ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 107 ของขวัญ ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ตระกูลเจี่ยงล้วนเป็นทหารเสือผู้กล้าทั้งนั้น โดยเฉพาะเจี่ยงต้าหลงมีชื่อเสียงที่โด่งดังเพราะในเรื่องนิสัยโหดร้าย โหดร้ายยิ่งกว่าพ่อของเขาเจี่ยงเทียนฉีไปอีกหลายเท่า ในขณะนี้ สายตาของหลิวเผิงหยู่เต็มไปด้วยความเจตนาฆ่า!

ณ เวลานี้ ชายวัยกลางคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “นายทัพเจี่ยง ลูกชายยังเด็กและขี้เล่น ยังไม่รู้จักอะไร ได้โปรดคุณอย่าไปอย่าถือสาเลย!”

“ครั้งนี้ก็ยกโทษให้เขาเพื่อผมเถอะครับ!”

คนที่กำลังพูด คือผู้นำตระกูลหลิว คุณพ่อของหลิวเผิงหยู่ หลิวเสว!

หลิวเสวจ้องมองหลิวเผิงหยู่อย่างดุดัน นายไปมีเรื่องกับใครไม่ดี แต่ไปมีเรื่องกับดาวร้ายคนนี้!

นายไม่รู้หรือว่าไอ่พวกกลุ่มที่ถือปืนเหล่านี้ล้วนเป็นคนโหดร้ายและไร้เหตุผลกันหมด?!

“ไอ้เด็กเวร!ยังไม่รีบไปขอโทษนายทัพเจี่ยงเดี๋ยวนี้!”

สีหน้าของหลิวเผิงหยู่แดงไปทั่วหน้า ในที่สาธารณะ ถูกคนเหยียบหน้าอย่างรุนแรง และยังต้องขอโทษอีก ทำให้ผู้ที่รักศักดิ์แบบเขามาโดยตลอด เจ็บและแซ่บบนหน้ามาก!

แต่เขาก็รู้ว่า ถ้าไม่ขอโทษ จากนิสัยของเจี่ยงต้าหลง กล้าที่จะฆ่าเขาทันที คนรวยมักหวงแหนชีวิตของตนเอง รวมถึงหลิวเผิงหยู่ด้วย!

เขากัดฟันอย่างแน่น คำต่อคำโผล่ออกมาจากปาก “นายทัพเจี่ยง ผม……ผมขอโทษครับ! ผมยังเด็กและไร้ความรู้ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ!”

ความเจตนาฆ่าลึกแวบผ่านดวงตาของเจี่ยงต้าหลง แต่ว่าเขาก็ยังคงเอาเท้าออกจากหัวของหลิวเผิงหยู่ และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “วันนี้เป็นวันไหว้บุญธรรมวันสำคัญของตระกูลเจี่ยง กูไม่อยากเห็นเลือดและเจอความโชคร้าย!”

“ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก! กูจะบีบหัวมึงออกโดยตรงเลย!”

หลิวเผิงหยู่พยายามลุกขึ้นจากพื้น และพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ครับ! ครับ! ผมจำไว้แล้วครับ!”

“ออกไปซะ!”

“เดี๋ยวก่อน!”

เมื่อตอนที่คิดว่าเรื่องนี้จะจบลง จู่ๆ เสียงของเซี่ยงเส้าหลงก็ดังขึ้น

ทุกคนหันกลับไปมอง เขาจ้องมองหลิวเผิงหยู่อย่างมืดมน และพูดว่า “เมื่อสักครู่นายเป็นคนพูดเองว่า ให้ลูกสองคนของผมคุกเข่าขอโทษนาย?!”

ใช่ ก็คือลูกสองคนนี้ เสี่ยวหลิงยอมรับเซี่ยงเส้าหลงเป็นพ่อบุญธรรมแล้ว งั้นก็ถือว่าคือลูกของเขา!

“ใช่! ทำไมกูถึงลืมเรื่องนี้ไปละ!”

“เส้าหลง นายว่าต้องทำอย่างไร!”

เจี่ยงต้าหลงจ้องมองเซี่ยงเส้าหลงและถามว่า

สีหน้าของหลิวเผิงหยู่เปลี่ยนไปทันที จ้องมองสายตาของเซี่ยงเส้าหลง สายตานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ!

ปากเสียจริงๆ พูดอะไรที่ไม่ควรพูด เจียงต้าหลงไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับเขา นายมันคือตัวอะไร กล้าดียังไงที่จะมาล้ำเส้นผม?

มองข้ามความโกรธในสายตาของหลิวเผิงหยู่ เซี่ยงเส้าหลงพูดอย่างเฉยเมย “มันง่ายมาก!คุณชายหลิวได้หาทางแก้ให้แล้วไม่ใช่หรือ

“อะไรนะ! นายอยากให้ผมคุกเข่าให้เด็กน้อยสองคนนี้เหรอ?”

หลิวเผิงหยู่กรีดร้องโดยตรง สายตาของหลิวเสวที่อยู่ข้างๆ ก็มืดลง แล้วขอโทษเจี่ยงต้าหลง เพราะอำนาจย่อมสูงส่งกว่าคน แต่ถ้าต้องคุกเข่าขอโทษเด็กสองคน งั้นหลังจากนี้ตระกูลหลิว อาจจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวงเป็นเวลานาน!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็จ้องมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างลึกซึ้ง และพูดอย่างลึกล้ำว่า “คุณเป็นใคร?”

“เซี่ยงเส้าหลง!”

รูม่านตาของหลิวเสวหดตัวเล็กน้อย และก็เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง นี่ก็คือนายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังมาก เซี่ยงเส้าหลง?

แต่แล้วสายตาของเขาก็ดูเหมือนมีความไม่พอใจเกิดขึ้นเล็กน้อย ตระกูลเจี่ยงเป็นคนรวยของเมืองหลวง เขาไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วย นายเป็นแค่หัวหน้าทหารในดินแดนป่าเถื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีปืนอยู่ในมือก็แล้วไง?

ณ ตอนนี้ พูดกับเขาอย่างเสียงเบาว่า “หนุ่มน้อย! ในบางครั้ง ทำอะไรก็อย่าทำให้มันเกินไปนะ ถึงยังไง วงการจะใหญ่โตมากแค่ไหน เราก็มีวันที่จะได้กลับมาพบกันใหม่!”

เซี่ยงเส้าหลงเพิกเฉยต่อภัยคุกคามในคำพูดของเขา ยิ้มและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ต้องขอโทษด้วยละ! คนอย่างผมทำอะไร ก็ชอบทำให้มันเกินไปหมด! ส่วนในเมื่อที่ได้พบกันอีกครั้ง เฮ่อเฮ่อ……แก้ไขประโยชน์ของนายคำหนึ่ง พวกเรามันไม่ใช่คนในวงเดียวกันอยู่ละ!”

สายตาของหลิวเสวเปลี่ยนไปจ้องมองเจี่ยงต้าหลง “นายทัพเจี่ยง นายรู้สึกละ?”

เจี่ยงต้าหลงกลับยิ้ม เฮ้ เฮ้ และพูดว่า “เรื่องนี้ เจ้าเซี่ยงของผมจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง!”

สายตาของหลิวเผิงหยู่เป็นประกาย เกิดมีความมั่นใจขึ้นทันที เนื่องจากเจี่ยงต้าหลงไม่สนใจเรื่องนี้ แค่นายพลน้อยคนหนึ่งจะทำอะไรตนเองได้?

ส่วนเจี่ยงต้าหลง ก็มีแผนของตนเองอยู่แน่นอน ชื่อนายพลน้อย เขารู้จักอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เพียงแต่แค่รู้จักเท่านั้น งั้นทำไมไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ เพื่อใช้ตระกูลหลิวเป็นศิลาจารึก แล้วดูว่าเซี่ยงเส้าหลงมีความสามารถมากแค่ไหนละ!

แม้ว่าเจี่ยงเทียนฉีและเจี่ยงต้าซุนจะชอบเยนเอ๋อมากแค่ไหน แต่ว่าตระกูลเจี่ยงของเขา ยังไงก็เป็นตระกูลแห่งนายพลเช่นการ ไม่ใช่ใครคนไหนก็ได้ ที่จะมีสิทธิ์ที่จะนับเป็นญาติกันได้!

เห็นเพียงแต่หลิวเผิงหยู่จ้องมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยสีหน้าที่มืดมน และพูดว่า “งั้นถ้าผมไม่คุกเข่า แล้วนายจะทำอย่างไรได้?”

“ง่ายมาก……”

โมเมนตัมในร่างกายของเซี่ยงเส้าหลงควบแน่นในทันใด “งั้นผมก็จะทุบตีนายจนกว่าจะคุกเข่า!”

“นายกล้าเหรอ?!”

หลิวเสวที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะโกนอย่างดุดัน “ที่นี่คือเมืองหลวง! ไม่ใช่ป่าเถื่อนชายแดนเหนือของนาย! ที่จะปล่อยให้คนนอกอย่างนายมาโวยวายได้!”

“ชู่ว!”

เซี่ยงเส้าหลงทำท่าทางเงียบๆ ให้เขาทีหนึ่ง และพูดเบาๆ ว่า “ผมให้นายสองทางเลือก! คุกเข่าและขอโทษด้วยตนเอง! หรือว่า ผมช่วยทำให้นายคุกเข่าลง!”

ถึงเสียงจะอ่อนโยน แต่ครอบงำมาก!

คนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือว่าสาวๆ ส่วนมากในห้องถึงกับมองดูร่างของเซี่ยงเส้าหลง ด้วยสายตาที่สดใส ใช่ จะพูดเรื่องไร้สาระกับนายทำไม? ไม่พอใจ งั้นก็ทุบตีนายจนกว่านายจะพอใจ!

อะไรที่ลงมือได้ แล้วจะพูดเรื่องไร้สาระทำไม!

หลิวเผิงหยู่ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “งั้นผมก็จะดูว่านายจะให้ผมคุกเข่าลงได้อย่าง……”

“เห้ยๆ !นายทำอะไร?!”

บูม!

เซี่ยงเส้าหลงก้าวเดินไปข้างหน้าและกดคอของเขาโดยตรง ยังไม่ทันให้เขาได้พูดจบ ทันใดนั้นก็งอเข่าลงอย่างกะทันหัน หลิวเผิงหยู่เจ็บปวดมาก ต่อจากนั้นเซี่ยงเส้าหลงก็กดอย่างแรง พับ!

หลิวเผิงหยู่คุกเข่าลงทั้งสองข้าง หันหน้าไปทางของอวิ๋นเยนเอ๋อและเสี่ยวหลิงลูกสองคนพอดี!

เซี่ยงเส้าหลงยกมุมปากขึ้นและยิ้มเล็กน้อย “เชิงรุกด้วยตัวเองแต่แรกก็จบละ ต้องการที่จะให้ผมลงมือ คนบางคนอ่ะนะ ตั้งแต่เกิดก็เป็นได้แค่คนที่ไร้ค่า!”

“อ้าๆ ๆ ! ผมจะฆ่านายให้ตาย!”

ความอับอายและความละอายใจเช่นนี้ ทำให้หลิวเผิงหยู่เสียสติโดยสิ้นเชิง เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะปะทะกับเซี่ยงเส้าหลงอยู่แล้ว จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ถึงเวลาอันพอสมควรแล้ว เส้าหลง พาเด็กทั้งสองมานี่!”

เสียงจบลง หลิวเสวคว้าหลิวเผิงหยู่ที่กำลังจะปะทะไว้ และพูดที่ใต้หูของเขาว่า “เผิงหยู่! วันนี้เป็นพิธียอมรับญาติของตระกูลเจี่ยง อย่าอารมณ์ร้อนและสร้างปัญหาในที่นี่!”

“ตราบใดที่ออกไปจากบ้านตระกูลเจี่ยง และออกไปจากเมืองหลวง เขาเซี่ยงเส้าหลง ก็จะไม่ใช่อะไรเลย!”

หลิวเผิงหยู่กัดฟันอย่างลับๆ สายตานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องมองมุมมองด้านหลังของเซี่ยงเส้าหลง “ผมจะต้องให้เขาได้ชดใช้กรรมแน่ๆ !”

ที่ไม่ไกล เจี่ยงเทียนฉีและฉินหยวนติ่งต่างก็เก็บฉากนี้ไว้ในสายตา สายตาของคนแรกมีความชื่นชมเกิดขึ้นเล็กน้อย “ดีนะ!เด็กเส้าหลงคนนี้ ค่อนข้างจะถูกใจผมมาก ฮ่าฮ่า…”

“แน่นอน ทหารที่ผมสอนออกมา จะเป็นคนขี้กลัวได้อย่างไร”

เจี่ยงเทียนฉีดูพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่เซี่ยงเส้าหลงบังคับให้หลิวเผิงหยู่คุกเข่าลงละขอโทษ จากความเห็นของคนอื่นแล้ว เซี่ยงเส้าหลงอาจโหดร้ายและอวดเก่ง แต่ในสายตาของเขาแล้ว ราวกับว่าเซี่ยงเส้าหลงดูแลหลานชายของตัวเองเหมือนลูกแท้ของตัวเอง!

เพราะว่า ตระกูลเจี่ยง ปัจจุบันมีลูกเพียงเสี่ยวหลิงคนนี้คนเดียว มีพ่อบุญธรรมที่ปกป้องเขาอย่างแท้จริงแบบนี้ เจี่ยงเทียนฉีก็โล่งใจแล้ว

พิธีไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยากมากเกินไป คู่เซี่ยงเส้าหลงและคู่เจี่ยงต้าซุนขึ้นเวทีพร้อมกัน และให้เด็กสองคนเรียกตัวตนของกันและกัน อยู่ภายใต้คำพยานของทุกคน ก็ถือว่าเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว!

เจี่ยงเทียนฉียิ้มจนจะกลายเป็นดอกไม้ หน้าแดงไปหมด และโบกมือ จู่ๆ คนใช้ก็หยิบของออกมาเยอะแยะ!

มีใบโฉนด กุญแจรถ การประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาดโบราณ และที่สะดุดตาที่สุดนั่นก็คือกองธนบัตรใหม่เอี่ยม เปิดพร้อมกัน นับดูผ่านๆ มีเป็นล้าน!

“เยนเอ๋อ ทั้งหมดนี้เป็นของขวัญที่ตระกูลเจี่ยงจัดเตรียมไว้ให้หนูนะ แม้ว่าหนูจะเป็นแค่หลานสาวบุญธรรมของผม แต่ผมก็จะดูแลหนูเหมือนกับหลานสาวที่แท้จริงของผมแน่นอน มีคุณปู่อยู่ ไม่มีใครกล้ารังแกหนูหรอก!”

เมื่อมองดูของขวัญชิ้นใหญ่เหล่านี้ ที่ตระกูลเจี่ยงเตรียมไว้ให้สำหรับอวิ๋นเยนเอ๋อ บนใบหน้าของอวิ๋นเสว่เหยน มีความอับอายปรากฏขึ้นเล็กน้อย เธออายที่จะหยิบสร้อมข้อมือสีทองเล็กๆ ในมือออก!

ตาของหลิวเผิงหยู่เฉียบคม และพูดด้วยเสียงแปลกๆ ขึ้นมาทันที “โย่! คุณเซี่ยงได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่อะไรไว้บ้าง รีบเอาออกมาให้พวกเรารับชมหน่อยสิ!”

คำเดียว สายตาของทุกคนถูกดึงดูดไปทันที ใช่แล้ว ตระกูลเจี่ยงได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่มหาศาลให้แล้ว งั้นเซี่ยงเส้าหลงก็คงไม่สามารถที่จะไม่มีความแสดงใดๆ เลย!

อยู่ในภายใต้การจ้องมองของทุกคน สีหน้าของอวิ๋นเสว่เหยน ยิ่งละอายใจมากขึ้นไปอีก และสีหน้าแดงไปหมด ณ เวลานี้ เสียงของหลิวเผิงหยู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เธอถืออะไรอยู่ในมือเหรอ? เวลานี้ยังไม่คิดที่จะเอาออกมา เป็นเพราะว่าดูถูกตระกูลเจี่ยงใช่หรือไม่ ?”

คำเดียวอวิ๋นเสว่เหยนถูกผลักให้อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เอาออกมาอย่างลังเล หลิวเผิงหยู่ยังคงตะโกนโวยวายอีกต่อไปว่า “ขนาดเล็กและประณีตเช่นนี้ มันต้องเป็นสิ่งที่ดีอย่างเหลือเชื่อสินะ มิฉะนั้น จะเปรียบเทียบกับวัตถุจำนวนมากของตระกูลเจี่ยงได้อย่างไร ?”

“เปิดให้พวกเราได้รับชมด้วยสิ!”

เขาตะโกนเช่นนี้ ทุกคนต่างก็สงสัยกันหมด และเกิดความอยากรู้อยากเห็นกันทั้งนั้น ในความเห็นของพวกเขา ของขวัญที่ตระกูลเจี่ยงมอบให้นั้นไม่น้อยกว่าสิบล้าน ถึงเซี่ยงเส้าหลงจะให้น้อยหน่อย แต่ก็คงไม่น้อยมากไปหรอกมั้ง!

ภายใต้การรอคอยอย่างกระตือรือร้นของทุกคน ในกล่อง สร้อยข้อมือสีทองเล็กๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน ถึงแม้ว่ามันจะงดงาม แต่น้ำหนักนั้น น่าจะเพียงแค่ไม่กี่สิบกรัมมั้ง!

เห็นฉากนี้ ทุกคนก็อยู่ในความโกลาหล!

นี่คือของขวัญคืนจากเซี่ยงเส้าหลงเหรอ?

หลิวเผิงหยู่หัวเราะทันที “นายพลน้อยเซี่ยง! นายแค่เอาของแค่นี้ เป็นเพราะว่านายดูถูกตระกูลเจี่ยงหรือนายยากจนเกินไปกันแน่!”

“ถ้านายยากจนเกินไปก็บอกคำหนึ่งสิ แท้จริงก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แต่ว่ามอบให้นายฟรีๆ สักสองสามแสน ก็ยังพอมีอยู่!”

คำพูดที่เหยียบหยามและประชดประชัน มันช่างเจาะหูเหลือเกิน!

และทุกคนก็กระซิบกระซาบว่า “ไม่นึกเลยว่า จะเอาของขวัญแบบนี้มาให้ นี่มันจะดูถูกตระกูลเจี่ยงมากเกินไปละ!”

“นั่นสินะ คนยากจนเช่นนี้จะนับเป็นญาติกันกับตระกูลเจี่ยงได้อย่างไร คิดไม่ออกจริงๆ !”

การเยาะเย้ยของทุกคน ทำให้สีหน้าของอวิ๋นเสว่เหยนดูน่าเกลียดมาก แม้กระทั่งอวิ๋นเยนเอ๋อที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา และสายตาที่สดใสนั้นก็มืดมนขึ้น!

หลิวเผิงหยู่จ้องมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างมีชัย “นายพลน้อยเซี่ยง ไม่เช่นนั้นนายขอร้องผมสิ ขอร้องผม ผมสามารถให้เงินค่าขนมนายหน่อยก็ได้ ก็ไม่ถึงขั้นที่ว่าจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะในฝูงชนจำนวนมากหรอก!ฮ่า……”

เสียงหัวเราะยังไม่ทันลงพื้น ทันใดนั้น เสียงตะโกนยาวก็ดังขึ้นนอกประตู “ซ่งจื้อตงผู้ที่ร่ำรวยที่สุดของมณฑลหลู่ ขอแสดงความยินดีกับคุณเยนเอ๋อที่นับญาติกับตระกูลเจี่ยง เพื่อมาแสดงความยินดีด้วยครับ!”

พูดจบ กลุ่มคนชุดดำแต่ละคนเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องดำ และคนที่นำหน้า ซึ่งก็เป็นซ่งจื้อตงที่หล่อและสง่างาม!

กล่องใหญ่สิบกล่องถูกเปิดออกทีละกล่อง เมื่อมองดูสิ่งเหล่านี้ ทุกคนก็ขมวดคิ้ว นี่มันคือของอะไร จะต้องใช้กล่องเก่าขนาดนี้ใส่มา?

ซ่งจื้อตงจ้องมองเจียงเทียนฉี ไหว้ทักทาย แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ผมไม่มีลูกอยู่ใต้เข่า แม้ว่าเยนเอ๋อจะเป็นแค่หลานสาวของผม แต่นางราวกับว่าเป็นเหมือนลูกสาวที่แท้ วันนี้ นางได้เป็นทองเดียวกับตระกูลเจี่ยง กระผมย่อมไม่ยอมให้หลานสาวของตนเองต้องเสียหน้าแน่นอน!”

มืนงงสักพัก จู่ๆ ก็มีขึ้นเสียงดังขึ้น “เปิดกล่อง!”

ชัว!

สิบกล่องถูกเปิดออกพร้อมๆ กัน ทันใดนั้น ชิ้นส่วนของแสงสีทองส่องประกาย สว่างจนเกือบทำให้ทุกคนตาบอด เมื่อทุกคนฟื้นคืนสติกลับมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ตกตะลึงใจจนคางแทบหลุด!

ข้างในสิบกล่องนี้ ใส่เต็มไปด้วยทองคำแท่งแวววาว!

เสียงอันไพเราะดังก้องไปทั่วเหตุการณ์ “ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง ขอแสดงความยินดีกับเยนเอ๋อที่เป็นทองเดียวกับตระกูลเจี่ยง! ”

พูดจบ เงียบกริบกันหมด!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท