ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 81 มอบนาฬิกาให้

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

เมืองอ้าวตั้งอยู่ในอ่าวทะเลทางใต้ของมาตุภูมิ แม้ว่าจะเป็นมุมเล็กๆ ของประเทศ แต่ก็มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมพนันที่โดดเด่น ซึ่งได้ดึงดูดแขกนับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมโลก

ในฐานะราชาพนัน ตำแหน่งของเหอเหยียนยงในเมืองอ้าวนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง หากบอกว่าเจ้าเมืองแห่งเมืองอ้าวเป็นผู้ควบคุมดูแลภายนอกละก็ ถ้าอย่างนั้นเหอเหยียนยงก็คือราชาแห่งใต้ดินอย่างแท้จริง!

วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ100ปีของเขา มันถูกจัดขึ้นในที่ดินส่วนตัวเองซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ10เฮกตาร์ ทั้งเมืองในอ้าว ตั้งแต่เหล่าเจ้าหน้าที่ จนถึงผู้มีอำนาจ โดยส่วนใหญ่ต่างก็มาถึงในงานเลี้ยงกันหมดแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั้งเมืองอ้าวกำลังเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบ100ปีของราชาพนัน ทางสนามบินได้กำลังทำการต้อนรับแขกคนพิเศษ

“นายพลน้อย หากท่านมีเรื่องอะไรต้องการที่จะทำ เพียงแค่ท่านออกคำสั่งโดยตรง เพียงแค่ท่านออกคำสั่งโดยตรง กองกำลังทั้งทหารอารักขาแปดหมื่นนายในเมืองอ้าว ก็พร้อมจะเคลื่อนย้ายตามคำสั่งของท่าน แล้วทำไมท่านต้องมาด้วยตัวเองละครับ?

ชายวัยกลางคนสวมเครื่องแบบทหาร และดาว4ดวงติดอยู่บนไหล่นั้นเงางามเป็นพิเศษ ทั่วกายเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยงเส้าหลง เขายังคงต้องน้อมตัวอยู่เช่นเคย ซึ่งดูให้ความเคารพเป็นอย่างมาก

ซึ่งเขาก็คือผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ในเมืองอ้าว ถังซิว!

“ผมมาเพื่อมอบของขวัญด้วยตัวเอง คุณ สามารถแทนที่ได้เหรอ?”

เมื่อรู้ถึงเกียรติศักดิ์ของนายพลน้อยในกองทัพ ร่างกายของถังซิวก็รัดแน่น และไม่กล้าพูดอะไรอีก

“เตรียมพร้อมกันหมดแล้วใช่ไหม?”

เซี่ยงเส้าหลงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย แต่ในความนิ่งเฉยนั้นแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม!

ทรงพลังมีพลานุภาพที่แลกมาด้วยเลือดและกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วน สายตาเพียงแค่แวบเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้คนธรรมดาสั่นสะท้านไปทั้งตัว!

“ตามคำสั่งของท่าน ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมแล้วครับ!”

“เชิญนายพลน้อยเยื้องย่าง!”

ตั้งแต่ต้นจนจบ ถังซิวไม่เคยกล้าที่จะยืดตัวขึ้น ขยับร่างกายออกไปด้านข้างเล็กน้อย และทำท่าทางเชิญ!

เซี่ยงเส้าหลงลุกยืนขึ้น นัยน์ตาที่คมกริบ และมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย “เลี่ยหลง! เอาของขวัญที่ผมเลือกเองกับมือ เพื่อนำมาอวยพรวันเกิดให้กับเหอเหยียนยงมาด้วย!”

ไม่นานนัก ก็มีรถค่อยๆ ขับเข้ามายังหน้าประตูคฤหาสน์ของตระกูลเหอ เมื่อชำเลืองตามองไป ก็มีรถหรูจอดทั่วหัวระแหง แม้แต่งานแสดงรถยนต์ชั้นนำของโลกก็มีจำนวนรถหรูมากไม่เท่ากับที่นี่ โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะได้พบเจอกับผู้มีอำนาจเหล่านี้ในเมืองอ้าว และที่มาในวันนี้ก็ล้วนแต่มาได้มาอวยพรวันเกิดให้กับเหอเหยียนยงด้วยตัวเอง ซึ่งมันก็มากพอที่จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งของตระกูลเหอที่อยู่ในเมืองอ้าวนั้นมีอำนาจมากขนาดไหนกัน !

และเมื่อเปรียบเทียบกับรถที่เซี่ยงเส้าหลงนั่งนั้น ปรากฏว่ามันดูไม่เข้าท่ามากนัก!

“จอด!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูโบกมือด้วยความรู้สึกตนที่เหนือกว่า และตะโกนใส่รถของเซี่ยงเส้าหลงอย่างหมดความอดทน “ที่นี่ไม่ใช่ที่จอดรถของคุณ รีบหลบไปให้พ้น!”

เลี่ยหลงที่ขับรถอยู่นั้นสายตาก็ได้จับจ้อง “วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ100ปีของราชาพนันไม่ใช่เหรอ?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชะงักไปครู่หนึ่ง และมองไปที่เขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “พวกคุณก็มาอวยพรวันเกิดให้กับคุณท่านบ้านผมงั้นเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณมีการ์ดเชิญไหม?”

เลี่ยหลงหยิบการ์ดเชิญออกจากอ้อมแขนและยื่นออกไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับไป จากนั้นก็เปิดการ์ดเชิญอย่างครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย ทันใดนั้นก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ พร้อมกับรอยยิ้มที่เอาอกเอาใจบนใบหน้า “ที่แท้ท่านคือ ผู้บัญชาการถัง!”

“เชิญท่านลงจากรถเลยครับ เดี๋ยวผมจะช่วยจอดรถให้เอง!”

ตัวตนของผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ในเมืองอ้าว ไม่ใช่คนตัวเล็กๆ อย่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถทำให้ขุ่นเคืองใจได้!

หลังจากเดินเข้าไปในคฤหาสน์ พรมผืนใหม่เอี่ยมที่ถูกปูไปจนสุดลูกหูลูกตา พ่อบ้านที่รับผู้ชอบต้อนรับแขก เมื่อเห็นเซี่ยงเส้าหลงและเลี่ยหลงที่กำลังเดินเข้ามา เขาก็ขมวดคิ้วในทันที

ในบรรดาผู้มีอำนาจในเมืองอ้าว ทำไมจำไม่ได้ว่ามีคนแปลกหน้าสองคนนี้ด้วย!

ทั้งสองเดินใกล้เข้ามา พ่อบ้านก็พูดอย่างสุภาพ “ท่านสองคนได้ถือการ์ดเชิญของผู้บัญชาการถังมา ดังนั้นไม่ทราบพวกท่านสองคนคือ?”

เลี่ยหลงพูดอย่างเย็นชา “ผู้บัญชาการถังมีเรื่องด่วนไม่สามารถมาได้ ดังนั้นจึงเชิญพวกเราสองคนมาอวยพรวันเกิดให้กับราชาพนันแทนเขา!”

เมื่อพ่อบ้านได้ยินเช่นนี้ ความลังเลก็แวบวาบในแววตาของเขา แต่หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย ก็ไม่ได้สกัด

เนื่องจากด้วยตัวตนของถังซิวแล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่การ์ดเชิญจะตกอยู่ในมือของคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง และอีกอย่าง วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของราชาพนัน ใครจะกล้ามาก่อกวนที่นี่?

ซึ่งนั้นหมายความว่ากำลังรนหาที่ตาย!

บรรดาผู้ที่มาล้วนเป็นแขกรับเชิญ และพวกเขาล้วนมาเพื่ออวยพรวันเกิด ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วไม่สามารถปฏิเสธที่จะไม่ให้เข้ามาไม่ได้!

“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง ท่านสองคนเชิญด้านในเลยครับ!”

หลังจากผ่านซุ้มประตูเข้าไป ก็พบว่าด้านในกระจ่างแจ้งอย่างมาก!

เฟอร์นิเจอร์อันหรูหรา และห้องโถงกว้างขวาง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของตระกูลเหอ!

ดนตรีที่ไพเราะ อาหารรสเลิศสุดหรู แต่ละคนในชุดสูทมาตรฐาน ในมือถือแก้วไวน์ ทุกคนต่างพูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ในตรงกลางสุด มีชายชราในชุดถังจวง แม้ว่าจะนั่งรถเข็น แต่หน้าตาดูมีสง่าราศี และทักทายกับแขกที่มาอวยพรวันเกิดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ชายชราคนนี้ก็คือเจ้าของวันเกิดของวันนี้ ราชาพนัน เหอเหยียนยง!

“คำนวณเวลาดูแล้ว เทียนหลงก็น่าจะกลับมาแล้ว!”

ข้างตัวเหอเหยียนยง ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยติดตาม ซึ่งนั่นก็คือหลานสาวสุดที่รักของเหอเหยียนยง เหอซือชิว

เธอพูดอย่างไม่สนใจ “เขานั้นป่าเถื่อนจะตาย ทุกครั้งออกไปเที่ยว ถ้าหากยังเที่ยวไม่สาสมใจก็ไม่มีทางที่จะกลับบ้านอย่างแน่นอน!”

“แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ100ปีของท่านคุณปู่ แต่ตอนนี้ยังไม่กลับมา มันช่างเกินไปแล้วจริงๆ !”

“หนูลองโทรถามเขาดูว่าถึงไหนแล้ว!”

เหอเหยียนยงหยักหน้า และขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็เห็นเซี่ยงเส้าหลงและเลี่ยหลงที่ตรงดิ่งเหมือนดินสอ และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขาที่เคยเจอคลื่นใหญ่ลมแรง โดยทั่วไปแล้วสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างทั้งสองคนได้ในทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซี่ยงเส้าหลง แม้ว่าอายุจะไม่มากนัก แต่ทว่าความน่าเกรงขามของบุคคลนั้นมันรุนแรงกว่าความรู้สึกที่เจ้าเมืองแห่งเมืองอ้าวที่มีให้เขาสีกอีก และเขาก็ราวกับว่ามีปีศาจที่ชั่วร้ายเผยออกมาให้เห็นบนตัวเขา ชายหนุ่มคนนี้ มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ !

“เสี่ยวชิว เข็นปู่ไปทางนู้นหน่อย”

เหอซือชิวเหลือบมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยความประหลาดใจ “คุณปู่ เขาเป็นใครทำไมถึงได้มีค่าที่คุณปู่ต้องเข้าไปทักทายด้วยตัวเอง?”

“ชายหนุ่มสองคนนั้น แม้จะไม่คุ้นหน้า แต่ไม่ธรรมดา!”

เหอเหยียนยงพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งตราตรึงนาน

เหอซือชิวยิ่งประหลาดใจกว่าเดิม บุคคลที่ถูกคุณปู่ของตัวเองบอกว่าไม่ธรรมดานั้น ทั้งเมืองอ้าวมีเพียงแค่ไม่กี่คน และเธอก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงอีกครั้ง แต่ไม่ว่ามองยังไงเขาก็เป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดา แม้แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ ยังสู้เสื้อผ้าที่พ่อบ้านของพวกเขาสวมใส่ไม่ได้ คนแบบนี้จะมีความโดดเด่นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามสำหรับคำสั่งของเหอเหยียนยง เหอซือชิวไม่กล้าที่จะไม่ทำตาม และทันใดนั้นเธอก็เข็นเหอเหยียนยงเดินเข้าไป

“ผมอายุมากแล้ว ความจำไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ จึงจำพวกคุณสองคนไม่ได้แล้ว!”

เมื่อเดินไปถึงตรงหน้าเซี่ยงเส้าหลง เหอเหยียนยงพูดด้วยรอยยิ้ม

“คุณไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร นายท่านของผมมาครั้งนี้ เพื่อแค่จะมอบของขวัญ!”

เลี่ยหลงที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมา

สีหน้าของเหอเหยียนยงเคร่งขรึมเล็กน้อย น้ำเสียงของเลี่ยหลงทำให้เขาไม่ชอบใจอย่างมาก หลายปีมานี้ไม่มีใครในเมืองอ้าวที่กล้าพูดกับตัวเองแบบนี้!

แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่รีบร้อนที่จะแสดงท่าทาง เนื่องจากมือที่ยื่นมาย่อมไม่ตบคนที่ส่งยิ้มให้ ยิ่งกว่านั้นเขามามอบของขวัญให้!

มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นเล็กน้อย “ของขวัญ อยู่ด้านนอกประตู สั่งให้คนยกเข้ามาเลย!”

ยก?

วันนี้เป็นวันเกิดครบ100ปีขอบเหอเหยียนยง ซึ่งเขาเป็นที่สนใจของทุกคนโดยธรรมชาติ เซี่ยงเส้าหลงจงใจพูดเสียงดัง และมีคนจำนวนมากมองมาทางนี้พร้อมกับแววตาที่ประหลาดใจ และมองไปที่เขาด้วยความสนใจ เนื่องจากของขวัญระดับไฮเอนด์นั้นล้วนประณีตและมีขนาดเล็ก ฉะนั้นเป็นของอะไรกันที่ต้องสั่งให้คนไปยก?

“เสี่ยวชิว เรียกคนสองสามคนไปยกของขวัญเข้ามา ดูสิว่าของขวัญที่สุภาพบุรุษคนนี้มอบให้ผม เป็นทรัพย์สมบัติอะไรกัน!”

เหอเหยียนยงพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อกี้เหอซือชิวกระซิบบอกเขาว่า เซี่ยงเส้าหลงเป็นแขกที่ถือการ์ดเชิญของถังซิวมา แม้ว่าทั้งสองคนนั้นจะดูไม่คุ้นหน้า แต่ทว่าตัวตนของถังซิวก็วางอยู่ตรงนั้นละ ฉะนั้นตัวตนของทั้งสองคนนี้จะขนาดไหนกัน?

“ในเมื่อพวกคุณสองคนเป็นเพื่อนของผู้บัญชาการถัง ไม่ทราบว่าอยู่ตำแหน่งอะไร? รบกวนบอกชื่อของพวกคุณทั้งสองได้ไหม?

เหอเหยียนยงแสดงถึงความหมายของมิตรภาพ แต่ใครจะไปรู้ว่ามุมปากของเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นด้วยความยิ้มเยาะ “ชื่อของผม คุณไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ถ้าหากผมพูดคนหนึ่งขึ้นมา คุณรู้จักแน่นอน!”

“หา? เชิญคุณพูด!”

เหอเหยียนยงถามด้วยความประหลาดใจ

“เหอเทียนหลง!”

ดวงตาของเหอเหยียนยงจ้องเขม็ง นี่มันชื่อหลานชายของตัวเองไม่ใช่เหรอ?

“หรือว่าคุณรู้จักกับหลานชายที่ไม่เอาไหนของผมอย่างนั้นเหรอ?”

“ผมช่วยเหอเทียนหลง มอบของขวัญวันเกิดอายุครบ100ปีแก่คุณ!”

ระหว่างที่พูด ของขวัญชิ้นใหญ่ที่ห่อด้วยผ้าสีแดงก็ถูกวางไว้ในกลางงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว

ผู้คนต่างรุมล้อมเข้าไปดูด้วยความสงสัย ของขวัญอันใหญ่มหึมาที่มีความสูงเหนือกว่าคน และความกว้างประมาณ2เมตรนี้ มันเป็นของอะไรกันแน่?

“เปิด!”

เซี่ยงเส้าหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ

เลี่ยหลงดึงผ้าสีแดงออก หลังจากที่เห็นของที่ถูกห่อหุ้มอยู่ด้านในอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็น!

นาฬิกา!

นาฬิกาทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่!

สองคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ?

ราชาพิษแห่งเมืองอ้าวที่สง่างาม นึกไม่ถึงเลยว่ากล้ามามอบนาฬิกา ในงานวันเกิดอายุครบ100ปีของเหอเหยียนยง? ! (ส้งจงที่แปลว่า ‘ให้นาฬิกา’ จึงพ้องเสียงกับคำว่า ส้งจงที่หมายถึง ‘การที่ลูกหลานไปเคารพศพครั้งสุดท้าย’ )

ทันใดนั้น สีหน้าของเหอเหยียนยงมืดมนถึงขีดสุด ภายในแววตาก็ไม่ได้เมตตาและอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้ มองไปที่เซี่ยงเทียนหลงแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เหอเทียนหลงอยู่ไหน?”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มกริ่ม และพูดด้วยเจตนาแห่งการฆ่าภายในน้ำเสียงของเขา “เขาอยู่ไหนงั้นเหรอ คุณจะรู้ในไม่นานนี้แหละ เพราะว่าเดี๋ยวครอบครัวของพวกคุณก็จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว!”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท