ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 69 จุดเริ่มต้นของการแข่งขัน

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ฉวี่เสี่ยวอี้โทรหาเซี่ยงเส้าหลงและบอกทุกๆอย่างที่เธอได้ยิน เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองเว่ยหลายที่กำลังมองมาที่เขาและมีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปาก!

“เซี่ยงเส้าหลง ฉันสงสัยว่าที่นี่มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่อย่างนั้น เรามาหาวิธีอื่นกันดีกว่าไหม!”

นี่ไม่ใช่เวทีมวยแบบดั้งเดิม แต่นี่เหมือนโคลอสเซียมโบราณในยุคโรมันโบราณ มีกำแพงล้อมรอบ ตรงกลางมีพื้นราบทรงกลมกว่าสองร้อยตารางเมตร ผู้ชมเหมือนกับที่นั่งในสนามกีฬาที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ

เซี่ยงเส้าหลงยืนอยู่ท่ามกลางสนาม พร้อมกับมองไปที่เว่ยหลายและยิ้มให้เล็กน้อย “วิธีแบบนี้ มันจะทำให้ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกไม่ใช่เหรอ?”

หลังการสนทนา พิธีกรปรากฏตัวบนเวทีที่ว่างเปล่าข้างๆ เขาเผชิญหน้ากับฝูงชนที่ร้อนแรง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “เพื่อนๆอันเป็นที่รัก ท่านทั้งหลายคงจะได้ยินกันมาแล้วแน่ๆว่าค่ำคืนนี้ เวทีมวยใต้ดินของเราได้เปิดตัวผู้ท้าชิงพิเศษ เขาจะมาท้าทายการแข่งขันมวยใต้ดินที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จในช่วงสามปีมานี้ เป็นการแข่งขันที่หนึ่งคนจะต้องเอาชนะผู้ท้าชิงสิบคนติดต่อกันให้ได้นั่นเอง!”

“โฮ!”

มีเสียงคำรามดังออกมาจากด้านล่าง ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!

“ไม่ว่าเขาจะดีแค่ชื่อหรือจะมีพลังเหนือความคาดหมายก็ตาม ขอเรียนเชิญนักรบผู้กล้าของเราในค่ำคืนนี้ได้เลย เซี่ยงเส้าหลง!”

ด้วยความคาดหวังอย่างกระตือรือร้นของทุกคน เซี่ยงเส้าหลงค่อยๆก้าวขึ้นไปบนสังเวียน เมื่อทุกๆคนเห็นเขา ก็ต่างพาเงียบไปเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงโห่ดังขึ้น

“ดูผิดไปหรือเปล่าเนี่ย รูปร่างแบบนี้จะสู้กับสิบคนงั้นเหรอ?”

“ดูรูปร่างผอมกะหร่องแบบนี้ รนหาที่ตายชัดๆ!”

“นี่เวทีมวยต้องการให้เราดูโง่อย่างงั้นเหรอ?เป็นแบบนี้แล้วยังจะอยากให้พวกเราพนันอีกเหรอ?”

เสียงของความไม่พอใจดังก้องไปทั่ว ผู้ดำเนินรายการเองก็ดูเหมือนจะรอสถานการณ์นี้มานานแล้ว เขาจึงพูดเสียงดังขึ้นมา “ทุกท่านได้โปรดอยู่ในความสงบ!”

“ผมเชื่อว่าทุกคนที่คุณเห็นนักรบคนนี้ครั้งแรก คุณจะต้องสงสัยในความแข็งแกร่งของเขาอย่างแน่นอน และเวทีมวยของเรานี้ก็ได้พิจารณามาก่อนหน้านี้แล้วด้วย ดังนั้นกฎการเดิมพันครั้งนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย!”

“กฎการแพ้ชนะของเราในครั้งนี้ก็คือการเดิมพันว่านักรบที่อยู่ตรงหน้าเรานี้จะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดของเขาภายในสามชั่วโมงได้หรือไม่ เวลาในการวางเดิมพันคือหลังจากการต่อสู้ครั้งที่ห้านั่นเองครับ!”

“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกๆท่านจะมีระยะเวลาห้าเกมในการตัดสินใจเรื่องความแข็งแกร่งของชายคนนี้และถึงตอนนั้นก็จะสามารถทำการเดิมพันของตนได้!”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของพวกเขาก็สว่างวาบขึ้นทันใด!

ทุกๆคนนั้นไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าต้องเข้าใจความหมายของประโยคนี้ดี หากเดิมพันอย่างเร่งรีบในทันทีโดยที่ไม่รู้ความแข็งแกร่งของเซี่ยงเส้าหลง หากเขาล้มเหลวในเกมแรก นักพนันและเวทีมวยก็จะไม่ทำเงิน แน่นอนว่านั่นก็ไม่มีความหมายอะไรเลย แต่หากรับชมไปจนถึงเกมที่ห้า ก็เพียงพอแล้วที่จะรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่เซี่ยงเส้าหลงมีและทุกคนก็จะสามารถเดากันได้ว่าเซี่ยงเส้าหลงจะสามารถเอาชนะคนสิบคนได้ภายในสามชั่วโมงหรือไม่!

เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็กล้าที่จะเดิมพันอย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีกต่อไป!

นักพนันไม่กังวลเรื่องกลเม็ดของเวทีมวย หากจงใจให้เซี่ยงเส้าหลงชนะเวทีมวย ต่อให้ตระกูลเว่ยจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ก็คงไม่สามารถประประคองต่อแรงโกรธของผู้คนได้หรอก อีกอย่าง ผู้ท้าชิงที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็มาเพื่อแสวงหาเงิน ไม่ได้มาเพื่อตายเปล่าเสียหน่อย ต้องรู้อยู่แล้วว่าการขึ้นบนเวทีมวยใต้ดินนั้น หากลงมาต้องพิการไม่ก็ตาย!

เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเขาไม่แยแสราวกับเทพที่ไม่เคยแพ้พ่าย สายตาดูถูกทุกสิ่งอย่าง!

“ดังนั้น ผู้ชมอันเป็นที่รักทุกท่าน เกมการแข่งขันได้เริ่มอย่างเป็นทางการขึ้นณ บัดนี้!

เสียงฆ้องดังสนั่น เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

จากนั้นผู้เข้าแข่งขันคนแรกท่ามกลางเสียงคำรามของฝูงชนก็ค่อยๆเดินออกไป!

ชายผู้นี้เป็นชายสวมเสื้อผ้าขาดๆ ร่างกายค่อนข้างแข็งแรง ในมือถือมีดเล่มใหญ่อยู่ เมื่อดวงตาสีเทาที่ฉายแววนักฆ่ามองไปที่เซี่ยงเส้าหลง เขาก็ไม่ขยับลำคอสองถึงสามครั้ง ตามมาด้วยเสียงคำรามเบาๆ ทันใดนั้นฝีเท้าของเขาก็เร่งความเร็วขึ้น มีดเล่มใหญ่ถูกยกด้วยพลังแขนที่มีความแข็งแกร่งมหาศาล จากนั้นสับลงไปอย่างแรง!

ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆในสังเวียน ยกเว้นการห้ามใช้อาวุธที่สร้างความเสียหายร้ายแรงจากการระเบิดของดินปืน อาวุธอื่นๆนอกเหนือจากนี้ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนเซี่ยงเส้าหลงเองก็ยืนอยู่ตรงนั้นโดยปราศจากอาวุธใดๆ เขาไม่ได้เอ่ยปากร้องขออาวุธ ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว

ในขณะที่ใบมีดกำลังจะตกลงไปที่หัวของเขา เขายกมือขวาขึ้นพร้อมกับดีดนิ้ว ได้ยินเพียงเสียงหึ่งๆเบาๆ มือที่ถือมีดของชายคนนั้นสั่นสะท้าน จากนั้นมีดยาวก็ได้หลุดออกจากมือไป เซี่ยงเส้าหลงออกแรงที่เท้าขวาในทันที เกิดเสียงดังปึงขึ้น ร่างของชายคนนั้นลอยออกไปไกล ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา!

“ดี!”

บนอัฒจันทร์ไม่รู้ว่ามีใครตะโกนโห่ร้องออกมาก่อน แต่จากนั้นทั้งอัฒจันทร์ก็เดือดพล่าน ถึงแม้ชายคนนั้นจะดูซอมซ่อ แต่เขาก็คนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะคนธรรมดาก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆแบบนี้

อย่างไรก็ตาม คนนอกดูด้วยความตื่นเต้นสนุกสนาน คนในมองดูถึงวิธีการและสาระสำคัญ หากนักฝึกศิลปะการต่อสู้มาเห็นที่นี่ ก็คงจะตกใจเป็นอย่างมาก!

เมื่อขาของเซี่ยงเส้าหลงสะบัดในตอนนั้น ความแข็งแกร่งระดับนี้หากไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหลายทศวรรษ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงระดับนี้!

เซี่ยงเส้าหลงเดินไปหาชายคนนั้น พร้อมกับมองไปยังชายที่กระเสือกกระสนจะลุกขึ้นมา จากนั้นจึงได้พูดอย่างเย็นชาว่า “ยอมแพ้ซะ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!”

ชายคนนั้นดิ้นรนไปมา จนในที่สุดก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ใบหน้าของเขานั้นไร้ชีวิตชีวา เขาค่อยๆหลับตาลง “หากฉันมีชีวิตออกจากที่นี่ไป ชีวิตฉันคงเหมือนตายทั้งเป็น!”

“ขอร้องล่ะ ได้โปรดฆ่าฉันเพื่อความสะใจด้วยเถอะ!”

เมื่อเห็นสีหน้าของชายที่ดูไร้ชีวิตนี้ ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงก็ส่องประกายความเย็นยะเยือก!

มีการแข่งขันที่มวยใต้ดินนี่ทุกวัน ซึ่งนั่นหมายความว่าที่แห่งนี้จะมีคนตายทุกๆวันเช่นกัน!

ต่อให้มีคนสิ้นหวังที่ต้องต่อสู้เพื่อเงิน ก็ไม่น่าจะมีจำนวนมากขนาดนี้ได้ ดังนั้นจึงมีการนำผู้คนจากช่องทางต่างๆมาเข้ามาและบังคับให้แข่งขัน อย่างไรก็ตาม ในสายตาของผู้ควบคุมสังเวียนนี้ ชีวิตของคนนั้นมีค่าน้อยกว่าซิการ์ที่อยู่ในกำมือของเขาเสียอีก!

เป็นการเมินเฉยต่อชีวิต สมควรตายซะจริง…

จิตใจของเซี่ยงเส้าหลงนั้นสัมผัสได้ถึงเจตนาการฆ่าภายในใจของเขาที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อมองไปที่แววตาสิ้นหวังของชายผู้นั้น เขาก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยและเข้าใจความหมายในคำพูดของชายคนนั้นทันที สันนิษฐานว่าเขาน่าจะได้รับคำสั่งจากใครสักคนให้มาปราบเขา หรือไม่ก็ตายบนสังเวียนไปเสีย หากออกจากที่นี่ไปใช้ชีวิต ก็คงมีแต่ทนทุกข์ทรมานมากกว่าเดิม!

เซี่ยงเส้าหลงถอนหายใจเล็กน้อย มีดยาวพุ่งขึ้นไปในอากาศเล็กน้อยและตกลงไปกลางหัวใจของชายผู้นั้น ทันใดนั้น ดวงตาของชายคนนั้นเบิกตากว้าง จ้องมองมาที่เขาด้วยความโล่งใจ ใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการขยับปากพูดออกมา “ขอบ..คุณ…”

เมื่อเห็นฉากที่โหดร้ายเช่นนี้ เสียงเชียร์ที่ฮึกเหิมก็ปะทุขึ้นจากอัฒจันทร์ แต่ฉวี่เสี่ยวอี้นั้นทนไม่ได้ ชีวิตที่ล้ำค่านี้ ณ เวลานี้มันช่างน่าเกินทนซะเหลือเกิน ชีวิตมนุษย์ที่เปรียบเสมือนย่อมหญ้า นี่คงเป็นการพรรณนาที่ให้เห็นภาพที่แท้จริงของตอนนี้มากที่สุด!

ทันทีหลังจากนั้น ผู้แข่งขันคนที่สองก็ออกมา แม้ว่าคนคนนี้จะดูแข็งแกร่งกว่าคนแรกเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเขาก็พ่ายแพ้ให้กับเซี่ยงเส้าหลงอยู่ดี

ในขณะที่ทุกคนนั้นหมดหวังและรู้สึกว่าสังเวียนนี้ทำอย่างขอไปที ขณะนั้นเองการปรากฏตัวออกมาของผู้เข้าแข่งขันคนที่สามก็เกิดขึ้น สิ่งนี้ทำให้การหายใจของผู้ชมนั้นเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ!

“ใช่ครับ ทุกๆท่านดูไม่ผิดอย่างแน่นอน”

เสียงของพิธีกรที่พูดก็ดังขึ้นมาได้อย่างพอเหมาะพอดี “ผู้ท้าชิงคนที่สาม ก็คือเพื่อนเก่าที่เรานั้นคุ้นเคยกันนั่นเอง ผู้ที่รักษาตำแหน่งราชาแห่งสังเวียนด้วยการฆ่าและได้รับชัยชนะไปทั้งหมดเก้าครั้ง คนขายเนื้อตาเดียว!”

ผู้ชมต่างพากันฮือฮาในทันที!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท