เมื่อเห็นหลี่หงตี้เชิญเซี่ยงเส้าหลงมาที่ห้องทำงานอย่างนอบน้อม แถมยังให้ลูกน้องเตรียมเสื้อผ้าให้ตัวเองเปลี่ยน เซี่ยงเส้าจุนตกใจมาก เขาลังเลและพูดว่า “เส้าหลง สองสามปีมานี้ นายคงผ่านอะไรมาไม่น้อยสินะ”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มบางๆ “เด็กที่ตระกูลเซี่ยงทอดทิ้ง แต่สุดท้ายเขาก็ยังเป็นทายาทของราชายักษ์ แน่นอนว่าคงทิ้งสายเลือดนี้ไม่ได้!”
เซี่ยงเส้าจุนยิ้มอย่างพอใจ เขาเป็นคนที่เคร่งครัดเรื่องแนวคิดของตระกูล เขาไม่จำเป็นต้องรู้ว่าตอนนี้เซี่ยงเส้าหลง อยู่ในจุดไหน เขารู้เพียงว่าน้องชายของตัวเองคนนี้ ยังคงคิดว่าตัวเองคือคนในตระกูลเซี่ยงก็พอแล้ว!
“หลี่หงตี้”
“ครับ!”
หลี่หงตี้รีบค้อมตัวอย่างนอบน้อม
“เล่าความแข็งแกร่งของตระกูลเซี่ยงในตอนนี้ให้ฉันฟังหน่อย!”
“ครับนายพลน้อย!”
หลี่หงตี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดว่า “อำนาจของตระกูลเซี่ยงในเมืองอ๋องเซี่ยง เรียกได้ว่าอาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบัง!”
“เงินทุนเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในเมือง ถูกควบคุมและดูแลโดยตระกูลเซี่ยง”
“คุณท่านเซี่ยงไม่ปรากฏตัวกว่า 12 ปี ตอนนี้ทั้งตระกูลเซี่ยงถูกควบคุมโดยเสิ่นเสว่เหลียนภรรยาของเขา!”
“ส่วนทายาททั้งสี่คน ท่านใหญ่ตระกูลเซี่ยงหายตัวไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน โดยไม่มีท่าว่าจะกลับมา ท่านรองดูแลอำนาจทางการเงินทั้งหมดของตระกูลเซี่ยง ท่านสามดูแลอำนาจใต้ดิน คุณหนูเซี่ยงแต่งงานกับทายาทตระกูลฉินแห่งเมืองเสียนหยาง ได้ยินว่าตอนนี้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่เมืองอ๋องเซี่ยง!”
“เหอะๆ……ไม่ขาดใครสักคน อยู่ที่นี่กันหมด……”
แววตาของเซี่ยงเส้าหลงวูบไหว ความเย็นยะเยือกโอบล้อมเข้ามาอย่างกะทันหัน!
“เส้าหลง!”
เซี่ยงเส้าจุนเอ่ยขึ้นอย่างกังวล “น้าของเราคนนี้ไม่ธรรมดา คนที่เธอแต่งงานด้วยก็เป็นคุณชายห้าของตระกูลฉิน ซึ่งตระกูลลึกลับเช่นกัน ถึงเขาไม่ได้เรียนการป้องกันตัวอย่างถ่องแท้ แต่เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของผู้นำตระกูลฉินในตอนนี้ เขาเป็นทายาทสายตรง!”
“ส่วนเสิ่นเสว่เหลียน……” เขาชะงักไป ความเคียดแค้นผุดขึ้นในดวงตาของเขา สำหรับพวกเขาสองพี่น้อง ย่าของตัวเอง มีเพียงคุณนายใหญ่ของตระกูลเซี่ยงที่ตายไปนานแล้ว ส่วนคนที่ชื่อว่าเสิ่นเสว่เหลียน เป็นแค่เมียรองที่เข้ามาควบคุมของผู้อื่นโดยพลการเท่านั้น!
“เสิ่นเสว่เหลียนเป็นลูกสาวของตระกูลลึกลับอย่างตระกูลเสิ่น ถึงจะเป็นสายเลือดทางอ้อม แต่เธอได้รับความโปรดปรานจากตระกูล โดยเฉพาะการที่เธอสามารถควบคุมตระกูลเซี่ยงในตอนนี้ ถึงเธอจะอยู่กับพวกสายเลือดทางตรงในตระกูล คำพูดของเธอก็มีอำนาจมาก!”
“และตระกูลเสิ่นที่สืบทอดเชื้อสายมาจากเสิ่นว่านซานนักธุรกิจของรัฐบาล สะสมเงินมากว่าสิบปี และสร้างอาณาจักรเงินขนาดมหึมาและคนทั้งประเทศ ที่พอเทียบกันได้ ก็คงมีแค่ตระกูลเฉินที่เป็นตระกูลลึกลับเหมือนกัน!”
“ถ้าเราอยากเอาธุรกิจที่เป็นของเรากลับมา เสิ่นเสว่เหลียนคงไม่นิ่งดูดายแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าต่อสู้พร้อมกัน ฉันกลัวว่าตระกูลเสิ่นไม่อยู่เฉยๆ แน่นอน……”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะหึหึ ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความฮึกเหิม “สิบสองตระกูลลึกลับ รวมตัวกันที่นี่ตั้งสามตระกูล เยอะแบบนี้ซิ ถึงจะสนุก!”
“แต่ก่อนตระกูลเซี่ยงอยู่ในสามอันดับตระกูลลึกลับ แต่ตอนนี้กำลังจะถึงจุดจบ ที่มันเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะฝีมือของเสิ่นเสว่เหลียน!”
“ตระกูลเสิ่นสูบสมบัติจากน้ำพักน้ำแรงของตระกูลเซี่ยงไปเต็มๆ แน่นอนว่าตระกูลเสิ่นไม่มีทางทิ้งสมบัติล้ำค่าเด็ดขาด แต่ทางที่ดีพวกเขาอย่ามาก้าวก่าย ถ้าพวกเขาเข้ามาก้าวก่าย ผมไม่แคร์ ที่จะทำให้สิบสองตระกูลลึกลับ เหลือเพียงสิบเอ็ดตระกูล!”
ถึงน้ำเสียงจะราบเรียบ แต่มันเต็มไปด้วยความมั่นใจและแน่วแน่!
เมื่อคนที่อยู่ด้านข้างอย่างหลี่หงตี้ได้ยิน ก็ยิ่งค้อมตัวลงอีก ในสิบสองตระกูลลึกลับ ไม่ว่าตระกูลไหนก็มีประวัติมากว่าพันปี อำนาจที่แต่ละรุ่นสะสมมา ถ้าปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน มันเพียงพอที่จะล้มล้างประเทศได้เลย!
แต่เมื่อเซี่ยงเส้าหลงพูดออกมา การที่จะทำลายตระกูลลึกลับสักตระกูล เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว คนที่เคยรับใช้ในกองทัพชายแดนเหนืออย่างเขา ไม่มีแม้แต่ข้อสงสัย เพราะในสายตาของคนในกองทัพ นายพลน้อยของพวกเขา เหมือนผู้ที่เกิดมาเป็นราชา ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!
“ฉิวหนิว!”
“ครับ!”
“ส่งสารแจ้งไป พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ฉันเซี่ยงเส้าหลงจะไปตระกูลเซี่ยง เพื่อพูดคุยให้พี่ใหญ่!”
“ครับ!”
……
ที่ชานเมืองอ๋องเซี่ยงในเวลานี้ เนินเขาเตี้ยที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม และบ้านตั้งกูลเซี่ยงก็ตั้งอยู่บนเนินเขาแห่งนี้!
ผู้มีอำนาจในตระกูลเซี่ยง รวมตัวอยู่ที่ห้องโถงแบบโบราณ เสิ่นเสว่เหลียนนั่งแบบเบญจางคประดิษฐ์อยู่ตรงกลาง กาลเวลาทำให้ความเยาว์วัยของเธอลดเลือนลง แต่ไม่สามารถพรากความองอาจไปจากเธอได้แม้แต่น้อย!
ในวัยห้าสิบต้นๆ มิอาจปิดบังความน่าเกรงขามของเธอ ภายใต้มนต์เสน่ห์ได้เลย!
“คุณย่าต้องแก้แค้นให้ผม! ไอ้กากเดนนั่นมันโหดร้ายมาก!”
เซี่ยงปินเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ และพูดฟ้องพร้อมกับร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล
ข้างเขามีสาวงามยืนอยู่ เธอมองเขาด้วยสีหน้ารังเกียจ “ให้สวะตัวเดียวจัดการนาย จนกลายเป็นแบบนี้ ไร้ประโยชน์จริงๆ อย่าไปพูดกับใครล่ะ ว่าเป็นทายาทตระกูลเซี่ยง คุณหนูอย่างฉันคงอายแย่!”
“พี่หยิ่ง!”
เซี่ยงปินเดินเข้ามา และเถียงว่า “ทำไมพี่พูดอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้สวะนั่น เตรียมการมาก่อน จนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมจะโดนมันแกล้งจนกลายเป็นแบบนี้เหรอ เรื่องนี้จะว่าผมไม่ได้!”
“หลีกไป!”
เซี่ยงหยิ่งพูดเสียงแหลม เธอเอามือบีบจมูกแล้วพูดว่า “ไปไกลๆ ฉันเลย กลิ่นเหม็นบนตัวนาย ทำให้ฉันอยากจะอ้วก!”
“พอแล้ว!”
จู่ๆ เสิ่นเสว่เหลียนก็พูดขึ้นมา ทุกคนต่างพากันเงียบลงทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงพูดต่อ “เซี่ยงเส้าหลงออกจากบ้านไปเมื่อสิบปีก่อน จู่ๆ วันนี้เขาก็กลับมา กลัวว่าเขาจะไม่ได้มาดีน่ะสิ……”
ชายวัยกลางคนที่มีท่าทางเหี้ยมโหด ที่นั่งอยู่ด้านล่างลุกขึ้นยืน เขาคือเซี่ยงเวิ่นเหอ ท่านสามแห่งตระกูลเซี่ยง!
ในแววตาของเขาฉายแววเคียดแค้น “กลับมาแล้วยังไง ตอนนี้ตระกูลเซี่ยง เหลือแค่สองพี่น้องสวะอย่าพวกมัน นอกจากการที่มีสายเลือดทางตรง มันก็ไม่มีอะไรแล้ว!”
“แม่ อย่าไปกังวลเลย คืนนี้ผมจะส่งคนออกไป รับรองว่ามันอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!”
“เลอะเทอะ!”
เสิ่นเสว่เหลียนจ้องเขาอย่างน่ากลัว “รู้จักแค่ตีรันฟันแทง จะรู้จักใช้สมองตอนไหน!”
“ถึงสองพี่น้องนั่นจะไม่มีอำนาจ แต่ก็ยังเป็นสายเลือดทางตรงของตระกูลเซี่ยง เราสามารถกำจัดหรือกลั่นแกล้งพวกมัน แต่เราจะฆ่าพวกมันไม่ได้เด็ดขาด!”
“ตระกูลลึกลับอย่างตระกูลเซี่ยง ไม่ได้มีแค่ตระกูลเดียว!”
“กฎเกณฑ์ที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ สายเลือดทางตรงยิ่งใหญ่ที่สุด! ถ้าเราฆ่าพวกมัน แล้วมีข่าวออกไป ก็เท่ากับสายเลือดทางตรงของตระกูลลึกลับ ตระกูลอื่นๆ จะไม่ปลอดภัยไปด้วย เพื่อที่จะทำให้สายเลือดทางอ้อมตื่นตระหนก ปกป้องตำแหน่งของสายเลือดทางตรง ไม่แน่ พวกเขาอาจจะใช้ตระกูลเซี่ยง เชือดไก่ให้ลิงดูก็ได้!”
“แม่พูดถูก!”
จากนั้นชายหน้าตาคล้ายเซี่ยงเวิ่นเหอพยักหน้า “เซี่ยงเส้าจุนโตมาพร้อมกับเราตั้งแต่เด็ก พวกเรารู้ดีกว่าใครว่ามันเป็นคนยังไง!”
“มันไม่ได้มีดีอะไร ไม่ต้องกังวล!”
“แต่เซี่ยงเส้าหลงจากบ้านไปกว่าสิบปี จู่ๆ ก็กลับมา ดูเหมือนจะเตรียมการอะไรมาแล้ว……”
“พี่รองระแวงเกินไปหรือเปล่า!”
เซี่ยงเวิ่นเหอแสยะยิ้ม “ไอ้หมอนั่นหนีไปเป็นทหารไม่ใช่เหรอ ถึงมันจะเก่ง เป็นแม่ทัพกองทหาร ในสายตาของเรา มันก็ยังไม่มีอะไรดี!”
“กลัวว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ……”
ภายใต้แว่นกรอบทองของเซี่ยงเวิ่นไห่ ท่านรองตระกูลเซี่ยง ฉายแววจริงจัง “เรื่องที่เซี่ยงเส้าหลงไปเป็นทหาร เรารู้กันหมดแล้ว แต่สิ่งที่พวกนายไม่รู้ก็คือ ฉันเคยแอบสืบประวัติของเขา โดยใช้เส้นสายของเรา แต่ก็สืบไม่ได้ว่าเขาไปเป็นทหารที่ไหนกันแน่!”
แววตาของเสิ่นเสว่เหลียนแน่นิ่ง “เวิ่นไห่ ที่แกพูดคือเรื่องจริงเหรอ”
เซี่ยงเวิ่นไห่พยักหน้า “ไม่มีเรื่องโกหกแม้แต่น้อย!”
จู่ๆ ในห้องโถงก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบ บรรยากาศตึงเครียดและกดดันขึ้น
ขณะนั้น มีสตรีคนหนึ่งยืนขึ้น และพูดว่า “แม่! ถึงไอ้ขยะนั่นจะเข้าไปอยู่ในกองกำลังพิเศษ และกำจัดหลักฐานทั้งหมด แต่แม่อย่าลืมนะ ตอนนี้พวกเราไม่ได้มีแค่ตระกูลเซี่ยง ตระกูลฉินที่อยู่เบื้องหลังหนู ตระกูลเสิ่นที่อยู่เบื้องหลังแม่ ล้วนเป็นตัวช่วยของเรา หนูไม่เชื่อหรอกว่าไอ้ขยะอายุยี่สิบต้นๆ จะต่อต้านเราได้ ถึงมันจะเก่งสักแค่ไหน แต่มันจะต้านทานการร่วมมือของสามตระกูลลึกลับได้เหรอ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวพูดจบ เสิ่นเสว่เหลียนพยักหน้าเบาๆ “เว่นหานพูดถูก ถ้ามันไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามันมา หึ มันไม่มีทางอยู่ในตระกูลเซี่ยงได้อย่างสงบสุขหรอก!”
พูดจบ ก็มีเสียงร้องโอดครวญดังเข้ามาจากข้างนอก!
ทุกคนรีบเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็นชายร่างกำยำ ร่างกายท่อนบนเต็มไปด้วยเลือด และในมือของเขากำลังบีบคอใครบางคน เขาเดินเข้ามา หลังจากกวาดตามองไปรอบๆ เขาโยนสารแจ้งเอาไว้บนพื้น และพูดอย่างกึกก้องว่า “พรุ่งนี้ตอนเที่ยง นายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือของเรา จะแวะมาเยี่ยมตระกูลเซี่ยงด้วยตัวเอง!”
ทุกคนจ้องสารแจ้งที่ถูกโยนอยู่บนพื้น!
อักษรเลือดบนแผ่นกระดาษขาว ดาบยาวนองเลือด และมีดสงครามคำราม โดยมีคำว่าตระกูลเซี่ยงอยู่ตรงกลาง มันเป็นสีแดงเหมือนหยดเลือด!
นี่มันใช่สารแจ้งที่ไหนกันล่ะ นี่มันสารท้ารบชัดๆ!
สารแจ้งเป็นหลักฐาน เพื่อประกาศให้ทั้งตระกูลเซี่ยงรับรู้!
ว่าฉันเซี่ยงเส้าหลง จะกลับมาทวงหนี้!