ใบหน้าของจางจื๋อเฉิงสั่นสะท้าน เกิดความตื่นตระหนก ในดวงตาของเขา”กะ……แกหมายความว่ายังไง?”
มุมปากของจางจุน ยกยิ้มแปลกๆขึ้นมา แล้วมองไปที่เขา”ในเมื่อแกไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง งั้นก็หันกลับไปถามสิ ว่าพวกเขา เข้าใจรึเปล่าว่ามันหมายความว่ายังไง!”
พูดจบ ก็สะบัดทุ่มเขาลงกับพื้น จางจื๋อเฉิงไม่สนใจความเจ็บปวด เขารีบลุกขึ้นมา หันกลับไปมอง คนของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ พวกเขามองมาที่ตนเองด้วยสายตาแปลกๆ กระทั่งคนที่ปกติปฏิบัติกับตนเองด้วยความเคารพ สายตา เริ่มเปลี่ยนมาหลบสายตา!
“จางเสว……ไม่สิ อาสาม ผมเจ็บมืออีกแล้ว รีบพาผมไปรักษาสิ!”
จางจื๋อเฉิงต้องการใช้เหตุผลในการหลบหนี ใครจะไปรู้ว่า จางเสวซินไม่มองเขาแม้แต่น้อย แต่ตรงเข้าไปหาจางจุน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคารพ”คุณชายใหญ่ครับ อาขอตรวจสุขภาพร่างกายของหลานหน่อยได้ไหม?”
จางจุนยื่นข้อมือของตัวเองออกไปอย่างใจกว้าง จางเสวซินรีบพาดนิ้วสามนิ้วไปที่ข้อมือ หลังจากฟังอยู่นานกว่าสามนาที ทุกคนในตระกูล ต่างพากันกลั้นหายใจ ดวงตากลอกไปมาไม่กล้าสบตากับเขา
หลังจากผ่านไปนาน เขาถึงปล่อยมือ เขาหยิบเข็มออกมาหนึ่งเล่มเหมือนไม่มั่นใจ แล้วยิ้มอย่างขออภัย”คุณชายใหญ่ครับ อาอยาก……”
จางจุนหัวเราะเบาๆ”ทดสอบด้วยเข็ม?เหอะๆ ไม่มีปัญหาครับ!”
เพื่อความปลอดภัย จางเสวซินได้เชื่อมต่อจุดฝังเข็มเก้าจุดบนร่างกายของจางจุน เมื่อเขาเห็นว่าเข็มเงินไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จู่ๆดวงตาของก็มีน้ำตารื้นออกมาในทันที”พระเจ้า!ในที่สุดเราก็มีทายาทที่ดีที่สุดของครอบครัวหมอเวชศาสตร์สักที คืนให้กับครอบครัวหมอเวชศาสตร์ของเรา!”
พูดจบ เขาไม่สนใจเรื่องอาวุโสอีกต่อไป เขาโค้งคำนับให้กับจางจุน”จางเสวซินแห่งครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ขอแสดงความยินดีกับคุณชายใหญ่ที่หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นำพาครอบครัวหมอเวชศาสตร์ รุ่งโรจน์ไปอีกร้อยปี!”
ทุกคนในตระกูล ต่างพากันโค้งคำนับให้กับเขา แล้วกล่าวอย่างพร้อมเพรียงว่า”ขอแสดงความยินดีกับคุณชายใหญ่ที่หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นำพาครอบครัวหมอเวชศาสตร์ รุ่งโรจน์ไปอีกร้อยปี!”
ไม่มีใครปฏิเสธ จางจุนเป็นบุตรภรรยาหลวงที่โดดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ผ่านมาของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจหรือด้านทักษะการแพทย์ แต่น่าเสียดาย เขาเคยถูกยาพิษครอบงำ เขาไม่สามารถสืบทอดมรดกของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ที่มีมาเป็นพันๆปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถ้าอย่างนั้น เขาก็เป็นทายาทที่สมควรได้รับการสืบทอดของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ที่สุด!
จุดนี้ ไม่มีคนของครอบครัวหมอเวชศาสตร์คนไหน ที่จะคัดค้าน!
และตอนนี้ จางจื๋อเฉิงยืนอึ้งอยู่ ณ ที่นั้นด้วยความมึนงง หลังจากผ่านไปนาน เขาเหมือนจะประจักษ์แก่ความจริงในตอนนี้แล้ว เขาตื่นเต้น เขาเคล้นรอยยิ้มออกมาแล้วรีบเดินเข้าไป พูดอย่างประจบสอพลอ”พี่ครับ ดีจริงๆเลย มีพี่เป็นผู้นำของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พี่วางใจเถอะครับ จากนี้ไปผมจะทำตามคำสั่งของพี่ โดยไม่พูดอะไรสักคำ!”
จางจุนหัวเราะ อย่างสดใส ขามองไปที่จางจื๋อเฉิง ถึงแม้น้ำเสียงอ่อนโยน แต่สิ่งที่พูดออกมา กลับเหมือนฟ้าผ่า ดังอยู่ข้างๆหูของจางจื๋อเฉิง”ป้อนคันธะพิษให้ฉันกินมาสิบปี นายเป็นน้องชายที่ดีของฉันจริงๆ!”
อะไรนะ?!
สายตาของคนในครอบครัวหมอเวชศาสตร์ต่างพากันมองไปที่จางจื๋อเฉิง ด้วยใบหน้าแปลกใจ คันธะพิษ เป็นพิษร้ายที่มีชื่อเสียงที่สุด!
ไร้สีไร้กลิ่น ไร้รูปไร้ร่าง เมื่อรับประทานเข้าไปเท่านั้น มันก็จะค่อยๆกัดกร่อนอวัยวะภายในร่างกาย เวลาสั้นหน่อยคือครึ่งปี นานหน่อยจะนานถึงสี่ห้าปี อวัยวะต่างๆจะสึกกร่อนจะสะอาด อีกทั้งจะแสดงอาการอ่อนล้า ถึงจะใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้!
ถ้าหากจางจุนไม่พูดความจริง ถ้าอย่างนั้นจางจื๋อเฉิงก็จะไม่มีความผิดที่ร้ายแรงที่สุดของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ฆ่ากันเอง ภายในตระกูล ถ้าหากกระทำเพื่อแย่งชิงอำนาจ มันจะมีโทษหนักขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง!
“มะ……ไม่นะ!ฉันไม่ได้ทำ พี่ใส่ร้ายฉัน!”
แน่นอนว่าจางจื๋อเฉิงจะยอมรับไม่ได้ เขาดูออกแล้ว ตนเองได้สูญเสียอำนาจไปแล้ว แต่เรื่องจากมีฐานะเป็นคนของตระกูลหลัก เขาจึงยังคงสามารถใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งได้ต่อไป แต่ถ้าหากมีเรื่องวางยาพิษทำร้ายจางจุน งั้นชาตินี้ของตนเอง ก็จบเห่ลงอย่างแน่นอน!
“หลักฐาน?”
จางจุนหัวเราะเบาๆ”น้องรักของฉัน นายรู้ไหมว่าเพราะร่างกายของฉัน ไม่สามารถทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่นๆได้ ดังนั้นนายเลยยัดเงินให้พ่อครัวในตระกูล แล้วแอบใส่คันธะพิษลงในอาหาร แต่น่าเสียดาย ถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นความลับ กระทั่งพ่อครัวยังถูกนายยัดเงินปิดปากเงียบ แต่ว่า นายกลับมองข้ามไปจุดหนึ่ง ภายในห้องครัว นายมีผู้สมรู้ร่วมคิด แล้วฉันจะไม่มีสอดแนมได้อย่างไร?”
จางจื๋อเฉิงอ้าปากตาค้าง แล้วชี้ไปที่เขา”กะ……แก……”
จางจุนแสยะยิ้มมุมปาก”อาหารของตระกูล เป็นสิ่งเดียวที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้ นายคิดว่า ฉันไม่ป้องกันอะไรหน่อยเหรอ?”
“งะ……งั้นแกรู้ได้ยังไง แล้วทำไม……”
“แล้วทำไมไม่เปิดโปงนายใช่ไหม?”
จางจุนพูดต่อ แล้วกล่าวว่า”ทำไมฉันไม่เปิดโปงนาย?ฉันเป็นผู้ที่มีพิษอยู่ภายในร่างกายนับร้อยชนิด ลำพังแค่คันธะพิษ มันก็เป็นแค่การเพิ่มพิษเข้าสู่ร่างกายของฉันเท่านั้นแหละ มีผลประโยชน์ไม่มีผลร้าย อีกอย่างนะ ถ้าเปิดโปงนายไป ฉันจะปล่อยให้นายไปคิดหาวิธีมาทำให้ฉันตายอย่างงั้นเหรอ”
“ตอนนั้นที่ฉัน ไม่อยากตาย เป็นเพราะอยากแก้แค้น ……”
“ถ้าฉันตาย นายก็จะเป็นคนสืบทอดครอบครัวหมอเวชศาสตร์ที่ดีที่สุด แต่น่าเสียหาย นายใจร้อนเกินไป……”
“จางจื๋อเฉิง!”
ทันใดนั้นจางเสวซินตะโกนเสียงดัง”คิดไม่ถึงว่า นายจะกล้าทำเรื่องที่แม้แต่ฟ้าก็ไม่อาจให้อภัยนายได้!”
“เขาไม่เพียงแต่เป็นคุณชายใหญ่ของครอบครัวเวชศาสตร์ นั่นเป็นพี่ชายของนายด้วยนะ!”
“หัวใจของนาย ทำไมเลือดเย็นขนาดนี้?!”
สายตาของเขาฉายให้เห็นถึงความผิดหวัง”ใครก็ได้ จับเขาไว้ แล้วเรียกประชุมของตระกูล และปรึกษากันว่าจะจัดการยังไง!”
“ไม่!ไม่เอา!”
จางจื๋อเฉิงคุกเข่าลง กอดขาของจางจุนไว้ แล้วร้องไห้น้ำมูกไหล”พี่ครับ ผมผิดไปแล้ว!ผมสำนึกผิดแล้ว!”
“เห็นแก่ที่เรามีพ่อแม่คนเดียวกัน ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ!”
“พ่อของเรา มีลูกชายแค่สองคน!”
จางจุนหัวเราะเหอะๆ แล้วค่อยๆก้มหน้าลง พูดข้างๆหู ของเขาเบาๆ”หลายปีมานี้ ที่อยู่ของฉันไม่แน่นอน นอกจากรวบรวมพิษที่หายากต่างๆ ฉันยังพบเรื่องที่น่าสนใจอะไรบางอย่าง โดยไม่ตั้งใจ……”
“ยกตัวอย่างเช่น นาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวหมอเวชศาสตร์ของฉัน โดยสิ้นเชิง!”
ดุจดั่งสายฟ้าฟาด จางจื๋อเฉิงตกตะลึง”กะ……แกหมายความว่ายังไง?”
“ยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอ?แม่ของนาย แม่เลี้ยงของฉัน ไม่รักษาศีลธรรมของสตรี ไปแอบมีความสัมพันธ์กับคนอื่น!”
“และนาย ก็เป็นแค่ลูกชู้เท่านั้น!”
“เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลหลักในครอบครัวหมอเวชศาสตร์ มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฉัน จางจุน!”
“ไม่!แกหลอกฉัน!แกต้องโกหกฉันแน่ๆ!”
จางจื๋อเฉิงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ราวกับเรี่ยวแรงในร่างกายของเขาถูกสูบไปจนหมด ร่างกายสั่นสะท้าน
“เหอะๆ เรื่องที่ตรวจดีเอ็นเอก็รู้ได้เลย ฉันมีความจำเป็นต้องโกหกด้วยงั้นเหรอ?”
“นายวางใจเถอะ ฉันในเมื่อก่อน ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง เรื่องของครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ไม่มีความหมายกับฉันแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้……”
ในสายตาของจางจุน มีความเยือกเย็นแวบผ่านเข้ามา”ครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ภายใต้การควบคุมของฉัน จะไม่มีวันปล่อยให้ร่องรอยสกปรกถูกซ่อนไว้!”
เสียงอันดุดัน ก้องกังวานไปทั้งโสตประสาทการรับรู้ได้ยินของคนทั้งครอบครัวหมอเวชศาสตร์ ทุกคนต่างใช้สีหน้าเลื่อมใสมองไปที่จางจุน เพราะพวกเขารู้ดีว่ามีเพียงผู้นำที่แข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะสามารถนำพาตระกูลของตนเอง ไปหาความรุ่งโรจน์!
เมื่อลากตัวจางจือเฉิงที่สิ้นหวังเสียใจออกไป จางจุนก็หันหน้ากลับไป มองไปยังใบหน้าอ่อนแรงของเถาเชี่ยนเชี่ยน นัยน์ตาของเขามีความปวดใจแวบผ่านเข้ามา เขาเดินไปข้างหน้า แล้วเอ่ยปากพูดว่า”คุณเชี่ยนเชี่ยนครับ ครอบครัวหมอเวชศาสตร์มียาดีเยอะแยะมากมาย ระหว่างการพักฟื้น คุณได้โปรดอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นร่างกายเถอะครับ ให้ผมได้ตอบแทนบุญคุณของคุณในครั้งนี้ด้วยนะครับ ”
เถาเชี่ยนเชี่ยนยิ้มอย่างอ่อนแรง อยากจะปฏิเสธ แต่เซี่ยงเส้าหลงที่ดูจางจุนออกตั้งนานแล้ว เพื่อจับคู่ทั้งสองคน เขารีบพูดขึ้นมาว่า”เชี่ยนเชี่ยน ฉันคิดว่าจางจุนพูดถูกนะ อีกอย่าง ที่นี่คือครอบครัวหมอเวชศาสตร์นะ มาโบราณวิเศษมากมาย ทำไมไม่ใช่ประโยชน์จากโอกาสนี้ อยู่ต่อเพื่อศึกษาหาความรู้ล่ะ?”
“เอ่อ……”
ประโยคนี้ ทำให้เถาเชี่ยนเชี่ยนหวั่นไหว
“เอาล่ะ!ตอนนี้สุขภาพของเธอก็ไม่ดี ไม่เหมาะที่จะเดินทางไกล มาวันนี้ได้เห็ดอมตะมาแล้ว ต่อไปยังต้องรบกวนคุณท่านเถาเส่ออีก ฉันเซี่ยงเส้าหลงอาศัยอยู่ในเมืองอ๋องเซี่ยง จะรอคอยเขาด้วยความเคารพ”
เถาเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้า”ได้ ฉันจะรีบรายงานคุณปู่ค่ะ!”
เมื่อเห็นเถาเชี่ยนเชี่ยนรับปาก สีหน้าของจางจุนก็ยินดีปรีดามาก เขาแอบชูนิ้วโป้งให้กับเซี่ยงเส้าหลง เพื่อนรักทั้งสองเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูด หลังจากที่ส่งเถาเชี่ยนเชี่ยนไปพักผ่อนแล้ว ที่เชิงเขาไท่หยางซาน จางจุนมองไปที่เขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม”ทางนั้น ไม่ต้องให้ฉันช่วยจริงๆใช่ไหม?”
“เมื่อก่อน ฉันไร้อำนาจ มาวันนี้ ถ้าหากนายต้องการให้ฉันช่วยอะไร ครอบครัวหมอเวชศาสตร์ จะช่วยนายอย่างสุดกำลัง!”
เซี่ยงเส้าหลงค่อยๆส่ายหัวไปมา แววตาวาววับในดวงตาของเขา”เรื่องเล็กแค่นี้ ยังต้องให้นายช่วย นั่นมันทำให้ฉันเป็นคนไร้ประโยชน์เกินไปรึเปล่า?”
“ของที่ตนเองสูญเสียไป แน่นอนว่า ฉันจะเอามากลับมาให้ได้ด้วยตนเอง!”