เมื่อได้ยินเช่นนี้ นักเรียนทุกคนก็ตกตะลึง ส่วนเหยาตงก็ถึงกับอึ้งไป!
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อครู่ตนเองนั้นเกิดภาพลวงตาหรือเปล่า?
คุณชายลูกผู้ดีมีเงินที่มีชื่อเสียงทั้งสี่คนนี้ จะเรียกไอ้หนุ่มยาจกว่าพี่ใหญ่ได้อย่างไร?
เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย คุณชายหวังแสดงท่าทางเข้าใจทันที รอยยิ้มสอพลอปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “พี่ใหญ่ครับ พวกเรารีบมาที่นี่ทันทีที่ได้รับข่าวจากคุณชายจุน คุณชายจุนบอกว่า หากท่านมีเรื่องอะไรก็สั่งการมาได้เต็มที่ น้องชายจะจัดการให้ท่านอย่างดีที่สุดแน่นอน!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างสบายใจ เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่เหยาตงที่กำลังเหม่อ พลางยิ้มมุมปาก “ขาของฉัน แกยังต้องการไหม?”
“บัดซบ!”
“ใคร?!” ใครกล้าพูดว่าต้องการขาของพี่ใหญ่ของฉัน? ฉันอยากจะดูว่าเขาไปเอาความกล้ามาจากไหน!”
พรึ่บ!
หัวเข่าของเหยาตงอ่อนแรง คุกเข่าลงกับพื้นทันที ถึงเวลานี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ดูธรรมดาเทียบตัวเองยังไม่ได้ด้วยซ้ำอย่างเซี่ยงเส้าหลงถึงมีความสัมพันธ์กับคุณชายที่ร่ำรวยและมีอำนาจเช่นนี้ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าใจแล้ว สิ่งที่เขาควรคิดในตอนนี้คือ จะทำอย่างไรให้ระงับความโกรธของคนเหล่านี้!
“คุณชายหวัง! คุณชายหลี่! คุณชายทั้งหลาย ผมเอง ผมเองที่มีตาหามีแววไม่ มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด…!”
ตุ้บ!
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เหยาตงก็ถูกคุณชายหวังถีบลงกับพื้น “บัดซบ! ที่แท้ก็ไอ้กระจอกอย่างแกนี่เอง!”
“อยากได้ขาของพี่ใหญ่ฉันเหรอ? มาสิ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเก่งก็ตัดขาฉันให้ได้ก่อน!”
“ไม่กล้า ไม่กล้า! ผมจะกล้าอวดดีต่อหน้าคุณชายหวังได้อย่างไร!”
คุณชายหลี่เยาะเย้ย “ฮ่าฮ่า…เป็นแค่ตระกูลชั้นสอง ทำให้เขาหายไปเลยก็ดี!”
คุณหวังพยักหน้า แล้วหันไปหาเซี่ยงเส้าหลง “พี่ชาย ท่านคิดอย่างไรกับข้อเสนอนี้?”
“ไม่! ไม่เอา!”
ในเวลานี้เหยาตงย่อมเข้าใจดีว่า เซี่ยงเส้าหลงในขณะนี้ เป็นเจ้านายของบรรดาคุณชายเหล่านี้อย่างสมบูรณ์!
“คุณเซี่ยง! คุณเซี่ยง! ผมไม่ดีเอง! มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด!”
“ผมไม่ควรพูดจาเหลวไหล ไม่ควรขโมยสร้อยข้อมือแฟนสาวของคุณ มันเป็นความผิดของผมเอง ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
เขาพูดพลางคว้าเส้นผมของหยางฮุ่ยจื่อที่ยังมึนงงอยู่ แล้วจับเธอเหวี่ยงลงกับพื้น ยกเท้าเตะไม่ยั้ง “บัดซบ! ยัยบ้า! กล้าดียังไงมาขโมยของของแฟนคุณเซี่ยง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ!”
“ฉันจะอัดแกให้ตายนังโง่!”
หยางฮุ่ยจื่อถูกเตะจนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่เถาเชี่ยนเชี่ยนมีสีหน้าทนไม่ไหว พลางเอ่ยปากว่า “อย่า…อย่าตีอีกเลย…”
เหยาตงตัวสั่น หยุดทันที สีหน้าประจบสอพลอ “ครับ ผมเชื่อฟังพี่สะใภ้!”
เมื่อได้ยินคำเรียกเช่นนี้ เถาเชี่ยนเชี่ยนก็หน้าแดง เธอเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองเซี่ยงเส้าหลง รอยความขมขื่นฉายในดวงตา
เซี่ยงเส้าหลงรับรู้ถึงความหมายของการจ้องมองนี้โดยอัตโนมัติ เขากระแอมไอเบาๆ ไม่กล้ามองไปที่เถาเชี่ยนเชี่ยน พลางเอื้อมมือไปหาเหยาตง “สร้อยข้อมือเส้นนี้ แกยังอยากได้ไหม?”
ในเวลานี้เหยาตงแทบอยากตาย สร้อยข้อมือเป็นเพียงเผือกร้อน แม้ว่าเซี่ยงเส้าหลงบอกว่าจะให้เขา แต่เขาก็ยังไม่กล้ารับมัน!
เขารีบส่งสร้อยข้อมือคืนให้ด้วยความเคารพ พูดประจบประแจงว่า “คุณเซี่ยง คืนสร้อยข้อมือให้กับท่าน ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว!”
“ได้โปรดยกโทษให้ผมสักครั้ง!”
เหยาตงไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้อีกนอกจากขอความเมตตา!
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มเล็กน้อย เขามาจากตระกูลที่ร่ำรวยรุ่นลูกเท่านั้น ไม่คุ้มค่าที่เขาจะต้องมาพัวพันกับเรื่องนี้ เขาจึงยื่นสร้อยข้อมือให้ เถาเชี่ยนเชี่ยน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เจอกันนาน มารับประทานอาหารด้วยกันสักมื้อเถอะ!”
คุณชายหวังเปิดประตูรถสปอร์ตของเขาแล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณเซี่ยง ผมจะไปส่งท่าน!”
เมื่อมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเซี่ยงเส้าหลง เถาเชี่ยนเชี่ยนเก็บความรู้สึกของเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานว่า “ตกลง ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะรับประทานอาหารกับคุณสักมื้อ!”
โรงแรมธุรกิจหวนฉิว เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในเมือง ร้านอาหารพาโนรามารูปวงแหวนบนชั้นที่ 25 เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดของทั้งโรงแรม สามารถมองเห็นความงดงามของทั้งเมืองได้ ภายในร้านอาหารมีที่นั่งเพียงสิบหกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารและบริการก็อยู่ในระดับมาตรฐานที่ดีที่สุด ที่นี่ให้บริการเฉพาะลูกค้าระดับสุดยอดเท่านั้น
“พูดมาเถอะ คุณตามหาฉันมีธุระอะไร?”
เถาเชี่ยนเชี่ยนคนช้อนกาแฟในมือ มองเซี่ยงเส้าหลง แล้วเอ่ยปากถามอย่างสงสัย
“เอ่อ…ถึงอย่างไรเราก็เป็นเพื่อนเก่ากัน ถ้าไม่มีธุระอะไรจะชวนคุณกินข้าวไม่ได้เหรอ?”
“ไม่มีธุระจริงๆ เหรอ? ถ้าตอนนี้ไม่พูด รอเดี๋ยวค่อยพูด มันก็สายเกินไปแล้ว!”
เมื่อเซี่ยงเส้าหลงได้ยินเช่นนั้นก็พูดไม่ออก “ก็…มันก็ไม่เชิงว่าไม่มีธุระอะไรเลย…”
เถาเชี่ยนเชี่ยนกลอกตามองเขาเบาๆ แล้วพูดด้วยความขุ่นเคืองอย่างมาก “ฉันรู้ว่าคุณจะไม่มาหาฉันถ้าไม่มีธุระอะไร!”
“ฉันจะไปสู้ภรรยาคนสวยของคุณได้ยังไง!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างขมขื่นในใจ อึดอัดจนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
เถาเชี่ยนเชี่ยนก็ตระหนักว่าดูเหมือนจะพูดอะไรผิดไป เธอกระแอมไอ รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น บอกมาสิ!”
“เห็นแก่ครั้งที่คุณช่วยฉันไว้ที่ห้องโถงอะธีนา ฉันจะช่วยคุณแน่นอน!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “คุณรู้จักเห็ดอมตะไหม?”
“เห็ดอมตะ? เห็ดอมตะยาศักดิ์สิทธิ์ในตำนานน่ะเหรอ?”
จู่ๆ เถาเชี่ยนเชี่ยนก็อุทานออกมา มองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “ทำไมจู่ๆ คุณถึงถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?”
“ผมได้ยินมาจากคุณปู่ว่า ในประเทศหวาเซี่ยนับพันปีมาแล้ว แม้ว่าจะมีสมุนไพรจีนหลายชนิด แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นยาศักดิ์สิทธิ์!”
“ส่วนเห็ดอมตะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น!”
“ตามบันทึกของประวัติศาสตร์สมัยโบราณ ครั้งสุดท้ายที่มีหลักฐานค้นพบเห็ดอมตะคือช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ถึงตอนนี้ก็เกินห้าสิบปีแล้ว และเราก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเห็ดอมตะนี้อีกเลย!”
เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้าเงียบๆ แล้วพูดว่า “ดังนั้น ผมจึงต้องการความช่วยเหลือจากท่านเถา!”
“คุณต้องการตามหาคุณปู่เหรอ?”
เถาเชี่ยนเชี่ยนมองเขาด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินคุณปู่พูดถึงมาก่อน ว่าเขามีข้อมูลของเห็ดอมตะ!”
“เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวล ผมมีเบาะแสบางอย่างแล้ว เพียงแต่ว่า เห็ดอมตะนั้นหายากเกินไป แม้ว่าจะได้มา แพทย์ทั่วไปก็ใช้ประโยชน์จากมันไม่ได้เต็มที่ เพื่อไม่ให้ของล้ำค่านี้เสียเปล่า ผมจึงต้องขอให้ท่านเถาออกมาอีกครั้ง!”
“แต่ท่านเถาชอบเที่ยวรอบโลก ดังนั้นผมจึงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณ ให้ตามหาคุณปู่ของคุณ ให้เขาช่วยเหลือ!”
เซี่ยงเส้าหลงพูดไม่ผิด เห็ดอมตะนั้นมีค่ามากเกินไป ถ้ามันตกไปอยู่ในมือของหมอทั่วไป พวกเขาจะใช้ประโยชน์จากมันไม่ได้เลย เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเชิง แต่กับเถาเส่อนั้นไม่เหมือนกัน เขาหมกมุ่นอยู่กับยาจีนโบราณมาเป็นเวลาหลายสิบปี คุ้นเคยกับวัตถุดิบยาทุกชนิดมาก นอกจากนี้เซี่ยงเส้าหลงยังไม่เชื่อมั่นในตัวเสิ่นเสว่เหลียนและคนอื่นๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็ดอมตะมา ดังนั้นเขาจึงมอบมันให้กับเถาเส่อเพื่อให้นำมาใช้กับเซี่ยงซือสุ้น เขาจึงจะวางใจได้!
“คุณสามารถหาเห็ดอมตะได้จริงหรือ?”
เถาเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที มันคือยาศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เมื่อคิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ฉันช่วยคุณตามหาคุณปู่ได้ แต่คุณต้องพาฉันไปหาเห็ดอมตะด้วย!”
“เรื่องนี้…”
“ฮึ! ฉันจะบอกคุณไว้เลย คุณปู่เดินทางไปทั่วโลก นอกจากฉันที่มีวิธีติดต่อเขาโดยเฉพาะแล้ว มันยากมากสำหรับคนอื่นที่จะตามหาเขา!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพยักหน้า “ตกลง ผมรับปากคุณ!”
“จริงเหรอ? งั้นพวกเราไปกันเถอะ ฉันอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นยาศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนี้แล้ว!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเธอ เซี่ยงเส้าหลงก็รีบดึงเธอไว้ “ผมแค่มีเบาะแสบางอย่าง ยังไม่แน่ใจเลย!”
“อีกอย่าง ถึงเราจะตัดสินใจแล้ว ก็ต้องไปหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว!”
“ฮึ! ดีใจเก้อเลย ฉันจะไปห้องน้ำ คุณกินไปก่อนเถอะ!”
เมื่อมองดูร่างเพรียวบางของเธอที่ลุกขึ้นและจากไป เซี่ยงเส้าหลงก็ส่ายหน้ายิ้มขมขื่น ยัยหนูคนนี้ ยังใจร้อนไม่หาย!
เขายกถ้วยชาขึ้นมาและกำลังจะจิบ ทันใดนั้น จานกระเบื้องที่แตกก็ร่วงหล่นลงกับพื้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงฝ่ามือตบดังเสียดหูเป็นพิเศษในร้านอาหารโล่งกว้าง เซี่ยงเส้าหลงหันมองตามเสียง สีหน้าของเขาเย็นยะเยือกทันที!