ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 148 วิกฤตของสวีซินหยาว

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ถึงเขาจะไม่แน่ชัดในฐานะของสวีซินหยาว แต่ที่สามารถทำให้ข้าราชการทั้งเมืองอ๋องเซี่ยงวางงานทั้งหมดในมือ แล้วต้อนรับด้วยระเบียบการต้อนรับขึ้นสูงสุดของเมืองได้ เช่นนั้นฐานะของเธอจะเป็นอะไรไปได้เล่า?

สายสืบผมทรงลานบินแอบบ่นในใจ …คุณหนูของฉัน เฮ้อ! ว่างงานแล้วจะมาเพ่นพ่านไปทั่วทำไมกันนะ เพ่นพ่านไปทั่วยังพอว่า ไม่มีอะไรแล้วจะออกหน้าทำไมนะ!

ตอนนี้เป็นไง ถ้าเกิดเรื่องอะไรแม้แต่นิดเดียว พวกเราต้องพากันซวยไปหมดแน่!

เมื่อคิดถึงจุดนี้ มือไม้ก็รีบถือโทรโข่งขึ้นมาทันที โพล่งตะโกนกับผู้ร้าย “ผมขอเตือนเลยนะ รีบปล่อยคุณหนูสวีเร็ว! ไม่อย่างนั้นพวกเราต้องให้พวกคุณได้รับผลกรรมแน่!”

“สมองนิ่มเอ๊ย!”

เซี่ยงเส้าหลงกุมศีรษะ แอบด่าไปที

เดิมทีโจรพวกนี้แค่คาดเดาฐานะของสวีซินหยาวตามการแต่งตัวเท่านั้น ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ตอนนี้ดีเลย คนที่ทำให้หัวหน้ากองบังคับการเรียกคุณหนูได้ ฐานะจะหนีไปไหนพ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ โจรที่มีหมากสำคัญในมือจะปล่อยเธอไปได้ยังไงกัน!

ตัวประกันสำคัญขนาดนี้จะไปหาที่ไหนได้ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะยอมปล่อย

เรื่องราวเป็นอย่างที่เซี่ยงเส้าหลงคิด เมื่อโจรทั้งสี่ได้ยินคำพูดของสายสืบแล้วก็พลันดีใจ

“พี่ใหญ่ ดูท่าพวกเราเดาถูกด้วย เป็นถึงคุณหนูเชียวนะ มียัยนี่เป็นตัวประกันพวกเราต้องหนีไปได้แน่”

“ใช่ แค่นี้พวกเราก็ปลอดภัยแล้ว!”

ชายกำยำตาเดียวก็ดีใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าที่ถืออยู่ในมือจะเป็นโล่ชั้นดี

สวีซินหยาวก็มองสายสืบผมทรงลานบินอย่างเซ็งๆ ด้วยเหมือนกัน ความโมโหในอก แทบอยากเข้าไปถีบเขาสักยก ไม่ช่วยแล้วยังจะทำเรื่องยุ่งอีก!

“ไอ้หัวแบน มึงฟังเลยนะ เตรียมรถให้พวกเราเดี๋ยวนี้ ไม่งั้น…กูจะฆ่ามัน!”

ชายกำยำตาเดียวใช้ปืนจ่อศีรษะสวีซินหยาว พูดจาข่มขู่

“อย่าทำร้ายคุณหนูนะ! พวกเราจะหารถให้เดี๋ยวนี้แหละ!”

เมื่อเห็นความเหี้ยมบนใบหน้าของชายกำยำตาเดียวแล้ว หัวหน้าผมทรงลานบินก็ลนลาน ทำตามที่โจรบอกทันที เพราะเขาไม่อาจเสี่ยงกับพวกหนีไม่คิดชีวิตพวกนี้ได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาโหดขนาดไหนกันแน่

ไม่นาน รถตู้คันหนึ่งก็หามาได้แล้ว พวกชายตาเดียวทั้งสี่จึงเอาสวีซินหยาวกับเงินกระสอบหนึ่งเข้าไปอยู่ในรถ บึ่งรถซิ่งไปท่ามกลางสายตาผู้คน

“ทุกคนโปรดสังเกต โจรขับรถตู้สีขาวไปถนนเทียนเหอแล้ว ขอให้ทุกคนเฝ้าระวังสกัดไว้ แต่อย่าทำให้แตกตื่น คุณหนูสวีซินหยาวอยู่ในมือพวกมัน!”

“ขอย้ำอีกครั้ง! ย้ำอีกครั้ง! คุณหนูสวีซินหยาวอยู่ในมือพวกมัน!”

ชายผมทรงลานบินพูดกับวิทยุ และพูดกับทุกหน่วย

ทันใดนั้นเอง ทุกหน่วยที่ได้รับข่าวก็เดือดพล่านเป็นการใหญ่ สวีซินหยาวตกอยู่ในมือโจร?! เป็นเรื่องละหว่า!

พริบตาเดียว ทั่วทั้งเมืองอ๋องเซี่ยงก็เจี๊ยวจ๊าวจ้าละหวั่น เริ่มออกแกะรอยรถตู้สีขาว

และในเวลานี้เอง เซี่ยงเส้าหลงก็ย่องเดินออกมาจากธนาคาร จากนั้นก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้างถนน เขาบิดคันเร่งลูกกุญแจแล้วตามรถตู้ไปทันที

เขาออกมาช้า ได้ยินแต่สายสืบผมทรงลานบินตะโกนแว่วๆ ว่าถนนเทียนเหอ ดังนั้น เขาจึงตามไปทางถนนเทียนเหอด้วย

แต่…ขณะที่เขาไปถึงถนนเทียนเหอ กลับพบแต่รถตู้ว่างเปล่า รอบๆ มีสายสืบล้อมรอบมากมาย เมื่อเซี่ยงเส้าหลงสอบถามแล้วถึงได้รู้ว่าโจรทั้งสี่ระวังตัวมาก มีคนเป็นกำลังหนุนอยู่ลับๆ เปลี่ยนรถกลางทาง ทิ้งรถตู้เปล่าคันนี้ไว้แล้วก็หนีไป

ถนนเทียนเหอมีทางแยกสี่ทาง แบ่งออกเป็นสี่ทิศ มีทางที่เข้าเมือง ทางออกชานเมือง แล้วยังมีทางไปต่างเมือง หลังจากสายสืบพวกนั้นวิเคราะห์ไปยกหนึ่งแล้วก็ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าโจรทั้งสี่ต้องไปชานเมืองแน่ บวกกับระหว่างทางไปชานเมืองยังมีร่องรอยล้อรถชัดเจน ดูก็รู้ว่าเป็นรอยรถยนต์ ดังนั้นรถทั้งหมดจึงมุ่งไปเส้นทางนั้น

“ไม่ถูก! พวกมันไม่ได้ไปชานเมือง น่าจะเลี้ยวกลับเข้าเมืองไปแล้วต่างหาก!”

เซี่ยงเส้าหลงนั่งยองลงกับพื้น มองรอยเท้าที่ไม่ถูกกลบเกลื่อนที่มุม จากนั้นเขาก็เกี่ยวมุมปาก วาดขึ้นเป็นเส้นโค้ง

จะปิดยังไงก็ปิดไม่มิด! ถึงโจรพวกนี้จะคิดการละเอียดแค่ไหน ปกปิดร่องรอยจนแทบไม่มีพิรุธ แต่ในความวุ่นวายก็ยังทิ้งร่องรอยไว้จนได้

โบราณว่าไว้ ที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด โจรพวกนี้ไม่แค่โหดร้าย แถมยังเจ้าเล่ห์ รถตู้เปล่ากับรถที่ไปทางชานเมืองล้วนเป็นการอำพรางตา

เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะเหอะๆ แล้วหันหน้ามุ่งเข้าเมืองไป

สายสืบพวกนั้นไปทางชานเมือง แต่ตัวเองกลับย้อนเข้าเมือง ไม่ว่าความคิดนี้จะถูกหรือไม่ ก็เป็นประกันได้ว่าโจรพวกนั้นต้องจนมุมแน่!

เวลานี้ ในตึกร้างที่ไม่สะดุดตาแห่งหนึ่ง สวีซินหยาวถูกมัดทั้งตัว นอนอยู่บนพื้น โฉมหน้างามลออซีดเผือด

“พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร กล้าลักพาตัวฉัน หรือไม่อยากอยู่แล้ว?!” แววตาสวีซินหยาวระริก ทั้งแตกตื่น ทั้งโมโห พูดเสียงดัง

“พวกกูไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นใคร แต่ทำให้พวกข้าราชการเรียกว่าคุณหนูได้ แถมยังใช้กำลังวิ่งพล่านทั้งเมืองอ๋องเซี่ยงเพราะมึงได้ ฐานะต้องไม่ธรรมดาแน่…”

ชายกำยำตาเดียวยิ้มเย็น และเพราะรอยยิ้มนั้น ดวงตาของเขาจึงดูดุร้ายมากขึ้น

“รู้ก็ดี! ถ้าฉันพูดว่าฉันเป็นใคร พวกแกต้องตกใจฉี่ราดแน่!”

สวีซินหยาวยักคาง “ยังไม่รีบปล่อยฉันอีก แล้วไปมอบตัวซะ จะได้ผ่อนหนักเป็นเบา!”

“ฮ่าๆ…”

ทุกคนหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง

“ยัยนี่หน้าตาไม่เลว เสียแต่สมองมีปัญหา!”

“พี่ใหญ่ ยัยคนนี้สวยอย่างนี้ ฆ่าทิ้งไม่น่าเสียดายเหรอ? พวกเราก็อดอยากมานาน ไม่งั้น…ให้พวกเรามีความสุขหน่อยเป็นไง?”

คนหนึ่งที่มีหน้าบากหัวเราะแหะๆ พูดกับชายกำยำตาเดียว

“นั่นสิ! พี่ใหญ่ ยัยคนนี้สวยสับไปเลย เชี่ย! จะทนไม่ไหวแล้ว!”

“ถ้าพวกเราสนุกกับยัยนี่แล้วถ่ายรูปเอาไว้ ถึงตอนนั้น…ยัยนี่ก็ต้องอยู่ในกำมือ แล่วแต่พวกเราจะจัดการ!”

น้องคนรองในหมู่โจรสี่คนยิ้มร้ายพูด

“นั่นสิ! ยัยนี่สวยขนาดนี้ ฆ่าทิ้งมันน่าเสียดายจริงๆ นั่นแหละ วันนี้กูจะชิมคุณหนูคนมีตังสักหน่อย ดูสิว่ารสชาติจะเป็นยังไง! ฮ่าๆ…”

ชายกำยำตาเดียวหัวเราะเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความกระหายพูด

เมื่อได้ยินการสนทนาของอีกฝ่ายแล้ว สวีซินหยาวก็ตกใจหน้าซีด ดวงตาเผยความหวาดกลัว

เธอไม่กลัวฟ้ากลัวดิน แต่ความบริสุทธิ์ของตัวเองกลับสำคัญยิ่งชีพ!

อีกอย่าง ไอ้คนน่าขยะแขยงพวกนี้ยังจะถ่ายรูปเธอเก็บไว้อีก เกรงว่าถึงตายก็ต้องตายไม่สงบแน่

เมื่อคิดถึงจุดนี้เธอก็ไม่สนใจอะไรอีก รีบพูด “บังอาจ!”

“ฉันเป็นถึงคุณหนูสำนักมือปราบที่หก แกกล้าเหยียบย่ำความบริสุทธิ์ของฉัน ฉันจะทำให้พวกแกต้องตกนรกทั้งเป็น!”

“ฮ่าๆ…”

โจรทั้งสี่ต่างหัวเราะยกใหญ่ “คนสวย ดูละครมากไป หรือว่าเห็นพวกเราเป็นไอ้งั่งกัน?”

“ยังจะมาคุณหนูแห่งสำนักมือปราบที่หก อีก? งั้นก็พอดีเลย ฉันเป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร! ฮ่าๆ…”

สวีซินหยาวกัดริมฝีปาก มองพวกเขาด้วยความเย็นชา “คนธรรมดาอย่างพวกแกไม่รู้จักสำนักมือปราบที่หกยังพอเข้าใจ แต่ถ้าฉันพูดชื่อคนคนหนึ่ง พวกแกต้องรู้จักแน่!”

“อาของฉัน สวีเทียนหมิง!”

เสียงหัวเราะหยุดกึก ใบหน้าที่แต่เดิมฮึกเหิมลำพองตัวพลันชะงัก

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท