ผักปลา ไม่ควรปล่อยไว้!”
ในวินาทีนี้ ทุกคนมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสายตาที่โกรธแค้น และอยากจะกัดกลืนกินเขาเป็นชิ้นๆ !
เขาพูดจาเหลวไหลไม่เป็นไร แต่ถ้านายท่านฉวี่เกิดเสียชีวิตเพราะคำพูดของเขาขึ้นมา ทุกคนก็จะพาซวยกันไปหมด!
“บัดซบ!”
ทันใดนั้น ถังติ่งซานก็ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง!
คนอื่นไม่เข้าใจ แต่เขานั้นเข้าใจเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะคำชี้แนะของเซี่ยงเส้าหลงที่นำทางให้เขาลงเข็ม นายท่านฉวี่ในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นศพที่เย็นยะเยือกไปแล้ว!
จากนั้น เขารีบพูดกับฉวี่เฉิงว่า “คุณฉวี่ หากจะขอบคุณก็ต้องขอบคุณคุณผู้ชายท่านนี้ เมื่อกี้หากไม่ใช่เพราะคำชี้แนะของเขา นายท่านฉวี่ในตอนนี้เกรงว่าก็คงหมดหนทางช่วยได้แล้ว!”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไป
หวังเจ๋อแคะแคะหู นึกว่าตัวเองหูฝาดไป “ปรมาจารย์ถังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ไอ้หมอนี่แม้แต่ใบอนุญาตแพทย์ก็ไม่มี เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะชี้แนะปรมาจารย์อย่างท่านได้?”
“ผมรู้ว่าอาจารย์เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา แต่ก็ไม่ควรใจอ่อนกับคนที่พูดจาเหลวไหลอย่างเช่นไอ้หมอนี่หรือเปล่า?”
“ใช่ ปรมาจารย์ถัง คนอย่างนี้ ไม่ควรสงสาร!”
ทุกคนต่างคิดว่า ถังติ่งซานไม่อยากเห็นเซี่ยงเส้าหลงถูกทำโทษ ถึงแกล้งพูดจาแบบนี้
“ทำไม? แกสงสัยในอำนาจของฉันเหรอ?”
ถังติ่งซานถลึงตาใส่เขา
หวังเจ๋อเห็นอาจารย์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เลยกดคอลง“ผม ผมไม่กล้า”
“ฮึ่ม! แล้วแกรู้ไหมว่า วิชาการลงเข็มที่ใช้ไปเมื่อครู่นั้นคือวิชาการอะไร?”
หวังเจ๋อส่ายหัว “ผมไม่รู้!”
“แน่นอนว่าแกต้องไม่รู้!”
“นั้นคือปราบผีเก้าเข็มในตำนาน! สามเข็มปราบตาย หกเข็มเอาฟื้น เก้าเข็มลงพร้อม เอาชีวิตรอด! การลงเข็มที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำแนะนำของน้องชายผู้นี้ บอกจุดลงสามเข็มแรกของปราบผีเก้าเข็ม แกคิดว่า นายท่านฉวี่จะรอดปลอดภัยได้เหรอ?”
ฟังความมีหัวท้าย วิชามีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
แม้ว่าถังติ่งซานจะมีชื่อเสียงที่โด่งดัง แต่อยู่ต่อหน้าเซี่ยงเส้าหลงแล้ว เขาก็ทำตัวเหมือนผู้เรียนรู้ออกมา ยกมือขึ้นมาประสานกันคารวะให้กับเซี่ยงเส้าหลง “คุณผู้ชายท่านนี้ ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะ หากไม่รังเกียจ ประเดี๋ยวขอที่อยู่ไว้ได้หรือไม่ ผมจะไปเยี่ยมเยียน และจะขอเรียนรู้เพิ่มเติมกับคุณแน่นอน!”
เพียงประโยคเดียว ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึก! ส่วนหวังเจ๋อมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสายตาที่ตกตะลึงงุนงง!
ปราบผีเก้าเข็ม
นั้นมีอยู่จริงในตำนาน แต่ไอ้หนุ่มวัยรุ่นคนนี้ จะรู้เทคนิคนี้ได้อย่างไร?
และยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้อาจารย์ของตัวเอง ถังติ่งซานหนึ่งในสี่ยอดหมอเทวดาแห่งหัวเซี่ยยังโค้งคำนับแล้วยังบอกว่าจะไปเยี่ยมเยียนถึงที่บ้าน นั้นต้องเป็นคนที่มีฐานะแค่ไหน?
“คุณผู้ชายท่านนี้! ผมต้องขอโทษสำหรับความหยาบคายที่ผมได้กระทำไปเมื่อครู่นี้ด้วย!”
ฉวี่เฉิงเองสีหน้าก็ละอายใจอยู่ไม่น้อย พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพ่อของผมไว้ วันหลังหากมีอะไรที่ตระกูลฉวี่เราสามารถให้ความช่วยเหลือได้ ได้โปรดแจ้งมา ผมจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเต็มที่แน่นอน!”
“ฮ่าฮ่า…… ไอ้หนุ่ม ไม่คิดว่า นอกจากฝีมือการเล่นหมากรุกที่ดีเลิศแล้ว ทักษะทางการแพทย์ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน! ช่างเซอร์ไพรส์ฉันจริงๆ !”
เหอจงซวินที่อยู่ข้างๆ ยิ้มพร้อมพูด “วันหลังหากไม่มีอะไร เชิญมาเป็นแขกที่บ้านผม แล้วมาแลกเปลี่ยนฝีมือการเล่นหมากรุกอีกตั้งสองตั้ง อย่างไรเสีย วันนี้นายเหนือกว่าฉันเล็กน้อย ฉันยังเสียดายอยู่เลย ฮ่าฮ่า…..”
สีหน้าของทุกคนชาไปหมดแล้ว!
เหอจงซวินเป็นใคร?
เทพหมากรุกแห่งประเทศจีน อดีตโค้ชทีมชาติหมากล้อมของรุ่นที่แล้ว หลังจากเกษียณอายุ ก็ดำรงตำแหน่งประธานหมากล้อมแห่งเมืองหลู่ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ การที่สามารถเอาชนะเหอจงซวินได้เพียงหมากตัวเดียว นั้นหมายความว่าฝีมือในการเล่นหมากล้อมนั้นจะต้องโดดเด่นขนาดไหน?
สายตาที่ทุกคนมองไปยังเซี่ยงเส้าหลง ไม่ใช่แค่ความตกใจหรือประหลาดใจที่จะอธิบายได้ ไม่ว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นใคร แต่ตอนนี้ เพียงไม่กี่นาที เขาได้รับความเป็นมิตรจากตระกูลฉวีหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลู่ คุณเหอเทพหมากรุกแห่งประเทศจีนและหมอเทวดาถังติ่งซาน เฉพาะความสัมพันธ์เหล่านี้ ก็สามารถทำให้เขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของพีระมิดแห่งมณฑลหลู่แล้ว!
ถังติ่งซานถลึงตาใส่หวังตั๋วอย่างดุดัน “ไอ้บัดซบ แกยังยืนซื่ออยู่ทำไม? รีบมาขอโทษคุณผู้ชายเดี๋ยวนี้!”
หหวังเจ๋อในตอนนี้ ไม่เหลือความเย่อหยิ่งอย่างก่อนหน้านี้ ก้มหน้าก้มตาเดินมาอย่างหดหู่ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว!”
สำหรับคำขอโทษของหวังเจ๋อ เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้สนใจสักนิด ดูเวลา ตายแล้ว ถ้าไม่รีบไปซื้อบ้าน พวกเขาก็ใกล้จะเลิกงานกันแล้ว!
จากนั้นเขาก็บอกลาและออกจากโรงพยาบาลไป วิ่งเหยาะๆ มาตลอดทาง จนมาถึงสำนักงานขายของออนเซนวิลล่าที่มีคฤหาสน์หรูหราที่สุดในเมืองเทียนไห่