ออนเซนวิลล่า ถือเป็นโครงการวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองเทียนไห่!
ติดภูเขามีแม่นํ้าลำธารไหลผ่าน มีสวนสาธารณะที่เขียวขจีอันกว้างใหญ่ สภาพแวดล้อมที่สวยงาม ที่ตั้งทำเลดี มีห้องรับแขกวีไอพีระดับห้าดาว ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความเพียบพร้อมในคุณสมบัติของโครงการ!
คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมืองเทียนไห่ หรือบ่งบอกอย่างไม่โอ้อวดได้ว่า ชื่อเสียงของคนเหล่านี้นั้น ถือเป็นตัวแทนเกือบครึ่งหนึ่งของเมืองเทียนไห่เลยก็ว่าได้!
เดินเข้าไปในสำนักงานขายของโครงการการออนเซนวิลล่า พนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายของโครงการ ทำตัวนิ่งเฉยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
กลุ่มวิลล่าที่หรูหราระดับนี้ คนที่สามารถซื้อได้นั้น ต้องเป็นระดับมหาเศรษฐีแน่นอน เพราะฉะนั้นแม้แต่พนักงานฝ่ายขายของโครงการก็ดูดีมีระดับ
ในฐานะที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายของออนเซนวิลล่านั้น เขาต้องพบเจอกับพวกนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นในมือของพวกเขา จึงมีข้อมูลของมหาเศรษฐีทุกคนแห่งเมืองเทียนไห่!
และคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้จัดการฝ่ายขาย ก็คือต้องมีสายตาที่แม่นยำ เซี่ยงเส้าหลงที่อยู่ตรงหน้านี้ เสื้อผ้ากางเกงรองเท้าทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันราคาประมาณ200หยวนเท่านั้น แม้แต่เครื่องประดับสักชิ้นก็ไม่มี ส่วนที่บริเวณรอบเอวก็ไม่เห็นมี ร่องรอยของการเอี่ยวกุญแจรถยนต์ นอกจากนี้แล้วหน้าตาของเขาก็ไม่ใช่หนึ่งในมหาเศรษฐีที่เขาได้รวบรวมข้อมูลไว้ ดังนั้น เมื่อเห็นเซี่ยงเส้าหลงเดินผ่านประตูเข้ามา เขาเลยไม่ได้สนใจ
เซี่ยงเส้าหลงไม่รีบร้อน เขาชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว จึงเอ่ยเสียงเรียบว่า“ขอถามหน่อยนะ มีพนักงานแนะนำไหม? ”
เซี่ยงเส้าหลงกล่าวอย่างอ่อนโยน
“คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญนั่งก่อน กรุณารอสักครู่ ประเดี๋ยวจะมาให้การบริการแก่ท่าน”
มีที่ปรึกษาฝ่ายขายคนหนึ่ง สีหน้ายิ้มแย้ม เดินมาต้องรับและเชิญเซี่ยงเส้าหลงนั่งลง
เป็นการต้อนรับที่ไม่เสียมารยาท และไม่ขาดความกระตือรือร้น แต่เซี่ยงเส้าหลงนั้นก็ดูออก ว่านี่เป็นแค่คำพูดอ่อนโยนที่เสแสร้งของพนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายเท่านั้น
สำนักงานขายไม่ได้ยุ่งมาก เพราะคนที่สามารถซื้อบ้านที่นี่ได้ก็มีอยู่ไม่กี่คน
และพนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายที่มีอยู่เหล่านี้ ก็มากเพียงพอที่รับมือได้ แต่เหตุผลที่พวกเขาไม่รีบร้อนมาต้อนรับเซี่ยงเส้าหลงในทันทีนั้นก็เพราะกังวลว่าจะทำให้พวกเขาพลาดเสียลูกค้าที่เดินเข้ามาใหม่นั้นเอง
ในสายตาของพวกเขา คนอย่างเซี่ยงเส้าหลงจะมีปัญญาซื้อบ้านที่นี่ได้นั้น โอกาสน้อยนิดเหลือเกิน
ในเวลานี้เอง ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินโอบกอดหญิงสาวสวยงามที่แต่งหน้าหนาจัด ได้เดินเข้ามา
ชายหนุ่มสะบัดมืออย่างใจป้ำ “ที่รัก ชอบหลังไหน เลือกได้ตามสบาย!”
จากนั้นก็เห็น พนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายทุกคน เดินเป็นฝูงเข้าไปหา
อย่างกับเห็นต้นเงินต้นทอง แต่ละคนยิ้มอย่างกับดอกไม้บาน
“คุณชายเฉียน ผมชื่อเสี่ยวหลิว ในที่สุดคุณก็มา วิลล่าหมายเลข8 ยังคงจัดเก็บไว้ให้กับคุณ”
“คุณชายเฉียน นี่ผมเอง ผมชื่อเสี่ยวหม่า เมื่อคืนได้คุยวีแชทด้วยกัน ผมคิดว่าวิลล่าหมายเลข7ดีกว่านะ หรือไม่เลือกหมายเลข7ไหม”
“พวกนายไม่ต้องแย่งกัน ฉันคิดว่ามีแต่วิลล่าหมายเลข9เท่านั้น ถึงจะเหมาะสมกับฐานะที่สูงส่งของคุณชายเฉียน!”
เฉียนเส้าหมิง ลูกของมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงของเมืองเทียนไห่ ที่บ้าน มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านหยวน เพราะฉะนั้นคนประเภทนี้ จึงเป็นเป้าหมายของพนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายเหล่านี้!
เฉียนเส้าหมิงรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ที่มีคนคอยประจบประแจง
เขาลูบลูบผม และพูดว่า “วิลล่าหมายเลข9ไม่เลว มีความหมายที่ยอดเยี่ยม หลังนี้เท่าไหร่? เงินนั้นไม่ใช่ปัญหา!”
“คุณชายเฉียน วิลล่าหมายเลข9คือราชาวิลล่า จากระเบียงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบเทียนจี้และภูเขาฟงอวิ๋น เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด อีกทั้งไม่ว่าจะแสงสว่างหรือฮวงจุ้ย ก็ล้วนเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในโครงการครั้งนี้ ราคานั้นจะแพงกว่าหลังอื่นสักเล็กน้อย เชื่อว่าคุณชายเฉียนจะเข้าใจได้ใช่ไหมครับ”พนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายคนหนึ่งแย่งพูดขึ้น
“ไม่ต้องพูดมากความ บอกมาราคาเท่าไหร่ เงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉัน!”เฉียนเส้าหมิงปัดมืออย่างหงุดหงิด แสดงให้เห็นชัดถึงท่าทางที่โอ้อวดของลูกเศรษฐี!
“คุณชายเฉียน วิลล่าหมายเลข9ราคาอยู่ที่175ล้านหยวน!”
“อ๋อ อย่างนั้นเหรอ”เมื่อเฉียนเส้าหมิงได้ยินราคา ก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
ในความคิดของเขา แม้ว่าครอบครัวเขาจะมีเงินทองมากมาย แต่ราคาเกือบ200ล้านหยวน เกือบจะเกินครึ่งหนึ่งของรายรับครอบครัวแล้ว หากเอาทรัพย์สินเหล่านี้ไปซื้อบ้านเพื่อเอาใจผู้หญิง ถ้าพ่อของเขารู้เข้า โดนตีขาหักแน่?
อีกอย่าง แม้ว่าเขาจะเต็มใจ แต่การที่จะเบิกเอาเงินสด175ล้านหยวน สำหรับเขา มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
“คุณชายเฉียน หากสนใจ เราสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายกันได้เลย ตอนบ่ายก็สามารถเข้าพักได้เลย”
“หมายเลข9ไม่ได้ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องการชมวิวทิวทัศน์ ฉันเอาหมายเลข8 เลข8คือเลขมงคล ฉันชอบตัวเลขที่เป็นมงคล”
“ได้ครับคุณหนูเฉียน เราจัดการให้เดียวนี้ วิลล่าหมายเลข8ราคาอยู่ที่125ล้านหยวน”
บ้าเอ๊ย วิลล่าหมายเลข8ก็ราคาสูงถึง100กว่าล้านหยวน ทำไมบ้านที่นี่ถึงมีราคาแพงขนาดนี้!
ใบหน้าของเฉียนเส้าหมิงพลันปรากฏความกระอักกระอ่วนขึ้นมา หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดพูดอย่างออดอ้อนว่า “ที่รัก คุณสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะแต่งงานกับฉันอยู่บ้านที่นี่ ฉันไม่ยอมนะ ฉันจะซื้อบ้านที่นี่!”
“ได้! ได้! ซื้อ!”
“แต่เลข8ก็ยังเชยอยู่หน่อยหนึ่ง หมายเลข6ไม่เลว เอาหมายเลข6ละกัน รีบไปจัดการ เงินไม่ใช้ปัญญาสำหรับฉัน!”
เฉียนเส้าหมิงตอนนี้ก็เหมือนคางคกที่ทำตัวพอง แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นไม่แยเเส“เงินไม่ใช่ปัญหา เพราะฉันมีเงิน!”
พวกที่ปรึกษาฝ่ายขายเหล่านี้เห็นว่า วันนี้วิลล่าหมายเลข9ไม่สามารถขายออกได้ จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากเป็นราชาของโครงการในครั้งนี้ ราคานั้นจึงสูงมาก
แม้แต่องค์รัชทายาทของบริษัทกรุปตระกูลเฉียนยังไม่สามารถรับไว้ได้ ห้องราชาของโครงการในครั้งนี้ เกรงว่าไม่สามารถปิดการขายได้ในเร็วๆ นี้แน่เลย
แต่ขายวิลล่าหมายเลข6ได้ ก็ดีเหมือนกัน
ดังนั้น ทุกคนต่างพากันแย่งที่จะเซ็นสัญญาซื้อขายกับเฉียนเส้าหมิง
ในเวลานี้เอง เซี่ยงเส้าหลงที่ยืนดูอยู่ด้านข้าง ก็เดินตรงมายังที่ปรึกษาฝ่ายขาย
“วิลล่าหมายเลข9 ผมเอาแล้ว”
เสียงไม่ดังนัก แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น
เมื่อสิ้นเสียงนี้ ทำให้มีความโกลาหลเกิดขึ้น!
“วิลล่าหมายเลข9มีคนซื้อแล้ว!”
“หลังนี้เป็นราชาของโครงการที่สองและมีราคาที่สูงที่สุดในครั้งนี้ มีคนจะซื้อจริงๆ แล้วเหรอ?”
“หืม? โกหกหรือเปล่า ทำไมไม่เคยเห็นคนคนนี้มาก่อน”
“ห้องราชาของโครงการ 175ล้านหยวน ไอ้หนุ่มช่างกล้าพูดนะ!”
“แม้แต่คุณชายเฉียนยังไม่สามารถครอบครองห้องราชาได้ แล้วเขาเป็นใคร? เขาซื้อได้จริงเหรอ?”
มีเสียงสงสัยดังไปทั่ว
เมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสายตาที่อิจฉาและชื่นชมอย่างหลงใหล ก็เกิดความไม่พอใจมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างโกรธเคือง พ่นลมพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮึ่ม! กล้าพูดออกมาได้ ช่างโอ้อวดเสียจริง!”
“ไอ้หนุ่ม จะเสแสร้ง ก็ต้องมีกำลังทรัพย์นะ!”
เฉียนเส้าหมิงไม่รู้จักเซี่ยงเส้าหลง มั่นใจได้ว่าเขาไม่ใช่รุ่นลูกของแวดวงมหาเศรษฐีแน่นอน และไม่เชื่อว่าวิลล่าหมายเลข9ที่แม้กระทั่งเขายังไม่มีปัญญาซื้อได้ ชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยืนตรงหน้านี้จะมีปัญญาซื้อได้อย่างไรกัน
เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองเขาเบาๆ “มันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ?”
นํ้าเสียงที่เฉยชา ทำให้เฉียนเส้าหมิงโมโหขึ้นมาทันที เขาแค่นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยวและเดินเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลง และสำรวจมองตั้งแต่หัวจรดเท้าจากนั้น จึงพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับฉัน!”
“เพราะฉัน ไม่สามารถทนดูไอ้พวกชนชั้นล่างของสังคมที่ชอบเสแสร้งทำตัวเป็นผู้ดีอย่างนายได้!”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะอย่างเย็นชา “นายรู้ได้ยังไง ว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อ?”
“ฮ่าฮ่า….. ทั้งชุดในร่างกายของนายรวมกันราคายังสู้ตะขอกางเกงตัวหนึ่งของฉันไม่ได้เลย คนชนชั้นล่างอย่างนายเนี่ยเหรอที่จะคู่ควรซื้อบ้านที่นี่?”
“อยากจะตากแอร์ฟรีก็ควรไปห้างสรรพสินค้าโน้น ไม่ดูก่อนว่าที่นี่มันที่ไหน! คนอย่างนายคู่ควรที่จะเดินเข้ามาหรือเปล่า?”
“ฮ่าฮ่า…..”
ทุกคนหัวเราะออกมา มีหลายคนที่มองเซี่ยงเส้าหลงนั้น สายตาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
เซี่ยงเส้าหลงไม่อยากเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับคนสมองพิการพวกนี้ มองไปรอบๆ “ชำระเงินที่ไหน?”
“ช่างเสแสร้งเสียจริง ไอ้หนุ่ม ถ้านายมีปัญญาซื้อวิลล่าที่นี่ได้จริง ฉันจะเดินกลับหัวออกไปจากที่นี่!”
เฉียนเส้าหมิงเย้ยหยัน
สำหรับคำถามของเซี่ยงเส้าหลง พนักงานฝ่ายขายทั้งหลาย ก็เริ่มลังเล
ชื่อเสียงเรียงนามไม่มีอยู่ในข้อมูลของกลุ่มพวกมหาเศรษฐีที่รวบรวมมา ทำให้พวกเขาข้องใจอยู่ลึกว่า นี่คือการหยอกเล่นพิเรนทร์
มีแต่พนักงานขายน้องใหม่คนหนึ่งที่เพิ่งมาเริ่มงานไม่นาน อยากรีบทำยอดการขายให้ได้เร็วๆ จึงออกตัวมาลองสักครั้ง
คิดซะว่าช่วยชีวิตม้าที่ตายแล้วยังมีชีวิตอยู่
ไม่ลองไม่รู้ ลองแล้วจะตกใจ
รูดการ์ด การชำระเงินเต็มจำนวนถือว่าสำเร็จ!
175ล้านหยวน!
พนักงานขายน้องใหม่ มีความสุขจนเกือบจะเป็นลม เฉพาะค่าคอมมิชชั่น ก็ล้านหยวนแล้ว!
โอ้พระเจ้า เงินหล่น ทำไมเงินมันถึงหาได้ง่ายดายเช่นนี้!
สำนักงานขาย เกือบจะระเบิด!
หากเฉียนเส้าหมิงเป็นคนซื้อวิลล่าหมายเลข9 พวกเขาคงจะไม่ตกใจขนาดนี้หรอก
ในสายตาของทุกคน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซี่ยงเส้าหลงเป็นใคร แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ คนคนนี้ มีทรัพย์สินมากเกินกว่าร้อยล้านหยวน และสามารถซื้อวิลล่าห้องราชาไว้ได้!
พนักงานขายแต่ละคนต่างพากันอิจฉา และรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจเมื่อครู่
เพียงแค่พริบตา เงินล้านก็ลอยไปแล้ว!
ส่วนเฉียนเส้าหมิง ยิ่งอ้าปากค้าง มองใบเสร็จเล็กๆ ที่รูดออกมาจากเครื่องรูดบัตรอย่างไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ!
เขาสามารถเอาเงินออกมาได้มากกว่า100ล้านหยวนจริงเหรอ?
ในเวลานี้เอง เซี่ยงเส้าหลงก็โยนระเบิดอย่างหนักอีกครั้ง!
“หมายเลข7และหมายเลข8 ยังไม่มีใครซื้อใช่ไหม”
ทันทีที่พูดจบ ความคิดบางอย่างก็แวบขึ้นมาในสมองของพนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขาย
“สองหลัง? หรือว่าเขาอยากจะซื้อวิลล่าสองหลัง?”
“นี่…..เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะซื้อวิลล่าเพิ่มอีกหลังหนึ่ง!”
“ครั้งนี้ ใครก็ห้ามมาแย่งกับฉัน!”
ซิ่ว!
พนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขายต่างพากันมุงเข้ามา เสมือนลูกหมาตัวเล็กๆ ที่กำลังรอการให้นม
“คุณผู้ชาย คุณสนใจหลังไหนครับ?”
“คุณผู้ชายที่เคารพ ได้โปรดให้ผมเป็นที่ปรึกษาฝ่ายขายให้แก่คุณด้วยเถอะ!”
“คุณท่าน ผมว่าวิลล่าหมายเลข8ดีมากนัก แสงสว่างดีเยี่ยม มิหนำซ้ำยังมีเลข8เป็นเลขมงคล!”
“คุณท่าน ซื้อเลขขี้ไม่ซื้อเลขคู่ ดูตามโหราศาสตร์แล้ว เลขคู่มักมีการเปลี่ยนแปลง หมายเลข7นั้นช่างเหมาะสมกับคุณเหลือเกิน!”
เมื่อถูกผู้คนประจบประแจง เซี่ยงเส้าหลงเอ่ยปากอย่างเรียบเฉยว่า “ทำไมฉันต้องทำการเลือกกับเหตุผลที่ปัญญาอ่อนอย่างนี้ด้วยละ?”
“ซื้อมันทุกหลัง ก็หมดปัญหาแล้ว!”
บึ้ม!
สำนักงานขายเกิดการดุเดือดทันที!
พนักงานที่ปรึกษาฝ่ายขาย ต่างตกใจกับคำพูดนี้!
ช่างไม่สะทกสะท้านซะจริง!
แม้แต่เฉียนเส้าหมิงคุณหนูของบริษัทกรุปตระกูลเฉียน ยังลังเลซื้อแค่วิลล่าหมายเลข6เท่านั้น แต่ชายตรงหน้าที่ธรรมดามากผู้นี้ เพียงแค่อึดใจเดียวซื้อวิลล่าพร้อมกันสามหลัง
หมายเลข7 หมายเลข8 หมายเลข9 เท่ากับว่าเขาได้ซื้อวิลล่าสามหลังที่ทางใต้ริมทะเลสาบไว้ทั้งแถว
ใจป้ำขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี หลังจากนี้ก็คงไม่เจออีก!
สีหน้าของเฉียนเส้าหมิงตอนนี้ชาไปหมด ราคาวิลล่าทั้งสามหลังที่คนอื่นซื้อนั้น เท่ากับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลเฉียนแล้ว เมื่อกี้เขาก็เหมือนไอ้โง่ที่ทำตัวอวดดีเสแสร้งต่อหน้าคนอื่น น่าอับอายนัก!
ขณะที่เขากำลังจะย่องแอบออกไป ทันใดนั้น มีเงาร่างมาขวางอยู่ตรงหน้าเขา เซี่ยงเส้าหลงมองอย่างหยอกล้อ “จะไปตอนนี้เลยเหรอ? ไม่อยู่ต่อมาตากแอร์ฟรีเป็นเพื่อนฉันหน่อยเหรอ?”
เฉียนเส้าหมิงฝืนยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ “คุณพี่ ผมผิดไปแล้ว ผมมีตาหามีแววไม่ คนระดับอย่างคุณพี่ไม่จำเป็นต้องมาตากแอร์ฟรีที่นี่หรอก หากคุณพี่ต้องการความเย็นสบาย แล้วจะสร้างโรงงานเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะ ผมก็เชื่อเหมือนกัน!”
มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นเล็กน้อย เฉียนเส้าหมิงผู้นี้ สนุกดีเหมือนกัน!
ยังว่างๆ ไม่มีอะไรทำ กำลังจะแกล้งหยอกล้อเขาต่อสักเล็กน้อยนั้น จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดูเป็นสายของอวิ๋นเสว่เหยนโทรมา
“เซี่ยงเส้าหลง!”
นํ้าเสียงของอวิ๋นเสว่เหยนเคร่งเครียดเล็กน้อย “คืนนี้เวลา2ทุ่ม สือไท่เชิญพวกเราไปทานข้าว ที่ภัตตาคารเทียนหลานเก๋อ!”