เมซอนหุบปากโดยจิตใต้สำนึก มองเซี่ยงเส้าหลงด้วยแววตาขี้เล่น ใบหน้าสอดประสานแดงระเรื่อ จากนั้นก้มศีรษะอย่างภาคภูมิใจพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า”ก่อนหน้านี้จากประสบการณ์ที่โหดร้ายและมุมมองที่คับแคบฉัน ขอโทษคุณอย่างเป็นทางการ!”
“ความไพเราะของดนตรีโบราณ ให้ฉันละอายใจ!”
“คุณพูดก็ถูก!”
“ของชนชาติ ก็คือของโลก!”
บูม!
เหล่าผู้ชมทั้งหมดต่างลุกขึ้นยืน ปรบมือเสียงดังลั่น ให้กับดนตรีโบราณ และให้กับดนตรีสากล!
“เรียนท่านผู้ชม เพื่อนๆ ทุกท่าน!”
ทันใดนั้น ผู้ดูแลห้องโถงอะธีนาแสดงตัวออกมา มองไปยังผู้คนที่กำลังหลงใหลคลั่งไคล้ แล้วประกาศว่า”วันนี้ดนตรีโบราณและ ดนตรีสากลให้พวกเราได้ดื่มด่ำไปกับงานเลี้ยง ทำให้ฉันมีความสุขที่ลึกซึ้ง!”
“ดังนั้นฉันจึงขอประกาศว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปดนตรีโบราณสามารถเข้ามาแสดงในห้องโถงอะธีนา ทำให้คนจำนวนมากขึ้นได้มีโอกาสดื่มด่ำกับความไพเราะของดนตรีโบราณ!”
ว้าว!
นักศึกษาวิชาดนตรีโบราณต่างพากันฮึกเหิม ใบหน้าทุกคนแดงขึ้น กอดกันด้วยความปิติยินดี แม้แต่เหล่าอาจารย์วิชาดนตรีโบราณที่หลังเวทียังมีนัยน์ตาแดงก่ำ!
เมื่อไม่นานมานี้ ดนตรีโบราณเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของรสนิยมต่ำ ยากที่จะอยู่ในโถงแสดงที่หรูหรา และการจัดแสดงที่ห้องโถงอะธีนาในครั้งนี้ เป็นการเปิดโลกแห่งดนตรีโบราณอย่างไม่ต้องสงสัย ให้โอกาสนำไปสู่หนทางแห่งโลกาภิวัตน์!
“พี่เซี่ยง!ยอดเยี่ยมไปเลย!ยอดเยี่ยมไปเลย!”
เถาเชี่ยนเชี่ยนโอบกอดเซี่ยงเส้าหลงด้วยความตื่นเต้นนัยน์ตาทั้งคู่แดงก่ำ!
ไม่มีคนสงสัย สำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในเสียงดนตรี ทำให้คนจำนวนมากได้รู้จักและชื่นชมศิลปะที่ชื่นชอบ เป็นเรื่องที่ทำให้คนดีใจมากที่สุดเรื่องหนึ่ง!
เซี่ยงเส้าหลงดวงตามีรอยยิ้มพยักหน้า “นี้เป็นผลจากการพากเพียรของทุกคน เชื่อมั่นในตนเอง จะต้องมีสักวัน คุณเองก็สามารถหยิบจับกู่เจิงด้วยมือของตัวเอง ประกาศก้องไปทั่วโลก!”
เถาเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ทันใดนั้น โดยไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าใดๆ เธอจูบเซี่ยงเส้าหลงไปทีหนึ่ง จากนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ วิ่งหนีไปในทันที ในอากาศ เหลือเพียงเสียงพูดที่ความรู้สึกเขินอายว่า “พี่เซี่ยงขอบคุณ ถึงแม้ว่าฉันรู้ดีว่าพวกเราสองคนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องขอบคุณ ที่คุณเข้ามาปรากฏในชีวิตของฉัน!”
เฝ้าดูเธอหายไปจากหลังเวที เซี่ยงเส้าหลงตกตะลึงลูบคลำไปบริเวณที่โดนจูบ อดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ ออกมา เมื่อครู่เขาถูกสารภาพรักแล้วใช่มั้ย?
แต่ว่า พวกเขาก็รู้ดี ทั้งสอง เป็นเพียงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้น เซี่ยงเส้าหลงห่วงใยอยู่กับอาการป่วยของอวิ๋นเยนเอ๋อ จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเถาเชี่ยนเชี่ยนได้กล่าวอำลากับเธอ จากไปเพียงลำพัง
ที่สนามบินเมืองเทียนไห่ เพิ่งลงจากเครื่องบิน เสียงที่คุ้นชินดังออกมาทำให้เขาสะดุ้ง!
“คุณพ่อ!”
ร่างที่อยู่ในชุดสีแดงเดินเข้ามา เซี่ยงเส้าหลงมองแล้วโอบกอดโดยจิตใต้สำนึก มองไปยังร่างเล็กๆ ในอ้อมกอด นัยน์ตาคู่หนึ่งระยิบระยับ ลูบศีรษะคนที่อยู่ในอ้อมกอดของตนเอง น้ำเสียงที่แสนจะอ่อนโยนนั้นนำพาความรักแบบลึกซึ้ง ” คุณพ่อ เยนเอ๋อคิดถึงพ่อจังค่ะ!”
ครั้งนี้เซี่ยงเส้าหลงถอนหายใจยาว หน้าที่ความรับผิดชอบที่หนักอึ้งนั้นบรรเทาลงในทันที ใบหน้าที่มีความเข้มแข็งยังเผยให้เห็นความอ่อนล้า สวมกอดอวิ๋นเยนเอ๋ออย่างแนบแน่น”เยนเอ๋อ คุณพ่อ ก็คิดถึงหนูนะ!”
รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมอก เขาจึงได้รู้ว่า ชีวิตของสาวร่างเล็กคนนี้ นั้นมีความสำคัญสำหรับเขามากเพียงไหน!
ใกล้ชิดสนิทสนมกับเยนเอ๋ออยู่สักพักหนึ่ง เซี่ยงเส้าหลงเงยหน้าขึ้นมอง มองไปยังรูปร่างสีขาวนั้นที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาของเขาส่องประกายอารมณ์ที่ซับซ้อน
จับมือลูกสาว ค่อยๆ เดินไปยังอวิ๋นเสว่เหยน ใบหน้าเซี่ยงเส้าหลงเผยให้เห็นแววตาแสดงความขอโทษ”เหยนเหยน ผมขอโทษ ผม……”
ทันใดนั้น อวิ๋นเสว่เหยนเข้าสวมกอดเซี่ยงเส้าหลง ดวงตาแดงขึ้นมาในทันที!
“ไม่ต้องกล่าวคำขอโทษ เยนเอ๋อหมดสติวันนั้นคุณไม่ได้อยู่ ฉันเพิ่งจะรู้ สำหรับฉันแล้วพวกคุณสำคัญมากขนาดไหน!”
“เส้าหลง!ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้ว!”
“คุณและเยนเอ๋อ ก็ที่พึ่งอย่างเดียวของฉัน!”
“ฉันหวาดกลัวมากจริงๆ ไม่มีพวกคุณแล้ว ชีวิตของฉัน คงพังทลาย!”
ไม่ว่าอวิ๋นเสว่เหยนจะเข้มแข็งสักเพียงไร เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่ต้องการความรัก ต้องการความห่วงใย ต้องการความดูแล!
เซี่ยงเส้าหลงกอดอวิ๋นเสว่เหยนไว้แน่น”เหยนเหยน ขอโทษ เพราะเหตุผลพิเศษบางอย่าง อดีตของผมจึงไม่สามารถบอกคุณได้ชั่วคราว แต่คุณโปรดเชื่อผม มีผมอยู่ ก็จะไม่ให้คุณและลูกสาวได้รับความไม่เป็นธรรมแน่นอน!”
อวิ๋นเสว่เหยนพยักหน้า”คุณบอกหรือไม่ ฉันไม่สนใจ เพียงแค่ครอบครัวของพวกเราอยู่พร้อมหน้ากัน ฉันก็พอใจแล้ว!”
เซี่ยงเส้าหลงมุมปากยกยิ้มเกือบจะถึงใบหู หลังจากผ่านราวเรื่องครั้งนี้ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขา มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีกอย่างเห็นได้ชัด
กลับไปถึงบ้าน มองเห็นบรรยากาศที่คุ้นเคย จู่ๆ เซี่ยงเส้าหลงก็พูดขึ้นว่า”เออใช่ ท่านเถาล่ะ?”
“หลังจากหมอเถารักษาเยนเอ๋อหายดีแล้ว ก็จากไป ฉันก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ ว่าไปแล้ว พวกเรายังไม่ได้แสดงความขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยนะ!”
“ใช่แล้ว!นี่เป็นสิ่งของที่เขาทิ้งไว้ให้กับคุณ!”
อวิ๋นเสว่เหยนยื่นกล่องใบหนึ่งให้ เซี่ยงเส้าหลงเปิดดู หรี่ตาลงเล็กน้อย นี่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคำแนะนำวิธีใช้เข็มที่เหลือหกเล่มของปราบผีเก้าเข็ม!
นี่เป็นสิ่งล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ในวิชาชีพแพทย์ทั้งหมด!
“ท่านเถา ท่านทำให้ฉันติดหนี้บุญคุณของคุณ นับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ!”
เซี่ยงเส้าหลงส่ายหน้ายิ้มเจื่อนๆ ทันใดนั้น มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มองดูหมายเลขด้านบน สีหน้าของเขาดูแปลกๆ ขึ้นมาทันที
อวิ๋นเสว่เหยนที่ง่วนอยู่ในห้องครัวก็แอบดูอยู่ เขาค่อยๆ เดินมาที่ระเบียง เพิ่งจะรับสาย เสียงตะคอกที่ปลายทางนั้นดังจนหูเกือบจะหนวก” ไอ้เด็กเวร!วันๆ แกไม่ก่อปัญหาให้ฉัน อยู่ไม่ติดใช่มั้ย!”
“ครั้งก่อนหน้านั้น ปรับกองกำลังโดยพลการ คราวก่อนทำร้ายสถานเอกอัครราชทูตของประเทศวอ!ครั้งนี้เป็นยิ่ง ตอนอยู่ที่เมืองอ้าวไม่เพียงแต่สังหารราชาพนัน ยังบังคับให้พ่อหนุ่มตระกูลจูคนนั้นกินภาพวาดภาพหนึ่งเข้า!แกจะให้ฉันโมโหตายไม่สบายใจใช่มั้ย?”
เซี่ยงเส้าหลงเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูตัวเองประมาณยี่สิบเซนติเมตร หลังจากนั้นสิบห้านาทีได้ยินเสียงดื่มน้ำเข้าไปแก้วใหญ่ อย่างชัดเจน เสียงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง”ไอ้เด็กเวร แกยังฟังอยู่หรือเปล่า?”
“ฟังอยู่ ฟังอยู่!ท่านตำหนิเป็นประจำ ทำไมผมจึงไม่กล้าฟัง?”
“ฮึ!พูดเล่นกับฉันให้มันน้อยๆ หน่อย!”
“ครั้งนี้ เจ้าล้อเล่นเกินไปแล้วจริงๆ !”
“คนพวกนั้นที่เมืองหลวง เดิมก็ไม่ชอบขี้หน้าแกอยู่แล้ว จึงฉวยโอกาสนี้ อยากสั่งสอนแกสักครั้ง โดยเฉพาะตระกูลจูนั้นเล่นแรงได้ร้ายกาจที่สุด!”
“นี่ฉันก็แก่มากแล้ว หากหนุ่มกว่านี้สักหลายปี คนแก่อย่างฉันจะตรงไปกราดยิงไปที่ประตูใหญ่ของตระกูลจูของพวกมันสิ้นเรื่อง!”
“ไอ้เชี่ย!ทหารของฉันแม้จะทำความผิด ก็ต้องให้ฉันเป็นคนลงโทษ ไม่ต้องรอให้ไอ้พวกสารเลวนั้นเข้ามายุ่ง?!”
ฟังน้ำเสียงทางนั้นที่มีอารมณ์เดือดดาล เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะอยู่ในใจ อารมณ์รุนแรงของคุณท่าน ไม่ลดน้อยลงจากเมื่อก่อนเลย!
ครู่หนึ่ง เสียงในสายดังออกมาอีก”คนพวกนั้นสร้างความรำคาญให้ฉัน แกมาที่เมืองหลวงสักครั้งสิ ทำให้พวกมันหุบปาก!”
“แต่แกก็ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ที่นี่ ไอ้คนพวกนั้นทำอะไรแกไม่ได้หรอก!”
เซี่ยงเส้าหลงมุมปากยกยิ้มขึ้นจนเกือบถึงหู หวนคิดถึงความหลังตอนที่เป็นลูกน้องของคุณท่าน เริ่มจากทหารเกณฑ์หน้าใหม่คนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาในกองทัพ จนกระทั่งเป็นผู้นำจอมพลแห่งดินแดนทางเหนือ คุณท่านค่อยดูแลเป็นห่วงเป็นใยตนเองไม่เคยขาดหาย
สามปีแล้ว สามปีแล้วที่ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณท่านเลย……
เซี่ยงเส้าหลงเกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ เผยความรู้สึกผิดขึ้นภายในใจแล้วพูดว่า”ตกลง!ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้!”
“เสี่ยวหลงจะมาหรือ?มาเมื่อไหร่?พาภรรยาและดูมาด้วยหรือไม่?”
ปลายสายโทรศัพท์ จู่ๆ ก็มีเสียงถามอย่างรีบเร่งของท่านน้า คุณท่านกระแอมเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แกมันใช้ได้เลยนะ แต่งภรรยาแล้วยังมีลูกสาวน่ารักอีก แม้แต่ฉันก็ไม่บอกสักคำ เคารพธรรมเนียมกันบ้างไหม?!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างเขินอาย”บังเอิญ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงๆ!”
“อย่าพูดไร้สาระ พรุ่งนี้พาภรรยาและลูกสาวมาด้วย!”
“ไม่ใช่ฉันอยากเจอนะ น้าเหมยของแกเป็นคนพูด!”
เซี่ยงเส้าหลงมุมปากยกยิ้ม”แบบนี้เอง งั้นบอกน้าเหมยสักคำ พวกเธอสองแม่ลูก เกรงว่าจะไปไม่ได้!”
“อะไร?!”
เสียงในลำคอดังขึ้นอีกระดับหนึ่ง “ไอ้เด็กเวร แกกล้าไม่พาภรรยากับลูกสาวมา แกเชื่อไหม ฉันจะจับแกหักขาได้นะ?”
“แฮะ แฮะ……”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะเจ้าเล่ห์ “คุณท่านบอกว่าไม่อยากพบไม่ใช่เหรอ?”
ปลายสายเข้าใจคำพูดเซี่ยงเส้าหลงในทันที เงียบได้ไม่กี่วินาที จู่ๆ ก็ตะคอกออกมาว่า”พรุ่งนี้หากฉันไม่ได้เจอคน แกคอยดูฉันแล้วกัน!”
จากนั้น ตัดสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธ!
เซี่ยงเส้าหลงมุมปากยกยิ้มเผยรอยยิ้มอ่อนโยน เป็นคนสูงอายุที่ ทั้งมีทิฐิ ทั้งน่ารัก!
“ใครโทรศัพท์มาหา?”
อวิ๋นเสว่เหยนเดินเข้ามา เอ่ยปากถาม
“ผู้อาวุโสคนหนึ่ง!ผู้อาวุโสที่ดีต่อผมมาก!”
เซี่ยงเส้าหลงพูด”เหยนเหยน ผมไม่ได้ไปเยี่ยมพวกเขานานมากแล้ว พรุ่งนี้ คุณกับเยนเอ๋อไปด้วยกันกับผม ไปเมืองหลวงเยี่ยมพวกเขาด้วยกันมั้ย?”
“จะไปเมืองหลวงเหรอ?ดีจังเลย ดีจังเลย!หนูยังไม่เคยออกไปไหนเลย คุณแม่ หนูอยากไป!”
มองดูดวงตาแห่งความหวังของอวิ๋นเยนเอ๋อ อวิ๋นเสว่เหยนยิ้มด้วยรอยยิ้มเอ็นดู”พอดีช่วงนี้งานที่บริษัทไม่ยุ่งมากนัก ใช้โอกาสนี้ พา พวกเราทั้งครอบครัวออกไปเที่ยวสักสองสามวันก็ดี”
เซี่ยงเส้าหลงอิ่มเอมหัวใจ ครอบครัวเรา เป็นคำที่ใช้เรียกที่แสนอบอุ่น!
เหยนเหยน ขอบคุณ ให้ผมได้มีครอบครัว ครอบครัวที่เป็นของผมอย่างแท้จริง