เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง บวกกับสีหน้าที่ดูไร้ซึ่งความอดทนนั่นกำลังพูดกับพวกเขาอยู่
เซี่ยงเส้าหลงสังเกตว่าป้ายบนอกของเขามีคำว่าผู้จัดการล็อบบี้อยู่ด้วย!
“พวกเรามาเพื่อกินข้าว ไม่ได้มาสมัครเป็นพนักงานสักหน่อย!”
“กินข้าว?”
ผู้จัดการล็อบบี้มองกวาดตาขึ้นลงไปที่พวกเขาทั้งสอง แม้ว่าฝ่ายหญิงจะดูสวยมาก แต่กลับกันฝ่ายชายดูเหมือนพวกยาจก เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงยิ้มอย่างดูถูกและโบกมือไปมา “ออกไปซะ ออกไป พวกนักเรียนจนๆทั้งสองคน อย่ามายุ่งอะไรที่นี่!”
“ฉันจะพูดอีกรอบ เรามาที่นี่เพื่อกินข้าว!”
“กรุณาจัดที่นั่งให้เราด้วย!”
“ไอ้หนู!” ผู้จัดการล็อบบี้มองไปที่ฉวี่เสี่ยวอี้ที่อยู่ด้านข้าง มีรอยยิ้มอยู่บนมุมปากของเขา “จีบหญิงใช้เงินเยอะสินะ”
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาตอแหลได้หรอกนะ!”
“เธอรู้ไหมว่าที่นี่กินอาหารกันทีมื้อละเท่าไหร่?รู้ไหมว่าไวน์แดงขวดหนึ่งราคาแค่ไหน?พวกคนจนอย่างพวกเธอทั้งสองคน ชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็ไม่สามารถซื้อได้หรอก!”
“ก่อนที่ฉันจะโกรธ รีบออกไปซะ!”
“เฮ้!พูดแบบนี้ได้ยังไง!”
ฉวี่เสี่ยวอี้เท้าสะเอวพร้อมกับมองไปที่ผู้จัดการ “ปฏิบัติทำตัวแบบนี้กับแขกอย่างงั้นเหรอ?”
ฉวี่เสี่ยวอี้เป็นสาวงามที่ไร้เดียงสา บนร่างกายของเธอไม่ได้มีเครื่องประดับประดาอะไร เมื่อมองดูแล้ว เธอจึงเหมือนกับนักศึกษาที่เพิ่งออกจากโรงเรียน
ผู้จัดการล็อบบี้มองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มจางๆ “สาวน้อย เติบโตมาสวยงามเช่นนี้ ทำไมต้องมาทนทุกข์กับยาจกแบบนี้ด้วย?ดูก็รู้ว่าเป็นแค่นักศึกษาที่เพิ่งออกจากโรงเรียนมา เมื่อมาอยู่ในสังคม เธอก็จะรู้เองว่าความรักในวัยเรียนน่ะ มันก็แค่เรื่องไร้สาระ!”
“ดูท่าทางหนูน่ารักแบบนี้ ลุงแนะนำเจ้านายที่รวยๆให้เอาไหมล่ะ?”
“นาย!….”
ฉวี่เสี่ยวอี้กระทืบเท้าอย่างแรง พร้อมกับดึงเซี่ยงเส้าหลง “ไป!พวกเราไม่ต้องกินที่นี่แล้ว!”
เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้พูดอะไร เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ไกลจากตรงนี้มีตู้เก็บไวน์อยู่ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเดินตรงไป
“เฮ้ เจ้าหนู จะทำอะไรน่ะ?!”
“อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ไวน์ที่นี่แพงมากนะ”
มือของเซี่ยงเส้าหลงลูบขวดไวน์แดงชั้นเยี่ยมอย่างเบามือ ท้ายสุดมือก็ไปหยุดอยู่ตรงกลางขวด
ไวน์บนชั้นวางที่ประตูนั้นไม่ธรรมดา ขณะที่เซี่ยงเส้าหลงถือขวดในมือ เขาก็เขย่าเบาๆและพูดว่า “โรมาเน กงติปี1960 ราคาตลาดเริ่มต้นที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากหมู่บ้านโรมาเนีย ในภูมิภาคเบอร์กันดี จะมีการส่งไวน์จำนวนห้าร้อยขวดไปให้กับประเทศจีนในทุกๆปี กล่าวได้ว่าเป็นไวน์สำหรับคนชนชั้นสูงนี่เอง”
“เจ้าหนู รู้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เป็นยาจกแบบนี้ไม่มีปัญญาได้ดื่มไวน์แดงหรอก วางมันลงซะ!”
เซี่ยงเส้าหลงถอนหายใจเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปที่ผู้จัดการล็อบบี้ ริมฝีปากของเขาเปิดออก “ไม่มีปัญญาดื่มงั้นเหรอ?เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ไวน์นี่เป็นแค่ของกลั้วคอฉันเท่านั้นแหละ!”
ป้าบ!
ขวดไวน์แตก ผู้จัดการล็อบบี้ไม่ได้ยินสิ่งที่เซี่ยงเส้าหลงพูด ตอนนี้หัวใจของเขาพร้อมกับการแตกของขวดไวน์ เสียงแคร๊กเสียงเดียวก็ทำให้เขาจมดิ่งลงไป
เมื่อเห็นน้ำไวน์แดงไหลอย่างอิสระ ใบหน้าของผู้จัดการล็อบบี้ก็มืดมนราวกับก้นหม้อ
“เจ้าหนู ครั้งนี้นายจะไปไหนก็คงไม่ได้แล้วล่ะ!”
หลังจากปรบมือเรียก พนักงานรักษาความปลอดภัยหลายคนก็รวมตัวกันเข้ามาในทันที
ใบหน้าของฉวี่เสี่ยวอี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากนั้นพูดอย่างเหยียดหยาม “พวกนายจะทำอะไร พวกเราชดใช้ให้ก็จบแล้ว!”
“ชดใช้?ยาจากสองคนจะเอาอะไรมาชดใช้ได้?!”
เส้นเลือดปูดบนผู้จัดการล็อบบี้ ในทันที “ไวน์ขวดนี้ เอาพวกแกไปขายยังชดใช้ไม่ได้เลย!”
“ล็อกตัวพวกมันไว้ ให้คนในครอบครัวมันเอาเงินมาแลก”
เซี่ยงเส้าหลงมองไปที่เขาอย่างเย็นชา “ยังจะมากักขังพวกเราอีกเหรอ?”
“กักขังพวกนายแล้วทำไมล่ะ?รู้ไหมว่านี่เป็นโรงแรมของใคร?”
“จะบอกอะไรให้นะ ถ้าไม่มีเงินมาจ่าย ไม่ใช่แค่กักขังหรอก แต่จะโดนทุบตีด้วย!”
“เซี่ยงเส้าหลง รอก่อน เดี๋ยวฉันจะโทรหาอาหวังเดี๋ยวนี้แหละ!”
“ไม่ต้องหรอก อีกเดี๋ยวจะมีคนมาเช็กบิลให้เรา!”
น้ำเสียงของเซี่ยงเส้าหลงสงบมาก ราวกับว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการชดใช้เงินเกือบล้านในครั้งนี้
“นับคนที่รู้จักไว้ แล้วบอกกับคนในครอบครัวด้วยว่าให้พวกเขานำใบรับรองอสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างไปด้วย เป็นพวกยาจกอย่างพวกนาย จะมีเงินสักเท่าไหร่กันเชียว?เหอะ!”
ฉวี่เสี่ยวอี้ไม่เข้าใจ ตามคำบอกกล่าวของฉวี่เฉิง เซี่ยงเส้าหลงนั้นไม่มีแม้แต่งานทำ เขาต้องให้ภรรยาเลี้ยงดู ภูมิหลังของเขาก็ไม่ดี เป็นคนไม่พึ่งพาตัวเอง เขามีความมั่นใจอะไรถึงยังคงดูสงบได้แม้ว่าจะต้องชดใช้เงินเป็นล้าน?
เวลาผ่านไปทีละนิด ทันใดนั้นเมื่อถึงตอนที่ผู้จัดการล็อบบี้กำลังจะหมดความอดทน ปัง ประตูโรงแรมถูกเปิดออก มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพรั่งพรูกันเข้ามา…..
คนแรกเป็นคนหัวโตและมีใบหูที่ใหญ่ ดูเหมือนจะต้องมีเรื่องอะไรที่สำคัญเร่งรีบมาก เพราะแม้แต่เนกไทก็ยังผูกไม่เสร็จ บนกลางศีรษะของเขามีเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด!
“ประธานหวง?ท่านมาได้อย่างไรกันครับ?”
เมื่อเห็นผู้ที่มาเยือน ผู้จัดการล็อบบี้ก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำตัวเป็นหมารับใช้ยิ้มรับ
ผู้ที่มาเยี่ยมชมนี้คือเจ้าของโรงแรมระดับเจ็ดดาว หวงซ่างเหริน!
หวงซ่างเหรินสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้ง ดวงตาของเขาเริ่มมองไปรอบๆก่อนจะมาหยุดที่เซี่ยงเส้าหลงและฉวี่เสี่ยวอี้ เขาเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ไม่แม้แต่จะสนใจผู้จัดการล็อบบี้เลยสักนิด พร้อมกับถามว่า “ขอถามว่าคุณคือคุณเซี่ยงใช่ไหมครับ?”
เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้า “ถูกต้อง”
“อั๊ยยะ คุณเซี่ยง!จะมาทานข้าวทั้งที ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะครับ!” หลังจากทำการยืนยันตัวตนเรียบร้อย หวงซ่างเหรินนั้นกระตือรือร้นรีบเข้าไปทำตัวสนิทชิดเชื้อด้วย ดูสนิทมากกว่าพ่อของเขาเสียอีก เขาตบไปที่อก พร้อมกับพูดว่า “คุณเซี่ยง วันนี้ต้องการทานอะไร สั่งได้ตามใจชอบเลยนะครับ ผมจะจัดการให้เอง!”
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเซี่ยงเส้าหลง เขาชี้ไปที่พื้น “กินข้าวเถอะ ไม่ต้องทำอะไร ผู้จัดการล็อบบี้คนนี้กำลังรอให้ผมขายบ้านเพื่อเอามาชดใช้ไวน์อยู่น่ะครับ”
หวงซ่างเหรินขมวดคิ้ว เมื่อหันศีรษะไป ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงในทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนนี้ผู้จัดการล็อบบี้ตื่นตระหนกไปหมด น่องขาของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปหมด ผู้ที่ทำหน้าที่ของตนจะรู้จักผู้คนได้ดีที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักตัวตนของเซี่ยงเส้าหลง แต่ตัวตนของเจ้านายใหญ่ของเขานั้น เขารู้จักอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง!
ในเมืองจี้ตงทั้งเมือง เขาถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง คนที่สามารถให้เขามาหาเป็นการส่วนตัวและยังโค้งคำนับทำตัวราวกับเป็นหลานชายแบบนี้ จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไงกัน?
จบแล้วจบแล้ว!ครั้งนี้มันจบลงอย่างแม่จริง!
เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตนทำกับเซี่ยงเส้าหลงเมื่อสักครู่ ผู้จัดการล็อบบี้ก็รู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นที่อยู่ตรงหน้าของเขา!
เมื่อเผชิญกับคำถามของหวงซ่างเหริน ผู้จัดการล็อบบี้กล้าจะกล้าปกปิดมันได้อย่างไรกัน เขาพูดอย่างสั่นเทาถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อเสียงสิ้นสุดลง หวงซ่างเหรินตบเขาลงไปกองกับพื้น พร้อมกับตะโกนด่าชุดใหญ่ “ไอ้สารเลว!กล้ามากที่จะระรานแขกผู้มีเกียรติ!กูจะเลี้ยงมึงไว้ทำไมกัน ไร้ประโยชน์เช่นนี้!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันศีรษะกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า “คุณเซี่ยง ดูสิลูกน้องของผมดูแลคุณได้ไม่ดี ทำให้คุณต้องรู้สึกน้อยใจไปด้วยเลย ผมยังมีไวน์ลาฟีทอีกสองขวดอยู่ในคอลเล็กชันด้วย ผมจะทำให้คุณผ่อนคลายเอง”
รอยยิ้มแวบผ่านในดวงตาของเซี่ยงเส้าหลง ใบหน้าแสร้งทำเป็นแปลกใจ “น้อยใจ?ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอก เพียงแต่ว่าไวน์ขวดนี้…”
“ดูคุณพูดสิ มาถึงที่ของคุณเองแล้ว ทุบขวดไวน์ของตัวเองแตะจะทำให้เกิดปัญหาได้ยังไงกัน?”
“บอสหวง คุณน่าจะเข้าใจผิด ผมเห็นได้ชัดเลยว่าไวน์ขวดนี้นั้น เป็นผู้จัดการล็อบบี้ต่างหากที่ทำแตก!”
ทันทีที่เสียงหายไป แม้แต่ฉวี่เสี่ยวอี้ที่อยู่ด้านข้างเองก็ยังผงะ เธอเพิ่งจะเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าขวดไวน์นั้นตกลงมาจากมือของเซี่ยงเส้าหลงไม่ใช่เหรอ?
หัวใจพิสุทธิ์เจ็ดห้องของหวงซ่างเหริน เข้าใจได้ในทันที เขาพยักหน้าพร้อมกับหันไปด่ากราดในทันที “แกไอ้เศษเดน แม้แต่ขวดไวน์ก็ถือไม่ได้ แถมยังทำให้แขกผู้มีเกียรติต้องมาตกใจไปด้วยอีก!”
“กูจะบอกอะไรมึงให้ นี่ราคาหนึ่งล้านหยวน น้อยไปกว่านั้นแม้แต่นิดเดียว กูจะจัดการซะ!”
เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ พร้อมกับพูดกับฉวี่เสี่ยวอี้ว่า “ไปกันเถอะ มีคนเลี้ยงแล้ว อยากกินอะไรก็กินเลยตามสบาย!”
หลังจากส่งทั้งสองคนออกไปแล้ว หวงซ่างเหรินก็ถอนหายใจออกมา เมื่อมองไปที่ผู้จัดการล็อบบี้ที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น ความโกรธของเขาที่สะสมมานานก็ระเบิดออกมา จากนั้นใช้เท้าเตะเข้าไปอย่างแรง “แม่งเอ๊ย!ทำงานไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังทำให้แย่ไปกว่าเดิมอีก!”
เตะนี้นั้นราวกับเป็นการปลุกสติของผู้จัดการล็อบบี้ให้กลับมา เขาตัดสินใจไม่ยอมแพ้ที่จะถามออกไป “ประธานหวง ผมทำผิดที่ไปขัดใจคนที่ไม่ควรทำให้ขัดใจ ผมยอมรับครับ!”
“แต่ได้โปรดให้ผมได้รู้แจ้งแจ่มชัดที ว่าบุคคลที่มีความสามารถเหนือมนุษย์นี่มาจากไหนกันเหรอครับ?”
หวงซ่างเหรินเหลือบมองไปที่สองคนนั้นที่กำลังออกไปอย่างมีความหมาย พูดอย่างแผ่วเบา “มาจากไหน?ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบุคคลที่มีความสามารถเหนือมนุษย์มาจากไหน!”
“แกรู้ไหมว่าทำไมอยู่ดีๆฉันถึงมาปรากฏตัว?”
“ทำไมเหรอครับ?”
“นั่นก็เป็นเพราะราชาหมาป่าโทรหาฉันเป็นการส่วนตัวน่ะสิ ไม่ต้องพูดถึงขวดไวน์เพียงขวดเดียวเลย ต่อให้บุคคลท่านนั้นทำลายโรงแรมของฉัน ฉันก็ยังจะต้องพูดเพราะเฮฮากับเขา!”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ผู้จัดการล็อบบี้ก็ตกตะลึง เขาไม่รู้หรอกว่าเซี่ยงเส้าหลงเป็นใคร แต่เขารู้ดีว่าบุคคลที่ขนานนามว่าราชาหมาป่าเป็นคนยังไง!
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเมืองจี้ตง ทั้งเมืองจะเป็นของสี่ตระกูลใหญ่ยักษ์ แต่เมื่อใดที่ถึงคืนยามค่ำ ทั้งหมดทั้งเมืองจะเป็นของราชาหมาป่า!
ครั้งนี้เขาไม่ใช่แค่เผลอไปเหยียบแผ่นเหล็ก แต่มันคือแผ่นเหล็กไททาเนียมเสียด้วยสิ!
ไม่นานนัก อาหารหน้าตาน่าทานก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร เซี่ยงเส้าหลงยิ้มตะเกียบพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า “อาหารมาแล้ว เธอจะจ้องมองฉันทำไมกัน?”
“นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
ฉวี่เสี่ยวอี้กวาดตามองเซี่ยงเส้าหลงจากบนลงล่างอย่างสงสัย รู้สึกว่าเขานั้นจะมีความลับมากขึ้นเรื่อยๆเลย
“เรื่องอะไรล่ะ รีบๆกินเร็วก่อนที่อาหารจะเย็นชืดซะก่อน!”
เซี่ยงเส้าหลงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว!
“ไม่ถูกสิ นาย…”
“อั๊ยยะ!เสี่ยวอี้ เป็นเธอนี่จริงๆเลย!”
“เอาน่าๆ ฉันก็บอกอยู่ว่ามองไม่ผิด เสี่ยวอี้จริงๆด้วย!”
ประตูห้องรับรองพิเศษถูกเปิดออก จากนั้นก็มีคนสามคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉวี่เสี่ยวอี้เข้ามา แต่ละคนแต่งตัวราวกับเจ้าหญิง จากนั้นนั่งลงที่เก้าอี้อย่างไม่เกรงใจ
ดูเหมือนว่าฉวี่เสี่ยวอี้จะคุ้นเคยกับคนสองสามคนนี้เป็นอย่างมาก ต่างตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ผ่านไปครู่ใหญ่ เด็กสาวที่ชื่อหวงหยู่โม่ ก็ได้หันกลับมา กวาดตามองไปที่เซี่ยงเส้าหลง พร้อมกับพูดจาอย่างรังเกียจว่า “เสี่ยวอี้ ตอนนี้ตระกูลเธอปฏิบัติกับคนใช้ดีขนาดนี้เลยเหรอ?”
“คนขับรถก็ร่วมโต๊ะได้งั้นเหรอเนี่ย?”