เว่ยหลายกำลังนั่งอยู่บนรถเข็นที่มีคนสองสามคนเข็นอยู่ ใบหน้าที่เคร่งขรึมมองไปที่เขา “เซี่ยงเส้าหลงอ่าเซี่ยงเส้าหลง!เดิมทีฉันคิดว่าจะหาตัวแกมาคิดบัญชียังไงดี แต่ก็ไม่ได้คิดว่าแกจะมาไวขนาดนี้ว่ะ!”
“ไหนๆก็มาแล้ว งั้นก็อย่าไปไหนเลย!”
“เว่ยหลาย!นายคิดจะทำอะไรน่ะ!”
ฉวี่เสี่ยวอี้ยืนขึ้น พร้อมกับตะโกนอย่างโกรธเคือง “ที่นี่คือตลาดมืดนะ!”
“หรือว่าแม้แต่นายก็ลืมกฎของตลาดมืดไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ฉวี่เสี่ยวอี้!” เว่ยหลายกัดฟันกรอดๆ “เธอจะเป็นผู้หญิงของตระกูลสวีอยู่แล้วเชียว ทำไมจะต้องไปปกป้องเศษเดนนี่ด้วย?!”
“เธอต้องคิดให้ดีนะ ถ้ากล้าที่จะไปหลอกสวีเจี๋ย ไม่เพียงแต่ตระกูลสวีเท่านั้นที่จะไม่ให้อภัยเธอ ตระกูลฉวี่เองก็คงจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆเช่นกัน!”
“นายมันพูดจาไร้สาระ!”
ใบหน้าของฉวี่เสี่ยวอี้แดง เธอเหลือบมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงโดยไม่รู้ตัว “ฉันไม่เคยชอบสวีเจี๋ยอยู่แล้วและก็ไม่เคยพูดว่าจะแต่งกับเขาด้วย อย่าเอาเขามาผูกไว้กับฉัน!”
“ไม่เคยพูดงั้นเหรอ?”
เว่ยหลายหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “ตอนนี้มีใครบ้างในจี้ตงที่ไม่รู้ว่าในอีกสามวันนี้เธอและคุณชายสวีจะแต่งงานกัน?การแต่งงานของตระกูล เธอตัดสินใจเองได้เหรอ?”
ความเศร้าโศกเกิดขึ้นในดวงตาของฉวี่เสี่ยวอี้ สิ่งที่เว่ยหลายพูดนั้นถูกต้อง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจ แต่เรื่องการตัดสินใจเรื่องงานแต่งของตระกูล จะให้เด็กผู้หญิงอย่างเธอมาตัดสินได้อย่างไรกัน?
“ตอนนี้เธอก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นว่าพวกเธอสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่เช่นนั้นถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปล่ะก็ ด้วยวิธีการของฉวี่เฉิง เธอน่าจะรู้ชะตากรรมของตัวเองดีที่สุดนะ!”
ความกลัวแวบเข้ามาในดวงตาของฉวี่เสี่ยวอี้ เธอก็ได้เหลือบมองไปที่เซี่ยงเส้าหลง จากนั้นท่าทางเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว ยืนมั่นคงอยู่ที่ด้านหน้าของเซี่ยงเส้าหลง “ไม่ได้!ถ้านายกล้าแตะเซี่ยงเส้าหลงแม้แต่นิดเดียว มันก็เท่ากับนายแหกกฎของตลาดมืด ที่นี่ ไม่ใช่ที่ของนายคนเดียวสักหน่อย!”
“นายก็รู้ผลของการแหกกฎดี!”
“เธอ!…”
ความลังเลแวบเข้ามาในดวงตาของเว่ยหลาย แม้ว่าการลงทุนในตลาดมืดจะมาก แต่ด้วยกำลังทรัพย์ของทั้งสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเอามาลงทุนได้ แล้วทำไมทั้งสี่ตระกูลถึงต้องร่วมมือลงทุนด้วยกันล่ะ?
นั่นก็เป็นเพราะการมีส่วนร่วมในตลาดมืดนั้นมากเกินไป แต่ละตระกูลนั้นต่างไม่ต้องการให้ตระกูลอื่นมาเอาเปรียบ ดังนั้นทั้งสี่ตระกูลเลยร่วมมือกัน แต่ในทางเดียวกัน หากต้องการที่จะแบ่งปันผลประโยชน์ให้มากขึ้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ การลดจากสี่ตระกูลให้เหลือสามตระกูลหรือน้อยกว่านั้น
ดังนั้น ทุกๆตระกูลจึงจับจ้องไปที่สามตระกูลที่เหลืออยู่ ความผิดพลาดเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถกำจัดพวกเขาทิ้งได้!
กฎเหล็กของตลาดมืดก็คือในตลาดมืด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามลงไม้ลงมือกันเด็ดขาด!
ด้วยตัวตนของเว่ยหลาย หากมีเพียงเขาคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็คงไม่มีใครกล้าที่จะเปิดปากบอกความจริง แต่ฉวี่เสี่ยวอี้อยู่ที่นี่ เธอนั้นกล้าที่จะพูดออกมา โดยที่เว่ยหลายนั้นไม่สามารถทำอะไรเธอได้ หากเขาลงมือกับเซี่ยงเส้าหลงจริงๆล่ะก็ ตระกูลเว่ยจะต้องถูกถีบส่งออกไปจากตลาดมืดเป็นแน่ เขาไม่สามารถจ่ายราคานี้ไหว!
แต่หากเขาต้องมาเห็นเซี่ยงเส้าหลิงหลุดมือไป เขาเองก็คงจะทนไม่ไหวแน่ๆ ขณะที่ลังเลอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นเห็ดหลินจือสีม่วงที่อยู่ในมือของพ่อค้า ทันใดนั้น ในใจของเขาก็คิดแผนขึ้นมาได้!
“เอาของที่อยู่ในมือนั่นมาให้ฉัน!”
พ่อค้าแผงลอยนั้นไม่กล้าทำให้เว่ยหลายขุ่นเคือง เขาตัวสั่น รีบพูดอย่างเร็ว “ได้ครับได้!คุณชายเว่ย เดี๋ยวผมจะห่อให้อย่างดีเลยครับ!”
ขณะนั้นเอง เซี่ยงเส้าหลงก็ได้ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของพ่อค้าในทันที “มาก่อนได้ก่อนสิ ของชิ้นนี้ ฉันเห็นมันก่อนนะ!”
พ่อค้าอ้อนวอนในทันที “คุณผู้ชาย ได้โปรดปล่อยมือเถอะ ผมไม่อาจทำให้คุณชายเว่ยขุ่นเคืองใจได้!”
ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลงเล็กน้อย “แล้วถ้าหากว่าเป็นฉันที่ทำล่ะ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของพ่อค้าก็เปลี่ยนเป็นขมขื่น “งั้น..ถ้าอย่างนั้นผมจะขอทำลายมันเสียดีกว่าที่จะขายมันครับ!”
เว่ยหลายหัวเราะ รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏบนใบหน้าของเขา “เซี่ยงเส้าหลง แกต้องการเห็ดหลินจือสีม่วงจริงๆเหรอ?”
“ง่ายมาก ฉันจะให้โอกาสแก!”
“พูดมา!”
เว่ยหลายยิ้มที่มุมปากแสดงเจตนาที่ต้องการจะฆ่าออกมา “ง่ายมาก ในตลาดมืดนี้ยังมีอีกที่หนึ่งที่น่าไปเที่ยวเล่น เรียกว่าเวทีมวยใต้ดิน ขอเพียงแกสามารถชนะสิบเกมติดต่อกันได้ ฉันจะมอบเห็ดหลินจือสีม่วงให้ อีกทั้งฉันเองก็จะออกเงินให้ด้วย!”
เซี่ยงเส้าหลงมีตัวเลือกงั้นเหรอ?
ไม่มีไงล่ะ!
หากล่าช้าไปมากกว่านี้ พิษของเผิงเซียวก็จะไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป!
น่าเสียดายที่เว่นหลายนั้นไม่รู้เลยว่าเห็ดหลินจือม่วงนี้เอาไปเพื่อรักษาพิษให้กับเผิงเซียว ไม่เช่นนั้นไม่ว่าราคาเห็ดหลินจือม่วงนี้จะเท่าไหร่ เขาคงไม่มีวันปล่อยมันไปได้แน่!
“ฉันตกลง!”
ในเวลานี้ ฉวี่เสี่ยวอี้ก็พูดออกมาอย่างเป็นกังวล “เซี่ยงเส้าหลง นายไปตอบตกลงคำขอของเขาทำไม?”
“นายรู้ไหมว่ามวยใต้ดินมันน่ากลัวแค่ไหน!นาย..นายจะตายได้!”
เวทีมวยใต้ดินนั้นคล้ายกับเวทีมวยสมัยใหม่ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ ในระหว่างเวทีมวยนี้จะไม่มีข้อจำกัดใดๆ ข้อกำหนดเพียงอย่างเดียวสำหรับชัยชนะคือการทำให้อีกฝ่ายสูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้ไปโดยปริยาย พิการหรือไม่ก็ตายไปเลย!
แขกนับไม่ถ้วนเข้าสนามโดยการซื้อตั๋วเพื่อดูการต่อสู้นองเลือดระหว่างผู้คน มีการพนันว่าใครจะเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ บนเวทีมวย ผู้เข้าแข่งขันบางคนนั้นถูกพ่อค้ามนุษย์ลักพาตัวมา บางคนก็สมัครใจเข้าร่วมเวทีเพื่อเงินรางวัล ไม่ว่าจะพูดยังไง ทันทีที่เข้าสู่สังเวียน ชีวิตและความตายก็จะไม่ใช่ของตัวเอง!
เว่ยหลายจ้องมองไปที่ฉวี่เสี่ยวอี้อย่างดุเดือด ด้วยความกลัวว่าเซี่ยงเส้าหลงจะคิดเปลี่ยนใจ เขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ ไหนๆก็ตกลงแล้ว ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ การแสดงของเวทีมวยก็จะมาเริ่มขึ้น คุณชายคนนี้จะตั้งหน้าตั้งตารอชมผลงานการแสดงของแกเอง!”
การแสดง?เซี่ยงเส้าหลงยิ้มออกมา อีกเดี๋ยวนายก็จะได้รู้กันว่าการแสดงของเซี่ยงเส้าหลงนั้นไม่ใช่ว่าใครก็สามารถดูได้!
“เซี่ยงเส้าหลง นายมีความมั่นใจแค่ไหนกัน?”
เมื่อเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงได้ตัดสินใจไปแล้ว ต่อให้ฉวี่เสี่ยวอี้จะพยายามโน้มน้าวยังไงก็คงไม่เป็นผล ได้แต่ถามออกไปด้วยความกังวล
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเซี่ยงเส้าหลงนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เนื่องจากเขากล้าที่จะเข้าประลอง เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะส่งตัวเองเข้าไปตาย อย่างไรก็ตาม การเข้าต่อสู้สิบครั้งติดต่อกัน อีกทั้งยังต่อสู้กับคนที่ไม่รักตัวกลัวตายกว่าสิบคน เธอกังวลใจเล็กน้อยแต่เซี่ยงเส้าหลงกลับยิ้มอย่างเหยียดหยาม ยากที่จะปกปิดความมั่นใจเอาไว้ “พวกนั้นดีแต่ชื่อเท่านั้นแหละ อย่าไปพูดถึงมันเลย!”
สำหรับเวทีมวยใต้ดินคืนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นั่งได้เต็มไปหมดแล้ว ขณะที่เซี่ยงเส้าหลงได้ตอบตกลง เว่ยหลายก็ได้ส่งข่าวต่อไปอย่างแพร่หลาย ภายในตลาดมืดนั้นเดือดระอุ หนึ่งคนต่อสู้สิบเกมติดต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เวทีมวยใต้ดินไม่มีการแข่งขันที่นองเลือดเช่นนี้
พวกเขาที่ดูแต่การชกมวยแบบธรรมดา จะไม่กระตือรือร้นที่จะดูได้อย่างไรกันล่ะ?
ราคาตั๋วเวทีในรอบนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และขายหมดภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ยังไม่ทันที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น ที่นั่งก็ไม่มีที่ว่างเสียแล้ว ทุกคนมีแววตาที่บ้าระห่ำ ตั้งตารอคอยการต่อสู้สุดอัศจรรย์นี้!
“จัดแจงคนเรียบร้อยหรือยัง?”
ในห้องวีไอพีบนชั้นสอง มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเว่ยหลาย ผู้รับผิดชอบเรื่องการต่อยมวยยืนเคียงข้างเขาด้วยความเคารพ “คุณชายผู้บังคับบัญชา เราได้จัดแจงตามที่ท่านได้สั่งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ!”
หวงเทายิ้มอย่างพอใจ ไม่เพียงฉวี่เสี่ยวอี้ที่ไม่รู้ แม้แต่ตัวของเซี่ยงเส้าหลงเองก็ไม่รู้ไปยิ่งกว่าว่าที่เวทีมวยใต้ดินในตลาดมืดแห่งนี้นั้นเป็นอุตสาหกรรมของตระกูลเว่ย!
ส่วนลึกในดวงตาของเว่ยหลายเกิดความมืดมนขึ้น เซี่ยงเส้าหลง!แม้ฉันไม่รู้ว่าความมั่นใจในการมาต่อสู้ของแกนั้นคืออะไร แต่การแข่งขันในวันนี้ ไม่ว่าจะชนะหรือจะแพ้ แต่แกจะต้องสูญเสียเกียรติเป็นแน่!
ราคาของขาทั้งสองข้างนี้ คุณชายอย่างฉันจะให้แกค่อยๆชดใช้มัน นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
เมื่อเวลาผ่านไปทีละนิด ในที่สุด รอจนเวลาแห่งการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น ในห้องรอ เซี่ยงเส้าหลงที่กำลังหลับตาและพักจิตใจก็ได้ลืมตาขึ้นทันที ดวงตาของเขาสั่นไหว รัศมีอันทรงพลังค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วตัวเขา
“เซี่ยงเส้าหลง นายต้องระวังตัวนะ!”
ดวงตาของฉวี่เสี่ยวอี้เต็มไปด้วยความกังวล ในตอนนี้เธอทำได้เพียงอธิษฐานในใจอย่างเงียบๆ
ใบหน้าของเซี่ยงเส้าหลงนั้นไร้ความรู้สึกใดๆ เขาหันไปหาเธอพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ได้เดินไปทางขึ้นสังเวียน ขณะนี้เองฉวี่เสี่ยวอี้ก็ไปได้ยินบทสนทนาของกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลจากเธอนัก!
“นี่มันกี่ปีมาแล้วที่ไม่ได้เห็นการแข่งหนึ่งต่อสิบแบบนี้!ฉันล่ะอดใจรอไม่ไหวจริงๆ อยากจะเห็นว่าคนแข็งแกร่งแบบไหนถึงได้มาท้าทายการแข่งขันที่น่ากลัวแบบนี้!”
“ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในวันนี้ แต่วิธีการเดิมพันวันนี้ดูแตกต่างไปจากเดิม!”
“มีอะไรที่แตกต่างเหรอ?”
“การเดิมพันครั้งก่อนบนสังเวียนขึ้นอยู่กับผลของการแข่งขัน แต่ที่มาของการเดิมพันวันนี้ค่อนข้างแปลก!”
“การรับแทงในเวทีมวยนี้เป็นการเดิมพันว่าชายคนนี้จะชนะได้กี่เกมต่างหาก จำกัดเวลาอยู่ที่สามชั่วโมง เขาพนันกันว่าชายคนนั้นจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดได้ภายในสามชั่วโมงได้หรือไม่!”