“พวกคุณเป็นใครกันแน่? !”
ใบหน้าของเหอซือชิวมืดมน และเธอเพิ่งคิดอยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่ทันทีที่ฝีเท้าของเธอเคลื่อนไหว ก็มีใครบางคนเร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง และขวางอยู่ตรงหน้าเธอ
เขาเป็นหนึ่งในคนที่คอยตามจีบเหอซือชิว ชื่อว่าหยางเฟิง อยู่ในเมืองอ้าว ซึ่งก็ถือว่าเป็นตระกูลเล็กๆ ที่มีชื่อเสียง
“คุณรู้หรือเปล่า ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคุณเป็นใคร?”
หยางเฟิงที่สูงเกือบ2เมตร มีรูปร่างที่กำยำ เขามองไปที่เซี่ยงเส้าหลงด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม”นี่คือราชาพนันแห่งเมืองอ้าว!”
“ถังซิวผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์คนหนึ่ง หากอยู่ต่างมณฑลอาจจะยังมีอำนาจอยู่เล็กน้อยบ้าง! แต่ที่นี่มันคือเมืองอ้าว!
“ประโยคเดียวของราชาพนัน ถึงแม้ว่าจะเป็นถังซิวเขาเอง ก็ไม่กล้าที่จะไม่ไว้หน้า!”
“แล้วคุณเป็นใครกัน เหมาะที่จะมาวิจารณ์อย่างหนักแบบนี้เหรอ ? !”
ขณะที่พูด เขาก็ยื่นนิ้วมือออกมา และชี้ไปที่หัวของเซี่ยงเส้าหลง “คุณฟังผมให้ดี นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณมาทำตัวบ้าๆ บอๆ ! ผมไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร แต่ตอนนี้คุณต้องคุกเข่าลง และกราบขอโทษ จากนั้นก็เอาขยะของคุณออกไปให้พ้นจากบ้านตระกูลเหอ!”
ความภูมิใจแวบวาบในดวงตาของหยางเฟิง ซึ่งเขาสามารถจินตนาการได้ว่า หลังจากที่เซี่ยงเส้าหลงกลัวจนฉี่ราดและหนีจากไป แล้วเป็นฉากที่เหอซือชิวพิจารณาในแง่มุมที่แตกต่างออกไปต่อตัวเอง
“ทำตัวบ้าๆ บอๆ ?”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้ม ซึ่งนี่ที่ไม่ใช่ที่สำหรับเขาทำตัวบ้าบอจริงๆ เพราะว่าบ้านตระกูลเหออันเล็กๆ แห่งนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่ที่จะทำตัวบ้าบอ”
“ผมไม่ชอบให้ใครมาชี้นิ้วมาที่หัวของผม”
เซี่ยงเส้าหลงพูดอย่างเย็นชา
หยางเฟิงหัวเราะ แถมยังชี้ไปที่ตัวเขาอย่างแน่วแน่ “ก็ฉันจะชี้ตัวคุณอ่ะ แล้วมันจะทำไมกัน?!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เลี่ยหลงที่อยู่ด้านข้างก็ออกมืออย่างกะทันหัน กำนิ้วของเขาไว้ และบีบมันในทันที
แก๊ก!
หลังจากมีเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้น นิ้วของหยางเฟิง โค้งงอในรูปทรงที่ผิดปกติ ทันใดนั้นเลี่ยหลงก็ดึงแขนของเขาและเหวี่ยงออกไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย เขาถูกเหวี่ยงออกไปไกลกว่า2เมตร อีกทั้งหัวกระแทกใส่โต๊ะ และสลบไปในทันที
ฉากนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานถึงกับตะลึง!
ด้วยน้ำหนักที่ไม่ต่ำกว่าร้อยกว่ากิโลกรัม เพียงแค่แขนข้างเดียวก็สามารถเหวี่ยงขึ้นไปในกลางอากาศได้ไกลกว่า2เมตร พละกำลังแบบนี้ มันใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถแสดงออกมาได้เหรอ?
เมื่อกี้ยังมีคนเยาะเย้ยเซี่ยงเส้าหลงสองคนนั้นรนหาที่ตาย แต่ตอนนี้กลับเงียบกริบไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย
แม้กระทั่งแววตาที่เยาะเย้ยในดวงตา ก็หายไปอย่างเงียบๆ เพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว!
“คุณเป็นใครกันแน่!”
เหอซือชิวไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินอย่างเหอเทียนหลง ในขณะนี้ แม้ว่าเธอจะโง่เพียงใดลแต่เธอก็เข้าใจว่า เซี่ยงเส้าหลงนั้นไม่ได้มาเพื่อมอบของขวัญ!
นี่มันมาหาเรื่องกันชัดๆ !
แต่ทว่าเธอคิดให้ตายยังไงก็คิดไม่ออก ตอนนี้ในเมืองอ้าว ใครยังมีความกล้าขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่ากล้ามาหาเรื่องที่ตระกูลเหอ?
เขาไม่กลัวตายเหรอ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ แววตาของเหอซือชิวก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับความเย่อหยิ่ง และพูดอย่าง “ฉันขอเตือนคุณ วัยรุ่นสามารถอารมณ์ร้อนได้ แต่ถ้าหากกล้าที่จะสร้างปัญหาในงานวันเกิดอายุครบ100ปีของคุณปู่ของฉันละก็ ระวังตัวคุณให้ดี เดี๋ยวจะเดินออกไปจากประตูตระกูลเหอไม่ได้!”
“เฮอเฮอ……”
มุมปากเซี่ยงเส้าหลงยกขึ้นและลึกกว่าเดิม ทันใดนั้นเขาดึงเก้าอี้มาตัวหนึ่งและนั่งลงอย่างสบายชิวๆ โดยนั่งไขว่ห้างเหมือนกับเจ้านาย และยิ้มอย่างมีเลศนัย “บนโลกนี้ ยังไม่มีประตูบานไหนเลยที่ผมเซี่ยงเส้าหลงเดินออกไปไม่ได้!”
ทันทีที่ชื่อนี้พูดออกมา ดวงตาของเหอเหยียนยงและเหอซือชิวก็เบิกกว้าง!
เซี่ยงเส้าหลง? !
เขาคือเซี่ยงเส้าหลง!
เมื่อแขกคนอื่นๆ ได้ยินชื่อนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง?
ตระกูลไฮโซที่ผุดขึ้นใหม่อย่างฉับพลันในเมืองอ้าว มีตระกูลที่มีนามสกุลเซี่ยงเหรอ?
“แล้วหลานชายของผมล่ะ!”
ดวงตาของเหอเหยียนยงจ้องเขม็ง และถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ ถ้าเซี่ยงเส้าหลงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แล้วเหอเทียนหลงที่เขาส่งตัวไปในเมืองเทียนไห่ อยู่ที่ไหน?
ทันใดนั้นก็มีความคิดแย่ๆ ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
“คุณบอกเขาเหรอ……”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มกริ่ม “เมื่อกี้ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องรีบร้อน ครอบครัวของพวกคุณจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันในไม่ช้านี้!”
ปัง!
เหอเหยียนยงตบไปที่รถเข็นอย่างแรง ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่า100ปี แต่เนื่องจากเป็นราชามาครึ่งชีวิตแล้ว ความน่าเกรงขามบนเรือนร่างนั้น ซึ่งถูกจารึกไว้กระดูกตั้งนานแล้ว
เขามองไปที่เซี่ยงเส้าหลงอย่างเยือกเย็น “ผมไม่คิดว่าคุณจะกล้าขนาดนี้ และยังกล้าปรากฏตัวในเมืองอ้าวอีกด้วย!”
“บอกผมมาว่าเทียนหลงอยู่ที่ไหน มิฉะนั้น ผมเอาคุณห้าอาชาแยกร่างอย่างแน่นอน แล้วคุณจะเสียงใจภายหลังกับการประพฤติตัว!”
“คุณเนี่ยนะ คู่ควรเหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะด้วยความเยาะเย้ยบนใบหน้า
ปังปัง!
เหอซือชิวปรบมือด้วยสีหน้าบูดบึ้ง จากนั้นก็มีชายในชุดดำ10กว่าคนบุกเข้ามา และล้อมรอบเซี่ยงเส้าหลงไว้ตรงกลาง
บรรยากาศต่ำราวกับเยือกแข็งในทันที!
ทุกคนต่างมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงด้วยสีหน้าน่าสงสาร ดูท่าคุณท่านเหอจะเอาจริงจังแล้ว แม้จะต่อสู้เก่งมากเพียงใดก็เถอะ เพียงแค่คนเดียวจะสู้คนสิบกว่าคนนั้นไหวได้อย่างไร?
แต่ที่นี่เป็นเมืองอ้าว เพียงแค่คำพูดเดียวของเหอเหยียนยง เขาจะไม่มีทางรอดชีวิตออกไปจากที่นี่แม้แต่ครึ่งก้าวอย่างแน่นอน!
“ไอ้หนู ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย!”
“บอกผมมาว่าเทียนหลงอยู่ไหน!”
“ผมก็มีอีกคำถามหนึ่งที่อยากจะถามคุณ!”
เซี่ยงเส้าหลงมองไปที่เขาด้วยแววตาที่หม่นหมอง “คุณรู้ชะตากรรมของการทำร้ายภรรยาและลูกสาวของผมไหม?”
“ลุย! ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อให้!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหอเหยียนยงก็ไม่ได้พูดไร้สาระอะไรมาก ด้วยการโบกมือ ชายร่างกำยำ10กว่าคนนั้นวิ่งเข้ามาหาเซี่ยงเส้าหลงเกือบพร้อมๆ กัน ด้วยท่าทางที่โหดอำมหิต แทบอยากจะฉีกเขาให้ขาดเป็นชิ้นๆ !”
เซี่ยงเส้าหลงไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งท่าทางอารมณ์แสดงออกบนใบหน้าเลย และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อให้!”
เลี่ยหลงในฐานะกำลังสู้รบที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาผู้พิทักษ์โลหิตทั้ง12 มีรอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ทันใดนั้นร่างก็ขยับ เพียงแค่ได้เสียงกรีดร้องที่ไม่รู้จบ ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้คนนับสิบล้มนอนกับพื้น และสรรพเสียงเงียบหายไปอีกครั้ง!
ฟ่อ!
ทุกคนต่างตะลึง แววตาของผู้คนมองไปที่พวกเขานั้น ไม่ใช่แววตาความประหลาดใจอีกต่อไป แต่กลับเป็นความหวาดกลัว!
“ไอ้เลว!”
“ในเมื่อคุณรนหาที่ตายอย่างจริงใจ ผมก็จะสมหวังคุณ!”
เหอเหยียนยงโกรธจัด
ในงานวันเกิดครบ100ปีของตัวเอง ถูกเซี่ยงเส้าหลงฉีกหน้าแบบนี้ และบวกกับยังไม่รู้ความเป็นความตายของหลานชายตัวเองอีก ซึ่งมันทำให้เหอเหยียนยงไม่สามารถระงับความโกรธได้อีก!
เรื่องของวันนี้ ไม่ตายไม่จบ!
แต่เซี่ยงเส้าหลงมองไปที่เหอเหยียนยงด้วยสายตาหลักแหลม “คำถามที่ผมถามคุณในเมื่อกี้นี้ คุณยังไม่ตอบเลย หรือว่าคุณแก่จนสายตาเลือลางไม่พอ แม้กระทั่งหูก็จะหนวกแล้วเหรอ?”
“ช่างกล้า!”
ท่ามกลางฝูงชนที่อยู่ด้านข้าง มีชายชราผมขาวครึ่งร้อยห้าสิบลุกยืนขึ้นในทันที และเดินออกมากล่าวหาอย่างเข้มงวด “ไอ้หนู คุณอย่าคิดว่ามีมืออันธพาลที่ทรงพลังแล้วคิดจะอะไรก็ได้ คุณต้องเข้าใจว่า บางคนในบนโลกนี้ หากล่วงเกินผิดใจละก็ มีทางตายอย่างเดียว!”
ผู้พูดคือเจ้าไห่หยาง ผู้นำของตระกูลเจ้าที่ฐานะร่ำรวยมากที่มืองอ้าว มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับตระกูลเหอ
เซี่ยงเส้าหลงเงี่ยหู มองไปที่เขาและหัวเราะเยาะ “มึงเป็นใคร?”
ทันใดนั้นสีหน้าของเจ้าไห่หยางซีดลงในทันที “ไอ้หนูโง่เขลา พูดจาโผงผาง! ผมก็คือผู้นำตระกูลเจ้า เจ้าไห่หยาง!”
“ตระกูลเจ้า?”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เมื่อเห็นการจ้องมองที่ดูถูกเหยียดหยามในแววตาเซี่ยงเส้าหลง สีหน้าของเจ้าไห่หยางเปลี่ยนเป็นสีตับหมูในทันที “คุณ……คุณนี้มันรนหาที่ตายจริงๆ !”
“วันนี้ไม่ต้องการให้ตระกูลเหอจัดการ ถ้าหากผมปล่อยให้คุณออกเดินไปจากที่นี้โดยยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ใช้นามสกุลเจ้า!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณสามารถไปตายได้เลย!”
ระหว่างคำพูดนั้น สั้นๆ อย่างไม่หนักหนาอะไร
ทันใดนั้นเลี่ยหลงที่อยู่ด้านข้างก็ออกมือ และบีบคอของเจ้าไห่หยางในทันที ก่อนที่ทุกคนจะมีปฏิกิริยาการโต้กลับ ด้วยเสียงแก๊ก ก็ได้บีบกระดูกคอของเขาหักโดยตรง ตายม่องเท่ง
“คุณ……นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะฆ่าผู้นำตระกูลเจ้า?”
เหอเหยียนยงที่เคยเจอคลื่นใหญ่ลมแรง ในขณะนี้นิ้วชี้ไปที่เซี่ยงเส้าหลงก็สั่นสะท้านเล็กน้อย และในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
นี่มันคนทั้งเป็นเลยนะ!
ซึ่งถูกเซี่ยงเส้าหลงฆ่าต่อหน้าต่อตาทุกคนแบบนี้เลย หรือว่าเขาไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใดๆ ถึงขั้นนี้แล้วเหรอ!
“อ๊าก! พ่อ!”
ด้านข้างเจ้าไห่หยาง ชายวัยกลางคนที่มีตาสีแดงทั้งคู่ พุ่งขึ้นมาด้วยเสียงคำราม เลี่ยหลงไม่แม้แต่จะมองเขาเลย ทันใดนั้นก็กระโดดเตะ ซึ่งเตะเขาออกไปได้ไกลมาก
ในขณะเดียวกัน คนในชุดดำจำนวนมากก็รุมเข้ามาในหอประชุมในทันที แต่ละคนต่างมีดาบและไม้ติดตัว และรีบวิ่งพุ่งเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลง
อย่างไรก็ตาม เลี่ยหลงเพียงคนเดียวก็เหมือนกับกำแพงเหล็กกล้า หมัดลมคำราม เพียงหมัดเดียวก็ทำให้ถึงแก่ชีวิต !
เมื่ออยู่เผชิญหน้ากับหมัดเหล็กคู่ของเขา คนเหล่านี้เปราะบางราวกับมด!
เมื่อมองดูเสียงกรีดร้องที่เต็มไปทั่วพื้น เหอเหยียนยงก็ค่อยๆ ลุกยืนขึ้นจากรถเข็นอย่างสั่นสะท้าน ด้วยความโกรธที่พรั่งพรูออกจากแววตาไม่มีที่สิ้นสุด “ไอ้สารเลว!”
“วันนี้ แม้ว่าผมจะสิ้นเนื้อประดาตัวทั้งตระกูลเหอ ก็จะไม่ปล่อยให้คุณออกไปจากที่นี้อย่างปลอดภัยแน่นอน!”
“ยามมืดตระกูลเหอ! ออกมา!”
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าเดินโครมครามก็ดังขึ้น หลังจากนั้น ด้านนอกหอประชุมทั้งหมดมีเงาดำหนาทึบ แม้กระทั่งยังมีเงาปืนวาบๆ ซึ่งทำให้ทั้งหอประชุมปิดผนึกสุญญากาศ!
แต่เซี่ยงเส้าหลงสะเพร่าเลินเล่อ นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบ หยิบมีดปอกผลไม้ พร้อมกับแอปเปิลขึ้นมาลูกหนึ่ง จากนั้นก็ปอกเปลือกแอปเปิลอย่างช้าๆ “ไม่ต้องกังวล ผมไม่คิดที่จะไปไหนหรอก”
“วันนี้ อย่างแรกที่ผมมาที่นี่เพื่อมอบของขวัญ อย่างที่สองคือมาทวงหนี้!”
มีความโกลาหลเกิดขึ้นในฝูงชน ดูจากท่าทางแล้ว เซี่ยงเส้าหลงและเหอเหยียนยง เกรงว่าจะเอาเป็นเอาตายไปข้างเลย!”
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนที่ถูกเลี่ยหลงเตะบินออกไปก็ค่อยๆ ลุกยืนขึ้น และมองไปที่เขาด้วยความเกลียดชัง “คุณไม่ต้องดีใจเกินไป ผมได้โทรหาตระกูลแล้ว คุณฆ่าพ่อของผม ตระกูลเจ้าได้รวบรวมมืออันธพาล500นาย จะเอาคุณให้ตายโดยไม่มีที่ฝังศพอย่างแน่นอน!”
เซี่ยงเส้าหลงกัดแอปเปิลไปคำหนึ่ง พูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ “มดไม่ว่ายังไงก็คือมด ต่อให้จะมาเยอะกว่าเดิม มีแต่ชะตากรรมที่จะโดนตบตายด้วยฝ่ามือเดียว!”
“คุณ! คุณอย่าเย่อหยิ่งเกินไป!”
“ขณะที่ตระกูลเจ้าของผมออกอาละวาดของพวกวายร้ายในเมืองอ้าว คุณกำลังเล่นขายของอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย!”
ทันใดนั้นทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ มองไปที่เซี่ยงเส้าหลงด้วยแววตาที่มองดูคนตาย
ขายวัยกลางคนพูดถูก ตระกูลเจ้าถือกำเนิดมาในฐานะนักเลง ดังที่กล่าวว่ามืออันธพาลนั้นล้วนเป็นอันธพาลที่โหดเหี้ยมและเปื้อนเลือด ซึ่งไม่ใช่บอดี้การ์ดของตระกูลเหอเหล่านี้สามารถเทียบได้
เนื่องจากได้ฆ่าผู้นำตระกูลเจ้า แล้วเขาจะปล่อยเซี่ยงเส้าหลงกับเลี่ยหลงไปได้อย่างไร?
พวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่า หลังจากที่คนของตระกูลเจ้ามาถึง พวกเขาสองคนก็จะถูกมีดสับเป็นเนื้อบดอย่างแน่นอน
เซี่ยงเส้าหลงเพิกเฉยต่อเขา และมองไปที่เหอเหยียนยง “ทำไม ยังเตรียมพร้อมสำหรับคำถามที่ผมถามเหรอ?”
ดวงตาของเหอเหยียนยงมืดมน “คุณแย่งโฉนดที่ดินของผมก่อน ผมจัดการกับภรรยาและลูกสาวของคุณแล้วไง?”
“อีกอย่าง ผมเพียงแค่อยากให้คุณมอบโฉนดที่ดินออกมา ไม่ได้ทำร้ายพวกเธอสักหน่อย!”
“ไม่ได้ทำร้ายพวกเธองั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า……”
“เชิญกลุ่มทหารรับจ้างนานาชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาช่วย เพื่อจัดการกับผู้หญิงสองคนที่ในมือไม่มีอาวุธใดๆ เลย ไอ้แก่ คุณยังคิดอยากจะทำร้ายแบบไหนกันอีก? !”
ในคำพูดของเซี่ยงเส้าหลง เต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่รู้จบ
สีหน้าของเหอหเยียนยงเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที ฟังจากน้ำเสียงของเซี่ยงเส้าหลงแล้ว เกรงว่าทหารรับจ้างเหล่านั้น กองกำลังทหารทั้งหมดแพ้ย่อยยับไม่เหลืออย่างแน่นอน!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็แอบด่าในใจ กลุ่มทหารรับจ้างห่าอะไร ตอนเริ่มแรกก็เสนอราคาสูงเสียดฟ้า และแถมยังพูดโวโอ้อวดว่าตัวเองนั้นทรงพลังแค่ไหน แต่ผลสุดท้ายคือไม่ใช่ห่าเหวไรเลย!
“แล้วคุณต้องการอะไร!”
เหอเหยียนยงพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
เซี่ยงเส้าหลงชี้ไปทิศทางเหนือ ซึ่งเป็นทิศทางของเมืองเทียนไห่ และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คุกเข่าลง และขอโทษ!”
“อะไรนะ? !”
ดวงตาของเหอเหยียนยงเบิกกว้าง แล้วหัวเราะอย่างเสียงดัง “เด็กเปรต! ชั่วชีวิตของผม ตั้งแต่สร้างตัวจากสองมือเปล่าจนถึงธุรกิจอันใหญ่โตนี้ ไม่เคยก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้กับใคร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุกเข่าเลย!”
“ไม่เป็นไร คุณไม่ยอม ผมจะทำให้คุณยอมเอง!”
เหอเหยียนยงฮึ่มใส่อย่างเย็นชา “คุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย เมื่อนักมืออันธพาล500นายมาถึง ผมว่าคุณเป็นห่วงตัวคุณเองก่อนเถอะ!”
ทันทีที่พูดจบ พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาอย่างตาลีตาเหลือก “คุณท่าน! คุณท่านแย่แล้ว!”
พ่อบ้านกลืนน้ำลาย พร้อมกับความตื่นตระหนกอันลึกซึ้งในดวงตา “เมื่อกี้ผมได้รับข่าวว่า ทหารรับจ้าง500นายเขาตระกูลเจ้า อยู่ระหว่างทางนั้น……กองกำลังทหารทั้งหมดแพ้ย่อยยับไม่เหลืออะไรแล้ว!”
“อะไรนะ? !”
เหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่ดังก้องในหูของทุกคน ทันใดนั้น ทุกคนต่างมองไปยังเซี่ยงเส้าหลงที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม ด้วยความตกตะลึงโดยไม่ได้นัดหมาย!